คนฟังกลืนก้อนแข็ง ๆ ลงคอที่แห้งผากขณะที่ลีลาเดินกลับไปที่รถซึ่งคนขับยืนคอยอยู่ หญิงสาวคิดอย่างเจ็บปวด ช่วยเหลืออย่างนั้นหรือ...แม่ของเธอไม่รู้เลยหรือว่าสิ่งที่ผ่านมามันทำให้ทศรัสมิ์ผูกใจเจ็บมากแค่ไหน เขาประกาศกร้าวอย่างน่ากลัวต่อหน้าเธอมาแล้วว่าจะเอาคืน เขาต้องการล้างแค้นและให้เธอกับมารดาชดใช้ในสิ่งที่เขาต้องสูญเสีย แต่ลีลากลับไม่คิดถึงอะไรเลย แม่ของเธอยังหวังว่าผู้ชายคนนั้นจะมีใจช่วยเหลือหากแต่เธอก็ไม่กล้าบอกความจริงออกไป ทั้งสงสารแม่แต่ก็นึกสงสารตัวเองมากพอกัน
“แยม...มารอพี่นานหรือยัง?”
เสียงที่ดังขึ้นพร้อมชายหนุ่มร่างสูงที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในร้านกาแฟริมถนนใจกลางกรุงทำให้หญิงสาวร่างบอบบางในชุดเสื้อเชิ้ตขาวและกางเกงยีนส์สีดำดูทะมัดทะแมงซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะในมุมสงบของร้านหันกลับไปมอง
“โทษทีนะที่พี่มาช้า พอดีพี่เจอลูกค้าที่ร้านใกล้ ๆ เลยต้องคุยกับเขาพักใหญ่”
“ไม่เป็นไรค่ะ...แยมรอได้ ว่าแต่พี่พีทเถอะค่ะ งานรัดตัวขนาดนี้ยังอุตส่าห์มาเป็นธุระเรื่องงานให้แยม”
“เล็กน้อยน่า...ว่าแต่แยมเถอะ เตรียมพร้อมที่จะทำงานให้เพื่อนพี่หรือเปล่า”
พิทยาถามขึ้นแล้วหันไปสั่งกาแฟเอสเปรสโซ่กับพนักงานในร้าน ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาดีวซึ่งเป็นรุ่นพี่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยของอณัศยาหยิบเอกสารในกระเป๋าขึ้นมาและยื่นให้หญิงสาวพร้อมรอยยิ้ม
“นี่เป็นข้อมูลบริษัทของเพื่อนพี่นะ พี่ติดต่อเขาไปแล้วและเขากำลังต้องการผู้ช่วยช่างภาพอยู่พอดี แยมก็เรียนมาทางนี้ พี่ว่าต้องทำได้อยู่แล้ว”
“แยมทำได้ค่ะ”
หญิงสาวกล่าวด้วยท่าทีตื่นเต้นขณะหยิบเอกสารที่มีข้อมูลของบริษัทตามที่พิทยาบอกขึ้นมาดู มันเป็นงานเกี่ยวกับการถ่ายภาพลงนิตยสารซึ่งเป็นสิ่งที่เธอถนัดเพราะเรียนจบมาทางด้านนี้
“ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดด้วยนะ ออกนอกสถานที่บ่อย”
“ก็ดีสิคะ...แยมว่ามันน่าสนุกออก”
“แล้วงานศพพ่อเลี้ยงของแยมเรียบร้อยแล้วเหรอ...เป็นงานใหญ่มากเลยนะ คุณธนาดลน่ะเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงมากทีเดียว ใคร ๆ ก็รู้จักเขาดี แล้วนี่บริษัทในเครือของเขาใครจะเข้าไปดูแลและรับผิดชอบกันล่ะ เห็นว่าลูกชายของเขาไปอยู่ต่างประเทศนานแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เขากลับมาแล้วค่ะพี่พีท...และเขาก็คงจะกลับมารับช่วงต่องานทุกอย่างของคุณลุงธนาดล วันนี้แม่ไปที่บริษัทเพราะทนายประจำตระกูลนัดให้ไปฟังการเปิดพินัยกรรมของคุณลุงธนาดลทั้งหมด”
“พี่ว่าคุณธนาดลคงต้องยกทรัพย์สินบางส่วนให้คุณน้าลีลากับแยมบ้างล่ะ เพราะคุณแม่ของแยมก็เป็นภรรยาที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายนี่ไม่ใช่หรือ”
“ค่ะ...ก็ใช่”
“แล้วทำไมแยมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ”
พิทยาหรี่ตามองเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายไม่สู้ดีนัก เขารู้จักกับอณัศยามาเป็นเวลานานตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยและเคยรู้เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษาสาวรุ่นน้องกับลูกชายมหาเศรษฐีหมื่นล้านที่กลายมาเป็นพ่อเลี้ยงของเธอในภายหลัง
ทศรัสมิ์ พีรพัชรสกุล
ใครบ้างที่จะไม่รู้จักผู้ชายคนนั้น รูปหล่อพ่อรวยและเป็นที่สนใจของสาว ๆ ทั้งมหาวิทยาลัย แต่เขากลับให้ความสนใจรุ่นน้องเข้าใหม่เพียงคนเดียวนั่นคืออณัศยา มีข่าวคราวที่ทั้งสองคบหากันแพร่สะพัดไปทั่วในเวลานั้น แม้แต่เขาเองที่แอบมองรุ่นน้องคนนี้ก็ยังต้องผิดหวัง กระทั่งได้รู้ข่าวของทั้งสองอีกครั้งว่าเกิดความบาดหมางในครอบครัวจนถึงขั้นต้องเลิกรากันไป แล้วความหวังอันใหม่ก็จุดประกายขึ้น พิทยาพยายามเข้าหาอณัศยาอีกครั้ง แม้เธอจะไม่เคยแสดงออกว่าตอบรับความสัมพันธ์ที่เขาเพียรทอดสะพานไปหา บางทีเธออาจยังมีใจผูกพันอยู่กับคนรักเก่า แต่นั่นก็ไม่ทำให้พิทยาสูญเสียความตั้งใจ
“มาอยู่ที่นี่เองเหรอ...ผมหาคุณตั้งนานรู้มั้ย”
เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นทำให้ทั้งอณัศยาและพิทยาหันไปมองพร้อมกันแต่คนที่แสดงอาการตระหนกคือหญิงสาวที่ดวงตาเบิกกว้างเพราะผู้มาใหม่คือบุรุษร่างสูงใหญ่ซึ่งยังสวมชุดสูทดูภูมิฐาน ทศรัสมิ์บิดริมฝีปากเป็นรอยยิ้มก่อนจะนั่งลงข้างหญิงสาวและวาดวงแขนโอบไหล่ร่างบางที่อยู่ในอาการตกตะลึงขณะพิทยาที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็อยู่ในอาการนิ่งอึ้ง
“คุณออกมาคนเดียวแบบนี้ผมเป็นห่วง...คุณไม่รู้หรือว่าตอนนี้คุณไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว”
คำพูดจากปากของทศรัสมิ์ที่แสดงท่าทีสนิทสนมกับอณัศยาเกินธรรมดานั้นทำเอาพิทยาอึ้งทำอะไรไม่ถูก และสำหรับหญิงสาวแล้วยิ่งเป็นไก่ตาแตก
“คุณทศ...เอ้อ...”
อณัศยาเสียงขาดหายเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับชายหนุ่มที่เข้ามาขัดการสนทนาระหว่างเธอและพิทยาหนุ่มรุ่นพี่ และดูเหมือนทศรัสมิ์จะเข้าใจความรู้สึกของหญิงสาว เขาหันไปยิ้มกับพิทยาแต่ไม่ยอมเลื่อนแขนแกร่งออกจากไหล่บาง
“ต้องขอโทษด้วยนะครับที่เข้ามาขัดจังหวะ พอดีว่าผมจะมารับเมียผมกลับบ้าน ไม่ทราบว่าคุณคุยธุระกับแยมเสร็จหรือยัง”
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง ความตระหนกตื่นแล่นเข้าจู่โจมความรู้สึกของหญิงสาว
เมีย...
ทศรัสมิ์พูดคำนั้นออกมาโดยไม่ยี่หระอะไรทั้งสิ้น พิทยาหน้าเจื่อน เขาอาจรู้จักลูกชายมหาเศรษฐีหมื่นล้านซึ่งครั้งหนึ่งเคยคบหากับอณัศยาแต่ไม่เคยรู้ว่าตอนนี้สถานภาพและความสัมพันธ์ของคนทั้งสองเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนแล้ว
“คุยเสร็จแล้วครับ...พอดีว่าผมติดต่องานให้แยมทำน่ะครับ เป็นผู้ช่วยช่างภาพนิตยสาร และแยมจะเริ่มงานในอีกไม่กี่วันนี้...เอ้อ...ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณทั้งสองตามสบายนะครับ ผมคงต้องขอตัวก่อน”
พิทยากล่าวเสียงเรียบแต่เขาเองก็เงอะงะงุ่นง่านหยิบจับอะไรแทบไม่ถูกก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกไปปล่อยให้อณัศยานั่งทำสีหน้าไม่พอใจที่ถูกทศรัสมิ์จู่โจมเข้ามาแบบนี้
“คุณทศ...ปล่อยนะคะ...นี่มันเรื่องอะไรกัน”