บทที่ 2
ว้าวุ่น
อีกด้านหนึ่ง…
“น่ารักจังเลย” หญิงสาวพึมพำออกมาขณะที่มองไปยังใบหน้าเล็ก ๆ ของหลานชายตัวน้อย เธอนั่งอุ้มเด็กทารกที่หลับตาปุ๋ยอยู่ในอ้อมแขน เพราะผู้เป็นแม่ของเด็กทารกต้องไปกดตังค์ไว้ใช้
หญิงสาวนั่งอยู่หน้าโรงพยาบาลนานพอสมควรเพื่อรอรถแท็กซี่ เธอไม่ได้ขับรถมาเองเพราะขี้เกียจ ใบหน้าเล็กเงยหน้าชะโงกคอมองหารถแท็กซี่ แต่กลับไร้วี่แวว
“ไปตายที่ไหนก็ไม่รู้” เธอบ่นพึมพำพร้อมกับนึกด่าตัวเองในใจ กะว่าวันนี้จะรีบไปแต่งหน้าสวย ๆ ไปที่ที่เธอจะได้พบชายหนุ่มคนนั้น แต่แล้ว
“มีลูกแล้ว แต่บอกจะจีบผมเนี่ยนะ!” เสียงทุ้มลึกของใครบางคนทำให้เธอหันควับไปทางด้านข้างทันที และก็พบว่า
“ทามมี่” หญิงสาวพูดชื่อที่เธอได้ตั้งให้เขาใหม่ ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่ได้เจอเขา
“ยิ้ม?” ชายหนุ่มหงุดหงิดเข้าไปใหญ่เมื่อเธอยิ้มให้เขา
“คิดถึงก็มาเลย” หญิงสาวเอ่ยปากบอกถึงสิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่ โดยที่ยังไม่ได้ตอบคำถามเขาด้วยซ้ำ
“_” ชายหนุ่มขมวดคิ้วเป็นปม เพราะเธอดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย
“ว่าแต่ คุณยอมให้ฉันจีบแล้วใช่ไหม เมื่อกี้คุณพูดเหมือนเสียดายฉันเลย” หญิงสาวเงยหน้ามองคนตัวสูงที่ตอนนี้ทำหน้าเลิ่กลั่ก เพราะกำลังถูกจับได้
“อะไรของคุณ เพ้อเจ้อ” ชายหนุ่มปฏิเสธพร้อมกับปั้นหน้านิ่ง เขากำลังรู้สึกเหมือนคุมตัวเองไม่ได้ และก็คิดว่าเขาจะเดินมาถามเธอทำไม แต่หญิงสาวตรงหน้าเหมือนกำลังหันไปมองอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาต้องหันตาม
พรึ่บ!
ชิลล์ลุกขึ้นยืนทันทีที่มองไปเห็นพี่สะใภ้ของเธอ ซึ่งเธอควรอยู่คนเดียวหน้าตู้ ATM แต่ตอนนี้มีพี่ชายเธออยู่ด้วย และก็มีผู้หญิงที่เป็นต้นเหตุให้พี่ชายเธอ และพี่สะใภ้เธอทะเลาะกัน
“คุณจะไปไหน ยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะ” ชายหนุ่มที่เผลอพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกไป เมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่เข้ามาปั่นหัวเขา กำลังเดินหนีเขา
“เจอกันค่ะ” หญิงสาวหันหน้ามาตอบเขา เพราะเธอกำลังเห็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับบุคคลทั้งสามที่เธอมองอยู่ และทันทีที่เธอหันหน้ากลับ
ปิ๊ด~
ปัง!!
ตุบ!
เอี๊ยด!
“กรี๊ด…อึก”
“เฮ้ย!”
ตึก ตึก ตึก~
เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังขึ้นทันทีก่อนที่เธอจะรู้ตัวว่าหลานเธอจะตื่น ชิลล์กระชับอ้อนแขนแน่นขึ้น เพราะกลัวจะปล่อยให้หลานเธอหล่นลงตามเรี่ยวแรงที่เธอแทบไม่มี อุบัติเหตุตรงหน้าทำให้หญิงสาวตกใจกลัว ในขณะที่เธอมองเห็นชายหนุ่มคนที่เธอเพิ่งคุยด้วย วิ่งไปที่เกิดเหตุ
สัญชาตญาณของความเป็นหมอทำให้เขาวิ่งไปที่เกิดเหตุทันที ก่อนจะเข้าปฐมพยาบาลผู้ประสบเหตุ ชายหนุ่มจัดการถอดเสื้อกาวน์ของเขาออกก่อนจะนำไปประคบที่ศีรษะเธอคนนั้น เธอมีเลือดไหลเต็มไปหมด
มือหนาเลื่อนคลำที่ชีพจร สีหน้าของเขาไม่สู้ดีนักเมื่อชีพจรของเธอคนนี้เบามาก แทบคลำไม่เจอ ก่อนที่เขาจะทำการกู้ชีพผู้ประสบเหตุโดยการบีบนวดหัวใจ
การกระทำของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวยิ้มออกมา เธอตกหลุมรักเขาคนนี้ซ้ำอีกแล้วล่ะ ถึงจะเป็นเพียงหน้าที่ของเขา แต่มันโคตรเท่ในสายตาเธอ
หวอ~
และไม่นานรถฉุกเฉินก็แล่นเข้ามา ชายหนุ่มช่วยนำผู้ประสบเหตุขึ้นที่เปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปขึ้นรถฉุกเฉิน ก่อนที่เขาจะยืนหอบหายใจอย่างแรง
ชายหนุ่มไม่ได้ขึ้นรถฉุกเฉินไปด้วย เพราะมันไม่ใช่งานของเขา ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับไปหาหญิงสาวคนนั้น แต่กลับไม่พบ!
“ยัยบ้าเอ้ย” ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดทันทีที่อยู่ ๆ เธอก็หายไป ว่าแต่เขาจะหงุดหงิดทำไม คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มถึงกลับรีบชักสีหน้ากลับมาปั้นหน้านิ่งทันที
“บ้าไปแล้วกู” ไทม์ถึงกับเอ่ยปากด่าตัวเองทันทีที่คิดว่าเขาจะหงุดหงิดทำไม เหมือนกับว่าหงุดหงิดที่เธอยังไม่ตอบคำถามเขา หงุดหงิดที่เธอมาปั่นหัวเขา แล้วก็จากไป
ชายหนุ่มเดินกลับไปที่ลานจอดรถด้วยสีหน้าบึ้งตึง ก่อนที่เขาจะขึ้นรถไป หลายครั้งที่เขาส่ายหน้าไปมาเมื่อนึกถึงหน้าหญิงสาวคนนั้น
“อย่าให้ได้เจอนะ” ชายหนุ่มไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่าตัวเองแอบมีความคิดอยากจะเจอเธอคนนั้น…อีกครั้ง
@The bast Condo [20.00 น.]
ตืด ตื๊ด~
“เฮลโหล ยัยแอน” เสียงเหล็กแหลมเอ่ยปากทักเพื่อนเธอทันทีที่ปลายสายกดรับ
“ว่าไง! กะจะโทรหาพอดีเลย~” เสียงเล็กแหลมของเพื่อนเธอทำให้ชิลล์ถึงกับยกโทรศัพท์ออกจากหูทันที
“ไม่ต้องแว้ดเสียงก็ได้มั้ง” ชิลล์พูดพร้อมกับยิ้มออกมาเมื่อได้ยินว่าเพื่อนคนเดียวของเธอกำลังจะโทรหาเธอพอดี
“แหม่ เสียงแกหวานนักหรือไง” คนที่เป็นเพื่อนกันมักมีนิสัยเหมือนกันมันยังคงใช้ได้กับทั้งคู่
“ไปดื่มกัน”
“อะไรนะ!!”
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น”
“ไม่ให้ตกใจได้ไง แกไม่ดื่มมากี่ปีแล้ว อยู่ ๆ ชวนฉันไปดื่มเนี่ยนะ”
“มีเหตุผลที่ต้องไป เดี๋ยวเล่า ตกลงไปปะ”
“เหอะ ไม่ไปได้เหรอ แกกลัวความมืดขนาดนั้น ยังจะอยากออกไปตอนกลางคืนอีก บ้าไปแล้วเหรอไง”
“นั่นสิ ฉันว่าฉันลงทุนไปหรือเปล่า”
“ลงทุน?”
“คิก ๆ เดี๋ยวเล่า”
“เล่ามาตอนนี้! แกทำให้ฉันอยากรู้ ทำไมเนี่ย”
“อยากรู้ก็ต้องไปด้วย”
“ไปอยู่แล้ว ฉันไม่เคยปล่อยให้แกไปไหนตอนกลางคืนคนเดียวหรอก พี่ชายแกหักคอฉันทิ้งพอดี”
“ไม่ต้องพูดถึงพี่ฉันตอนนี้เลย เขาไม่สนใจฉันแล้วล่ะ
“ทำไมวะ สมัยเรียนเห็นหวงแกจะตาย”
“เขามีเมียแล้ว”
“จริงดิ! อกหักดังเปาะเลยว่ะ”
“แหม่ทำเป็นพูด ฮ่า ๆ ไม่ได้ดูข่าวบ้างเหรอ ข่าวเขาดังจะตาย”
“เหรอ ไม่เลย ไม่ค่อยว่าง เดี๋ยวฉันไปรับ ที่ไหน ยังไง” หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาก่อนจะตอบบอกสถานที่ไป เพื่อนของเธอรู้ดีว่าหญิงสาวไม่สามารถขับรถในเวลากลางคืนได้ เธอกดวางสายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม วันนี้เป็นวันแรกที่เธอจะได้ออกไปเที่ยวกลางคืนในในหลายรอบปี อาจจะเป็นเพราะว่าเธออยากเจอชายหนุ่มคนนั้นมาก ถึงขนาดยอมออกไปข้างนอกในเวลาแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอกลัวความมืด
ชิลล์กดวางสายจากเพื่อนหลังจากที่นัดหมายกับอีกฝ่ายเรียบร้อย เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พลางเดินไปหยิบชุดที่เธอเพิ่งสั่งซื้อออนไลน์ให้เขามาส่งถึงที่เมื่อสักครู่
“ถ้าคุณเห็นฉันคุณต้องหวั่นไหวบ้างแหละ” หญิงสาวนำชุดเดรสสายเดี่ยวที่แทบไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นชุดที่คนใส่ได้ เพราะมันดูน้อยชิ้นยังไงล่ะ เธอนำมันมาทาบทับลำตัวของเธอ ก่อนจะยกยิ้มพอใจออกมา แต่ทันใดนั้น
ครืดด~ ครืดด~
เสียงโทรศัพท์เธอดังขึ้นก่อนที่หญิงสาวจะชะโงกใหน้าไปดู พร้อมกับส่ายหน้าเมื่อเห็นชื่อของปลายสายที่โชว์หลาบนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรู แต่กระนั้นเธอก็ต้องรับสาย
ติ๊ด!
“ไม่ต้องพูด โทรมาบอกว่าอยู่ห้องข้าง ๆ” ทันทีที่เธอกดรับ หญิงสาวก็ได้ยินเสียงพี่ชายของเธอพูดปรามเธอก่อนที่เธอจะได้ด่าอะไรเขาไป พี่ของเธอรู้ดีว่าน้องเขาจะด่าเขาแน่
“ฮะ พี่ซื้อห้องใหม่เหรอ”
ติ๊ด!
หญิงสาวยกโทรศัพท์ออกจากหูด้วยความรู้สึกอะไรบางอย่าง วันนี้เธอก็ยังคงต้องมาอยู่เป็นเพื่อนพี่สะใภ้ และช่วยดูแลหลาน ทั้งคู่เพิ่งหลับไป แต่พี่ชายตัวดีที่เป็นฝ่ายทิ้งพี่สะใภ้เธอ กลับมาซื้อคอนโดอยู่ข้าง ๆ ห้อง
“หึ เป็นห่วงเขาแต่ก็ยังทิ้งเขาไป” หญิงสาวพูดพร้อมกับทำหน้าครุ่นคิด เธอกลัวว่าพี่ชายเธอจะไม่ให้ออกไปข้างนอกน่ะสิ ยิ่งในเวลาแบบนี้ด้วย
“คงไม่รู้หรอก” คิดได้ดังนั้นร่างบอบบางก็ได้เดินไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนจะจัดการชโลมเครื่องประทินโฉมลงใบหน้า เธอฮัมเพลงออกมาอย่างคนอารมณ์ดีเมื่อนึกได้ว่าจะได้เจอชายที่เธออยากเจอ
@Club Friday night [22.30 น.]
คลับหรูใจกลางเมืองในตอนนี้กำลังคับคั่งไปด้วยนักท่องราตรี เสียงเพลงแดนซ์ดังกระหึ่มปลุกเร้าให้ผู้คนด้านในต้องลุกขึ้นเต้น ยกเว้นแต่
“เฮ้อ/เฮ้อ~” เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังขึ้นจากชายหนุ่มรูปงามสองคน ทั้งคู่อารมณ์ไม่ดีนัก อีกคนกำลังคิดถึงเมียที่หายไป และอีกคนที่กำลังว้าวุ่นหัวใจ แต่แก้วเหล้าก็ถูกยกขึ้นกระดกอย่างบ้าคลั่งจากชายหนุ่มเพียงคนเดียว
“อร คงดีใจที่รู้ว่ามึงเลิกเหล้า”
“สายไปแล้วล่ะ” พัชตอบอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเศร้าหมอง วันนี้เขาแค่มานั่งเป็นเพื่อนชายหนุ่มตรงหน้าเขาแค่นั้นไม่ได้อยากเมาอะไร เพราะเขาได้ให้สัญญาว่าจะเลิกเหล้ากับเมียเขาไปแล้ว
“_” ไทม์ไม่ตอบอะไรไป ตอนแรกเขาแค่อยากจะชวนอีกฝ่ายออกมาข้างนอกเพื่อจะให้ชายหนุ่มตรงหน้าได้ปลดปล่อยบ้าง แต่เป็นเขาเสียเองที่กำลังรู้สึกว้าวุ่นหัวใจจนต้องยกแก้วเหล้าขึ้นซด
“เปิดใจให้คนอื่นได้ละ อย่ามานั่งรอเมียกู” พัชพูดพร้อมกับยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่ม
“หึ พูดง่าย” ไทม์ถึงกับอดไม่ได้ที่จะประชดอีกฝ่าย
“กูเห็นนะเมื่อตอนบ่าย” ไทม์ทำตาโตทันทีที่รู้ว่าชายตรงหน้ากำลังพูดถึงอะไร
“หันหลังสิ” และยิ่งทำให้เขาต้องขมวดคิ้วเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าได้พูดเหมือนกับว่าให้เขาหันหลังไปดูอะไร และทันทีที่หันไป
พรึ่บ!
เหมือนกับเจอผี ชายหนุ่มตาโตที่เห็นว่าใครกำลังนั่งมองเขาอยู่ ทันทีที่หันไปเขาก็ได้สบตากับเธอคนนั้นอย่างจัง และเขาก็หันกลับมาในทันที
“หึ” พัชขำออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนใหม่เขา
“ขำอะไรของมึง”
“สวยดีนิ”
“_” ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธออกไป ยอมรับว่าหญิงสาวคนนั้นสวยใช้ได้ สวยมากเลยก็ว่าได้ แต่เธอมีลูกแล้ว เขายังคงคิดว่าหญิงสาวคนนั้นมีลูกแล้ว และตอนนี้เธอคงหนีผัวมาเที่ยวมั้งถ้าให้เดา แต่แล้ว
หวี๊ดด วิ่วว~
เสียงฮือฮาของผู้คนในคลับแข่งกับเสียงเพลงที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นเล่นเพลงสุดสยิวดังขึ้น
“กูไปละ สงสัยมึงจะมีเพื่อนแล้ว” พัชพูดพร้อมกับลุกขึ้นเดินหนีออกไปทันทีเมื่อเขามองเห็นว่าหญิงสาวคนนั้นกำลังทำอะไร ในขณะที่ไทม์แทบไม่ได้ยินเสียงของพัช เพราะทันทีที่เขาหันไปตามเสียงนั้น สายตาของเขาอดไม่ได้ที่จะไล่สายตามองไปทั่วเรือนร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง
ร่างบางในชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำขลับ ตัดกับผิวขาวผ่องเป็นยองใยของเธอ ก่อนที่สายตาเขาจะหยุดชะงักที่ อกอวบอิ่มที่ถูกดันขึ้นจนดูเหมือนจะทะลักออกมา ขาเรียวยาวในส้นสูงสีแดงแปร๊ด 5 นิ้ว หุ่นสุดเย้ายวนใจ กับท่าเต้นเย้ายวนตัณหาของเธอ ทำให้ผู้คนตีวงกว้างออกเพื่อมองเธอเป็นจุดเดียว
ชิลล์ยกยิ้มอย่างพอใจที่ในที่สุดเขาก็หันมาสนใจเธอ แขนเรียวยาวถูกยกขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนที่มันจะถูกลูบไล้ตามลำตัวของเธอเพื่อเรียกสายตาผู้คนให้มองมา โดยเฉาะเขาคนนั้นที่มองเธอตาไม่กะพริบ
สะโพกผายเคลื่อนไหวตามจังหวะเสียงเพลง ใบหน้าของเธอเงยขึ้นก่อนจะใช้มือลูบลำคอระหงเบา ๆ สายตายั่วยวนมองมายังเขา ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปหาเขาช้า ๆ ผู้คนในคลับต่างมองมาที่เธอไม่หยุด เหมือนกับถูกต้องมนต์สะกด เช่นเดียวกับชายหนุ่มคนนี้
ไทม์เหมือนกับถูกร่ายมนต์เมื่อหญิงสาวคนนี้กำลังเดินเข้ามาหาเขา มันทำให้เขานิ่งเพื่อรอให้เธอเดินมาถึง
“นั่งด้วยคนได้ไหมคะ” ริมฝีปากบางที่ถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสด เอ่ยปากถามชายหนุ่มตรงหน้า และไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้ตอบอะไรไป
พรึ่บ!
“_” ร่างบอบบางได้สัดส่วนก็ได้ถือวิสาสะ นั่งควบหน้าตักเขาทันที มันสร้างเสียงฮือฮาให้กับผู้คนบริเวณโดยรอบได้เป็นอย่างดี
ใบหน้าคมคายมองเธอเหมือนกำลังชั่งใจ ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามมาก แต่ไม่ใช่กับเขาที่รู้ว่าเธอมีลูกแล้ว
“เจอกันอีก…”
พรึ่บ!
“อะ จะไปไหนน่ะ” มือหนาเลื่อนจับเอวบางก่อนจะออกแรงยกให้เธอลุกขึ้นออกจากตักเขา และเขาก็ได้ลุกขึ้นเดินหนีไปในทันที
“_” เขาไม่ตอบอะไร ในขณะที่หญิงสาวควรจะมีอาการของคนหน้าเสีย แต่ไม่เลย
“รอด้วยค่ะ” เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามเขาไป ฝ่าผู้คนที่เห็นว่าเธอเดินไปพวกเขาถึงกับตีวงกว้างออกไปด้วย
หมับ!
“โกรธที่ฉันไม่ตอบคุณเหรอคะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างคนกำลังเข้าข้างตัวเอง มือบางคว้าหมับเข้าที่ข้อมือใหญ่ ชายหนุ่มหันหน้ามาหาเธอ
“_” และเขามองเธอนิ่ง
“นั่นหลานฉันค่ะ” เธอเอ่ยปากบอกเขาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แต่ทว่า
“เรื่องของคุณ” ถ้อยคำแสนธรรมดาถูกเปล่งออกมาชายหนุ่มตรงหน้า มันทำให้ฝ่ามือของเธอคลายออกทันที
พรึ่บ!
“รู้ค่ะ แค่อยากบอก เผื่อคุณอยากรู้” หญิงสาวยิ้มออกมาบาง ๆ เมื่อยังเห็นว่าเขายังคงนิ่งอยู่
“_”
“ไปนั่งต่อเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันไปเอง” หญิงสาวยิ้มออกมาอีกครา เธอรู้ว่าตัวเองทำเกินงาม และกำลังทำตัวน่ารำคาญ แต่ก็ไม่อยากให้เขาหมดสนุก
“_”?? อะไรวะ ยอมแพ้แล้วเหรอ ชายหนุ่มคิดในใจทันทีที่เธอพูดแบบนี้ อุตส่าห์แอบดีใจที่เธอยังไม่มีลูก
“ขอโทษที่ทำให้หมดสนุกค่ะ” หากความรักมันทำให้เธอตาบอดเธอคงไม่ปฏิเสธ หญิงสาวไม่ได้มีอารมณ์โกรธเคืองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างที่ควรจะเป็น แต่เธอกลับยิ้มออกมาเหมือนกำลังเข้าใจเขา
“มันคงน่ารำคาญ ฉันรู้ค่ะ” หญิงสาวยังคงพูดไม่หยุดด้วยความที่เป็นคนพูดมากอยู่แล้ว แต่มันกลับทำให้คนได้ยินใจอ่อนยวบ
“ไม่ใช่อย่างนั้น”
“คะ?”
“เปล่า”
“ฮ่า ๆ ฉันคงหูฝาด”
“_”
“ไว้เจอกันอีกครั้ง ฉันไม่ทำแบบนี้แล้วล่ะค่ะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับถอยหลังไปหนึ่งก้าว เธอไม่ได้คิดจะเลิกจีบเขา แค่คิดอยากจะเปลี่ยนรูปแบบใหม่ และทันทีที่เธอหมุนตัวไป
หมับ!
“หือ?” ข้อมือเล็กถูกคว้าหมับไว้เสียก่อน ก่อนที่เขาจะปล่อยไปตามเดิม ชายหนุ่มถึงกับตกใจกับปฏิกิริยาของเขาเหมือนกันที่ดันยื่นมือไปคว้าข้อมือเธอซะงั้น
“_”
“หรือไม่อยากเจอแล้วเหรอคะ”
“_”
“แต่ฉันอยากเจอค่ะ” เธอพูดทิ้งท้ายก่อนจะหมุนตัวกลับไปตามทางเดิม ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนนิ่งสับสนกับตัวเองอยู่อย่างนั้น
หญิงสาวเดินออกไปตามทางเดิมไกลจากเขาพอสมควร และก่อนที่เธอจะไปถึงโต๊ะของเธอที่เพื่อนเธอนั่งรออยู่ แต่แล้ว
กึก!
“ไม่เจอกันนานเลยนะ เดี๋ยวนี้วิ่งตามผู้ชายเลยเหรอ หึ!”