อาการของชารุตที่ใบหน้าบึ้งตึงกลับไปเหมือนไปกินรังแตนมาจากไหน มันก็ทำให้สมาชิกในบ้านของเขาทักขึ้นมา
"หน้าบูดบึ้งเหมือนไปฟัดกับใครมาล่ะ" การิน หรือกาย พี่ชายเอ่ยถาม เขาค่อยๆหันใบหน้ากลับมาหาผู้เป็นพี่ชาย ใบหน้ายังไม่จางจากรอยตึงขุ่น แม้ว่ายังก้มหน้าแล้วก็เงยหน้าตอบ
"ผมไปหาแฟนเก่า" พอคำนี้พูดปุ๊บ ผู้เป็นพี่ชายที่เคยรู้เรื่องราวในอดีตของน้องชายมาพอสมควร ซึ่งตอนนี้ได้ข่าวคราวว่าเดินทางกลับมาอยู่เมืองไทยเป็นการถาวร หลังจากบิดาเสียชีวิต
"หนูเม"
"ใช่ครับ"
"แล้วไปเจออะไรถึงทำให้แกหน้าตึงบูดกลับมาอย่างนี้" การินที่อยู่บ้านในวันนี้ ปกติเขาจะไม่ค่อยอยู๋ออกไปทำงาน หรือไม่ก็นัดชนิตาแฟนสาวออกไปรับประทานอาหารข้างนอกกัน
การที่ชารุตจะบอกพี่ชายออกไป สำหรับเขามันไม่สมควรหรอก เขาจึงอุบเอาไว้ก่อนที่มุมปาก เพราะเรื่องนี้เป็นเพียงอดีตของเขาและหล่อนผู้นั้น หล่อนที่ไม่เคยหวนมองย้อนคืนสู่อดีตรักหลัง เขาคิดเช่นนั้น โทษที่เมนิกาใจแข็งเหมือนหินผาและทิฐิมากเกินไป แต่เขาก็โทษตัวเองในบางเรื่อง
เขาเครียดนะ ถึงพี่ชายเอ่ยถาม มันก็ไม่ก่อเกิดผลประโยชน์ใด หากเมื่อเห็นว่าพี่ชายนั้นคงต้องการคำตอบจากปากเขา เลยทำให้ชารุตยอมเอ่ยตอบออกมาอย่างเสียไม่ได้
"ทะเลาะกันนิดหน่อย แค่ผมเหยียบเข้าประตูบ้าน ก็บ้านนั้นหลายครั้งแล้วผมก็เคยเข้าไปก่อน" ชารุตอาจจะตอบแบบความคิดของเด็กหนุ่มมากเกินไป การินมองออกอย่างนั้น แล้วอดขำออกมาไม่ได้ จึงเอ่ยบอกน้องชายตรงๆ
"รุตแกไม่รู้จริงหรือแกล้งไม่รู้ล่ะ"
"อะไรล่ะครับ" ชารุตไม่รู้จริง คำถามของเขาบนสีหน้าจึงมีคิ้วเข้มที่ขมวดตามมาเป็นเส้นตรง
"อ้าว สถานะไง เมื่อก่อนก็อีกแบบ แต่ในวันนี้แกกับเขาห่างจากกัน ไม่มีอะไรที่ต้องเกี่ยวพันกัน" ชารุตนิ่งฟังนานมาก จะว่าไปพี่ชายของเขาพูดถูก เขาลืมคิด เพระาเป็นคนชอบทำอะไรแบบสบายตามใจตัวเองมากเกินไป เลยอดตำหนิตัวเองไม่ได้ จริงสิเขาลืมข้อนี้ไป
"ผมพลาดไปจริงๆ ข้อนี้เอง เอ แต่ว่าเขาไม่น่าจะหวงหรือกีดกันผมขนาดไม่ให้เข้าไปในบ้าน ทั้งๆที่เราก็เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่ใช่คนแปลกหน้า"
ข้อนี้เหมือนกันที่ทำให้ชารุตครุ่นคิดและเขาหาเหตุผลไม่ได้ เพราะไม่มีความจำเป็นที่หล่อนจะต้องผลักไสเขารุนแรงขนาดนี้ หรือว่า หล่อนนั้นเกลียดเขาเข้ากระดูกดำจนไม่อยากจะพูดออกมา และข้อนี้เองก็ทำให้ใบหน้าของชารุตยิ่งเศร้าและทุกข์หนักหน่วงอีก การินก็ไม่อยากจะยุ่งกับเรื่องน้องชายมากเกินไปนัก ปกติสองพี่น้องก็ไม่ได้พบกันบ่อย แม้จะอยู่ในบ้านเดียวกัน เพระาเวลาออกจากบ้านก็ต่างกกัน ในบ้านใหญ่หลังนี้มีสองหลังติดกัน เขาอยู่อีกหลังหนึ่ง น้องชายอยู่อีกหลัง แต่สามารถเดินสวนเข้ามาภายในบ้านสองหลังนี้ได้ เป็นเป็นทางเชื่อม
"เอาล่ะ แกอย่าคิดมากเลย พี่ขอตัวก่อน"
เลยคราวนี้ปล่อยให้ชารุตเซ่อไปแล้วอีกทั้งซึมและจมปลักอยู่กับเรื่องราวทุกข์ของตัวเอง มีทางไหนที่เขาจะขยับเข้าไปใกล้หล่อนได้ เชื่อไหม ชื่อของเมนิกา เขาไม่เคยลืมเลือนเลยนะ เป็นหล่อนนั่นเองที่ลืมเขา ลืมหมดสิ้น
เมนิกาหล่อนสบายใจมั้ยการที่เขานั้นกล้าบุกมาถึงที่นี่ เรียกว่า เมนิกาไม่ระแคะระคายมาก่อน ดีนะที่หล่อนมาเห็นเข้าพอดี ไม่เช่นนั้นจะเกิดอะไรขึ้นตามมาก็ไม่รู้ เพราะว่า หล่อนไม่อยากให้เขาพบเจอของล้ำค่าสำหรับชีวิตของหล่อน เพราะหล่อนเห็นมาแล้ว รู้ดีว่า ชารุตไม่เห็นคุณค่าแม้แต่เพียงสักนิด
สาวใช้เกือบทำพลาด แม้จะรู้ว่าเขาเคยเข้าออกในบ้านหลังนี้มาก่อนแล้วหลายครั้ง แต่ในวันนี้มันไม่ใช่
อีกหลายอย่างที่หล่อนจะต้องสะสางและจัดการต่อ คนในบ้านที่ถือว่าเป็นบุคคลภายนอกที่หล่อนไม่มีความไว้วางใจสักนิด หากตามพินัยกรรมระบุในความเป็นจริง ก็ควรที่จะให้เงินก้อนหนึ่งแก่สองแม่ลูก เพื่อไปให้พ้นไปจากบ้านหลังนี้ เพราะแม้แต่จะเป็นผู้อาศัยก็ตาม เมนิกาไม่ยินยอม
อีกครั้งที่กลับไปหาเด็กชาย และเด็กชายฟารุตที่นอนพักผ่อนหลับสบาย เมนิกายืนมองร่างที่จ้ำม่ำอ้วนกลมนั่น แล้วสะท้อนใจ คนเป็นแม่อย่างหล่อน สัญชาตญาณมีอยู่แล้วในการปกป้องลูกให้พ้นจากผองภัยอันตรายที่คิดจะมากรายกล้ำ เด็กชายเป็นผู้บริสุทธิ์ เหมือนผ้าขาว เขาไม่ควรรับรู้ในสิ่งที่พ่อแม่ของเขาก่อขึ้นมาก่อนหน้านั้น วัยสาว หากมองย้อนกลับไป เป็นเพราะ เมนิกาอยากจะเอาชนะคะคาน หล่อนถือตัวเองว่าต้องชนะทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องใด แม้แต่ความรัก หรือผู้ชายสักคน ที่หล่อนคบหาและเป็นแฟนกับชารุตเพระาความถือดีของตัวเองบวกกับการอยากจะเอาชนะ
