ขอรักได้ไหมคุณพี่เลี้ยง 1

1209 Words
ขอรักได้ไหมคุณพี่เลี้ยง 1 ใจกลางเมืองที่เต็มไปที่รถหรูและตึกสูงใหญ่ การจราจรนั้นแสนติดขัดแต่กลับเป็นแหล่งที่สร้างเม็ดเงินให้กับเจ้าของร่างสูงที่กำลังนั่งอยู่หัวโต๊ะพร้อมกับใบหน้าเคร่งเครียด เฟิร์ส หรือคนทั่วไปมักจะรู้จักเขาในนาม คุณนิธิส พาทิศ ลุคซ์ หนุ่มลูกครึ่งที่ได้รับตำแหน่งผู้บริหารไฟแรงหลายปีซ้อน จากการบริหารงานที่เฉียบขาดทำให้นักธุรกิจหลายต่อหลายคนสนใจที่จะเข้าร่วมด้วย แต่ก็เป็นเรื่องยากเมื่อนิธิสนั้นไม่ได้สนใจที่จะร่วมลงทุนกับใคร เพราะนอกจากโรงแรมทั้ง 28 สาขาทั่วโลก เขายังต้องดูแลสนามแข่งรถที่อยู่ฝั่งยุโรปอีกสามแห่ง เพียงแค่นี้ชีวิตเขาก็วุ่นวายมากพอแล้ว “ผลประกอบการจากฝั่งภูเก็ตครับนาย” แฟ้มเอกสารเล่มโตถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้า คนที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงทำหน้านิ่ง ๆ คล้ายกับคนไร้ความรู้สึก และนั่นยิ่งทำให้พนักงานกลัวเขาจนไม่กล้าสบตา แต่ก็ยังมีคนที่ใจกล้าเข้าหาอย่างเปิดเผย แต่นอกจากจะไม่สมหวังแล้วยังต้องหางานใหม่เพิ่มเติมเพราะคนอย่างเขาเบื่อคนที่คอยเอาแต่เข้าหาเพื่อผลประโยชน์ ทำให้ตอนนี้เขาเป็นพ่อหม้ายลูกติดที่ฮอตที่สุดในตอนนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ “อย่าลืมไปรับ เติร์ด” เติร์ดที่ถูกเอ่ยถึงเป็นเพียงเด็กชายอายุ 7 ขวบ ที่อยู่ในวัยซุกซนแต่บางครั้งก็เหมือนจะโตมากกว่าวัยอยู่มากเพราะการบ่มเพาะของผู้เป็นพ่อ ทั้งสองอาศัยอยู่ด้วยกันพร้อมกับคนงานอีก 5 ชีวิต โดยไร้เงาของผู้เป็นมารดาของเด็กน้อย “ครับนาย ผมสั่งคนขับรถไว้แล้วครับ” เลขาหนุ่มที่ทำงานมาด้วยกันเอ่ยแจ้งผู้เป็นเจ้านายอย่างรู้ใจ สิ้นประโยคสนทนาภายในห้องประชุมก็กลับมาเงียบอีกครั้งเมื่อเจ้านายกำลังใช้สมาธิอ่านเอกสาร “สาขาภูเก็ตรายงานต่อเลย” จากนั้นการประชุมที่น่าอึดอัดก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ร่างสูงใช้เวลาในห้องประชุมนานเกินครึ่งวัน ประชุมเสร็จเขาก็ยังมีนัดกับลูกค้าเพื่อเจรจาซื้อขายที่ดินที่อยากได้ หากเจ้าของที่ดินผืนนั้นไม่ลีลาอยากเจอเขาลูกน้องของเขาคงจัดการซื้อมันมาได้นานแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปมากขนาดนี้ “คืนนี้ไปดื่มกันต่อไหมคะ?” ร่างเล็กที่สวมชุดแนบเนื้อกำลังโชว์สัดส่วนที่อวบอิ่มของเธอภูมิใจ ทั้งยังบดเบียดร่างกายเข้าหาร่างสูงอย่างเย้ายวน เขามาตามนัดตั้งหลายนาทีแต่ยังไม่มีวี่แววที่จะได้คุยเรื่องการซื้อขายเลยสักนิด ตอนนี้เขาเองก็เหนื่อยจนเกินจะทนไหวแล้วเช่นเดียวกัน “ผมว่าเรารีบคุยงานข้อเจรจาดีกว่านะครับ” คนถูกยั่วยวนเอ่ยบอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่แฝงไปด้วยความหงุดหงิดใจ “แหม ใจร้อนจังเลยนะคะ ใจเย็น ๆ แล้วดื่มกันสักนิดดีไหม?” ปลายนิ้วที่เคลือบสีแดงสดกรีดตามแผ่นอกกว้าง ทั้งยังหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาชนกับเจ้าของแผ่นอกอุ่นอย่างยั่วยวน “...” ชายหนุ่มไม่ตอบอะไรแต่ยื่นมือไปหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาชนกับคนข้าง ๆ และดื่มอย่างเลี่ยงไม่ได้ “คุณนิธิสอยากมีคนคลายเหงาไหมคะ คืนนี้ลีออนว่างอยู่...” เธอยังพูดไม่ทันจบประโยค ก็ต้องตกใจเมื่อร่างสูงขยับลุกขึ้นยืนปรายตามองเจ้าของร่างเล็กที่ยังมีทีท่าตกใจ ชายหนุ่มเรียกเลขาเข้ามาจัดการค่าใช้จ่ายก่อนจะเดินออกจากบริเวณนี้ไปทันที ไม่สนใจเสียงเรียกชื่อตัวเองที่ดังตามหลังนั้นมาเลยสักนิด “เจ้านายครับ เรื่องที่ดิน...” “ไม่เอา หาที่ใหม่ ลีลาพูดไม่พูดเรื่อง เสียเวลา” คนที่มีอารมณ์หงุดหงิดเอ่ยบอกเลขาเสียงขุ่น เมื่อก้าวขึ้นมานั่งบนรถได้ ก็สั่งคนขับรถมุ่งหน้ากลับบ้านหลังใหญ่ที่ตอนนี้มีคนตัวเล็กกำลังรอเขาอยู่ทันที แม้จะล่วงเลยเวลากินมื้อเย็นแล้วแต่เด็กตัวน้อยก็มักจะนั่งรอผู้เป็นพ่อตัวเองด้วยความตั้งใจ ใช้เวลาไม่นานรถคันหรูก็เคลื่อนเข้ามาหยุดจอดบริเวณหน้าบ้านที่ถูกเปิดไฟเอาไว้เพิ่มความสว่างไสว เมื่อก้าวลงจากรถก็มีเด็กน้อยวิ่งเข้ามากอดขาด้วยความคิดถึง “กินข้าวหรือยัง?” ชายหนุ่มที่น่ากลัวสำหรับคนภายนอกเอ่ยถามลูกชายเสียงนุ่มนวล ทั้งยังย่อตัวลงเพื่ออุ้มลูกชายไว้อย่างหวงแหน คนตัวเล็กใช้สองแขนโอบรอบคอผู้เป็นพ่อและเอ่ยตอบคำถามอย่างดีใจ “กินแล้วครับ มีไก่ทอดที่พี่เติร์ดชอบด้วยนะ แต่ป้าบอกว่าพ่อทำงานเลยมากินด้วยไม่ทัน” เด็กน้อยวัยเจ็ดขวบเอ่ยตอบผู้เป็นพ่อน้ำเสียงฉะฉาน ใบหน้าเล็กที่ถอดแบบมาจากเขาหนึ่งส่วนจากผู้เป็นแม่เด็กอีกหนึ่งส่วน นับได้ว่าเป็นลูกเสี้ยวที่หน้าตาดีไม่น้อย พ่อหน้าตาดี แม่มีดีกรีเป็นถึงนางแบบจะไม่ให้ลูกหน้าตาดีก็กระไรอยู่ “แล้วไปเรียนเป็นยังไงบ้าง” เอ่ยถามลูกชายต่อพร้อมกับอุ้มลูกเดินเข้าบ้านท่ามกลางสายตาเอ็นดูของเหล่าคนงานที่ออกมาต้อนรับเขาดังเช่นวันก่อน ๆ แต่ลูกชายเขาน่ะโตแค่ไหนก็ชอบให้พ่ออุ้มอยู่เรื่อย ๆ สินะ “ไม่ค่อยชอบเลย ทุกคนมองพี่เติร์ดแปลก ๆ” “หือ? ยังไง” “ก็ทุกคนมองพี่เติร์ดแล้วยิ้มแปลก ๆ พี่เติร์ดกลัว” “หล่อเกินไปหรือเปล่า คนเลยมองเยอะ” ชายหนุ่มแกล้งแซวลูกชาย “เฮ้อ อยากหล่อน้อย ๆ จังเลยครับ คนจะได้ไม่มอง” เสียงสนทนาของสองพ่อลูก เรียกรอยยิ้มจากคนงานที่รอรับอยู่ไม่น้อย มักเป็นที่คุ้นชินกันไปเสียแล้วสำหรับสองพ่อลูกที่มักจะพูดคุยกันแบบนี้ แต่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณนิธิสนั้น ไม่เอาใครเลยนอกจากผู้เป็นพ่อ พี่เลี้ยงกี่คนก็เอาไม่อยู่ เปลี่ยนพี่เลี้ยงทุกเดือน หากมีพี่เลี้ยงเข้ามาทีไร เด็กน้อยน่ารักจะกลายร่างเป็นเด็กดื้อทันที และไม่มีใครหยุดได้เลยนอกจากผู้เป็นพ่อ เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องหนักใจของคนงานในบ้าน แม้ตอนที่ไม่มีพี่เลี้ยงคุณหนูเติร์ดของพวกเธอจะไม่ได้ดื้อหรือซน แต่ในบางครั้งที่พ่อเจ้าตัวไม่อยู่ เด็กน้อยก็งอแงไม่เอาใครทั้งนั้น ทำให้พวกเธอลำบากใจอยู่ไม่น้อย เมื่อไหร่คุณนิธิสจะหาพี่เลี้ยงคนใหม่ให้คุณหนูพวกเธอได้นะ เหล่าคนงานได้แต่ขบคิดอยู่ภายในใจด้วยความสงสารคุณหนูตัวเอง ==== เปิดตอนแรก เฮงๆ ปังๆ คร้าบบบบ ฝากคอมเมนต์กดหัวใจด้วยนะคะ ^_^ เรื่องนี้เค้าชอบมากเลยค่ะ ตื่นเต้นมากๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD