“จิ...ปล่อยได้แล้ว ฝันต้องไปเปิดร้าน” ทอฝันบอกเจ้าของอกอุ่นที่เธอซุกตัวแนบชิดให้เขากกกอดมาทั้งคืน
“วันนี้วันหยุด” เสียงแหบพร่าของคนตัวโตที่เพิ่งตื่นดังขึ้น พร้อมวงแขนแข็งแรงที่รัดกายสาวแน่นขึ้น
“ฮื้อ ! วันหยุดก็ต้องเปิดร้าน” ทอฝันพยายามขืนตัวออกจากวงแขนของคนที่กำลังจะทำให้เธอเกเรทั้งกลางคืนและกลางวัน
เมื่อคืนเธอทำตัวเกเรด้วยการโทรไปบอกป๊ากับม้าว่าเธอนอนบ้านเพื่อน เช้านี้เขายังจะให้เธอเกเรอีกครั้งด้วยการไปปิดร้านอีกไม่ได้
“ฝันมีลูกน้องเปิดร้านให้ ผมรู้”
ทอฝันถอนหายใจแรง เธอมีลูกน้องเปิดร้านให้ก็จริง แต่เธอเป็นเจ้าของร้านก็ควรไปดูร้านด้วย ถึงวันนี้จะเป็นวันหยุด ลูกค้าอาจจะน้อยกว่าวันปกติ แต่เธอก็อยากไปดูแลร้านเอง
“แต่ฝัน...อุ๊ย !” ทอฝันอุทานตกใจเมื่อถูกกดนอนหงาย แล้วคนตัวก็ขึ้นคร่อมทาบทับเธอไว้
“ไม่ให้ไปครับ วันนี้ฝันต้องอยู่กับผมทั้งวัน” จิรายุเอาแต่ใจกับคนตัวเล็กด้วยการก้มลงฟัดเต้านมอวบอิ่มอย่างมันเขี้ยว ทั้งดูดดึง ขบเม้มตีตรารอยรักจนเต็มสองเต้า เขากดหัวเข่าลงกลางหว่างขาของเธอ ขยี้จุดอ่อนไหวของเธอด้วยต้นขาแกร่ง เพียงครู่เดียวเสียงห้ามปรามก็กลายเป็นเสียงครางหวานหู บทรักบทสุดท้ายที่เพิ่งจบไปเมื่อก่อนรุ่งจึงเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
“ขับรถกลับเองไหวเหรอครับ นอนต่ออีกสักคืนไหม ผมไม่คิดค่าที่พักหรอกน่า”
คนอยากให้สาวค้างด้วยอีกหลาย ๆ คืนเดินเข้าไปกอดเธอจากด้านหลัง ทอฝันแต่งตัวเสร็จพอดี เธอหมุนตัวมาหาเขา แล้วมองค้อนคนใจดีที่จะไม่คิดค่าที่พักกับเธอ เขาก็ไม่ควรคิดอยู่แล้วไหม เพราะที่เรียกร้องเอาจากเธอก็อิ่มจนพุงกางแล้ว
“ถึงคิดก็ไม่จ่ายค่ะ จิต่างหากที่ต้องจ่ายค่าตัวให้ฝัน”
จิรายุยิ้มเต็มใบหน้า เขาประคองดวงหน้านวลไว้ในสองมือ ประทับจูบลงบนหน้าผากมน
“จ่ายให้ทั้งตัวและหัวใจเลยครับ”
ทอฝันยิ้มเขิน เธอโอบกอดเขาเต็มวงแขน ซบหน้ากับอกกว้าง
“จ่ายให้คนอื่นด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้”
จิรายุกระชับอ้อมแขนกอดคนตัวเล็กแน่นขึ้น
“จะเอาที่ไหนไปจ่ายให้คนอื่นล่ะครับ ก็ทั้งตัวและหัวใจของผม ผมจ่ายให้ฝันหมดแล้ว”
ทอฝันยิ้มกับอกกว้าง เธอคลายวงแขนออกจากกายกำยำ เงยหน้ามองสบตาเขา
“ปากหวาน”
“อย่างอื่นก็หวานนะ ฝันก็เคยชิมแล้วนี่” จิรายุยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาใช้นิ้วโป้งลูบกลีบปากอิ่มเบา ๆ
ทอฝันงับนิ้วซุกซนอย่างหมั่นไส้ ทำไมจะไม่รู้ว่าไอ้ที่เขาว่าหวานกว่าปากนั่นหมายถึงอะไร
“โอ๊ย ! ฝัน...ผมเจ็บนะ” คนถูกสาวงับนิ้ว สะบัดมือเร็ว ๆ สีหน้าท่าทางราวกับว่าเจ็บนักหนา ทั้งที่ปากนุ่ม ๆ งับเบา ๆ เท่านั้นเอง
“ฝันกลับก่อนนะคะ”
พอเธอบอกว่าจะกลับ คนที่แกล้งเจ็บก็หายเจ็บทันที เขารีบดึงเธอมากอดไว้เต็มอก
“ผมลงไปส่งนะ”
“ไม่ต้องหรอก จิทำงานเถอะ ฝันกลับเองได้” แม้จะจับเธอกินทั้งคืนและอีกครึ่งวัน แต่เขาก็ยังตื่นก่อนเธอ ตอนที่เธอตื่นขึ้นมาก็เห็นเขานั่งทำงานอยู่ก่อนแล้ว
จิรายุคลายวงแขนออกจากร่างสาว
“ขับรถดี ๆ นะครับ ถึงบ้านแล้วทักแชทมาบอกด้วย”
ทอฝันพยักหน้ายิ้ม ๆ “รับทราบค่ะ” เพราะเหนื่อยมาทั้งคืนบวกกับอีกครึ่งวัน ทอฝันเลยคิดว่าจะกลับบ้านไปพักผ่อนดีกว่า เพราะหากไปร้านสภาพนี้ เธอก็คงทำอะไรไม่ได้มาก
จิรายุทั้งกอดทั้งหอม และถ่วงเวลาอีกหลายนาทีกว่าจะยอมปล่อยคนที่เขากกกอดมาทั้งคืนออกจากห้อง พอเธอกลับไปแล้ว เขาจึงมานั่งทำงานต่อ มีอะไรหลายอย่างที่ต้องจัดการ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตำแหน่งและหน้าที่ที่เขาต้องรับผิดชอบ บางเรื่องที่เครียดและหนักเกินไป เขาก็ไม่ได้บอกให้ทอฝันรู้ เพราะไม่อยากให้เธอมาแบกรับความเครียดไปกับเขา
เมื่อก่อนตอนยังเล็ก เขาไม่เคยเข้าใจคำโบราณที่ว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาวเท่าไรนัก แต่พอได้มาทำงาน ณ จุดนี้ เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาวจริง ๆ นอกจากหนาวแล้ว ยังเหนื่อยหนักและยุ่งจนแทบไม่มีเวลาพัก
จริง ๆ แล้วช่วงนี้เขาไม่ว่างเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะคิดถึง อยากอยู่ใกล้เธอ พอพี่สาวบอกว่าจะนัดเพื่อนมารวมตัวกันที่ห้องของเขา เขาจึงขนงานกลับมาทำที่ห้อง เพื่อจะได้มีเวลาใกล้ชิดและได้อยู่กับเธอบ้าง และมันก็คุ้มค่ากับการเกเรงาน แม้มันจะต้องแลกด้วยการที่นับจากวันนี้เป็นต้นไป เขาต้องเร่งเคลียร์งานที่รับผิดชอบทั้งวันทั้งคืนเพื่อให้งานเสร็จตามกำหนดก็ตาม
เพราะเชื่อใจและเข้าใจ ดังนั้นที่ผ่านมา แม้เขาจะตอบแชทช้า ไม่ทักหาเป็นวัน หรือไม่ได้โทรคุยกันเลย ทอฝันก็ไม่ว่าอะไรเขา อาจเพราะเธอเองก็มีงานต้องทำ บางวันก็ยุ่งจนไม่มีเวลาพัก ต่างคนต่างมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ มีครอบครัว และมีผู้คนรอบกายที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์