“ผีเสื้อสวยๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ” บ้านของเธออยู่ติดกับเขา บิดาของเธอเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของพันราช ทั้งสองรู้จักกันมาหลายปี เธอจึงสนิทกับเขาพอสมควร
“มีดอกไม้สวยๆ ก็ต้องมีผีเสื้อ” เขาเข้ามากอด
“อาพันขา หนูนีขอดอกไม้ไปจัดแจกันได้ไหมคะ”
“ได้ครับ บ้านจะได้สดชื่น” เขาเอ่ยอนุญาต
“ขอบคุณค่ะ”
“ของทุกชิ้นในบ้านของอา หนูนีสามารถจัดการหรือทำอะไรก็ได้ครับ อาอนุญาต” เธอแปลกใจไม่น้อยกับประโยคของเขา ปกติพันราชเป็นคนค่อนข้างหวงข้าวของเครื่องใช้ในบ้านพอสมควร
“ค่ะ”
“สำหรับหนูนี อาอนุญาตครับ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอขอบคุณเขาอีกครั้ง
“วันนี้ออกไปเที่ยวทะเลกันไหม อาไม่ได้เที่ยวนานแล้วมัวแต่ทำงาน หนูหนีจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตาด้วยไง” เขาหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ขณะชวนไปเที่ยวด้วยกั
“ดีค่ะ หนูนีไม่ได้ไปเที่ยวนานแล้ว โดนอาพันกักอยู่แต่ในบ้าน” เธอว่าเขาหน้าแดงๆ
“ไปแต่งตัวสิ” เขาจูงมือเธอขึ้นห้องก่อนจะอาบน้ำด้วยกัน นีรชาอาบน้ำพร้อมกับเขาและมีเซ็กซ์กับเขาอีกครั้งอย่างเผ็ดร้อน ก่อนที่เธอจะตามเขาออกไปเที่ยวทะเลด้วยกัน
พันราชพาเธอมานั่งรับลมที่ชายทะเล ท้องทะเลเบื้องหน้าทำให้ใจเป็นสุขไม่น้อย เธอดูดน้ำมะพร้าวกลิ่นหอมหวานและหลับตาพริ้มขณะสูดอากาศดีๆ เข้าปอดแรงๆ
“ยายนี” เสียงเรียกคุ้นเคยนั้นทำให้นีรชาหันไปมอง เป็นเพื่อนรักของเธอนั่นเอง
“อ้าวยายปัดมาเที่ยวเหรอ”
“ใช่จ้ะ สวัสดีค่ะอาพัน” ปัทมลยกมือไหว้พันราชเพราะรู้จักและคุ้นเคยกันดี เขายกมือรับไหว้ยิ้มรับเพื่อนสนิทของนีรชา
“เป็นยังไงบ้าง” ปัทมลเอ่ยถาม นีรชาหน้าแดงไม่กล้าตอบคำถามเพราะพันราชอยู่ด้วย เธอจึงขอตัวพันราชออกไปเดินเล่นกับเพื่อนรัก
“ไปเถอะ” พันราชพยักหน้าให้สองสาว คิดว่าคงมีเรื่องคุยกัน พอเดินออกมาห่างจากพันราชแล้วปัทมลก็ยิ้มแฉ่งเอ่ยถามย้ำถึงความคืบหน้าเรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนและพันราช
“เป็นยังไงบ้างแก ไม่เห็นส่งข่าวคราวมาให้รู้บ้างเลย”
“คืนนั้นน่ะเหรอ โดนอาพันเอาจนขาถ่างแทบเดินไม่ได้ ครั้งแรกปวดมากเลย ปัดนั่นแหละคิดแผนอะไรก็ไม่รู้” คนขี้อายตีเพื่อนเบาๆ อย่างเขินอาย เธอแอบรักพันราชมานานไม่รู้จะทำยังไงดี เขาแสดงออกว่าชอบแต่ไม่เคยบอกว่ารัก ปัทมลเลยคิดแผนให้เธอโดนมอมยาปลุกเซ็กซ์แล้วโทร. ให้พันราชมารับ และเรื่องก็เป็นอย่างที่ปัทมลพูดจริงๆ พันราชกับเธอได้เสียกันในคืนนั้นเลยและหลังจากนั้นก็เป็นความมยอมของทั้งเขาและเธอ
“อาพันแซ่บไหม” คนถามสีหน้าทะเล้นขณะเอ่ยถาม
“แซ่บสิ ไม่รู้ไปเอาแรงมาจากไหน เดินขาสั่นอยู่หลายวัน”
“ตอนนี้ชินแล้วน่ะสิ โอ๊ย! หยิกฉันทำไมห้ะยัยบ๊อง”
“พูดอะไรน่าเกลียด”
“พูดเรื่องจริง” ปัทมลหัวเราะคิกคัก
“แต่อาพันไม่เคยบอกรักเราเลย” นีรชาพูดแล้วหน้าเศร้าลงถนัดตา
“เขายังไม่บอกรักอีกเหรอ”
“ยังเลย แถมยังไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเป็นยังไง อาพันให้เราไปอยู่ด้วยทำกับเราเหมือนเราเป็นเมีย เอาเราทุกวัน ทำกับข้าวกินกัน ดูหนัง ฟังเพลง ปลูกต้นไม้และเข้านอน แต่ไม่บอกรัก ไม่ขอแต่งงาน”
“ทำให้หึงสิ”
“ทำยังไงเหรอ” นีรชาเอ่ยถามเพื่อนรัก เรื่องคิดแผนการอะไรแบบนี้เธอไม่ถนัด คงต้องยกหน้าที่ให้ปัทมล เธอไว้ใจปัทมลมากเพราะคบกันมานาน มีอะไรก็จะเล่าให้อีกฝ่ายฟังทุกอย่าง
“ยื่นหูมาสิ” ปัทมลกระซิบกระซาบ
“ทำแบบนั้นจะได้ผลเหรอ”
“ก็อาพันของเธอปากแข็งเหลือเกิน ต้องทำแบบนี้แหละ”
“อาพันเคยอกหักเลยไม่ยอมแต่งงาน เรากลัวใจของอาพันจัง” บิดากับมารดาเคยเล่าให้ฟังว่าพันราชอกหักจากหญิงสาวที่คบกันมาหลายปีเลยไม่คิดจะแต่งงานกับใครอีก แต่รายละเอียดตื่นลึกหนาบางเป็นอย่างไรนั้นเธอไม่ค่อยรู้
“ก็ไหนบอกว่าตัวติดกันตลอด”
“เรายังใหม่อยู่หรือเปล่า อาพันเลยตื่นเต้นอยากเอาเรา”
“คิดมาก เรามองสายตาที่อาพันมองนี ท่าทางเขารักนีมากนะ” ปัทมลคิดเช่นนั้นเพราะเป็นคนช่างสังเกต
“ก็ไม่เคยบอกรักสักคำ เราทำทุกอย่างแล้วนะ แสดงออกมาตลอดว่าแอบรักอาพัน”
“เอาน่า ลองดูๆ เป็นกำลังใจให้เสมอนะจ๊ะเพื่อนเลิฟ รักเขาก็ทำให้เขารักเราด้วยสิ ถ้าเขาไม่รัก คนอย่างอาพันไม่น่าจะเข้ามายุ่งกับนีหรอก เราเคยเห็นผู้หญิงมาอ่อยอาพันนะ อาพันไม่เห็นสนใจ” ปัทมลคิดเช่นนั้นจริงๆ
“จริงเหรอ”
“จริงสิ อาพันอาจจะคิดว่านีเป็นลูกเพื่อนก็ได้ พ่อแม่ของเธอก็ไม่อยู่แล้ว ไม่ต้องคิดมากหรือกลัวอะไรหรอก รักก็คือรักเชื่อเราสิ ไม่ต้องไปกังวลถึงความเหมาะสมไม่เหมาะสม อาพันยังโสดไม่มีเมียเราไม่ได้ไปแย่งสามีใครเสียหน่อย ต่างคนต่างโสด แค่ว่าเธอสดอาพันไม่สดก็เท่ากันนั้นเอง โอ๊ย! หยิกเราทำไมนี่”
“ก็ดูพูดเข้า”
“ไม่สดจริงๆ นั่นแหละ ถ้าสดคงไม่ทำให้เพื่อนเราขาถ่างหรอก”
“บ้า!”
“ผู้ชายถ้าไม่เคยก็คงสั่นๆ ยังทำไม่เป็น นี่จัดทุกท่าเลยเหรอ”
“ก็ทุกท่าเลย เราครางจนเสียงแหบไปหมด บางทีแทบสลบ อาพันแรงเยอะมาก” คนพูดหน้าแดง
“มีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้วนะ ต้องรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีอย่าทำตัวเชยๆ เหมือนก่อน” ปัทมลจับไหล่เพื่อนเอาไว้ก่อนจะมองหน้าแล้วยิ้มหวานให้เพื่อน
“หมายความว่ายังไง”
“ต้องดูแลรูปร่างหน้าตาให้ดี ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องมองรูปร่างหน้าตาก่อนเป็นอันดับแรก ดูแลผิวพรรณให้ดีด้วย อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวเป็นยายเพิ้ง แล้วก็หัดแต่งตัวด้วย เธอน่ะชอบแต่งตัวเชยๆ แล้วที่สำคัญ”
“ที่สำคัญอะไรเหรอจ๊ะ”
“หัดใส่กางเกงในกับบราเซ็กซี่ๆ ยั่วยวนอาพันบ้าง”
“ยังไงเหรอ”
“ก็แบบนี้ไง เดี๋ยวเปิดให้ดู” ปัทมลหยิบโทรศัพท์มือถือราคาแพงขึ้นมาเปิดเว็บขายชุดนอนไม่ได้นอน ชุดนอนซีทรูและกางเกงในไร้เป้า จีสตริง ชุดชั้นในเซ็กซี่บางเบาเห็นหัวนมให้เพื่อนดู
“หือ... ต้องใส่แบบนี้เลยเหรอ”
“ใช่จ้ะ ผู้ชายชอบ อาพันคงไม่ได้พูดหรอก แต่ถ้าเธอใส่อาพันต้องชอบแน่ๆ เชื่อเราสิ ร้อยทั้งร้อยนะ ยิ่งอยู่กับผู้หญิงที่มีใจให้ยังไงก็ไม่รอดสักราย”
“ปัดน่ะ” เธอเหลือบมองเสื้อผ้าน้อยชิ้นพวกนั้นแล้วหน้าแดง
“เอาไหมเรามีร้านประจำจะสั่งให้ ราคาไม่แพงหรอก”
“มันจะน่าเกลียดไหมจ๊ะปัด”
“ไม่น่าเกลียดหรอก เซ็กซี่จะตายไป เรายังชอบใส่เลย มันบางเบาสบายตัวด้วยนะ นีน่ะเป็นคนสวยแต่งตัวสวยๆ ก็ยิ่งสวย”
“เลือกให้เราหน่อยสิ”
“ได้สิ เดี๋ยวจัดส่งอีเอ็มเอสให้เลย” ปัทมลกอดคอเพื่อนรักรับปากดิบดี ก่อนจะพากันเดินกลับไปหาพันราชอีกครั้ง เขาเองก็กำลังนั่งรออยู่
“ปัดมาเที่ยวคนเดียวเหรอครับ”
“ใช่ค่ะอาพัน”
“งั้นไปกินข้าวกันสักมื้อนะ อาเลี้ยงเอง”
“โหย... กำลังหิวอยู่พอดีเลยค่ะ โชคดีจังมีคนเลี้ยง” ปัทมลหัวเราะเสียงใส หันไปยิ้มให้เพื่อนรักตาวาว นีรชาดีใจที่ได้พบเพื่อนวันนี้เพราะอยากคุยกันหลายวันแล้วแต่เธอโดนกักอยู่ในบ้านของพันราชไม่ได้ออกไปไหนเลย
“ไปครับ” พันราชกุมมือของนีรชาเอาไว้พาเดินไปยังร้านอาหารชื่อดังของจังหวัด
“สั่งเต็มที่เลยนะครับ วันนี้อาเลี้ยงเอง”
“ขอบคุณมากๆ ค่ะ งั้นไม่เกรงใจแล้วนะคะ” ปัทมลยิ้มกว้างก่อนจะสั่งอาหาร ในขณะที่พันราชหันไปสั่งอาหารบ้าง
“โหย... อาพันสั่งอาหารที่เพื่อนรักของปัดชอบทั้งนั้นเลยนะคะ” ปัทมลเอ่ยแซวในขณะที่นีรชานั่งยิ้มเขินส่งให้เพื่อนรัก
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จสิ้นแล้ว พันราชก็ขอแยกตัวมาจากปัทมลพาหญิงสาวข้างกายกลับบ้าน
“อาพันคะ พรุ่งนี้หนูนีจะไปสมัครงานนะคะ”
“สมัครงานที่ไหนเหรอ” เขาเลิกคิ้วขึ้นถามหลังจากที่เธอบอกเขาแบบนั้น
“ปัดบอกว่าเพื่อนสมัยเรียนพ่อของเขาเปิดโรงงานแปรรูปอาหารทะเลอยู่ตรงชาเมือง หนูนีเรียนจบมาทางด้านนี้เลยอยากไปสมัครน่ะค่ะ” เธอเรียนจบวิทยาศาสตร์การอาหารมาพันราชรู้เรื่องนี้ดี