ดูดไอหยาง
ยามนี้หลิวมู่สือยืนมองเจ้าแท่งเนื้อยาวๆ นั่นด้วยความสงสัย นี่ไม่เหมือนกับตรงนั้นของนาง ของนางไม่เป็นแบบนี้
“แม่นาง ท่านเห็นแท่งเนื้อยาวๆ ของเราหรือไม่”
“เห็นสิ ทำไมหรือ”
“เจ้าสิ่งนี้มีไว้สำหรับดูดไอหยางโดยเฉพาะ ท่านดูดเข้าไปสิ” ลู่เสิ่นพยายามล่อหลอกนาง
หลิวมู่สือแม้จะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่นางยังคงคุกเข่าลงไปกับพื้น นิ้วมือเรียวคีบหยิบเจ้าแท่งเนื้อนั่นขึ้นมา นางค่อยๆ อ้าปากกว้างส่งแท่งเนื้อเข้าปากช้าๆ
“อืม” ลู่เสิ่นครางออกมาอย่างเป็นสุข “จ๊วบ จ๊วบ” หลิวมู่สือพอเอาแท่งน้ำเข้าปากได้ นางก็ออกแรงดูดดึงราวกับทารกดูดนมจากอกมารดา
“อ่า” แม่นางไม่ได้ดูดเช่นนั้น ลู่เสิ่นพยายามอธิบายวิธีดูดให้นางใหม่
“อืม อืม อืม ดูดเช่นนี้หรือ” หลิวมู่สือค่อยๆ รูดริมฝีปากขึ้นลงตามคำบอกกล่าวเจ้ากวาง
“อืม แบบนั้นเลยแม่นาง ซีด..เสียวยิ่งนัก” ลู่เสิ่นก้มมองหญิงโง่ที่กำลังผงกหัวขึ้นๆ ลงๆ
“อืม ปล่อยออกมาซักทีสิไอหยางของเจ้านะ” หลิวมู่สือเริ่มโมโหแล้ว นางทั้งดูดทั้งเลียตามที่เขาว่า ยามนี้ดูดจนน้ำลายเหนียวข้น ไอหยางซักนิดก็ไม่มีออกมา
“อ่า อ่า อ่า แม่นางเจ้าเร็วกว่านี้” หลิวม่สือทำตามคำขอเขา นางห้อริมฝีปากให้แน่นขึ้น ลิ้นก็พันรอบแท่งเนื้อเขา ศีรษะนางผงกขึ้นๆ ลงๆ รวดเร็ว
“อ่า อ่า หยุด หยุด ข้าเสร็จแล้ว ข้าเสร็จแล้ว” ลู่เสิ่นรู้สึกถึงกระแสน้ำขาวขุ่นค่อยไหลพุ่งออกไปยังปลายหัวหยัก หลิวมู่สือผู้ไม่รู้ความ ยามนี้ยังคงออกแรงดูดดึง
“อ๊อก อ็อก อ็อก” เนื่องจากนางไม่ได้เตรียมตัวรับสิ่งที่พุ่งออกมา หลิวมู่สือผู้หน้าสงสาร จึงสำลักน้ำขาวขุ่นจนน้ำหูน้ำตาไหล
“แคก แคก เจ้าปล่อยมาทีเดียวเยอะแบบนี้ คิดจะแกล้งข้ารึไง” นางโมโหมาก เจ้ากวางบ้านี่ถึงกลับแกล้งปล่อยไอหยางออกมาทีเดียวมากปานนี้ เขาคิดจะให้นางสำลักตายเลยรึไง
“แม่นาง เราบอกเจ้าแล้วว่าเราจะเสร็จเจ้าก็ไม่ฟัง เรายังมีวิธีให้ท่านดูดไอหยางทีละมากๆ โดยไม่ต้องใช้ปาก ท่านสนใจหรือไม่”
“ไม่ต้องใช้ปากก็ดูดไอหยางได้หรือ” หลิวมู่สือพอฟังว่าไม่ต้องใช้ปากก็ดูดไอหยางได้ นางก็หูผึ่งทันที นางไม่ชอบเลยจริงๆ การใช้ปากดูด
“ทำไมเจ้าไม่บอกข้าตั้งแต่ทีแรก” นางโมโหเขาจริงๆ มีวิธีเช่นนี้กลับไม่บอกออกมา
“แม่นางเจ้าปลดโซ่ให้ข้าก่อน เดียวข้าจะมอบไอหยางให้ท่านเอง” ลู่เสิ่นทนไม่ไหวแล้ว ตอนนี้เขาอยากจะขึ้นขี่นางให้สะใจซักตั้ง
“ปลดโซ่หรือ อืม ข้าคิดดูก่อน” นางนิ่งคิดไปซักพัก จริงๆ นางไม่อยากปลดโซ่ให้เขา จู่ๆ นางก็ดึงเส้นผมของตนเองออกมาเส้นหนึ่ง
นางร่ายอาคมใส่เส้นผมของตน จากนั้นนำไปผูกไว้กับคอเจ้ากวาง เพียงครู่เดียวเส้นผมนางก็หายเข้าไปในคอเจ้ากวางทันที
เมื่อโดนอาคมติดตามของข้า เจ้าก็อย่าคิดหนีไปไหนละ ต่อให้เจ้าหนีไปไกลแสนไกลข้าก็ตามเจ้าได้อยู่ดี ฮ่า ฮ่า ฮ่า
นี่เรียกว่าอาคมเกศาติดตาม จนกว่าผู้ร่ายจะคลายอาคม อยู่ส่วนไหนของมุมโลกหากโดนเรียกด้วยอาคมย้อนกลับ ผู้ที่โดนเส้นผมรัดพันอยู่ ย่อมถูกเส้นผมรัดคอจนเจ็บปวด หากไม่รีบเข้าใกล้เจ้าของเส้นผม เส้นผมจะค่อยๆ รัด จนศีรษะกับคอหลุดแยกออกจากกัน
“แม่นางเจ้าคลานไปกับพื้นสิ”
“ทำไมข้าต้องคลานด้วยหรือ”
“เราเป็นกวาง หากท่านไม่คลานสี่ขาเราก็ปล่อยไอหยางให้ท่านไม่ได้”
“คลานแบบนี้หรือ” หลิวมู่สือคลานลงบนพื้น นางไม่เข้าใจจริงๆ ไฉนต้องคลานถึงจะดูดไอหยางได้
“แม่นาง ท่านอยู่เฉยๆ เจ็บก็ห้ามหันมา ไม่เช่นนั้นจะถูกธาตุไฟเข้าแทรก” ลู่เสิ่นเดินอ้อมไปด้านหลังนาง
“เจ้าเปิดกระโปรงข้าทำไม”
“ย่อมเปิดเพื่อหาช่องทางปล่อยไอหยางให้ท่าน”
“กางเกงในเราก็ต้องเปิดออกด้วยหรือ” นางรู้สึกว่าเขาดึงกางเกงในนางลงไปไว้ที่ต้นขา
“ไม่เปิดออกเราจะเข้าไปปล่อยไอหยางให้ท่านได้หรือ” ลู่เสิ่นมองดูกลีบท้อที่ปิดสนิทของหญิงโง่เขลา
ความสวยงามไม่ต้องกล่าวถึง เพียงแค่ร่องรอยที่ปิดสนิทและความเนียนของผิวกาย ก็ทำให้เขาทราบว่านางยังไม่เคยผ่านมือบุรุษมาก่อน
“ถุย” ลู่เสิ่นถ่มน้ำลายลงในฝ่ามือ เขาไม่คิดจะเล้าโลม หากนางเกิดรู้ตัวว่ากำลังโดนหลอก เดียวเขาจะอดขึ้นสวรรค์เสียเปล่าๆ เอาไว้เข้าไปก่อนค่อยว่ากันทีหลัง
“อ่า อ๊า เจ้าทำอะไรข้า” จู่ๆ หลิวมู่สือรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกมีดแทง
“แม่นาง ท่านห้ามหันมา เดียวจะถูกธาตุไฟเข้าแทรก” ลู่เสิ่นค่อยๆ ดุนดันแท่งเนื้อเข้าไป นางคับแน่นมากเสียจนเขาเอาเข้าไปได้เพียงครึ่งเดียว
“อ่า อ่า เดียวๆ ข้าเจ็บ” ยิ่งพยายามดันเข้าไปมากทำไหร่ หญิงโง่เขลาก็ร่ำร้องว่าเจ็บมากขึ้นเท่านั้น จริงๆ ลู่เสิ่นก็สงสารนาง แต่จะทำยังไงได้ ก็นี่ถึงฤดูผสมพันธุ์ของเขาแล้ว
“แม่นางท่านอดทนเพียงครู่เดียว เราจะมอบไอหยางบริสุทธิ์ ที่ไม่มีปีศาจตัวไหนมอบให้ท่านได้”
“พับ พับ พับ” ลู่เสิ่นเมื่อพบว่าช่องทางของนางคลายตัวจากการบีบรัด เขาก็เริ่มกระแทกเอวออกไป
“ซีด...แม่นางเจ้าคับแน่นดีจริงๆ”
หลิวมู่สือหัวสั่นหัวคลอนไปตามแรงกระแทก นางไม่คิดเลยว่าการดูดไอหยางจะเจ็บปวดเช่นนี้
“นี่ ข้าเจ็บมากเลยนะ เจ้าจะปล่อยไอหยางเสร็จรึยัง” จริงๆ นางไม่ค่อยเจ็บแล้ว เพียงแต่ตอนนี้กลายเป็นรู้สึกเสียวๆ แทน
“พับ พับ พับ ใกล้แล้วๆ แม่นางรอซักครู่”
มู่สือน้อยผู้อ่อนต่อโลก ยามนี้นางเด้งไปเด้งมาตามแรงกระแทกด้านหลัง แรกๆ นางยังร่ำร้องว่าเจ็บ แต่ตอนนี้นางไม่เจ็บแล้ว
“อ่า อ่า อ่า เจ้ากวางข้าเสียวจังเลย”
“ดีมั้ย เสียวดีมั้ย” ด้วยความชำนาญของเขา เพียงไม่นานจากสตรีบริสุทธิ์ผู้หนึ่ง ก็ได้รับทราบรสชาติตัณหา
“อ่า อ่า อ่า เสียวดีจังเลย เจ้าเร็วกว่านี้ได้หรือไม่”
“ตับ ตับ ตับ” ลู่เสิ่นประคองสะโพกนางไว้แน่น ซอยเอวเข้าออกแรงๆ อย่างต่อเนื่อง
“อืม อืม เป็นยังไงบ้างแม่นางพอใจท่านหรือไม่”
“อ่า อ่า อ่า พอใจ พอใจมาก”
มู่สือน้อยยามนี้ในหัวไม่คิดเรื่องดูดไอหยางอะไรนั่นแล้ว นางเพียงต้องการเสียวแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ทุกครั้งที่เจ้ากวางกระแทกส่งของแข็งบางอย่างเข้ามาในกาย นางจุกเสียดยิ่งนัก แต่ยามเขากระชากกลับไป นางเสียวซ่านท้องน้อยจนไม่ยอมให้เขาจากออกมา
นางขมิบกลีบท้อของนางไว้ ไม่ปล่อยให้เจ้าสิ่งนี้หลุดออกไปแม้แต่ครั้งเดียว
“ตับ ตับ ตับ แม่นางท่านอย่าขมิบเช่นนี้ ข้าจะทนไม่ไหว” ลู่เสิ่นถูกนางขมิบตอดรัดจนเขาแทบจะกลั้นเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
“อ่า อ่า อ่า เจ้ากวางข้าจุกจังเลย”
นางฟุบหน้าลงกับพื้น พื้นกระเบื้องที่สกปรก นางกลับแนบใบหน้างดงามของตนเองลงไป ยามนี้นางไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
นางจุกจนอยากจะให้เขาหยุดกระแทก แต่นางก็เสียว จนไม่อยากให้เขาจากไป อา อ๊า
จู่ๆ คลื่นอะไรบางอย่างก่อตัวขึ้นที่ท้องน้อยนาง ตั้งแต่เกิดมานางยังไม่เคยรู้สึกเช่นนี้
“อา อา อ๊า” หลิวมู่สือฝังศีรษะลงไปกับพื้น สะโพกนางเชิดขึ้นแผ่นหลังก็โค้งงอเกร็งตัวจนสั่นระริก
“ตับ ตับ ตับ อ๊าข้าไม่ไหวแล้ว” เนื่องจากสตรีที่คลานอยู่ตรงหน้าตอดรัดเขาแรงมาก ลู่เสิ่นจึงกลั่นต่อไปไม่ไหวอีก
“แฮก แฮก” ทั้งสองหอบหายใจหนักหน่วง ยามนี้น้ำนมและน้ำเชื่อมไหลผสานกันช่องทางคับแคบ
ลู่เสิ่นมองดูกลีบท้อที่ห่อหุ้มแท่งเนื้อยาวใหญ่ของเขา หยดของเหลวขาวขุ่นค่อยๆ ไหลออกมาตามรอยแยก หยดลงพื้นและง่ามขาของนาง
“แม่นางท่านชื่อว่าอะไรหรือ”
“มู่สือ แล้วเจ้ามีชื่อหรือไม่เจ้ากวาง” นางยังไม่หายสั่นกระตุก รสชาตินี้นางไม่เคยสัมผัส แต่หลังจากได้รองชิมแล้ว นางกลับชอบจริงๆ
“ข้าชื่อ ลู่เสิ่น แม่นางท่านชอบหรือไม่ เอาอีกครั้งมั้ย” ลู่เสิ่นเห็นนางเริ่มกลับมาหายใจเป็นปกติก็คิดจะขี่นางอีกซักยก
“อืม เอาอีก” ลู่เสิ่นเริ่มกระแทกนางใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้เขาจับนางพลิกคว่ำพลิกหงาย มีท่าเด็ดๆ อะไรเขานำออกมาใช้กับนางจนหมด
“ตับ ตับ ตับ มู่สือข้าเอาดีหรือไม่” ยามนี้มู่สือน้อยถูกจับขาทั้งสองถ่างออกกว้าง เจ้ากวางวางนางไว้บนโต๊ะกินข้าว หน้าอกของนางเด้งไปเด้งมา
“อ่า อ่า อ่า ดี ดี เจ้าดีมา” มู่สือน้อยยามนี้ลืมไปหมดสิ้นแล้ว ว่าเป้าหมายจริงๆ ที่นางจับเจ้ากวางมาขังไว้ในห้องใต้ดินแห่งนี้คืออะไร
“…”
เรือสำราญนำเที่ยว
“อาจารย์ ท่านว่ามนุษย์ต้องดูดไอหยางปีศาจมากเท่าไร ถึงจะสำเร็จเป็นเซียน”
ฝูหยวนหยวนถูกศิษย์รักฉุดลากออกมาจากสำนักตั้งแต่เช้า วันนี้หลิวมู่สือบอกว่าจะพานางมาผ่อนคลาย โดยการพานางมาล่องเรือชมวิวริมแม่น้ำ
“เราก็ไม่รู้เหมือนกัน” นางปวดหัวกับศิษย์ผู้นี้นัก หลายวันมานี้นางเอาแต่ถามเรื่องดูดไอหยางปีศาจ
“อีกครึ่งเดือนอาจารย์จะเดินทางไปซานตง ที่นั่นมีปีศาจปลาออกอาละวาด ขุนนางท้องถิ่นส่งคนมาติดต่อท่านเจ้าสำนักให้ส่งคนไปปราบ เจ้าจะติดตามไปหรือไม่”
“ไป ไป ข้าไปด้วย” หลิวมู่สือยินดียิ่งนัก นางไม่ได้ออกท่องเที่ยวไกลๆ นานแล้ว หากใช้ข้ออ้างไปปราบปีศาจกับอาจารย์ ท่านพ่อท่านแม่นางต้องยินยอมให้นางออกจากเมืองแน่นอน
“อืม เช่นนั้นเจ้ากลับไปเตรียมตัวเถอะ ครั้งนี้อาจารย์จะทดรองวิชาพัดคนงามของเจ้า เจ้าอย่าลืมเอาเขาไปด้วย”
พัดคนงามคือพัดวิเศษที่ทำมาจากผิวหนังของปีศาจจิ้งจอกพันปี ของวิเศษชิ้นนี้เป็นอาจารย์ปู่ของนางมอบให้ครั้งยังมีชีวิตอยู่
หากนับตามศักดิ์ฐานะจริงๆ นางกับหลิวมู่สือถือเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน เนื่องจากอาจารย์ของนางรับมูสือเป็นศิษย์คนสุดท้าย
เพียงแต่อาจารย์อายุมากแล้ว ที่ผ่านมาจึงเป็นนางที่คอยฝึกวิชาอาคมให้กับศิษย์น้องผู้นี้ ดังนั้นนางเองจึงถือว่า เป็นทั้งอาจารย์และศิษย์พี่ในเวลาเดียวกัน