ครับ น้อมรับราชโองการ -_-^
“ก็แค่อยากรู้ไว้ว่าต้องหลบใคร ไม่ได้อะไรมาก” มันพูดหน้าตาเฉย ไร้สีหน้าท่าทีตื่นตระหนกตกใจ หรือบางทีอาจจะตกใจจนเฉยๆไปแล้วก็ได้ แต่แบบมันก็ดูเข้าใจอะไรง่ายไปนิดนะ เหมือนกับว่าไม่เคยใส่ใจ...
“ถ้ากูเคยได้กับผู้ชาย มึงจะรังเกียจป่ะ?” ผมลองเชิงทำหน้าซีเรียสทั้งๆที่ความจริงก็ถามไปงั้นอ่ะ
“แปลกเหรอวะ กูยังเคยได้กับผู้ชายเลย ได้กับมึงไง” คนตรงหน้าตอบเสียงเรียบทำเอาผมชะงักนิดหน่อย
สาบานว่านั่นคำพูดจากปากชะนีกุลสตรีสามปีซ้อนของโรงเรียน (-_-) ตอนนั้นใช้เงินซื้อตำแหน่งป่ะเนี่ย
“ซีเรียสสส” ผมลากเสียงแล้วดึงกระจุกผมมันอย่างหงุดหงิดจนตัวมันเอนไปด้านข้าง
“เอาตรงๆป่ะ” มันตีมือผมก่อนจะชักสีหน้านิดหน่อย
“เออ”
“มึงจะเคยหรือไม่เคย สำหรับกู...” ไอ้เวย์มองหน้าผมแล้วยกยิ้มหวาน นัยน์ตาเรียวรีสีน้ำตาลเข้มนั่นราวกับเล่นกลอะไรสักอย่างทำเอาไรขนอ่อนผมลุกชันไปทั้งร่าง อยู่ดีๆเส้นเลือดแดงดำก็บีบรัดทำงานกันหฤโหดจนเสียงดังตึกตักก้องในมันสมอง อย่าบอกนะว่าผมกำลังเคลิ้ม...
ตึก ตัก ตึก ตัก...
ผมเคลิ้ม...?
ขณะที่ผมกำลังคิดว่าตัวเองต้องมนเสน่ห์ของผู้หญิงตรงหน้าจนความร้อนแล่นพล่านไปทั้งตัว ฉับพลันความคิดทุกอย่างก็สะดุดเพียงเพราะประโยคๆเดียว !!!
“ก็น่ารังเกียจอยู่ดีว่ะ”
“...”
เหอะๆ ขอความกรุณาเงิบสามวินาทีก่อนที่พี่เตย์จะแปลงร่างเป็นไอ้หน้าตัวเมียเพราะด่าผู้หญิง....
สาม
สอง
หนึ่ง
“ไอ้สาสสสสสส! กูเกลียดมึง อีสมองฟิลเลอร์!!!”
คือแบบตอนท้องนี่ศรีสมรไปขอลูกจากเวตาลย์ปะวะ ผู้หญิงอะไรหน้าตาดูใจบุญ แต่สถุลยันสันดาน! ผมถอนหายใจเมื่อใช้แรงทั้งหมดไปกับการตะโกนด่ากราด ก่อนจะรู้สึกอยากเข้าไปทึ้งร่างบางเพราะแทนที่มันจะสำเหนียกในความกวนตีนของตัวเอง ดันหัวเราะสบายใจเฉิบซะงั้น
แหม สนุกเหลือเกินนะแม่คุณ
“คือสมองฟิลเลอร์นี่จะเปรียบว่าสมองไม่มีรอยหยักใช่ป่ะ?” มันเลิกคิ้วสูงพร้อมรอยยิ้มเหมือนคนเหนือกว่า
เหอๆ ทีนี้เสือกฉลาด
“เออ” ผมตอบรับแล้วพยายามจะตบหัวมันหนึ่งที แต่แม่งหลบเก่งชิบหาย สงสัยชาติก่อนเป็นลิงลม -_-^
“แหม อีสมองเม็ดก๋วยจิ๊อย่างพี่เตย์มีสิทธิ์มาว่าคนอื่นด้วยอ่อ?” ไอ้เวย์จิ๊ปากกวนตีนในขณะที่ผมเส้นเลือดเริ่มปูดโปนที่ขมับ จะว่าผมโมโหไอ้เวย์ก็คงไม่ใช่หรอก แต่ความหงุดหงิดมันสั่งสมมาตั้งแต่ไอ้พี่กัลป์เข้ามาหาเรื่องแล้ว...
น่าหงุดหงิดกว่านั้นคือการที่ไอ้เวย์เหมาว่าผมเป็นเสือไบเนี่ยแหละ!
“แล้วตกลงยังไงไอ้ผู้ชายคนเมื่อกี้...?”
สงสัยว่าคนเป็นหมอนี่สอดสาระแนทุกคนเลยรึเปล่า
“พี่กัลป์ไง รุ่นพี่กู” ผมพูดด้วยความรู้สึกแขยงปากที่เรียกไอ้เวรนั่นว่าพี่ เพราะแม่งไม่ได้มีความน่าเคารพเลยสักนิด ไอ้กัลป์หรือพี่กัลป์เรียนวิทยาสาขาธรณีเหมือนกับผม เรารู้จักกันในวงดนตรีสั่วๆที่ตั้งเล่นๆเอาเท่ไว้อ่อยสาว ที่สำคัญ...
แม่งเรียนมาแปดปีละ ยังไม่จบ -_-^
“อ้อ ป๋ากัลป์ธรณีปีแปดอะนะ” มันฉุกใจคิดขึ้นได้ในทันที บ่งบอกได้ว่าอีพี่คนนี้มันโด่งดังขนาดไหน ดังในเรื่องอะไรนี่อย่าให้พูด ทุเรศบัดซบจัญไรต้องผู้ชายคนนี้เลย
“คนที่หล่อๆตี๋ๆหน้าเกาหลีใช่ป่ะ”
“เออ -_-” ผมทำหน้าไม่สบอารมณ์ที่ได้ยินมันชมเพราะผมเกลียดไอ้เวรนี่โคตรอ่ะ
“แล้วไปไงมาไงได้กัน เมาเหรอวะ?” มันถามหน้าตาย และอาจจะตายในเร็วๆนี้
“ได้ก็แย่ละครับ มันก็กวนตีนไปงั้นแหละ ทะเลาะกับเมียมาลงที่กูตลอด” ผมอ้างไปเรื่อย ความจริงมันไม่ได้ทะเลาะกับเมียหรอกแต่มันมีเรื่องที่พูดไม่ได้ โดยเฉพาะกับไอ้เวย์ที่ห้ามรู้เด็ดขาด!
“เหรอ กี่ยกอ่ะ”
แหม... นี่ผมว่าผมหื่นและกวนตีนมากแล้วนะ นางเพื่อนคนนี้นี่มาเหนือเมฆเหลือเกิน
“ไหนรีบไปขึ้นวอร์ดวะ” ผมเปลี่ยนเรื่องแล้วพูดลอยๆเพื่อไล่จี้ให้มันออกจากห้อง ก่อนที่มันจะกวนประสาทไปมากกว่านี้ หมดประโยชน์กับพี่เตย์คนจริงแล้วก็กลับไปทางเดิมซะไอ้น้องเอ๋ย~ นี่ไม่ได้เลวนะ... เค้าเรียกว่าผลประโยชน์ร่วมกัน J
“ไล่เหรอ?” มันเบ้หน้างอนคงคิดว่าตัวเองน่ารักมาก และที่ตลกคือแม่งคิดถูก ผมปรายตาไปทางอื่นเพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะเล่นมุขหลอกลวงเอาข้อมูลลับเรื่องไอ้พี่กัลป์จากผมอีก
“เปล่า เขาเรียกเนรเทศ -_-+”
“เออ ไม่ต้องไล่ก็ไปอยู่แล้ว พูดเหมือนอยากอยู่ด้วยมาก” ไอ้เวย์ไหวไหล่ไม่แคร์คำพูดผมก่อนจะเบี่ยงตัวเดินหลบไปอีกทางอย่างเร่งรีบจนผมเผลอคิดไปว่า
ถ้ามึงจะรีบขนาดนั้นก็น่าจะไปตั้งแต่แรกแล้วปะวะ -_-
“แล้ววันนี้จะมานอนนี่ป่ะ?” ผมถามไล่หลังสาวเจ้าที่ดึงสายกระเป๋าข้างเตียง มันหันมามองหน้าผมนิดหน่อยแล้วหัวเราะทั้งที่ไม่มีอะไรตลก
“คิดถึงกันก็บอก” มันว่าแล้วยิ้มยียวนแกล้งแซวผมเล่นๆ
เหอๆ คนอะไรน่าหมั่นไส้เป็นบ้าเลย!
“รีบไปเลย ไป๊ ชิ่วๆ” ผมโบกมือไล่แล้วทำปากจิ๊จ๊ะประหนึ่งไล่หมาจรจัด ในขณะที่ไอ้เวย์เลิกคิ้วสูงมองหน้าผมอย่างชั่งใจ
“ถ้าจะไล่กันขนาดนั้นก็นะ -_-” มันว่าทำเอาผมกลั้นขำน้ำตาแทบเล็ดก่อนจะเดินไปดันหลังมันเป็นการเชื้อเชิญออกจากห้องและปิดท้ายด้วยประโยคสวยๆสมกับใบหน้าผมนั่นแหละ
“รีบไปรีบกลับนะหมอเวย์ อาเตย์รออยู่♥”
ตายๆๆ ไอ้เตย์ มึงแม่งน่ารักชิบหาย ผู้ชายอะไรเนี่ย เคลิ้มเลยเคลิ้ม >O
“เรื่องของมึง”
เงิบเบย...