EP05.1 ll Face 2 Face [1]

1000 Words
ไอ้เวย์สาวเท้าเข้ามาทางผมก่อนจะหยุดยืนเมื่อได้รับสายตาจิกกัดจากน้องโม ราวกับทุกอย่างหยุดนิ่งภายในเวลาไม่กี่วินาที แค่เพียงเสียงลมหายใจก็ดูจะดังเกินไปเมื่ออยู่ในสถานการณ์นี้ ผมกลั้นหายใจแล้วกะพริบตาปริบๆภาวนาอย่าให้เกิดอะไรอื้อฉาวขึ้นที่นี่ คือไม่ใช่อะไร... กูอายครับ เคยได้ยินเรื่องรถไฟชนกันมาก็มากไม่นึกว่าจะเจอกับตัว แถมสองคนนี้ก็ดันพอๆกันด้วยไง คนนึงก็แสบ อีกคนก็แซ่บ พอเดินมาเจอกันคงไม่มีอะไรนิยามได้ดีกว่าคำว่า... มวยถูกคู่! “หือ?” ไอ้เวย์เลิกคิ้วสูงเมื่อถูกน้องโมจ้องหน้าแบบไม่ละสายตา ผมแทบจะกุมขมับและคิดหาสถานการณ์เอาตัวรอดอย่างเนียนๆ คือไอ้เวย์มันยิ่งเป็นคนชอบพูดเรื่องไม่ควรออกมาโดยไม่รู้ตัวเพราะมันคิดว่าคงไม่มีอะไร ไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่พูดด้วย แป๊ปเดียวมันก็ลืม แต่มันคงลืมไปว่าคนอื่นไม่ได้ลืมง่ายเหมือนมัน... โดยเฉพาะน้องแตงโมเนี่ย! “แพรวา แก้วรังสรรค์ รึเปล่าคะ?” น้องโมว่าพลางหรี่สายตาจับผิดในขณะที่ไอ้เวย์ทำหน้างงก่อนจะพยักหน้ารับง่ายๆ ไม่ได้สนใจสายตาลุกลี้ลุกลนของผมที่พยายามส่งกระแสจิตบอกมันเลยสักนิด TOT เอาไงดีวะกู... “มาก็ดีเลย เอาเสื้อมึงคืนไป ‘แฟน’กูเข้าใจผิดหมดแล้ว” ผมรีบชิงพูดขึ้นก่อนที่ไอ้เวย์จะพล่ามอะไรแปลกๆก่อนจะถอดเสื้อกราวน์สีขาวของมันโยนให้และขยับร่างมายืนข้างน้องแตงโมเพื่อบอกกล่าวมันอย่างเนียนๆ ไอ้เวย์ยืดมือออกมารับพลางเหล่นัยน์ตาไปมองน้องโมนิดหน่อยและสวมเสื้อกราวน์สีขาวทันที แต่จะดีกว่านี้ถ้าแม่งรีบๆไสหัวไปที่อื่นเพราะมันดัน... “แล้วใครทำเสื้อกูลุ่ยวะ ป้ายชื่อก็เปรอะ” มันบ่นอุบโดยที่ไม่รู้เลยว่าไอ้คนที่มันพูดถึงก็คือหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ามันนั่นแหละ -_-; “แฟนกูเอง ทำไมมีปัญหาเหรอ?” ผมยักคิ้วให้มันหนึ่งทีแล้วโอบไหล่น้องโมอย่างออกนอกหน้าทำท่าปกป้องเต็มสตรีมเพื่อให้นวลน้องเลิกสงสัยสักที แม้ว่าตอนนี้สายตาพิฆาตของเธอจะทิ่มแทงไอ้เวย์จนตายได้ล้านรอบแล้วก็ตาม แต่คนตรงหน้าก็ทำหน้านิ่งๆเหมือนไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น และบางทีมันก็คงไม่รู้จริงๆนั่นแหละ! “อะไรเอ่ยเป็นแท่งๆ โดนแทงแล้วเจ็บ ^O^” ไอ้เวย์รับมุขแล้วยิ้มร่าพร้อมวาจาน่าตบ ให้ตายเหอะ ขอแนะนำให้มันลาออกจากการเป็นหมอแล้วไปตั้งคณะซะ ตลกแดกไม่เลิก! “เพื่อนพี่เตย์นี่ทะลึ่งจังนะคะ... หวังว่าคงทะลึ่งแค่ปากนะ J” น้องโมยกยิ้มแล้วเชิดสายตาอย่างเหนือกว่ามองไอ้เวย์ที่ยืนหัวเราะ เอาเข้าไป มันจะช่วยรู้ตัวสักนิดหน่อยได้มั้ยว่าโดนแขวะอยู่ “ทะลึ่งอะไร หมายถึงเข็มฉีดยาต่างหาก พี่เป็นคนใสๆนะ” ไอ้เวย์ไหวไหล่ด้วยท่าทีกวนประสาทก่อนจะหว่านยิ้มให้น้องโมและแลบลิ้นใส่ผม “น้องเป็นแฟนไอ้เตย์เหรอคะ?” “เรียกว่าเป็นเจ้าของน่าจะถูกต้องกว่านะคะ พี่หมอ” เสียงเรียบของน้องโมทำเอาผมกลืนน้ำลายหนึ่งอึก “อย่าเรียกหมอเลยจ้ะ เอาเป็นว่าแพทย์หญิงก็เพียงพอ ^-^” ไอ้เวย์ว่าแล้วตบบ่าน้องโมสองสามทีด้วยนัยน์ตาใสซื่อที่น่าหมั่นไส้เป็นที่สุด ผมเกลียดมันที่มันไม่รู้สึกเครียดอะไรเลยกับชีวิต ไม่เคยคิดอะไรสักอย่าง ในขณะที่ผมหัวจะแตกตายในบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องนี้! ผมกำลังจะอ้าปากไล่มันอีกครั้งแต่ทว่าน้องโมกลับ... “คงเหนื่อยน่าดูเลยนะคะ อยู่โรงพยาบาลก็แพทย์หญิง อยู่บนเตียงก็แพศยา...” อุ่ แรงส์! และเพราะประโยคนั้นของน้องโม ทำเอาไอ้เวย์กะพริบตาปริบๆอย่างไม่เข้าใจก่อนจะพยักหน้ารัวๆแล้วหัวเราะขึ้นมา “มุขนี้ฮาดีนะน้อง ทำดีค่ะทำดี” กำ เสือกคิดว่าเขาเล่นมุขอีก อยากจะลองผ่าสมองมันดูสักทีว่ามีอะไรวนเวียนอยู่ในนั้นบ้าง จะบ้าตาย! นี่มันมองโลกในแง่ดีเกินไปหรือมันโง่จริงๆวะ! เพลียชิบ! “อ้อ ในฐานะรุ่นพี่ที่เป็นเพื่อนไอ้เตย์มาอย่างยาวนาน มันเจ้าชู้มาก น้องระวังมันมีกิ๊กนะ เดี๋ยวจะหาว่าพี่ไม่เตือน อิอิ” ไอ้เวย์ว่าพลางทำท่ากระซิบด้วยน้ำเสียงเบาแต่ผมดันได้ยินทุกประโยคทำเอาผมหมั่นไส้จนต้องยกเท้าขึ้นมาเขี่ยร่างมันให้ออกห่างๆจากแฟนผม เหอๆ สมกับที่คนอื่นว่ามันติสต์... เคยเจอเมียน้อยเตือนเมียหลวงให้ระวังผัวมีชู้กันต่อหน้าต่อตามั้ย? แล้วไอ้ที่ทุเรศที่สุดมันทำยังกับมันไม่ได้ทำอะไรผิดเนี่ยแหละ น่ากลัวกว่าพวกโกหกเก่งอีก... เพราะแม่งคิดว่าตัวเองไม่ผิดจริงๆไง! “ขอบคุณที่เตือนนะคะ” น้องโมหัวเราะร้ายก่อนจะแอบเหล่สายตามาทางผมนิดหน่อยก่อนจะกลั่นกรองประโยคที่ตรงจนน่ากลัวออกมาอย่างเช่น “แต่หวังว่ากิ๊กนั่นคงจะไม่ใช่พี่เองหรอกนะคะ” ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆพร้อมกับเหงื่อผุดซึมตามกรอบหน้า ลมหายใจเริ่มสะดุดเมื่อมองไอ้เวย์ที่ขมวดคิ้วสูงจนผมกลัวว่ามันจะพูดอะไรออกมาและน่าตลกที่ว่า... “พี่ไม่ใช่กิ๊กหรอก พี่เป็นชู้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD