บทที่ 2
ปัจจุบัน [22.00]
@ตึกผู้ป่วยหนัก ICU
ติ๊ด~ ติ๊ด~ ติ๊ด~
"คุณหมอคะ คนไข้หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติค่ะ" ฉันหันขวับไปที่เครื่องตรวจวัดคลื่นหัวใจ แย่แล้ว ฉันต้องชอร์ตหัวใจผู้ป่วยให้กลับมาทำงานปกติ
"เตรียมชอร์ตหัวใจ" ทันทีที่ฉันพูดจบพยาบาลคนเดิมรีบวิ่งไปลากเครื่องชอร์ตหัวใจผู้ป่วยมาทันที
ติ๊ด…
"คุณหมอคะ คนไข้หัวใจหยุดเต้นค่ะ" โธ่โว้ย! ฉันกระโดดขึ้นเตียงผู้ป่วยก่อนจะทำการปั๊มหัวใจเป็นจังหวะ ด้วยความชำนาญการทำให้ฉันไม่จำเป็นจะต้องนับ
"เตรียมชอร์ตหัวใจ 200 จูล" ฉันเอ่ยบอกพยาบาลทันทีที่ฉันเห็นพยาบาลเตรียมเครื่องชอร์ตหัวใจด้วยไฟฟ้าเสร็จ พยาบาลยื่นมันมาให้ฉัน ฉันปล่อยมือของจากผู้ป่วยก่อนจะรับมันมาถูเข้าหากัน
"เคลียร์!" ฉันแนบมันที่หน้าอกของผู้ป่วย ข้างหนึ่งอยู่ตรงกลางหน้าอก ส่วนข้างหนึ่งอยู่ข้าง ๆ ซี่โครงด้านซ้าย ฉันกดมันแนบอกก่อนจะดึงมันขึ้น แผ่นอกของคนไข้เด้งขึ้นพร้อมกับมือของฉันที่ดึงขึ้น
"ฟื้นสิ! ฟื้นสิ!" ฉันบ่นพึมพำก่อนจะหันไปดูคลื่นหัวใจ เหมือนเดิมมันยังไม่มีคลื่นหัวใจขึ้นแม้แต่ขีดเดียว
"400 จูล" ฉันบอกพยาบาลอีกครั้งให้เพิ่มกระแสไฟฟ้า ฉันทำมันอีกครั้งแต่กลับ
เหมือนเดิม!
หัวใจไม่กลับมาเต้นแล้ว ฉันปล่อยมือจากเครื่องชอร์ตหัวใจ ถ้าหัวใจหยุดเต้นถึงแม้จะต้องใช้กระแสไฟฟ้าเป็นแสนโวลต์ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจกลับมาเต้นได้ แต่มันใช้ในกรณีหัวใจหยุดเต้นจากภาวะหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ แต่ตอนนี้เหมือนว่ามันจะช่วยอะไรไม่ได้เลย ฉันเปลี่ยนเป็นกลับมาปั๊มหัวใจผู้ป่วยอีกครั้ง
ฟื้นสิ ฟื้นสิ ฉันคิดในใจ เหงื่อเม็ดเล็กกำลังผุดขึ้นเต็มใบหน้าของฉัน พยาบาลหยิบผ้าขึ้นมาก่อนจะซับที่ใบหน้าของฉัน เธอทำตามหน้าที่
ผ่านไปสักพัก...
"คุณหมอคะ พอเถอะค่ะ" พยาบาลเรียกเตือนสติฉัน แต่ฉันยังคงไม่ปล่อยมือออก
"โธ่เอ๊ย!" ฉันสบถ ก่อนจะกำกำปั้นข้างหนึ่งทุบลงที่หน้าอกผู้ป่วย ฉันรู้ ฉันรู้ว่าฉันกำลังทำให้ร่างของผู้ป่วยเจ็บ ฉันก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะเอ่ยบอกพยาบาล
"คนไข้เสียชีวิต จากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เวลา 22.30 น." ฉันก้าวขาลงจากเตียงผู้ป่วย
ฟุบ!
ฉันล้มลงทันที ฉันขาอ่อนกล้ามเนื้อของฉันมันอ่อนแรงเกินที่จะยันตัวเองลุกขึ้น แต่ทว่าฉันต้องทำตัวให้เข้มแข็งเพราะตอนนี้คนไข้เตียงอื่นกำลังมองมาที่ฉัน ถ้าหากว่าเขารู้ว่าฉันกำลังอ่อนแอเขาจะมั่นใจในตัวฉันได้อย่างไร ฉันลุกขึ้นยืนขาฉันสั่นเล็กน้อย
"โทรหาญาติผู้เสียชีวิต" ฉันเอ่ยบอกพยาบาลเสียงนิ่ง ก่อนจะออกแรงก้าวขาออกไป แต่ทว่าเสียงซุบซิบของพยาบาลคนอื่น ๆ กำลังดังขึ้นตามทางเดิน ห้องไอซียูค่อนข้างกว้างมาก กว่าฉันจะเดินไปถึงประตู ก็ได้ยินพวกเธอคุยกันเสียงดัง
"วันนี้คนไข้หมออร เสียชีวิต 2 คนแล้ว ฉันว่าวันนี้ก็คงจะมีอีก" เหมือนพวกเธอจงใจให้ฉันได้ยิน
กึก!
ฉันหยุดเดิน ถ้าเป็นสมัยก่อนพวกเธอคงไม่ได้ยืนเหยียดยิ้มแบบนี้หรอกนะ พวกเธอคงได้ตายคามือฉันแน่ แต่ตอนนี้ฉันได้รับยาอย่างสม่ำเสมอน่ะ ฉันเป็นโรค Borderline Personality Disorder หรือภาวะบุคลิกภาพผิดปกติชนิดก้ำกึ่งหรือเรียกง่าย ๆ คือโรคที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ไม่มีใครรู้ว่าฉันเป็นโรคนี้ ฉันรู้หลังจากที่ฉันสอบใบประกอบโรคศิลป์ได้แล้ว ถ้ามีคนรู้เข้าฉันอาจจะถูกถอดใบประกอบ
"หรือเธออยากตายอีกคน" ฉันพูดขึ้นทั้ง ๆ ที่ไม่ได้หันหน้าไปมองที่หล่อน ถึงฉันจะกินยาก็จริงแต่บางทียาก็ไม่ได้ออกฤทธิ์เสมอไปหรอกนะ ฉันเหลือบเห็นว่าหล่อนยืนมองฉันนิ่งริมฝีปากของหล่อนเม้มเข้าหากันอย่างอดกลั้น
ฉันก้าวเดินต่ออย่างช้า ๆ ขาฉันยังคงสั่นอยู่ วันนี้มันหนักเกินไปสำหรับฉัน คนไข้ของฉันเสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกันถึงสองคนในหนึ่งวัน ถึงจะใจแข็งแค่ไหนก็คงทนกับเหตุการณ์นี้ไม่ได้ เหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องจดจำไปตลอดชีวิต
ติ้ง!~
เสียงแจ้งเตือนประตูอัตโนมัติดังขึ้น ฉันก้าวเดินอย่างเหม่อลอยหรือบางทีคนอย่างฉันอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะเป็นหมอก็ได้
หึ มีหมอที่ไหนทำให้คนไข้ต้องตายได้วันละสองคนขนาดนี้ และเมื่อวานก็มีคนไข้ของฉันเสียชีวิตเช่นกัน ฉันรู้สึกแบบนี้ เศร้าขนาดนี้เหมือนกับตอนที่คนไข้ของฉันเสียชีวิตคนแรก แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะชินได้
ฉันเข้าเวรติดต่อกันสามอาทิตย์ บางคนอาจจะคิดว่าฉันทำไปได้ไง คุณก็ลองคิดดูสิ คนที่ไม่มีเพื่อนคบหรือว่ามีครอบครัวที่ไม่เคยสนใจอย่างฉันจะหยุดงานไปเพื่ออะไร ฉันเดินมาเรื่อย ๆ ก่อนจะไปหยุดที่ม้านั่งที่สวนดอกไม้
ฉันยื่นแขนสองข้างออกมาไขว้กันแนบมันเข้าที่ลำตัว คว่ำมือไปที่ไหล่ก่อนจะตบเข้าที่ไหล่เบา ๆ สองสามครั้ง ฉันทำแบบนี้เสมอตอนที่รู้สึกเศร้า มันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังถูกกอด
"คุณหมอคะ" อยู่ ๆ ก็มีเสียงเรียกหมอดังขึ้น ฉันลดมือลงทันทีแต่ฉันไม่ได้หันไป เพราะคิดว่าใครมันจะมาเรียกฉัน
"คุณหมออรคะ" ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีที่ได้ยินชื่อตัวเอง ฉันยังไม่ได้หันหน้าไปมองแต่เธอกลับเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว เธอเป็นหญิงวัยกลางคน
"ฉันเป็นญาติของคนไข้ที่เสียชีวิตเมื่อกี้ค่ะ" เธอเอ่ยบอกฉันเสียงเรียบนิ่งฉันไม่ตอบอะไร แต่ทำไมเธอถึงไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนกับญาติคนไข้คนอื่น ๆ ล่ะ
"ไม่ต้องเสียใจไปหรอกนะคะ" เธอเอ่ยบอกฉัน
"แต่ฉัน อยากจะขอบคุณคุณมากกว่า ขอบคุณนะคะที่คอยรักษาคุณพ่อของฉัน" เธอพูดออกมาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เธอเหมือนจะพยายามกลั้นน้ำตา
"แต่ฉัน..." ไม่ทันที่ฉันจะบอกว่าฉันดูแลเขาไม่ดีพอ
"ไม่ค่ะ ไม่ใช่ความผิดของคุณ บางทีชีวิตคนเรามันก็ไม่แน่นอนหรอกค่ะ" เธอบอกฉันเสียงเบา
"ขอบคุณนะคะ" ฉันเอ่ยออกมาอย่างสุดซึ้ง ขอบคุณที่ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมา เธอยิ้มให้ฉันหนึ่งครั้งก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป
ฉันยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ตอนนี้ฉันเข้าเวรแต่ฉันไม่ได้เข้าที่ห้องฉุกเฉิน ฉันประจำที่ห้องผู้ป่วยหนัก แต่ตอนนี้ยังไม่มีคนโทรเรียกฉันเลยกะจะนั่งต่อสักพัก แต่แล้ว
"จะนั่งให้ยุงหามไปเลยหรือไง" เสียงทุ้มของใครบางคนดังขึ้น ฉันรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร
"พี่หมอยุ" ฉันยักไหล่ขึ้นเหมือนจะบอกว่าไม่รู้ไม่ชี้
"วันนี้ไม่เห็นไปกวนเหมือนทุกครั้ง" เขาเอ่ยถามฉัน
"หึ ถ้าฉันไปกวนพี่อีก พี่ก็หลอกด่าฉันกลับมาอีกสิ" เขายิ้มกว้างขึ้นมาที่ได้ยินอย่างนั้น
"พี่กลัวว่าแฟนพี่จะเข้าใจผิดน่ะสิ" เขาตอบฉัน เอ๊ะ?
"พี่คบกับญดาแล้วเหรอคะ" ฉันถามเขา เขาอมยิ้มอย่างเขินอาย แสดงว่าคบกันแล้วจริง ๆ
"ดีเลย อรจะไปกวนพี่ยิ่งกว่าเดิม" ฉันบอกเขาพร้อมกับแลบลิ้นให้เขา เราดูสนิทกันใช่ไหมล่ะ ไม่สนิทได้ไงล่ะ ก็แม่ของเราสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันแถมเรายังเป็น...ไม่ทันที่ฉันจะได้คิดอะไรนานอยู่ ๆ พี่วายุเขาก็เอ่ยบอกฉันในเรื่องที่ทำให้ฉันถึงกับต้องตกใจ
"ดาถูกพักงาน" หือ?
"ทำไมคะ" ฉันถามขึ้นอย่างทันควัน
"ทะเลาะวิวาทกับพยาบาล ชื่ออะไรนะ? อ้อชื่อพีช" ชื่อของพยาบาลคนนี้ทำให้ฉันนิ่งงัน
"เรื่องใหญ่เลยล่ะ พยาบาลคนนั้นถึงกับโดนถอดใบประกอบวิชาชีพ" เรื่องคงใหญ่มากสินะ ถ้างั้นพี่ชายฝาแฝดของเธอล่ะ สิ่งที่ฉันกำลังคิดในหัวมันทำให้หัวใจของฉันมันกระตุกวูบ
"พี่ไปก่อนล่ะ ฝากบอกแม่เธอด้วยว่าถ้าพี่ว่างจะเข้าไปหา" ฉันโบกมือลาพี่หมอวายุ เขาเดิมแกมวิ่งสงสัยคงรีบไปห้องฉุกเฉิน ว่าแต่เขาจะไปหาแม่ฉันทำไมนะหรือว่าจะไปคุยเรื่องเดิม ๆ หวังว่าคราวนี้แม่ฉันจะใจอ่อนนะ
ฉันนั่งทอดสายตาออกไปไกลคิดอะไรเพลิน ๆ ก่อนจะก้มลงมองดูนาฬิกา ฉันมานานเกินไปละ คิดได้ดังนั้นฉันจึงลุกขึ้นยืนก่อนจะหมุนตัวกลับหลังเพื่อเดินกลับไปที่ห้องไอซียู แต่แล้ว...
กึก! ไม่ทันที่จะออกตัวเดินฉันหยุดกะทันหัน ดวงตาของฉันเบิกกว้าง ฉันไม่คิดเลยว่าจะ
"ร่านดีจังเลยนะ!"
0.0
หัวใจของฉันมันหล่นลงไปถึงปลายเท้า เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง พัชมาที่นี่ได้ยังไง เขาควรจะอยู่ต่างประเทศไม่ใช่เหรอ แล้วนี่เขากำลังสวมเสื้อกาวน์ของ รพ. ฉันอยู่ หรือว่าเขา
"ไม่เจอเพื่อนเก่า เอ๊ะ ผัวเก่านานถึงกับตกใจเลยเหรอ" เขาถามย้ำถึงสถานะของเราในอดีต ฉันยังคงนิ่งงันมองหน้าเขาให้ชัด ฉันคิดถึงเขาฉันอยากโผลเข้ากอดเขา เราไม่เจอกันนานมาก 5 ปีที่ฉันคอยเฝ้ารอให้เขากลับมา แต่เหมือนว่าเขาไม่ได้ดีใจที่จะได้กลับมา
"เป็นใบ้เหรอ!" ฉันสะดุ้งตกใจหลุดจากภวังค์ เขาเป็นบ้าอะไรของเขาทำไมถึงตวาดดังขนาดนี้
"นะ นายยังโกรธฉันอยู่เหรอ" ฉันถามอะไรออกไปเนี่ย ฉันพูดเหมือนกับว่าฉันเคยทำผิดต่อเขา แต่จริง ๆ แล้วฉันทำผิดแค่กับญดาคนเดียว
"ไม่มีวันไหนที่ฉันจะหายโกรธเธอ" เขาพูดออกมาเสียงนิ่ง อะไรกันเขาจะโกรธฉันทำไม เราสองคนมันก็เลวทั้งคู่
"เมื่อกี้เธอคุยอยู่กับแฟนใหม่ดาใช่ไหม ทำไมเธอถึงคิดจะแย่งแฟนดาอีก" ฮะ อะไรนะ ฉันหูเพี้ยนไปเหรอ
"นายเป็นบ้าเหรอ" ฉันถามพร้อมกับสบตาเขาอย่างนึกสู้ แต่เขากลับเดินเข้ามาหาฉันก่อนจะยื่นแขนมากระชากแขนของฉันเข้าหาตัวเขาอย่างแรง
ตุบ!
ใบหน้าของฉันชนเข้ากับแผงอกหนาอย่างแรง ฉันดิ้นไปมาอย่างขัดขืน
"หยุดทำให้ดาเสียใจสักที!" ฮะ ฉันทำอะไร ฉันทำอะไรให้ญดา
"ฉันว่านาย ตั้งสติให้ดี ๆ ก่อนนะ" ฉันบอกเขาเสียงอ่อน พัชกำลังโมโห ถึงฉันจะอธิบายอะไรไปเขาก็คงไม่ฟัง
"เธอมันร้ายเสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ นะ เสียดายที่เราเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน!" เขาตวาดอีกครั้ง บางทีฉันก็อยากจะถามเขาเหมือนกันว่าเขาไม่เจ็บคอเหรอ ตวาดอยู่ได้
"เธอมันร่าน!" ปกติฉันไม่เคยโกรธอะไรเขา เขาเหมือนที่พักพิงให้ฉันเสมอมาตอนที่ฉันโมโหจนควบคุมสติตัวเองไม่ได้ ฉันป่วยเขาไม่เคยรู้ ฉันไม่ได้อยากเป็นคนโมโหร้ายจนหลาย ๆ คนกลัวฉัน แต่สารในสมองของฉันมันหลั่งผิดปกติ ฉันผิดหรือไง ฉันดันตัวเองออกจากแผงอกหนา ก่อนที่จะ
เพี้ยะ!
เสียงฝ่ามือของฉันเข้ากระทบใบหน้าของเขาทันทีที่เขาพูดจบ ใบหน้าของพัชหันไปตามแรงตบของฉัน ฉันมือสั่นฉันกำลังจะสติแตก
"เราไม่น่าเจอกัน อีกเลย...ฮึก" ฉันพูดออกไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา ฉันรอเขามา 5 ปี แต่เขากลับทำแบบนี้กับฉัน
"เธอไม่เคยทำร้ายฉัน" เขามองหน้าฉันนิ่ง ที่มุมปากของเขาเหมือนจะมีเลือดซิบ
ตุบ!
เขากระชากแขนของฉันเข้าไปหาเขาอีกครั้ง มือหนาเอื้อมมาบีบที่คางฉันให้เผยอปากออก ก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าเข้าประกบริมฝีปากฉัน เขาดูดริมฝีปากของฉันอย่างแรงทั้งบนล่างโดยที่ไม่ให้ฉันหยุดพัก เขาทำแบบนี้ทำไม
เขาออกแรงบีบคางฉันแรงขึ้นเพื่อให้ฉันอ้าปากออกกว้างขึ้นให้ลิ้นของเขาเข้ามาได้ ทันทีที่ฉันอ้าปากออกลิ้นหนาก็ฉกเข้ามาทันที ฉันเงยหน้าขึ้นเพราะเขาดันจนฉันต้องถอย เขาเกี่ยวตวัดลิ้นไล่ลิ้นฉัน ฉันพยายามจะหนีเขา ตอนนี้ฉันกำลังจะขาดอากาศหายใจ คนเราไม่สามารถอ้าปากไปด้วยและหายใจไปด้วยพร้อมกัน เหมือนเขาจะรู้เขาเลยถอนจูบฉัน
"เฮือก" ฉันหอบหายใจแรง
"ยังหวานเหมือนเดิมเลยนะ!"
0.0!