ตอนที่ 10 มาเยี่ยมหรือมาป่วน

2262 Words
ซือลู่ชิงอ่านข่าวซุบซิบดาราของเช้านี้ก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ ก็เขาไปแสดงตัวขนาดนั้นแถมไม่ได้สั่งให้สำนักข่าวไหนปิดข่าวก็เป็นที่แน่นอนว่าเขายอมให้ปล่อย ทุกสำนักข่าวจึงจัดหนักจัดเต็ม พากันประโคมข่าวเขากับยัยคู่หมั้นตัวแสบกันไม่มีหยุดหย่อน “สั่งให้ปิดข่าวไหมครับคุณชาย” ตงหลงเอ่ยถามเจ้านายหนุ่ม “จะปิดทำไมวะ ในเมื่อฉันเป็นคนอยากให้เป็นข่าวเองหึๆ” เพราะคู่หมั้นของเขานั้นดื้อเกินกว่าที่จะปิดเรื่องหมั้นของเขากับเธอให้เป็นความลับ เธอกล้ามากที่จะยกเลิกสัญญาหมั้นหมายวัยเด็กระหว่างเขากับเธอ ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนอยากหมั้นกับเขาก่อน แล้วเรื่องอะไรที่เขาจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ “ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ” ตงหลงตอบรับยิ้มๆ อย่างรู้ทัน “อืม... แล้วนี่ต้าเฟยกลับมาหรือยัง” หนึ่งสัปดาห์แล้วที่น้องสาวฝาแฝดขออนุญาตไปเที่ยวเกาะกับเพื่อนๆ โดยที่เขาส่งต้าเฟยไปคอยดูแลน้องสาวอยู่ห่างๆ “มาวันนี้แหละครับ” ตงหลงตอบเจ้านายหนุ่ม “อืม... ไปกองถ่าย” เสียงเย็นชาเอ่ยออกมาพร้อมกับร่างสูงโปร่งของวัยหนุ่มที่ลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง บอดี้การ์ดหนุ่มยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อยด้วยรู้ว่าคุณชายใหญ่ต้องการอะไร ทางด้านกองถ่ายละครที่หลินซูหนี่ว์มาทำงานวันนี้ก็มีทั้งพนักงานในกองถ่ายและบรรดานักแสดงภายในเรื่องจับกลุ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องข่าวที่หลุดออกมา เพราะเห็นทุกทีซุปตาร์สาวควงหนุ่มๆ คนอื่นออกไปทานข้าวยังไม่เคยมีข่าวหลุดรอดออกไปเลย แล้วนี่ทำไมถึงได้กระจายไปทั่วทุกสถานีแบบนี้ “พวกเธอว่าน้องซูหนี่ว์เป็นว่าที่คู่หมั้นของคุณชายลู่ชิงจริงปะ” พนักงานคนหนึ่งในกองเอ่ยถามเพื่อนๆ ออกมาระหว่างที่นั่งมองซุปตาร์สาวเข้าฉากอยู่ “ไม่รู้สิ แต่ฉันแปลกใจตรงที่เมื่อก่อนตอนน้องซูหนี่ว์ควงพวกพระเอก หรือพวกพระรองไปทานข้าวกันสองต่อสองไม่เคยเห็นมีข่าวหลุดออกมา บางกองถ่ายบอกว่าพยายามปล่อยข่าวแต่มีคนใหญ่คนโตสกัดเอาไว้ตลอด แต่ครั้งนี้ทำไมข่าวมันกระจายไปไวล่ะ หรือว่าจะเป็นฝีมือของ...” พนักงานอีกคนในกลุ่มแสดงความคิดเห็นออกมาบ้าง “คุณชายลู่ชิง!!!! นู่น..มานู่นแล้วน่ะ” พนักงานในกองถ่ายคนหนึ่งตาเบิกโพลงอีกทั้งยังอุทานชื่อของผู้มาใหม่ ทุกสายตามองไปยังร่างสูงโปร่งราวกับนายแบบในชุดสูทสุดหรูสีดำขาว ด้านหลังมีบอดี้การ์ดหนุ่มติดตามมาเพียงหนึ่งคน ในอ้อมแขนของบอดี้การ์ดหนุ่มมีช่อดอกไม้ช่อใหญ่อยู่ช่อหนึ่ง “อ่ะ..เอ่อ สวัสดีครับคุณชายใหญ่ วันนี้มาเยี่ยมกองถ่ายของเราด้วยตัวเองเลยหรือครับ” ใครๆ ก็รู้ว่าเขาเป็นสปอนเซอร์ให้กับละครเรื่องใหม่ที่ซูหนี่ว์แสดง ผู้กำกับจึงออกมาต้อนรับเขา “ผมแวะมาให้กำลังใจว่าที่คู่หมั้นน่ะ” น้ำเสียงเย็นชาดังออกมาจากริมฝีปากสีแดงอมชมพูธรรมชาติ “ค่ะ...คือ..ข่าวที่บอกว่าคุณชายลู่ชิงกับน้องซูหนี่ว์เป็นว่าที่คู่หมั้นกันนี่มันคือข่าวจริงหรือครับ” เสียงของผู้กำกับเอ่ยถามขึ้นด้วยคาดไม่ถึงว่าคนที่เข้าถึงยากอย่างคุณชายใหญ่แห่งตระกูลซือจะมาถึงกองถ่ายละครที่ไม่ใช่ฟอร์มยักษ์เหมือนกองอื่นที่ถ่ายพร้อมกัน และที่ถามเพราะเขาเองก็สงสัยเหมือนกันว่าเรื่องราวของนางเอกของเขากับสปอนเซอร์ของเรื่องเป็นเรื่องจริงหรือข่าวโคมลอย “อืม... พักกองหรือยัง ผมต้องการพบเธอ” เขาตอบเพียงสั้นๆ และความต้องการของคุณชายซือลู่ชิงถูกจัดการในทันทีที่เขาเอ่ยปาก หลินซูหนี่ว์ที่พอรู้ว่าใครมาหาถึงกองถ่ายก็ถึงกับทำหน้าเซ็งออกมา เยว่เหมย ผู้จัดการส่วนตัวแอบสังเกตอาการของซุปตาร์สาวที่ตนดูแลก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ ทั้งๆ ที่สองครอบครัวสนิทกันมาก ทำไมหลินซูหนี่ว์ถึงทำตัวตีออกห่างจากคุณชายซือลู่ชิง ผู้ชายที่ผู้หญิงทั้งเมืองแอลนั้นหลงใหลได้ปลื้ม “มาทำไมคะ” เสียงหวานหากแต่ฟังไม่นุ่มหูดังขึ้น ผู้กำกับจึงเดินเลี่ยงไปเพราะคนที่คุณชายลู่ชิงต้องการพบเดินมาหาพอดี “มาหาคู่หมั้น...อืม ว่าที่คู่หมั้น” เสียงเย็นชาเอ่ยออกมาก่อนที่จะหันไปรับช่อดอกไม้จากบอดี้การ์ดหนุ่ม “ดอกไม้สวยๆ สำหรับว่าที่คู่หมั้นคนสวยครับ” เสียงทุ้มบอกคู่หมั้นสาวก่อนที่จะส่งช่อดอกไม้ไปให้เธอ “วันหลังไม่ต้องมาก็ได้ค่ะ ทีเมื่อก่อนไม่เคยเห็นหน้า” มือบางยื่นไปรับดอกไม้มาถือเอาไว้พร้อมทั้งพูดจาราวกับประชดประชันจนซือลู่ชิงยกยิ้มขึ้นมาเพียงเล็กน้อย “ก็ต้องมาแสดงตัวกันหน่อยสิ เดี๋ยวคนแถวนี้จะลืมว่าตัวเองไม่ใช่คนโสด” ทั้งบอดี้การ์ดหนุ่มและผู้จัดการส่วนตัวสาวรีบปลีกตัวออกไปจากตรงนั้นทันทีเพราะดูแล้วเหมือนกำลังจะเกิดศึกเล็กๆ ระหว่างคุณชายเย็นชากับซุปตาร์สาวจอมดื้อขึ้นในไม่ช้า “หึ!!” เสียงหวานกระแทกในลำคอเบาๆ พร้อมทั้งเดินหนีเขาไปที่ห้องพักผ่อนของเธอ ซือลู่ชิงเดินตามก่อนที่จะเข้าไปกอดคอของซุปตาร์สาว หลินซูหนี่ว์ถึงกับหยุดเดินและหันไปจ้องหน้าคนข้างๆ ที่ทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับเธอต่อหน้าคนอื่น “พี่ลู่ชิง ปล่อยนะ!!” เสียงหวานตวาดเขาออกมาเบาๆก่อนที่จะเดินต่อไป ส่วนคนหน้ามึนก็ไม่สนใจกระซิบที่ข้างหูเธอเบาๆเช่นกัน “จะเดินให้พี่กอดคอไปหรืออยากจะให้พี่จูบโชว์คนทั้งกอง ถ้าอยากได้แบบหลังพี่ไม่ติดนะ จะว่าไปก็คิดถึงริมฝีปากนุ่มๆ ของเธออยู่เหมือนกัน” ซือลู่ชิงขู่ออกมา หลินซูหนี่ว์ถึงกับหยุดเดินด้วยความตกใจที่เขากล้าพูดอะไรแบบนี้ออกมา “พี่ต้องการอะไรจากฉันกันแน่พี่ลู่ชิง ทำไมต้องมาก่อกวนกันถึงกองถ่ายด้วย” หลินซูหนี่ว์จับแขนของเขาออกจากลำคอขาวผ่องของเธอก่อนที่จะรีบจ้ำอ้าวก้าวเดินไปจากตรงนั้น ซือลู่ชิงก้าวตามไปติดๆ พร้อมทั้งส่งเสียงหัวเราะออกมาดังอยู่ในลำคอ สายตาหลายคู่มองตามคนทั้งคู่ไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ดีที่วันนี้หุ้ยหรูหรูนางเอกอีกคนของเรื่องไม่มีคิวถ่าย ถ้าไม่อย่างนั้นงานนี้คงจะได้เห็นว่ามีใครต้องกินแห้วอยู่แถวๆนี้แน่ๆ ร่างระหงเดินเข้าไปภายในห้องพักผ่อนของเธอที่ทางกองถ่ายเตรียมไว้ให้ ขณะที่มือบางกำลังจะปิดประตูแต่ก็ถูกรองเท้าหนังสีดำขัดมันเงาวับขวางประตูเอาไว้ หลินซูหนี่ว์พยายามที่จะปิด แต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้เธอเลยยอมแพ้และเดินกระฟัดกระเฟียดเข้าไปในห้องโดยไม่รู้เลยว่าเธอกำลังทำให้คนที่ตามเข้ามานั้นโกรธ “อุ๊ย!! พ่ะ..พี่ลู่ชิง จะทำอะไร ย่ะ...อย่านะ” เสียงหวานอุทานพร้อมส่งเสียงห้ามออกมาเมื่อเห็นว่าเขาล็อกประตูเสร็จสรรพแล้วตรงเข้ามาหาเธอ ร่างระหงถูกดันไปจนชิดผนัง มือหนาของซือลู่ชิงจับที่ไหล่บอบบางของเธอเอาไว้ทั้งสองข้าง สายตาคมของเขาก็จดจ้องอยู่ที่ริมฝีปากอิ่มรูปกระจับของเธอ แววตาของคนดื้อรั้นสั่นระริกเมื่อนึกถึงภาพที่เขาปล้ำจูบเธอเมื่อวันก่อนภายในรถคันหรูของเขา “พี่ก็จะสั่งสอนเด็กดื้อน่ะสิ พี่บอกแล้วไม่ใช่หรือคะว่าห้ามดื้อกับพี่” เสียงเย็นชาเอ่ยออกมาจนกายสาวสั่นสะท้านตามแรงสัมผัสบนหัวไหล่ทั้งสองข้าง “ฉะ...ฉะ..ฉันไม่ได้ดื้อกับ...อื้อ.....” ริมฝีปากหนาสีแดงอมชมพูประกบลงมาปิดริมฝีปากอิ่มรูปกระจับที่กำลังจะขยับเถียงเขาอย่างรวดเร็ว หลินซูหนี่ว์ตาเบิกค้างด้วยความตกใจ ก่อนที่จะยกมือบางทั้งสองข้างขึ้นมาดันหน้าอกหนั่นแน่นของคู่หมั้นวัยเด็กเอาไว้ ซือลู่ชิงย้ายมือข้างหนึ่งที่จับไหล่บางอยู่ก่อนหน้าไปจับที่ด้านหลังลำคอระหงแทน ลิ้นหนารุกล้ำเข้าไปในโพรงปากของซุปตาร์สาวได้สำเร็จ แรงทุบตีที่มีก่อนหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นแบมือออกและลูบไล้ลงบนหน้าอกหนั่นแน่นของชายหนุ่ม “อืม.......” เสียงครางทุ้มที่ดังอยู่ในลำคอของซือลู่ชิงแสดงถึงความพึงพอใจที่หญิงสาวเริ่มมีอารมณ์ร่วมไปกับเขาด้วย จากที่ว่าแค่ต้องการสั่งสอนเธอ ตอนนี้มันชักจะเกินเลยไปเสียแล้ว มือหนาที่ยังจับไหล่อีกข้างค่อยๆ ลูบไล้ลงไปที่แผ่นหลังเรียบเนียน ตอนนี้ซุปตาร์สาวนั้นสวมใส่เพียงเกาะอกที่เพิ่งจะเข้าฉากมาเมื่อสักครู่ แขนเรียวเสลาโอบรอบคอของซือลู่ชิงอย่างลืมตัว ลิ้นเล็กก็พยายามตอบโต้ลิ้นหนาที่รุกล้ำเข้ามาอย่างไม่ยอมแพ้ มือหนาซุกซนเริ่มจะรูดซิปของเกาะอกที่อยู่ทางด้านหลังโดยที่ซุปตาร์สาวไม่ทันรู้ตัวเลยสักนิด แต่พอความเย็นเริ่มปะทะเข้าที่แผ่นหลัง หญิงสาวจึงพยายามต่อต้านเขาอีกครั้ง เสียงเคาะประตูที่ดังมาจากทางด้านหน้าราวกับเสียงระฆังที่ช่วยชีวิตของหลินซูหนี่ว์ สองหนู่มสาวผละริมฝีปากออกจากกันก่อนที่หลินซูหนี่ว์จะตวัดสายตามองเขาตาขวาง มือบางสองข้างก็กอบกุมเกาะอกเอาไว้ไม่ให้เปิดเผยทรวงงามต่อหน้าเขา “หันหลังมาสิ พี่จะรูดซิปให้” เขาบอกเธอยิ้มๆ ซึ่งก็ได้รับค้อนงามๆ ขว้างมาหนึ่งที หลินซูหนี่ว์รีบหันหลังให้เขาอย่างรวดเร็วเพราะเสียงผู้จัดการส่วนตัวของเธอที่ดังขึ้นจากทางด้านนอก “น้องซูหนี่ว์คะ ผู้กำกับเรียกเข้าฉากค่ะ น้องซูหนี่ว์อยู่ข้างในหรือเปล่าคะ” เยว่เหมยร้องเรียกคนที่อยู่ภายในห้องแต่งตัวซึ่งเธอก็พอจะรู้ว่าใครอยู่ในนั้นก็เธอเพิ่งจะหลอกล่อให้บอดี้การ์ดหนุ่มเดินออกจากบริเวณนี้ไป มันไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าคู่หมั้นจะสวีตหวานกัน แต่ต้องไม่ใช่ในกองถ่ายให้คนอื่นเอาไปพูดเสียๆ หายๆได้ ถึงแม้จะเป็นทายาทของตระกูลดังก็คงหนีไม่พ้นลมปากคน เมื่อสำรวจการแต่งกายและหน้าตาเรียบร้อยแล้ว หลินซูหนี่ว์ก็มองคู่หมั้นหนุ่มตาขวาง แต่เขาก็ไม่สนใจเดินไปนั่งลงที่โซฟาด้านในห้องหน้าตาเฉย เธอจึงเดินไปเปิดประตูให้ผู้จัดการส่วนตัวเข้ามา เยว่เหมยพอเห็นว่าซือลู่ชิงนั่งไขว่ห้างดูสมาร์ทโฟนของเขาอยู่ก็โล่งใจ ก่อนที่จะหันมาสำรวจตามใบหน้าและร่างกายของซุปตาร์สาวที่ตนดูแลก็ไม่พบสิ่งผิดปกติจึงถอนหายใจออกมาไม่แรงมาก “เอ่อ..คุณชายลู่ชิงคะ พอดีน้องซูหนี่ว์ต้องเปลี่ยนชุดใหม่เพื่อไปเข้าฉากน่ะค่ะ ขอรบกวนให้คุณชายออกไปรอด้านนอกสักครู่ได้ไหมคะ” เยว่เหมยพยายามข่มความเกร็งที่มีอยู่ไม่น้อยเอ่ยออกมา “อืม... เกาะอกตัวนี้จะได้ใส่อีกไหม ถอดง่ายขนาดนี้ทีหลังอย่าใส่ให้เห็นอีกนะ” เขาลุกขึ้นยืนก่อนที่จะเอ่ยประโยคทิ้งท้ายที่ทำเอาร่างระหงยืนขาแข็งราวกับโดนสาป เขาส่งยิ้มเย็นชาให้หลินซูหนี่ว์เพียงเล็กน้อยก่อนที่จะเปิดประตูและออกจากห้องพักผ่อนของนักแสดงไป หลินซูหนี่ว์แทบอยากจะวิ่งไปกระชากผมเขาให้ติดมือเสียให้ได้ 'คนบ้าอะไรชอบพูดให้เธอได้อายอยู่เรื่อย แล้วที่มาหาเธอถึงที่กองถ่ายวันนี้คือตั้งใจจะมาเยี่ยมหรือมาป่วนกันแน่' เยว่หลินมองซุปตาร์สาวคนสวยที่ตนดูแลมานานหลายปีก่อนที่จะสำรวจเกาะอกที่เธอสวมใส่อยู่ก็พบว่าซิปด้านหลังยังรูดขึ้นไม่สุด หลินซูหนี่ว์ได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ ให้กับเธอ “พี่เขาไม่ได้ทำอะไรเราใช่ไหม” ผู้จัดการสาวเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่ค่ะ” หลินซูหนี่ว์ตอบออกมาเพียงสั้นๆ ก่อนที่เธอจะเดินไปเปลี่ยนชุดที่ต้องถ่ายในคิวถัดไป เยว่เหมยได้แต่มองไปที่ประตูทีและหันกลับมามองซุปตาร์สาวที เธอก็หวังว่าคุณชายซือลู่ชิงจะไม่ล่วงเกินซุปตาร์สาวที่เธอนั้นรักเหมือนน้องสาวแท้ๆ คนนี้ถึงแม้ว่าเขาและหลินซูหนี่ว์จะเป็นว่าที่คู่หมั้นกันก็ตาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD