ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน
ฉันรีบดีดตัวเองขึ้นจากที่นอนหนานุ่มแล้วก้าวเท้ายาวๆ เข้าไปในห้องน้ำ ชุดนอนสายเดี่ยวโชว์เนินหน้าอกและขาเรียวเล็กของฉันถูกถอดออกไปทันทีแต่ไม่มีพวกจีสตริงหรือบราเซียสุดแซ่บที่เข้าชุดกันหรอกนะเพราะตอนนอนคนเดียวฉันไม่ชอบใส่ ชอบใส่เวลาจะนอนกับคนอื่นมากกว่า
ฉันใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีในการอาบน้ำ ฉันหยิบชุดที่ตะเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน มันเป็นชุดที่ฉันถอยมาใหม่เพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ไม่ได้หรอก! ถึงจะเป็นเบี้ยนแต่ยังไงก็ต้องแซ่บไว้ก่อน
จากนั้นฉันก็หยิบอายไลเนอร์แท่งโปรดมาแล้วตวัดหางตาให้สวยเฉียบตามด้วยเส้นคิ้วคมๆ บรัชออนสีชมพูระเรื่อถูกบรรจงลงที่พวงแก้มของฉันบางๆ เพราะริมฝีปากอวบอิ่มถูกแต้มด้วยสีแดงแป๊ดของลิปกลอสไปแล้ว
เวลาต่อมา
เสียงรองเท้าส้นเข็มแตะลงพื้นผิวเป็นจังหวะเชื่องช้าแต่ก็หนักแน่น ฉันเดินเฉิดฉายเข้ามายังร้านอาหารหรูร้านหนึ่งตามที่ยัยหมวยส่งโลเคชั่นมาให้ ร้านนี้ดูหรูหรามีระดับทีเดียว ถ้ากระเป๋าไม่หนักจริง นั่งไม่ได้หรอกนะ
" ที่รักมาแล้วหรอคะ " เสียงหวานเอ่ยทักฉันระหว่างที่เดินเกือบจะถึงโต๊ะ ฉันมองไปตามเสียงก็เห็นยัยหมวยนั่งรออยู่ก่อนแล้ว วันนี้มันแต่งตัวได้แซ่บมากแต่ก็น้อยกว่าฉัน
" ใครหรอครับ " ผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับเพื่อนฉันถามยัยหมวยเสียงเข้ม ก็มันเล่นเรียกฉันว่า "ที่รัก" เลยนิ! ขนลุกมาก
" ฉันเป็นแฟนของหมวยค่ะ เราคบกันมานานแล้ว " ฉันตอบเสียงหวานไม่แพ้กันทันทีที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหนุ่มไฮโซ แล้วก็ไม่ลืมที่จะส่งยิ้มร้ายทักทายก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงข้ามอย่างคนที่เหนือกว่า
" นี่มันเรื่องอะไรกันครับน้อง
หมวย " หนุ่มไฮโซไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด เมื่อ
ยัยหมวยเล่นโอบเอวเล็กของฉันไว้แต่ฉันก็ไม่น้อยหน้าหรอกฉันใช้มือคล้องคอมันแล้วหอมแก้มไปฟอดใหญ่
" ก็หมวยบอกแล้วไงคะว่าหมวยมีแฟนแล้ว คุณโจ้ไม่ฟังเอง " ยัยหมวยเล่นบทคนมีเจ้าของอย่างแนบเนียน
" โทษทีนะคะลืมแนะนำตัว ฉันชื่อโซดา เราสองคนเป็นเพื่อนกันมานานมาก มากจนเราสองคนต่างก็รู้จักกันดีทุกอย่าง! " ดวงตาเรียวรีของฉันจ้องไปที่คนข้างๆ อย่างมีความหมายพร้อมกับเน้นประโยคที่ว่า "ทุกอย่าง" แบบว่ารู้ทุกสัดส่วนของกันและกันน่ะ
" คิดว่าพี่เป็นเด็กรึไงถึงเอาเรื่องพวกนี้มาโกหก น้องหมวยไปได้ยินอะไรมาใช่มั้ยครับ " ผู้ชายมาดเข้มตรงหน้าฉันเอ่ยถามอย่างมีชั้นเชิง ก็สมกับที่เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมแหละนะ งานนี้ไม่หมูซะแล้ว
" เราสองคนเป็นแฟนกันจริงๆ นะคะหรือจะเรียกให้ถูกก็คือหมวยเป็นของโซแล้ว " เพื่อนตัวดีของฉันไม่พูดเปล่า คราวนี้มันลงทุนซบไหล่ฉันแล้วหอมแก้มฉันแบบค้างไว้หลายวินาทีแถมยังเอานิ้วมาเกลี่ยริมฝีปากบางของฉันไปด้วย สยองเป็นบ้า!
แต่ระดับฉันแล้วจะช่วยเพื่อน
ทั้งทีต้องเอาให้สุด
ฉันขยับเข้าไปหาหมวยเล็กน้อยเพื่อให้ใบหน้าของเราใกล้กันมากขึ้นจากนั้นฉันก็ประกบริมฝีปากลงไปที่ริมฝีปากของมันพร้อมกับรสจูบอันดูดดื่ม เหมือนหมวยมันจะสะดุ้งนิดหน่อยที่อยู่ๆ ฉันก็รุกส์แรงแบบไม่ได้เตี๊ยมกันไว้แต่มันก็คงจะรู้ทันเกมส์มันเลยจูบตอบ
ฉันดูดดื่มเหมือนกัน เราสองคนแลกลิ้นกันท่ามกลางสายตาของคนทั้งร้าน
" พวกมึงดูเลสเบี้ยนคู่นั้นสิวะ แม่งโคตรเด็ด! " ระหว่างที่บทจูบเร่าร้อนกำลังดำเนินอยู่นั้น ฉันก็ได้ยินเสียงผู้ชายโต๊ะด้านหลังนินทาสนุกปาก ไม่สิพูดดังขนาดนี้น่าจะเรียกว่า "ชอบเผือก" มากกว่า
" พอได้แล้วหมวย! ฝากไปบอกคุณลุงด้วยนะพี่คงจะต้องยกเลิกการเซ็นสัญญา " ไฮโซที่ชื่อโจ้ลุกขึ้นพรวด ท่าทางจะดูโกรธจัด
ที่บ้านยัยหมวยส่งออกเครื่องดื่มหลายชนิด คนรวยก็แบบนี้พอไม่ได้ดั่งใจก็ลามไปยันธุรกิจ เหอะ!
" ชิ! คิดว่าฉันจะง้อรึไงยะ! " หมวยมันเบ้ปากใส่ไฮโซคนนั้นอย่างไม่สนใจก่อนจะยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง
" ถ้าสบายใจแล้วกุขอกินก่อนนะค่อยกลับ " แววตาฉันเป็นประกายเมื่อเริ่มสำรวจอาหารบนโต๊ะ อย่างน้อยไฮโซนิสัยแย่นั่นมันก็มีข้อดีอยู่อย่างนะ คือสั่งแต่ของแพงมากินแบบนี้ไง หวานปากอิโซมากเพราะถ้าจะให้ฉันลุกออกไปโดยที่อาหารพวกนี้ไม่ถูกแตะมันก็น่าเสียดายแย่น่ะสิ
ฉันจัดการตักนั่นนี่ใส่ปากราวกับว่าเป็นคนจ่ายเงิน ส่วนหมวยมันก็กำลังรายงาน (ผัว) เด็กมันอยู่
" มึงว่าใครเป็นรุกส์ใครเป็นรับวะ แต่กุว่านะชุดกระโปรงขาวแน่เลยที่เป็นฝ่ายรุกส์เพราะท่าทางจะเด็ดกว่า " ระหว่างที่ฉันกำลังกินเพลินๆ เสียงจากโต๊ะข้างหลังโต๊ะเดิมก็ทำลายบรรยากาศการกินของฉันจนหมดสิ้น ชุดกระโปรงสีขาวที่ว่าก็ฉันนี่ไง ถึงเมื่อกี้ฉันจะทำอะไรโจ่งแจ้งไปสักหน่อยแต่ผู้ชายพวกนั้นก็ไม่มีสิทธิ์จะมาวิจารณ์ฉันสองคนหรือเปล่า ฉันที่ทนฟังไม่ได้เลยลุกขึ้นแล้วเดินไปถามให้รู้เรื่อง ไปเลย ยัยหมวยก็ห้ามฉันไว้นะแต่เรื่องอะไรที่ฉันจะต้องอยู่เฉยๆ
ฉันเดินมาถึงโต๊ะคู่กรณี ปรากฎว่ามีผู้ชายนั่งอยู่สามคนด้วยกันแถมยังเป็นแค่เด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เด็กมหาลัยไหนเนี่ย!
" เมื่อกี้นี้ใครเป็นคนพูด " ฉันกดน้ำเสียงเล็กน้อยพลางตวัดหางตาไปมองหน้าหนุ่มนักศึกษาแบบเรียงตัว มีอยู่คนนึงที่ดันนั่งหันหลังให้ฉัน
" เอ่อ...ใจเย็นๆ ก่อนนะครับพี่เพื่อนผมมันสนุกปากไปหน่อย ยังไงผมก็ต้องขอโทษแทนมันด้วยนะครับ " เด็กหนุ่มคนนึงก้มศรีษะให้ฉันเพื่อเป็นการขอโทษ โอเคว่าเด็กมันยอมรับผิดแล้วแต่คนไหนล่ะที่เป็นคนพูด หมอนั่นที่นั่งหน้าหงอยหรือหมอนั่นที่เอาแต่ก้มหน้าอ่านหนังสือ
" กลับโต๊ะเถอะมึงเด็กมันคงไม่ได้ตั้งใจหรอก " ยัยหมวยเข้ามาดึงแขนฉันให้กลับโต๊ะแต่จังหวะที่ฉันกำลังหันหลังก็ดันมีผู้ชายอีกคนเดินมาชนไหล่ฉันเข้า
" ขอโทษนะครับผมไม่ได้ตั้งใจแต่จะว่าไปสวยๆ แบบคุณสองคนไม่น่าจะเป็นแบบนี้เลย " ผู้ชายดูภูมิฐานกล่าวขอโทษฉันสองคนแต่สายตาที่มองมาเหมือนกับว่ากำลังจ้องของหวานถ้วยโปรดอย่างนั้นแหละ
" ฉันสองคนเป็นแบบนี้แล้วมันยังไงคะ! " ฉันถามออกไปตรงๆ ถ้าฉันสองคนจะรักกันจริงๆ แล้วมันผิดตรงไหนกัน สายตาหื่นกามแบบเมื่อกี้มันไม่น่ารังเกียจกว่าพวกฉันอีกงั้นหรอ!
" เปล่าหรอกครับ ผมแค่เสียดายของน่ะ เอางี้มั้ย คุณเอานามบัตรผมไป ถ้าอยากเปลี่ยนรสนิยมเมื่อไหร่ก็โทรมาได้24ชั่วโมง ถ้าเป็นคุณผมทุ่มสุดตัว! " ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามากระซิบฉันพร้อมกับยื่นนามบัตรมาให้ด้วยสายตาที่จัดว่าหื่นกามเลยล่ะ ให้ตายสิ
ถึงฉันจะชอบเงินและชอบผู้ชายหล่อแต่บางครั้งฉันก็เลือกนะ
" ขอโทษนะคะ ฉันไม่สนใจ " พูดจบฉันก็สะบัดก้นออกมาแต่ทว่า...ผู้ชายคนนั้นกลับฉุดแขนฉันเอาไว้
" จะรีบไปไหนล่ะครับ ไปนั่งด้วยกันก่อนมั้ย วันนี้ขอผมได้เลี้ยงคุณสักมื้อ " สายตาแพรวพราวส่งมาที่ฉันอย่างมีเลสนัยส์แถมยังบีบแขนฉันแน่นกว่าเดิม บีบเหมือนไม่ได้ตั้งใจจะให้เจ็บแต่เหมือนจะสื่อถึงอะไรมากกว่า
" ถ้าผู้หญิงเขาไม่เล่นด้วยก็ควรจะหยุดไม่ใช่หรอครับ แบบนี้เขาเรียกว่าคุกคามทางเพศนะ " อยู่ๆ ก็มีเสียงจากโต๊ะเด็กพวกนั้นแทรกเข้ามา ซึ่งฉันก็ไม่แน่ใจว่าเป็นใคร แต่คำพูดเมื่อกี้มันทำให้ฉันมองเด็กพวกนั้นเปลี่ยนไป
" ยุ่งอะไรด้วยวะ เป็นเด็กก็อยู่ส่วนเด็ก กลับไปเรียนหนังสือให้จบก่อนไปค่อยมายุ่งเรื่องชาวบ้าน! " ผู้ชายที่ชนฉันสวนกลับไปทันที
" ก็ไม่ได้อยากจะยุ่งหรอกแต่บังเอิญว่าตอนนี้ว่าง " เด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาเดินสามขุมเข้ามาแล้วประจันหน้ากับไอ้ผู้ชายหน้าหื่น แม้ว่าดวงตาคู่นั้นจะถูกซ่อนอยู่พายใต้แว่นตาสีดำแต่ฉันก็รับรู้ได้ถึงออร่าบางอย่าง
ออร่าผัวในอนาคตชัดมาก!
" ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็อย่าเข้ามายุ่งเรื่องผู้ใหญ่ดีกว่าว่ะ! "
" พอดีว่าเรื่องเมื่อกี้มันขัดหูผมนิดหน่อย " เด็กหนุ่มตอบด้วยท่างทางที่ใจเย็น ไม่สิ! เย็นชาสุดๆ เลยต่างหาก ผู้ชายคนนั้นง้างหมัดจะเข้าไปต่อยเด็กหนุ่มแต่เจ้าตัวก็เอี้ยวตัวหลบแล้วสวนหมัดหนักเข้าไปกลางเบ้าหน้าได้พอดิบพอดี พนักงานในร้านรวมทั้งลูกค้าต่างพากันแตกตื่นกันหมด ฉันกับยัยหมวยก็ตกใจ ระหว่างที่สองคนนั้นกำลังแจกหมัดให้กันก็ผู้ชายท่าทางภูมิฐานอีกคนก็เดินเข้ามา
" ถ้ายังไม่หยุดผมจะแจ้งตำรวจนะครับ " ผู้ชายที่เข้ามาใหม่เอ่ยอย่างสุขุมพลางชูป้ายที่ห้อยคออยู่ ฉันอ่านแบบรวบรัดแต่ก็พอจะจับใจความได้ว่าเขาเป็นผู้จัดการของร้านอาหารแห่งนี้
"ตำรวจมาก็ดีสิจะได้แจ้งจับไอ้หน้าอ่อนนี่ซะเลย " ผู้ชายคนนั้นเช็ดเลือดออกจากมุมปากหน้าตาก็เขียวคล้ำ ส่วนเด็กหนุ่มก็ได้แผลนะแต่น้อยกว่าเยอะ ที่สำคัญน้องมันยังหล่อเหมือนเดิม
" งั้นฉันก็จะแจ้งจับคุณข้อหาคุกคามทางเพศ " ฉันเอ่ยเสียงดังฟังชัด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดว่าคำพูดลวนลามหรือการฉุดบังคับคือการคุกคามทางเพศด้วยซ้ำ แต่ถ้าเด็กหนุ่มคนนี้มองว่าเป็นการคุกคาม อ่ะ เป็นก็ได้
" ใช่ค่ะ ผู้ชายคนนี้หาเรื่องฉันกับเพื่อนก่อน น้องเขาก็แค่เข้ามาช่วยเอาไว้ " ยัยหมวยคงกลัวว่าเรื่องจะเป็นกันใหญ่มันเลยช่วยพูดอีกแรง
" เอาไงครับ จะให้ผมแจ้งตำรวจเลยมั้ย " ผู้จัดการร้านหันไปถามผู้ชายคนนั้นทั้งที่น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้วนะ
" ไม่ต้อง ฝากไว้ก่อนเถอะ! " ผู้ชายคนนั้นจ้องหน้าเด็กหนุ่มแล้วก็หันมาจ้องหน้าฉันอย่างไม่พอใจก่อนจะรีบออกไปจากร้าน โธ่...นึกว่าจะแน่
" ขอบคุณมา....ก อะอ้าว! เพื่อนพวกนายหายไปไหนแล้วล่ะ! " พอฉันหันกลับมาอีกที เด็กหนุ่มคนที่ช่วยฉันไว้ก็ไม่อยู่ซะแล้ว เจอแต่เพื่อนอีกสองคน
" มันไปแล้วครับ พอดีว่าพวกเรามีสอบเดี๋ยวจะไม่ทัน งั้นผมสองคนขอตัวก่อนนะครับ " เด็กหนุ่มสองคนที่เหลือออกไปจากร้านด้วยความรีบร้อน
แล้วยังไง? ฉันยังไม่ทันจะได้แสดงมิตรไมตรีอะไรเลยนะ
เอาตรงๆ คือฉันอยากรู้จักเด็กคนนั้นอย่างลึกซึ้ง แต่ฉันก็พลาด!