หล่อนถนัดเสมอกับการเล่นปั่นหัวหรือยั่วยวนเขา
นั่นก็คือวัยสาว ที่ตอนเป็นวัยรุ่น หล่อนขาดความอบอุ่นและมักชอบทำอะไรตามใจ การประชดตัวเองและครอบครัวในอดีต เพิ่งมารู้ตัวว่าเป็นเรื่องที่โง่เขลาอย่างมากที่สุด หล่อนได้คนรัก และมีทายาทก่อกำเนิดโดยอุบัติความใคร่เป็นตัวนำไป อารมณ์ของวัยรุ่นที่อยากลอง อยากรู้และสัมผัส ในเวลานั้นวัยเหล่านั้นเช่นเดียวกัน ชารุตก็ย่อมคิดเหมือนกันกับหล่อน เพียงแต่ว่าในขณะนั้นทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในเมืองไทย ความรักและความใคร่มันจึงได้ก่อเกิดอย่างรวดเร็วนักเพราะอารมณ์เหงา และหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นองค์ประกอบ สิ่งแวดล้อมและบรรยากาศ เมื่อคิดดูแล้ว เมนิกาบอกกับตัวเองว่า หล่อนไม่ควรโทษกับอดีต
แต่ในวันนี้เขาก็บอกกับหล่อนไปแล้วว่า เขามีทายาทไปแล้ว จะกี่คนก็ช่าง หล่อนถามชื่อคนเคียงใกล้เขา หรือภรรยา ทำไมไม่ถาม? เมนิกาอยากจะบอกตัวเองเหมือนกัน ไม่กล้า หรือว่าหล่อนกลัวนักหนากับอารมณ์แฝงที่หล่อนจะกลายเป็นหึงและหวงเขาอีกครั้ง ผู้ชายที่เคยเป็นอดีตรักของหล่อนอย่างเขา ที่เมนิกาถือว่าเขาเป็นผู้ชายมือสองไปแล้ว
ชารุตเครียดนะ เจอคำพูดใส่หน้าของเมนิกาที่ไม่มีเยื่อใยเหมือนไม่หลงเหลือความผูกพันใดให้เขาเลย ทั้งๆที่เขาถือว่าเป็นรักแรกของหล่อน และหล่อนกับเขาเคยรักกันมาก่อน
แค่รักกัน ไม่ใช่สิ มีมากกว่านั้นเขายอมรับว่าเคยล่วงถลำ และมีสัมพันธ์เกินเลยมากกว่านั้น แต่เมนิกาคงไม่คิดแบบนั้นหรอก หล่อนเป็นสาวที่เติบโตอยู่เมืองนอก นอกจากไปเรียนหนังสือ อาจจะคิดว่าเรื่องเซ็กส์เป็นแค่เรื่องปกติของมนุษย์ธรรมดาทั่วไป
ชารุตก็คิดว่า เรื่องนี้เป็นปกติเช่นกัน เขาเลยไม่คิดมาก และเขาก็เดินทางกลับเมืองไทย พร้อมก็ไม่ได้ติดต่อกลับมายังหล่อน เพราะในบางสิ่งบางอย่างเขาเดาจิตใจของเมนี่หรือเมนิกายากมาก เอ ถ้าเป็นแบบนี้ ชีวิตของเขากับเอนั้นคงจะบรรจบกันยาก
สาเหตุใดหรือ พอเจอหน้าเมนิกาก็ไล่เขาเปิงไปเลย โกรธแค้นเคืองใจอะไรกัน ก็ไม่บอกกล่าว ทำให้เขาต้องหน้าแห้งจ๋อยกลับมา
หรือเธอจะเป็นนางยั่ว