เวลาบ่ายสามกว่า
แท็กซี่เขียวเหลืองกลางเก่ากลางใหม่จอดลงหน้าบ้านเช่าแห่งหนึ่ง ร่างเล็กบอบบางสวมเสื้อแขนกุดคอวี สีขาวมีซิปผ่ากลางและกระโปรงพลีทยาวกรอมเท้าสีพาสเทล ของหญิงสาวคนหนึ่งก้าวลงมา เธอชำระค่าแท็กซี่ก่อนจะสะพายเป้ลายดอกไม้น่ารักใบหนึ่งไว้ที่ไหล่ข้างเดียว แท็กซี่ออกไปแล้วแต่เธอยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
เธอเป็นหญิงผิวขาว ตัวเล็กบอบบาง ใบหน้าสวยหวาน ตัดผมสั้นบ๊อบเทแค่คอ แม้จะมีแว่นดำปกปิดดวงตาก็พอมองออกว่าเป็นคนสวยคนหนึ่ง แต่หากพิศใกล้ ๆ ให้ถนัดตาก็จะพบความหม่นเศร้าและดวงตากลมโตอันบอบช้ำจากการร้องไห้ทั้งคืนฉายชัด
รวียา หรือ วี คือชื่อของหญิงสาววัยยี่สิบเจ็ดคนนี้ และเธอพึ่งจะเลิกรากับชัชวาลหรือชัช แฟนหนุ่มที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายทั้งที่กำลังวางแผนจะแต่งงานกันช่วงปลายปี
ชีวิตของวีเหมือนพังทลาย ชัชคือโลกทั้งใบของเธอ ทั้งชีวิตมีแฟนอยู่คนเดียว ไปไหนไปกัน เรียนห้องเดียวกัน พอมาอยู่มหาวิทยาลัยก็เรียนคณะเดียวกันอีก เขาเป็นทั้งเพื่อนและแฟน ครอบครัวของทั้งคู่รู้จักกันดี เข้านอกออกในได้ราวกับเป็นสมาชิกคนหนึ่งของบ้านไปแล้ว
คิดมาถึงตรงนี้น้ำตาก็ไหลพรากอย่างห้ามไม่อยู่ มันไม่ใช่แค่เธอที่จะผิดหวังและเสียใจ คนที่บ้านอีกเล่า ทั้งแม่ทั้งยายที่ต่างก็รักและเอ็นดูชัชเป็นลูกเป็นหลานคนหนึ่ง ท่านจะทำใจได้อย่างไรถ้าได้รู้ว่า
ชัชไปทำผู้หญิงคนอื่นท้อง !
ทั้งคู่เรียนคณะการจัดการอุตสาหกรรมเหมือนกัน โชคดีเหลือเกินที่จบออกมาก็ยังได้ทำงานที่เดียวกันอีก แต่พึ่งมาได้แยกกันเมื่อปีที่แล้วเมื่อทั้งคู่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้จัดการแผนกเหมือนกัน ชัชถูกย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด สัปดาห์หนึ่งจะกลับมาเฉพาะเสาร์อาทิตย์ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่เคยสั่นคลอน เขาไม่เคยเปลี่ยน ทั้งคู่ติดต่อกันทางช่องทางต่าง ๆ อยู่เสมอ กลางคืนก็วีดีโอคอลกันเป็นชั่วโมงก่อนนอน ไม่มีวี่แววว่าเขาจะเป็นอื่นเลยแม้แต่นิด
แต่จู่ ๆ เมื่อสามวันก่อนก็มีนักศึกษาสาวสวยคนหนึ่งโผล่มาที่หน้าห้องในอพาร์ตเมนต์ที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน แจ้งข่าวกับรวียาด้วยน้ำตานองหน้าว่า
‘ หนูท้องกับพี่ชัช ! ’
เหมือนโดนฟ้าผ่าลงมากลางหัวกลางวันแสก ๆ วีคาดคั้นถามความจริงจากชัช เขายอมรับว่าน้องคนนั้นเป็นนักศึกษาฝึกงานและแอบเผลอไผลไปมีอะไรกันตอนที่มีงานเลี้ยงรับ ให้เหตุผลว่าตอนนั้นเมา
ชัชไม่ยอมเลิก เขายืนยันว่ารักวีมากกว่า แต่ก็ห่วงน้องคนนั้น ตกลงใจจะให้ต่างคนต่างอยู่โดยที่เขายังจะแต่งงานกับวีเหมือนเดิมแต่ต้องส่งเสียเลี้ยงดูให้น้องคนนั้นบ้าง
แม้ว่าวีจะรักชัชมากเพียงใด แต่เธอก็ไม่สามารถยอมรับความเห็นแก่ตัวเหลือเกินของผู้ชายคนนี้ได้ ที่เขากำลังพยายามยัดเยียดฐานะ เมียหลวง และ เมียน้อย ให้กับผู้หญิงสองคน
วีขนของออกมาจากคอนโดเพื่อไปอยู่บ้านรุ่นพี่ที่ทำงานที่สนิทคนหนึ่งชื่อพี่จันทิมา หล่อนเป็นสาวเปรี้ยวแซ่บอวบอัดวัยสี่สิบปี แต่ยังไม่แต่งงาน ไม่มีครอบครัว
‘ พักกายพักใจเสียที่บ้านพี่ก่อนเถอะวี อยากอยู่นานเท่าไรก็อยู่ไป ดีกว่าไปอยู่คนเดียวเหงา ๆ เดี๋ยวคิดมาก ผู้ชายแม่งก็แบบนี้แหละ พี่ถึงไม่มีผัวสักทีไง ’
ในช่วงเวลาย่ำแย่แบบนี้วีต้องขอบคุณพี่จันเหลือเกินที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ภายในสองวันพี่จันและเธอก็ช่วยกันขนข้าวของออกมาจากรังรักเก่าจนหมดสิ้น
“ อ้าววี มาถึงแล้วเหรอ พี่พึ่งอาบน้ำเสร็จ เข้ามาก่อนสิ ยืนอยู่ทำไม ” เสียงพี่จันเอะอะโวยวายมาจากในบ้าน รวียาขอตัวออกไปเก็บข้าวของและเอกสารเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ยังเหลืออยู่ในห้อง และใช้เวลานั้นอาลัยอาวรณ์เสียให้พอก่อนก้าวออกมาในเวลาที่ชัชไม่อยู่ห้อง
พอเสียทีความอ่อนแอ ต่อไปเธอจะเข้มแข็ง จะไม่มีแล้วรวียาคนเดิม
“ รอเจ๊แป๊บ ขอแซ่บ ๆ สุด ๆ จะได้ตกผู้ได้อิ่ม ๆ ”
พี่จันว่าพร้อมรอยยิ้ม รวียาเองก็ส่งยิ้มกลับไปเช่นกัน
พี่จันเป็นคนเสนอความคิด เพราะแค่แยกจากชัชมา แค่นั้นมันไม่สามารถรักษาแผลใจให้หายขาดได้ พี่จันผู้หวังดีจัดการลาพักร้อนของทั้งคู่คนละสามวันรวมเสาร์อาทิตย์เป็นห้า แล้วจะพาขับรถไปเที่ยวเกาะเสม็ดให้ฉ่ำปอด ซึ่งวีก็เห็นดีเห็นงามด้วย
ไม่นานทั้งคู่ก็พร้อมออกเดินทาง พี่จันหันมาหาสาวน้อยตัวเล็กตาเศร้าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“ นี่ ยิ้มหน่อยสิ ทำหน้าเหมือนญาติเสียอยู่ได้ หน้าตาก็ดีหุ่นก็ดี ทำแบบนี้เสียของหมด ” วีฝืนยิ้มออกมาอย่างจืดเจื่อน จนพี่จันต้องเดินไปโอบแขนอวบ ๆ รอบไหล่บอบบางของเธอ
“ วี แกเป็นผู้หญิงเพียบพร้อม ทั้งสวย ทั้งเก่ง และมีคุณค่ามาก ๆ ”
“ ถ้าวีมีค่า แล้วทำไมชัชต้องนอกลู่นอกทางไปหาคนอื่น ”
“ มันไม่มีใครด้อยค่าเราได้หรอกนะ ถ้าเราไม่ยอม ไอ้ชัชมันก็แค่ผู้ชายโง่คนหนึ่งที่มีของดีอยู่กับตัวแล้วไม่รู้จักรักษา อย่าจมจ่อม ลุกขึ้นมาปัดมาสคาร่าสวย ๆ แล้วเปิดโอกาสให้คนอื่นที่เห็นค่าจ้ะ โอเคนะรวียาคนสวย ” พี่จันพูดพลางโยกศีรษะเธอเบา ๆ วีพยักหน้าแล้วยิ้มกว้างออกมา
“ โอเคค่ะ วีจะไม่ให้ใครมาด้อยค่าวีได้อีกแล้ว ”
“ เริ่ดค่ะเพื่อนสาว ไปโว้ย อยากทำอะไรก็ทำ ไปสนุก ไปดื่ม ไปแร่ด ไปร่านให้ลืมเรื่องเฮงซวย Let’s gooooo ! ”