ลู่หยางได้ฟังก็ขมวดคิ้ว เขารู้ว่าฝีปากของตนนั้นสู้อีกฝ่ายไม่ได้ แต่ก่อนที่เขาจะถามอะไรออกไป หางตาก็สังเกตเห็นว่ามีเงาร่างน้อยๆ เดินเข้ามาแอบฟัง
ไป๋ถังก็รู้สึกตัวแล้วเช่นกัน เธอยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วกดที่ริมฝีปากส่งสัญญาณให้เขาเงียบเสียง
เมื่อเห็นพ่อแม่เดินเข้าไปคุยกันเป็นเวลานาน ต้าเป่าก็เริ่มกระสับกระส่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาคิดว่าพ่อกับแม่ต้องไปปรึกษากันเรื่องที่จะขายเขาและน้องชายแน่ๆ
เด็กน้อยนั่งอยู่ไม่สุขและในที่สุด เขาก็ทนไม่ได้อีกต่อไป จึงกระซิบบอกน้องชายให้นั่งอยู่กับที่ ขณะที่ตนเดินย่องเข้าไปใกล้ห้องนอนของพ่อกับแม่เพื่อจะแอบฟัง
แต่เขาไม่ทันระวังจึงเดินเข้าไปเหยียบกิ่งไม้แห้งจนเกิดเสียงดัง ต้าเป่าก้มหน้าลงด้วยความตกใจ และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง พ่อกับแม่ก็เดินออกมาที่หน้าประตูแล้ว
ใบหน้าของต้าเป่าซีดลงด้วยความตกใจ
มันจบแล้ว!
ในครั้งนี้ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่จะจัดการเขาอย่างไร เขาอาจจะถูกงดอาหารหรือไม่ก็อาจถูกส่งตัวออกไปขาย
ต้าเป่ามีความคิดฟุ้งซ่านมากมายกว่าเด็กทั่วไป ทั้งที่ความจริงแล้วเขาอายุเพียงสี่ขวบ แต่กลับต้องมาหวาดระแวงพ่อแม่ของตัวเอง
เบ้าตาของเด็กน้อยมีน้ำตาเอ่อคลออีกครั้ง
ไป๋ถังไม่เข้าใจว่าทำไมต้าเป่าถึงร้องไห้ เธอกับลู่หยางทำอะไรผิดงั้นหรือ
หญิงสาวเดินไปและนั่งลงด้านหน้าของเด็กชาย มือเรียวเอื้อมไปแตะใบหน้าเล็ก ๆ ของต้าเป่าแล้วถามด้วยน้ำเสียงแสดงความห่วงใย "เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า หรือว่ายังหิวอยู่ "
ลู่หยางนั่งลงด้านข้างเช่นกัน แน่นอนว่าเขาไม่ได้รับรู้ว่าต้าเป่ามีความคิดอะไรอยู่ในใจ เขาแค่คิดว่าเด็กน้อยยังคงกินไม่อิ่ม "ลูกกินไม่อิ่มหรือ"
ต้าเป่ารู้สึกหวาดกลัว หัวใจของเขาเต้นแรง และคิดว่าบางทีพ่อกับแม่อาจจะไม่รู้ว่าเขาพยายามแอบฟัง เด็กน้อยจึงรีบพยักหน้าเบาๆ
ลู่หยางเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้ว เขามองไปที่ไป๋ถัง "หมั่นโถวข้าวโพดแค่สองลูก พวกเขาต้องไม่อิ่มอยู่แล้ว เราต้องหาอาหารมาให้เด็กๆ เพิ่ม”
ไป๋ถังนึกถึงความทรงจำเมื่อก่อนหน้านี้ โดยปกติเธอจะไปขออาหารจากพ่อแม่ของตัวเอง จากนั้นจะกินมันแค่คนเดียวโดยไม่สนใจสามีและลูก
ส่วนลู่หยางเมื่อมีอาหารเขาก็มักจะเอาไปแอบซ่อนเอาไว้ไม่ยอมแบ่งใครเช่นกัน ดังนั้นเด็กทั้งสองจึงตัวผอมแห้งซีดเหลืองกันทั้งคู่ เพราะขาดแคลนอาหาร
หลังจากระลึกถึงเรื่องราวเมื่อก่อน ใบหน้าของไป๋ถังก็มืดมน
พ่อแม่พันธุ์อะไรเนี่ย!
ฝาแฝดคู่นี้น่ารักและรู้ความมากขนาดนี้ เหตุใดพวกเขาถึงไม่รู้จักดูแลทะนุถนอมพวกเขากันนะ
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ไป๋ถังผู้ซึ่งชื่นชอบเด็กน่ารักเป็นทุนเดิมก็โกรธขึ้นมาอีกครั้ง เธอกำหมัดของตนเองแน่น
ต้าเป่าตัวสั่นมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของแม่
ลู่หยางแตะแขนของไป๋ถังเบาๆ เพื่อเตือนสติว่าตอนนี้เธอกำลังทำให้เด็กกลัว
ไป๋ถังรีบโอบต้าเป่าเข้ามาในอ้อมแขนและปลอบโยนเขา "แม่ไม่ได้โกรธต้าเป่านะ ลูกไม่ต้องกลัว ตอนนี้พ่อกับแม่จะไปหาอาหารมาให้ ลูกรออยู่ที่บ้านกับน้องนะ"
ลู่หยางกลับเข้าไปในบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกไปหาอาหารกับไป๋ถัง
ถนนในหมู่บ้านตอนนี้ปูด้วยหิน เมื่อเดินออกมาจากบ้าน แล้วเลี้ยวซ้ายเดินขึ้นเนิน บ้านหลังแรกด้านในสุด จะเป็นบ้านลุงของลู่หยาง หรือก็คือบ้านที่ลี่จูแต่งเข้าไปเป็นสะใภ้
อาศัยความทรงจำของร่างกายเดิม ไป๋ถังชี้นิ้วไปที่บ้านหลังนั้น "บ้านข้างหน้าดูเหมือนจะเป็นบ้านลุงรองของคุณใช่ไหม ลองเข้าไปขอยืมอาหารสิ"
ลู่หยางมองตามนิ้วของเธอ "ก็ใช่ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของร่างเดิมจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขา"
ไป๋ถังหัวเราะ "ร่างเดิมของพวกเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับใครในหมู่บ้านบ้างล่ะ"
ลู่หยางเองก็คิดเช่นนั้นเนื่องจาก เจ้าของร่างเดิมเป็นผู้ชายเกียจคร้าน ส่วนภรรยาก็แต่งตัวสวยยั่วยวนผู้ชายคนอื่นไปวันๆ คนในหมู่บ้านเป็นชาวนาที่ขยันขันแข็งและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย พวกเขาเห็นสองสามีภรรยาที่เป็นเช่นนี้จึงไม่ค่อยที่จะชอบพวกเขานัก
ไป๋ถังใช้หลังมือตบที่หน้าอกของเขาเหมือนกับสหายทั่วไป "สหายลู่หยางคุณลองไปขอยืมอาหารดูสิ เผื่อครั้งนี้จะได้"
ดวงตาของลู่หยางหรี่แคบลง มือของผู้หญิงคนนี้ที่สัมผัสหน้าอกเขาอย่างหน้าตาเฉย "คุณจะไม่ไปกับผมเหรอ"
ไป๋ถังยักไหล่ "ญาติของคุณไม่ได้ชอบฉันนี่คะ ถ้าฉันเข้าไปไม่แน่ว่ายังไม่ทันพูดก็คงถูกไล่ออกมาแล้ว"
ลู่หยางพูดไม่ออกเพราะว่าชื่อเสียงของ ไป๋ถังแย่กว่าเขามากจริงๆ "เอาเถอะ...คุณรออยู่ที่นี่ พยายามมองที่ประตูบ้านของเราไว้ด้วย ผมกลัวว่าเด็กๆ จะเป็นอันตราย”
“เข้าใจแล้ว คุณรีบไปเร็วเข้า” ไป๋ถังรับคำ แล้วดันหลังเขาให้เดินเข้าไป หญิงสาวมองย้อนกลับไปที่ประตูบ้านของตัวเอง เนื่องจากเธอยืนอยู่บนเนินจึงเห็นหน้าบ้านของตนเองได้อย่างชัดเจนเธอเห็นเด็กทั้งสองนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าบ้านอย่างเรียบร้อยเชื่อฟัง
ฝ่ายต้าเป่าและเสี่ยวเป่า เมื่อเห็นแม่ของพวกตนมองกลับมา ทั้งสองรีบก้มศีรษะลง
ต้าเป่าบอกน้องชายของเขาอย่างรอบคอบ "อย่าเงยหน้าขึ้นมองไม่อย่างนั้นแม่จะสงสัย"
เสี่ยวเป่า ถามด้วยน้ำเสียงไม่เข้าใจ "พี่ชาย พ่อกับแม่ไปหาอาหารมาให้เราแสดงว่า...ตอนนี้พวกเขาน่าจะชอบพวกเรา…แล้วทำไมพี่ยังระแวงอยู่ล่ะ"
"เสี่ยวเป่าไม่คิดว่า...นี่มันเป็นเรื่องแปลกหรือ ปกติพ่อแม่เคยให้เรากินอาหารด้วยเหรอ" ต้าเป่าเริ่มไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ มือเล็กกำกางเกงที่ขาดของเขาไว้แน่น "ยิ่งพวกเขาทำดีกับพวกเราอย่างนี้ไม่แน่ว่า อีกไม่นานจะเอาพวกเราไปขายก็ได้"
"ห๊ะ อะไรนะ!" เสี่ยวเป่าเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก จากนั้นเขาก็ร้องไห้ออกมา "ฮือ...พี่พูดจริงเหรอ...พี่ไม่ได้โกหกใช่ไหม พ่อกับแม่จะพาเราไปขายจริงหรือ”
เมื่อเห็นน้องชายของเขาร้องไห้ ต้าเป่าก็อยากจะร้องไห้ด้วย แต่สุดท้ายเขาก็พยายามเข้มแข็งไม่ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมา ต้าเป่าดึงน้องชายมากอดแล้วพูดปลอบโยนน้องชายอย่างหนักแน่น "อย่ากลัวเลย ถ้าพ่อกับแม่จะพาพวกเราไปขายจริงๆ พี่จะพาเสี่ยวเป่าหนีไปเอง"
"เราจะไปไหน ถ้าไม่มีพ่อกับแม่ เสี่ยวเป่า...เสี่ยวเป่ากลัว" เสี่ยวเปายิ่งร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม
ต้าเป่าลูบหลังน้องชายเบาๆ "ถึงไม่มีพ่อกับแม่ แต่เสี่ยวเป่ายังมีพี่ชาย และพี่ชายก็จะดูแลเสี่ยวเป่าตลอดไป"
ไป๋ถังไม่ได้ยินเสียงเด็กๆ ร้องไห้ แต่เมื่อมองจากระยะไกลเธอก็เห็นว่า จู่ๆ พวกเขาก็กอดกัน แต่หญิงสาวคิดว่าพี่น้องทั้งสองเพียงเล่นด้วยกันเท่านั้น เธอจึงไม่ได้สนใจอะไร แล้วหันไปมองทางลู่หยางเพื่อลุ้นว่าเขาจะไปขออาหารจากบ้านลุงได้หรือไม่