4

1394 คำ
อารมณ์ของเขามันขึ้นๆลงๆมากเลย เมื่อไม่กี่นาทีก่อนยังว่าเธอเรื่องงานแต่ผ่านไปอีกไม่กี่นาทีก็ชวนกินข้าวซะงั้น เพราะแบบนี้แหละถึงไม่มีเมียสักที! เธอเดินตามเขาออกไปแทบไม่ทันเพราะขายาวๆนั้นก้าวเร็วมากเกินไป เขาทำเหมือนหงุดหงิดมาก แล้วตั้งแต่เช้าก็ดูเหมือนคนอารมณ์ไม่ดีอีกด้วย เธอเดินตามไปจนทัน แต่ในจังหวะนั้นเองมีผู้หญิงสวยมากท่าทางดูออกเลยว่าลูกคุณหนูเดินเข้ามาคุยกับเขาด้วยท่าทีสนิทสนม แล้วไหนว่าไม่มีใครไงวะ “เฮียสามไม่เจอกันนานเลยนะ แล้วนี่เวลางานรึเปล่าคะ?” “อื้ม แล้วมาคนเดียวเหรอ พี่หนึ่งไม่มาด้วยเหรอ?” “เกี่ยวอะไรกับเฮียหนึ่งด้วยล่ะคะ อ่อ…เรื่องงานพรุ่งนี้เสียใจที่ไปไม่ได้อะ อาจารย์จะสอบเก็บคะแนนพลาดไม่ได้จริงๆ แล้วถ้าทำไม่ได้นี่แย่เลยนะ” “เราทำได้อยู่แล้ว อืม…นี่ผู้จัดการคนใหม่ของบริษัทเฮียเอง เผื่อว่าวันไหนที่เจ้าสัวให้หนูมาดูงานจะได้คุยกันได้ง่ายขึ้น เขาอายุยี่สิบสามปีเป็นพี่ของหนูสามปี ชื่อโมนา” “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่โมนา งั้น…ไปก่อนนะพอดีนัดดูหนังกับเพื่อนเอาไว้ค่ะ” “ดูหนังให้สนุกนะ” โมนามองตามด้วยความสงสัยมากในความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนจะสนิทกันพอสมควรเลย เฮียสองยิ้มกว้างมากกว่าตลอดทั้งครึ่งวันที่อยู่กับเธอซะอีก เขามองตามผู้หญิงคนนั้นก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปแล้วพิมพ์อะไรต่อไม่รู้ คำถามเดียวในใจเกิดขึ้นทันทีว่านั่นคือคนที่เฮียสามกำลังจีบอยู่รึเปล่า ผู้หญิงคนนั้นสวยมากชนิดที่ผู้หญิงด้วยกันยังหยุดมองไม่ได้เลย ผิวพรรณสะอาดสะอ้านเหมือนคนอาบน้ำวันละร้อยรอบ เสื้อผ้าและการแต่งตัวที่ดูสบายๆแต่ราคานั้นไม่สบายกระเป๋าแน่นอน แล้วแบบนี้จะมีปัญหาอะไรกันไหมถ้ารู้ว่าเธอคือแฟนเก่าของเฮียสาม เขากำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่สินะ เธอยินดีด้วย “มองอะไร?” “ก็เฮียดูอารมณ์ดีมากไง แล้วใครเหรอ?” “นั่นน้องไอติม ลูกสาวคนสุดท้องของเจ้าสัวบูรพาไง” “อ๋อ! เฮียดูสนิทนะ” “หึงผัวเก่าเหรอ?” “บ้า! ใครจะหึงหวงอะไรห่ะ เราเลิกกันมาตั้งสี่ปีแล้ว เฮียจะทำอะไรกับใครฉันก็ไม่สนใจหรอก” “ใช่! โมนาไม่เคยสนใจอะไรเลยและเฮียถูกทิ้งด้วยความคิดห่วยแตกมาสี่ปีแล้ว!” อ้าว! อยู่ดีๆก็อารมณ์ขึ้นเฉยเลย เป็นอะไรอีกวะเนี่ย! ถึงจะงงแต่ก็เดินตามเข้าไปในร้านอาหารอยู่ดี เฮียสามสั่งอาหารโดยไม่ถามเธอสักคำว่าจะกินอะไร แต่ก็น่าแปลกที่กับข้าวแทบทั้งหมดคือของโปรดเธอทั้งนั้น เขาไม่คุยไม่ถามอะไรเอาแต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความก่อนจะหัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดี แต่เมื่อเห็นว่าเธอแอบมองอยู่ก็จ้องกลับ เอาจริงๆนะ เธอว่าเขาไบโพล่ากินแล้วแหละ หนึ่งวันมีกี่อารมณ์เนี่ย “คุยกับพี่ชาย” “ก็ไม่ได้อยากรู้สักหน่อย!” “เหรอ?” “อื้ม!” “ยังไม่หายหึงเรื่องไอติมอีกเหรอ? นั่นลูกสาวเจ้าสัวที่เฮียไม่มีวันจีบหรอก ต่อให้มีโอกาสกี่ครั้งก็ไม่มีวันล้ำเส้นเด็ดขาด เฮียกับไอติมเป็นแค่พี่น้อง แล้วถึงจะพูดคุยกันแบบนั้นแต่เราไม่ได้สนิทกันมากหรอก เรารู้จักกันทั่วไปเพราะเคยเจอกัน” “บอกทำไม?” “จะได้รู้ไงว่าเฮียไม่มีใคร” “อย่างเฮียไม่มีใครเอาก็ไม่แปลกหรอก!” เขาไม่มีใครเลยจริงๆแม้ว่าจะเปิดโอกาสตลอดเลยก็ตาม แต่ไม่ว่าจะกี่คนที่เข้ามาก็เห็นเพียงแค่โมนาคนเดียวที่ชัดเจนเสมอมา เรื่องของเราจบลงเพราะความเข้าใจผิดและมันต้องมีมากกว่านั้นที่เธอไม่พูดออกมาแน่นอน เห็นได้ชัดว่าโมนานิสัยเหมือนเดิมและเขาอยากได้เธอกลับคืนอีกครั้ง เห็นที่ต้องใช้หน้าที่การงานในทางที่ผิด แต่ถ้าได้เมียมาเขายอม หลังจากกินอาหารอิ่มแล้วก็ยังซื้อน้ำหวานให้กินต่อด้วย เฮียสามเดินเลือกซื้อของใช้ส่วนตัวที่คล้ายว่าเป็นการเดินเล่นมากกว่า บางอย่างเขาก็ถามเธอบ้างเพราะตัดสินใจไม่ค่อยถูก บางอย่างก็หยิบขึ้นมาแล้ววางก่อนจะหยิบมาดูใหม่อีกครั้ง จนกระทั่งบ่ายสามที่เรามานั่งพักในร้านขนมแล้วสั่งของหวานกินแต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องงานเลย นั่นเลยทำให้เธอสงสัยบางอย่างขึ้นมา ปรกติเจ้านายเลี้ยงดูลูกน้องดีขนาดนี้เลยเหรอ กว่าเขาจะมาส่งที่คอนโดก็ทุ่มหนึ่งแล้ว “แล้วพรุ่งนี้เฮียจะมารับ” “ฉันไปเองได้” “เฮียไม่ได้มาคนเดียว พี่ชายเฮียจะไปส่งที่สนามบินด้วย แล้วเราจะประชุมตอนเก้าโมงก่อนจะขึ้นเครื่องตอนบ่าย พรุ่งนี้เอากระเป๋าลงมารอที่ล็อบบี้นะเดี๋ยวไปยกมาขึ้นรถเอง” “ฉันทำเอาได้น่า” “ดูสังขารตัวเองมั้งโมนา! ตัวเล็กอย่างกับหมากระเป๋าอย่ามาเถียงเฮีย ไปล่ะพี่ชายโทรตามแล้ว” “เดี๋ยวมีผู้ปกครองคุมพฤติกรรมด้วยเหรอ?” “ตามไปแดกเหล้าต่างหากล่ะ ขึ้นห้องไปเลย” เขาปิดกระจกรถทันทีที่เธอเดินเข้าคอนโดไปก่อนจะขับรถกลับไปบ้านพี่ชายที่น่าจะกำลังตั้งวงเหล้ารอแล้ว พรุ่งนี้พี่หนึ่งกับไอ้สองจะไปส่งที่ออฟฟิศแล้วรอเขาประชุม จากนั้นน่าจะเลี้ยงข้าวตามสเต็ปของพี่ชายที่ใช้เงินเหมือนกระดาษก่อนจะขับรถไปส่งที่สนามบินในตอนบ่ายโมง สองคืนสามวันมันต้องมีอะไรดีๆแน่นอน ซื้อถุงยางรอเลยไหมวะ เช้าวันต่อมาหนึ่งกับสองขับรถมาส่งน้องชายและจะไปแวะไปรับผู้จัดการชั่วคราวคนใหม่ด้วย พวกเขาจะไปนั่งเล่นในห้องทำงานของน้องชายแล้วรอจนมันประชุมจบถึงจะไปหาอะไรกินก่อนจะไปส่งขึ้นเครื่องบินเพื่อไปจัดการเรื่องงานสำคัญต่อ สองหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความคุยกับเมียที่อยู่เมืองนอกด้วยความคิดถึงมากจนแทบบ้า ส่วนสามลงจากรถไปช่วยผู้จัดการถือกระเป๋าสำหรับค้างสองคืนสามวันเพราะจะแวะเที่ยวต่อ “แค่กๆ” “เป็นอะไรวะพี่หนึ่ง?” “ดูดิว่าผู้จัดการคนใหม่ของไอ้สามคือใคร” “ก็ผู้หญิงไง อายุยังไม่เยอะน่าจะไฟแรงอยู่ พี่หนึ่งจะตกใจอะไรขนาดนั้น” “นั่นเมียเก่ามัน!” “ห่ะ!! เมียเก่าไอ้สาม!?” “เออ! คนที่ทิ้งจนมันเสียสูญไง” “มิน่าล่ะ! เมื่อวานหายหัวไปตั้งแต่เช้ายันค่ำ มันแอบมาอยู่กับเมียเก่านี่เอง!” “นิ่งๆไว้ก่อน เผื่อมีรีเทิร์น” “ดูทรงก็น่าจะใช่วะ” สามยกกระเป๋าขึ้นมาเก็บและเปิดประตูให้โมนาเข้าไปนั่ง พี่หนึ่งน่าจะจำได้เพราะความจำโคตรดีแต่ไม่ได้แสดงอะไรออกมา ส่วนไอ้สองมันน่าจะรู้จากพี่หนึ่งถึงได้หัวเราะเบาๆก่อนจะเปิดเพลงแนวคิดถึงแฟนเก่าฟังให้อีก คือไอ้พี่เวรมันกวนตีนแบบไม่สนใจสถานการณ์อะไรเลยสักอย่าง มันแค่นึกสนุกที่ได้ปั่นประสาทเขาแบบนี้ ยอมรับก็ได้ว่าลืมเมียเก่าไม่เคยได้เลยสักวัน งานนี้มีรีเทิร์นแน่นอน “นี่กาแฟแล้วก็นี่แซนวิชกินรองท้องไปก่อน” “เฮียสามรู้ได้ไง?” “เสียงท้องร้องดังขนาดนั้นไม่รู้ว่าไปตายอดตายอยากมาจากไหน กินๆไปเถอะจะได้มีแรงประชุมต่อ” “พูดดีๆเป็นไหมเนี่ย?” “แล้วเฮียพูดหยาบคายตรงไหนเหรอ?” “เฮ้อ…กินก็ได้” เป็นห่วงมันพูดยากมากขนาดนั้นเลยเหรอวะ สองแอบคิดในใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม