ตอนที่ 3.0 : เที่ยวนอกเมืองวันหยุด

1946 คำ
เช้าวันต่อมา เมื่อหลิวลี่เซียงลืมตาตื่นขึ้นมา เธอถึงกับตกใจที่เห็นไป๋เยว่ซินกำลังนั่งจ้องเธออยู่ “อาเซียง ฝันดีเหรอ ยิ้มไม่หุบเลยนะ” “อ่อ อ้อใช่ ฝันดีมาก” หลิวลี่เซียงรีบตอบก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไม่ยอมเล่าให้ไป๋เยว่ซินฟัง วันนี้เธออารมณ์ดีเป็นพิเศษจึงไปเรียนด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส และนัดไป๋เยว่ซินมาทานข้าวเที่ยงที่โรงอาหารเช่นเคย “อาเซียง เมื่อคืนฝันดีขนาดนั้นเลยเหรอ” ไป๋เยว่ซินแกล้งถามเผื่อเธอจะเล่าให้ฟังบ้าง “อื้อ แต่ไม่เล่าดีกว่า” เธอยิ้มแกล้งเพื่อนสาว แต่สุดท้ายแล้วหลิวลี่เซียงก็ต้องเล่าเรื่องความในให้ไป๋เยว่เซินฟังเพราะทนแรงคะยั้นคะยอของเธอไม่ไหว “ไป๋เยว่ซิน” เธอมองไปทางเสียงนั้นที่กำลังถือจานข้าวยืนรอคำตอบ “ซือมู่เฉิน” “ฉันขอนั่งด้วย มีเรื่องต้องพูดกับเธอพอดี” เขาตอบ “มีอะไรก็รีบบอกมา” ไป๋เยว่ซินเร่งเพราะไม่อยากโดนจับจ้องจากทุกคน เรื่องราวการหมั้นหมายระหว่างไป๋เยว่ซินและซือมู่เฉินนั้นถือเป็นความลับ ทุกคนรู้เพียงว่าทั้งสองครอบครัวต่างสนิทสนมกันเพราะเรื่องธุรกิจ และซือมู่เฉินคิดกับไป๋เยว่ซินเพียงแค่น้องสาว อีกทั้งมีเขามักจะมีข่าวลือเรื่องเจ้าชู้พอสมควร หลังจากนั่งลงแล้วเขาหันไปทางด้านหลังแล้วเรียกเหรินฮ่าวหรานมาด้วย หลิวลี่เซียงที่กำลังดื่มน้ำอยู่ถึงกับสำลัก “อาเซียง เป็นอะไรมากไหม ค่อย ๆ” ไป๋เยว่ซินลูบหลังเธอ “อื้ม ไม่เป็นไร” “วันนี้รบกวนพวกเธอด้วยนะ” เหรินฮ่าวหรานบอกทั้งสองคน ทั้งเหรินฮ่าวหรานและหลิวลี่เซียงต่างนั่งทานข้าวเงียบ ๆ เพราะซือมู่เฉินกับไป๋เยว่ซินกำลังพูดคุยอย่างจริงจัง “ซือมู่เฉิน นายบอกกับที่บ้านไปสิว่าไม่ว่าง ต้องไปที่ไหนก็บอกไป” ไป๋เยว่ซินบอกเขา เธอคิดว่าเรื่องแค่นี้เขาน่าจะจัดการได้ เพราะทุกครั้งเขามักจะบ่ายเบี่ยงตลอด “ครั้งนี้ไม่ได้ ต้องทำตามที่บ้านบอกจริง ๆ ไม่อย่างนั้นเธอก็ต้องไปพบพ่อกับแม่พร้อมฉัน เธอจะเอาอย่างนั้นหรือเปล่า” “ไม่มีทาง แล้วนายไปทำอะไรให้พวกท่านจับได้ล่ะ” เธอถามด้วยความสงสัย “เปล่าสักหน่อย พ่ออาจจะส่งคนมาตามพวกเราแล้วก็รายงานไปก็ได้” “เฮ้อ ถ้าอย่างนั้นก็คงจะเลี่ยงไม่ได้ งั้นให้อาเซียงไปด้วย” ไป๋เยว่ซินยืนยันว่าจะพาเพื่อนไปด้วย “ถ้างั้นเพื่อความสบายใจ เดี๋ยวให้เสี่ยวหรานไปด้วยเหมือนกัน ใช่มั้ยเสี่ยวหราน” ซือมู่เฉินหันมาขอร้องเหรินฮ่าวหราน “อื้อ” เหรินฮ่าวหรานตอบสั้น ๆ ทำให้เขาแปลกใจเพราะปกติเหรินฮ่าวหรานมักจะไม่มายุ่งเรื่องที่เกี่ยวกับการหมั้นหมายของทั้งสองคน “ถ้างั้น วันเสาร์นี้ไปที่บ้านพักตากอากาศของฉันแล้วกัน” ซือมู่เฉินบอกทุกคน เช้าวันเสาร์ คนขับรถของไป๋เยว่ซินมารับเธอและหลิวลี่เซียงที่หอพักก่อนขับรถไปส่งพวกเธอที่บ้านพักตากอากาศของซือมู่เฉินที่อยู่นอกเมือง “อาเซียง ขอบคุณนะที่มาเป็นเพื่อน ถือว่าไปพักผ่อนนอกเมืองวันหยุดแล้วกันนะ” “อื้อ ไม่เป็นไร” “ไม่รู้ว่าทำไมครั้งนี้แม่ต้องบังคับให้มาให้ได้ด้วยก็ไม่รู้” “คงอยากให้พวกเธอสนิทกันมากขึ้นหรือเปล่า แบบไปเที่ยวกัน ทานข้าวด้วยกันอะไรแบบนี้” หลิวลี่เซียงพยายามคิด “ตอนนี้คงต้องตามน้ำไปก่อน เรียบจบเมื่อไหร่จะไปขอยกเลิกงานแต่งเลย” ไป๋เยว่ซินกระซิบกับเพื่อนสาวก่อนยิ้มมีเลศนัย เมื่อเดินทางมาถึงบ้านพักตากอากาศของซือมู่เฉินเรียบ ก็เห็นเขามายืนรอรับที่หน้าบ้านแล้ว “ยินดีต้อนรับ” เขาพูดอย่างอารมณ์เตรียมพร้อมเป็นเจ้าบ้าน ก่อนจะพาเดินไปเก็บของในห้องนอนของแต่ละคน “นี่เธอเป็นคนแรกเลยนะที่ฉันพามาที่บ้านนี้” ซือมู่เฉินอวดไป๋เยว่ซิน “เหรอ ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ” เธอแซวเขา หลิวลี่เซียงที่กำลังเก็บของอยู่อีกห้องหนึ่งทอดสายตามองไปทางด้านนอก เธอเห็นเหรินฮ่าวหรานกำลังเดินเล่นในสวน แผ่นหลังของเขาทำให้หลิวลี่เซียงนึกถึงลู่เฟยเทียน ทำให้เธอมองเขาไม่ละสายตา คล้ายกับคนถูกมองรู้สึกตัวจึงหันกลับมาแล้วเลิกคิ้วข้างหนึ่ง หลิวลี่เซียงถึงกับตกใจรีบก้มตัวหลบ เขาเห็นท่าทางของเธอจึงยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินเข้ามาที่บ้าน “อาเซียงใกล้ ๆ นี้มีที่เที่ยวด้วย พรุ่งนี้เราไปหมู่บ้านบนเขากันไหม” ไป๋เยว่ซินเดินมาถามเธอที่ห้อง “แน่นอนอยู่แล้ว ออกมาเที่ยวข้างนอกทั้งทีเนอะ” “ตรงนี้ถ่ายรูปสวยมาก ดูรีวิวสิ” ไป๋เยว่ซินพูดด้วยความตื่นเต้นพลางปัดหน้าจอมือถือ “ทั้งสองคน จะแอบไปเที่ยวกันแค่สองคนไม่ได้นะ เดี๋ยวแผนไม่สำเร็จ ฉันไปด้วย” ซือมู่เฉินเดินผ่านมาพอดีกล่าวขึ้น “นายนี่นะจะเที่ยวป่าเที่ยวเขา” ไป๋เยว่ซินขำ “เธอรู้จักฉันน้อยไป ไป๋เยว่ซิน” เขาตอบโต้ “เอาน่า ไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ” หลิวลี่เซียงตัดบทก่อนที่ทั้งสองจะทะเลาะกัน “นายว่าเราต้องทำอะไรนะ” ไป๋เยว่ซินถามแผนเที่ยววันนี้ “สวนสนุก คนที่พ่อส่งมาตามพวกเราอยู่หลังต้นไม้โน่นแน่ะ” ซือมู่เฉินพูดเสร็จแล้วโบกมือให้เขา “เฮ้อ” ไป๋เยว่ซินถอนหายใจ ------------------------------------------------------------------------- สวนสนุกแห่งหนึ่ง “อาเซียง เราไปถ่ายรูปกัน” ไป๋เยว่ซินคล้องแขนหลิวลี่เซียงก่อนเดินไปที่รูปปั้นตัวการ์ตูนเพื่อถ่ายรูปกันสนุกสนาน “ไป๋เยว่ซิน เธอจะมัวแต่ตัวติดกับหลิวลี่เซียงไม่ได้นะ เดี๋ยวทางนั้นจะไม่มีรูปส่งไปให้พ่อดู” “นี่นายกลัวคุณลุงขนาดนี้เลยเหรอ” “เธอไม่กลัวเหรอ ดุจะตาย แม่ยังช่วยไม่ได้เลยนะ” เขาตอบพลางนึกหน้าของพ่อยามที่เขาขัดคำสั่ง “เฮ้อ ช่วยไม่ได้ ฮ่าวหรานฝากเพื่อนรักของฉันด้วย” ไป๋เยว่ซินถอนหายใจแล้ววานให้เหรินฮ่าวหรานเดินมาพร้อมกันกับหลิวลี่เซียง “อื้ม” เขาเลิกคิ้วแล้วพยักหน้าหันมามองหลิวลี่เซียงอารมณ์ดี “เธอไปเล่นม้าหมุนไหม หรือว่ารถรางดี” ซือมู่เฉินชวนไป๋เยว่ซิน ทว่าไป๋เยว่ซินมองมาที่หลิวลี่เซียงก่อนพยักหน้าให้กันราวกับรู้ใจ “รถไฟเหาะดีกว่า” เธอลากเขาไปซื้อตั๋วอย่างตื่นเต้น หลังจากได้ตั๋วมาแล้วไป๋เยว่ซินแจกจ่ายให้กับทั้งสามคนก่อนไปเข้าแถวรอเล่นรอบถัดไป “ซือมู่เฉิน คนของพ่อนายนี่แน่นอนจริง ๆ ถึงกับตามมาขึ้นเครื่องเล่นด้วย” “อื้อ” เขาตอบสั้น ๆ ขณะหลับตาโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง มือทั้งสองข้างจับตัวล็อคไว้แน่น ทางด้านหลิวลี่เซียงที่นั่งคู่กันกับเหรินฮ่าวหรานนั้นดูสบาย ๆ เหมือนกับรอเล่นสิ่งที่ชอบ ทั้งสองพูดคุยกันเล็กน้อยตามประสา รถไฟเหาะเคลื่อนที่ไปตามรางเรียบก่อนค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นไปที่สูงอย่างช้า ๆ แล้วจากนั้นทิ้งตัวด้วยความเร็วสูงมายังเบื้องล่าง ก่อนจะเข้าโค้งไปซ้ายบ้าง ขวาบ้าง ตีลังกาบ้าง “ซือมู่เฉิน นายไหวหรือเปล่า” ไป๋เยว่ซินรู้สึกว่าที่นั่งข้าง ๆ เธอนิ่งเงียบผิดวิสัยของคนช่างจ้อ จึงหันไปดูเขา ก่อนจะเห็นว่าดวงตาเขาเบิกกว้าง หน้าตายู่ยี่พยายามข่มความกลัวอย่างสุดฤทธิ์ “ม่ายยยยยยย” ในที่สุดซือมู่เฉินก็เปิดปากร้องโหวกเหวกตลอดทางจนไป๋เยว่ซินต้องปิดหู ตัดภาพมาที่หลิวลี่เซียงและเหรินฮ่าวหราน ทั้งสองสนุกสนานและตื่นตาตื่นใจที่ได้เล่นรถไฟเหาะ ก่อนจะหันมายิ้มให้กันโดยไม่รู้ตัว “ซือมู่เฉิน ลงมาได้แล้ว” ไป๋เยว่ซินสะกิดเขา “อื้อ” “นายคงกลัวมากสินะ” ไป๋เยว่ซินถาม “ไม่ใช่สักหน่อย แค่นี้สบายมาก” “พี่ หน้าตาดูไม่ได้เลย” เหรินฮ่าวหรานมองเขาด้วยความเวทนา เขารู้ว่าซือมู่เฉินกลัวเครื่องเล่นพวกนี้แต่ก็ยังปากไม่ตรงกับใจ “งั้นไปเล่นเรือไวกิ้งต่อ” ไป๋เยว่ซินดึงเขาไปซื้อตั๋วด้วย “ฮ่าวหราน พี่นายจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม” หลิวลี่เซียงถามด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนนี้ไป๋เยว่ซินกำลังสนุกกับการแกล้งซือมู่เฉิน “ช่วยไม่ได้” เหรินฮ่าวหรานยิ้มมุมปาก หลังจากเล่นสนุกสนานทั้งวัน ทั้งสี่คนก็กลับมาที่บ้านพักตากอากาศเพื่อพักผ่อนก่อนจะไปเที่ยวหมู่บ้านบนเขาในวันพรุ่งนี้ “ซินซิน แกล้งเขาเยอะไปไหม” “ไม่เลย ๆ แค่นี้ยังน้อยไป” ไป๋เยว่ซินหัวเราะเบา ๆ -------------------------------------------------------------------------- หมู่บ้านแห่งหนึ่งบนเขา “อาเซียงที่นี่มีให้เช่าชุดโบราณด้วย ไปลองกันเถอะ” ไป๋เยว่ซินชวนหลิวลี่เซียงเช่าชุดโบราณมาใส่เพื่อถ่ายรูปและเดินเล่นรอบหมู่บ้าน เมื่อทั้งสองคนเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วก็เดินคล้องแขนกันออกมาจากร้านก่อนเดินไปดูตรงโน้นที ถ่ายรูปตรงนี้ทีกันสองคน อย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเพราะต่างชอบเที่ยวและผจญภัย “เสี่ยวหราน ดูท่าเราจะถูกสองคนนั้นเมินแล้ว” “ปล่อยไปเถอะน่า หรือพี่อยากเป็นเหมือนเมื่อวาน เดี๋ยวผมบอกไป๋เยว่ซินให้” เหรินฮ่าวหรานแกล้งถาม “อย่าแม้แต่จะคิด” “นึกว่าจะแน่” เหรินฮ่าวหรานหัวเราะ หลิวลี่เซียงพาไป๋เยว่ซินนั่งพักที่ม้านั่งต้นต้นแปะก๊วยเพื่อพักเหนื่อยจากการเดินเล่นรอบหมู่บ้าน เหรินฮ่าวหรานที่เดินตามหลังมาได้เห็นภาพนี้แล้วรู้สึกเหมือนคุ้นเคย “เสี่ยวหราน รอด้วย” ซือมู่เฉินที่เดินหอบขาลากค่อย ๆ ตามเขามาร้องเรียก “ซือมู่เฉิน นายมาพอดีเลย ถ่ายรูปให้ฉันหน่อย” ไป๋เยว่ซินที่เห็นเขามาถึงก็รู้สึกอยากแกล้ง “ไป๋เยว่ซิน เธอ... ได้สิ” ซือมู่เฉินพยายามทำตัวปกติ เพราะถือคติต่อหน้าผู้หญิงอ่อนแอไม่ได้ แม้ขาแทบจะไม่เป็นใจแล้วก็ตาม เหรินฮ่าวหรานเห็นหลิวลี่เซียงนั่งอยู่จึงเดินเข้าไปคุยด้วย “วิวสวยดีนะ เธอชอบไหม” “อื้อ อยู่ตรงนี้แล้วคิดถึงวันเก่า ๆ” เธอตอบพลางนึกถึงความฝันของไป๋อิงที่ได้นั่งเล่นใต้ต้นแปะก๊วยกับลู่เฟยเทียน “สวยงามเหมือนในความฝัน” เขาพึมพำเบา ๆ ก่อนหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปทิวทัศน์ “อาเซียงกลับกันเถอะ” ไป๋เยว่ซินชวนเธอไปเปลี่ยนชุดก่อนกลับ “ขอบคุณที่พามาเที่ยวนะ ซือมู่เฉิน” ไป๋เยว่ซินขอบคุณเขาด้วยความจริงใจเพราะสองวันนี้เธอได้เที่ยวอย่างมีความสุขจริง ๆ “ดีแล้วที่เธอชอบ ไว้ครั้งหน้ามาด้วยกันใหม่” เขาตอบ หลังจากนั้นพวกเขาต่างแยกย้ายกันกลับบ้านเพื่อเตรียมตัวไปเรียนในวันรุ่งขึ้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม