ไม่ต้องมาญาติดีกับกูเลยไอ้อิเหนา! ยังเคืองเรื่องชาติที่แล้วอยู่นะเว้ย!

1130 คำ
“ควิซวิชาอะไรล่ะ” หนึ่งในนั้นร้องถามขึ้นมา ไม่ทันที่ผมจะตอบ ก็ถือวิสาสะหยิบเอาชีทบนโต๊ะไปพลิกดูแล้ว “เอ๋ วิชาวรรณคดีไทยเหรอ ให้พี่ติวให้ไหม เรื่องอิเหนานี่พี่โปรฯ นะ” “ให้พี่ติวให้ก็ได้ พี่โปรฯ กว่า ไม่ได้โปรฯ แค่เรื่องอิเหนาด้วย เรื่องอื่นก็โปรฯ” “ตลกละครับคุณ ผมมาก่อนนะครับ” แล้วสองคนนั้นก็แขวะกันไปมาตามประสา พวกรุ่นพี่คณะผมส่วนใหญ่จะรู้จักกัน ถึงจะไม่ได้เป็นเพื่อน อยู่คนละชั้นปี แต่ก็จำหน้าค่าตากันได้เพราะผู้ชายคณะผมน่ะ...มีน้อยเหลือเกิน แล้วไอ้ส่วนน้อยนี่ก็นั่นแหละ...ถ้าไม่มีแฟนแล้ว ก็มาเกาะผมเป็นตังเมอย่างที่เห็นเนี่ย “ไม่เป็นไรครับ จิอ่านเองดีกว่า” ผมแย่งชีทจากมือรุ่นพี่คนนั้นมาถือ อยากจะลุกไปจากตรงนี้เต็มแก่ แต่ทั้งสองคนก็ไม่ยอมให้ผมลุก มิหนำซ้ำคนหนึ่งยังถามผมด้วยน้ำเสียงเง้างอดตัดพ้อ “เมื่อไรจิจะยอมใจอ่อนกับพี่สักที พี่ตามจีบจิมานานแล้วนะ” สาบานเลยว่าไม่นาน แค่เข้าเดือนที่สองตั้งแต่เปิดเทอมมา “นั่นสิ พี่เปย์ให้จิได้หมดเลยนะถ้าจิยอมเป็นแฟนพี่ จะดูแลเป็นอย่างดีเลย” เปย์แต่ขนมน่ะสิ ผมยิ้มฝืนๆ ออกมา อึดอัดใจอยู่ไม่น้อย ก่อนที่คิดจะปฏิเสธเหมือนเดิม แต่ทว่า... “อ๊ะๆ ห้ามปฏิเสธ ตอบมาก่อนว่าทำไมถึงไม่ใจอ่อนสักที” “ใช่ๆ เลิกหนีพี่เถอะ ชอบหรือไม่ชอบก็บอกมาเลยตามตรง พี่จะได้ทำใจไว้ล่วงหน้า” ความจริงควรทำใจตั้งแต่คิดมาจีบผู้ชายที่ไม่รู้ว่าเป็นหรือไม่เป็นเกย์แล้วโว้ย! แต่จะให้พูดตรงๆ ผมก็ลำบากใจ ได้แต่อึกๆ อักๆ “คือ...จิไม่ได้ชอบผู้ชาย” ตรงได้แค่เรื่องนี้แหละ คำพูดนี้ทำเอาทั้งสองคนตีหน้าเรียบ “ลองเปิดใจหน่อยไหมน้องจิ” “บางทีมีแฟนเป็นผู้ชายอาจจะดีกว่าผู้หญิงก็ได้นะ” ไม่เอาโว้ย! ถ้าจะเป็นแฟนกับผู้ชายนะ มีคนเดียวเท่านั้นแหละที่ผมจะยอมเป็นแฟนด้วย คนนั้นน่ะคือ... “เอ้า จิ พี่ก็หาตั้งนาน มาอยู่นี่เอง” ...บุษบา ผมมองตามเจ้าของเสียง พอเห็นว่าเป็นพี่รหัส ผมก็ยิ้มกว้างออกมา “พี่บุศย์~” ร้องเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงระรื่นมากด้วย ทำเอารุ่นพี่สองคนนั้นเบ้หน้าเป็นการใหญ่ ก็ทุกครั้งที่พี่บุศย์โผล่มา ผมมักแสดงท่าทางระริกระรี้นี่นา ทำไงได้ล่ะ ก็พี่บุศย์น่ะ ชาติก่อนเขาคือบุษบา ผู้หญิงที่ผมรักนี่ ตอนแรกก็ไม่คิดหรอกว่าจะได้เจอกับบุษบาเร็วขนาดนี้ เหมือนสวรรค์จะช่วยผมยังไงก็ไม่รู้ สอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ตั้งใจได้ไม่พอ ยังจะได้พี่รหัสเป็นบุษบาอีก เพียงแต่ชาตินี้...บุษบาเป็นผู้ชาย ผู้ชายก็ช่างมันเถอะ ไอ้ที่ว่าไม่ได้เป็นเกย์ จะยอมเป็นก็ได้ถ้าได้คนตรงหน้ามาเป็นแฟน ผมยิ้ม มองผู้ชายใส่แว่น เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน หน้าตาท่าทางเรียบร้อยด้วยความชื่นใจ จริตมารยาทยังคงงดงามอ่อนช้อยเหมือนเดิมแม้ว่าจะเป็นผู้ชาย ดีงามจริงๆ “ส่งข้อความหาพี่ มีอะไรหรือเปล่า” พี่บุศย์ถามเมื่อมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะ ผมยิ้มกว้างให้มากกว่าเดิม “จิอยากให้ช่วยติวก่อนเข้าควิซให้หน่อยนะครับ” “วิชาวรรณคดีไทยใช่ไหม” พอผมพยักหน้า พี่บุศย์ก็ตอบรับ “ได้สิ” พอพี่บุศย์พูดอย่างนี้ ผมก็ไม่รอช้ารีบหันไปบอกรุ่นพี่ทั้งสองคนนั้นที่นั่งทำหน้าเซ็ง “จิขอตัวก่อนนะครับ” ทั้งสองพยักหน้า เหมือนเป็นเรื่องที่คุ้นชินไปแล้วว่าถ้าพี่บุศย์โผล่มา พวกเขาก็จะตกกระป๋องทันที อยากจะขอโทษเหมือนกันนะ แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆ นี่นา “แล้วจะไปนั่งติวที่ไหนดีครับ” พอลุกมาได้ ผมก็ร้องถามพี่บุศย์ เขาทำท่าครุ่นคิดไปเล็กน้อย “ร้านกาแฟหลังตึกคณะไหม พี่ตั้งใจจะไปที่นั่นพอดี” ผมพยักหงึกหงัก เดินตามเขาไป ระหว่างทางก็ชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย พี่บุศย์ฟังพลางกลั้วหัวเราะเป็นระยะ รอยยิ้มที่มอบให้ผมในชาตินี้เป็นรอยยิ้มที่ผมไม่เคยได้เห็นเลยในชาติที่เป็นจรกา น่าดีใจอะไรอย่างนี้นะ... ไม่นานนักเราก็เดินมาถึงร้านกาแฟ ภายในร้านไม่ค่อยมีคนสักเท่าไรนัก ร้านนี้มักเป็นอย่างนี้ประจำเพราะตัวร้านตั้งอยู่ในซอกหลืบ แต่เรื่องนั้นก็ไม่ได้สำคัญ ดีเสียอีกที่ไม่ค่อยมีคนด้วย เพราะการใช้เวลาอยู่กับพี่บุศย์จะได้ไม่วุ่นวาย ผมวาดฝันไว้ว่าจะใช้เวลาช่วงพักเที่ยงกับพี่บุศย์ให้เต็มที่ แต่ทว่าเสียงของพี่บุศย์ที่เปล่งเสียงออกมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยนั้นก็ทำให้ผมต้องชะงัก “โทษทีมึง รอนานไหม” เขาร้องทักผู้ชายคนหนึ่งในชุดไปรเวทซึ่งนั่งอยู่ด้านในสุดของร้าน ผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมา พยักหน้ารับส่งๆ ไป ส่วนหน้าตาของเขา...จัดว่าหล่อขั้นเทพ ขนาดผมที่เป็นผู้ชายยังอดมองนานไม่ได้ ผมยาวระต้นคอ เสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนขาดๆ รองเท้าผ้าใบ เป็นการแต่งตัวที่ธรรมดาแต่โคตรน่ามองเลย เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก แต่อะไรก็ไม่ทำให้ผมตะลึงงันได้เท่ากับตอนที่เดินเข้ามาใกล้แล้วได้เห็นหน้าเขาชัดๆ “นี่จิระ น้องรหัสกู เรียกสั้นๆ ว่าจิ ส่วนนี่อินทรา จิจะเรียกว่าอินทร์ก็ได้ รูมเมทพี่เอง” นะ...นี่มัน...อิเหนา! แสงรัศมีเปล่งประกายออกจากร่างกายของเขา ภาพใบหน้าของอิเหนาในอดีตชาติเผยขึ้นทับซ้อน สิ่งนี้เป็นพรที่ทำให้ผมรู้ว่าใครเป็นใครจากในอดีตชาติ ผมนิ่งงัน ทำอะไรไม่ถูก ขณะที่ไอ้อิเหนาหรืออินทราอะไรในชาตินี้พยักหน้าให้ผมทีหนึ่ง “หวัดดีจิ” ไม่ต้องมาญาติดีกับกูเลยไอ้อิเหนา! ยังเคืองเรื่องชาติที่แล้วอยู่นะเว้ย! ให้ตายเถอะ ทำไมฟ้าส่งผมมาเจอบุษบาแล้ว ยังจะส่งไอ้ตัวร้ายนี่มาด้วย ไม่ตลกเลยนะ!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม