“นายครับ เราจับตัวไอ้มาร์คได้แล้วครับนาย พร้อมลูกน้องมันอีก 5 คน จะให้เราจัดการเลยไหมครับ”
“เก็บมันเอาไว้ก่อน ฉันมีเรื่องต้องถามมัน”
“ครับ”
พอสิ้นสุดคำสั่ง ทิม ลูกน้องคนสนิทของมาเฟียหนุ่มก็เดินกลับออกจากห้องทำงานของเจ้านายไปทันที
อีธาน มาเฟียหนุ่มลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง ผู้โด่งดัง เขาเป็นทั้งมาเฟียและนักธุรกิจหนุ่ม ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเพราะธุรกิจที่เขาทำแทบไม่มีคู่แข่งเมื่อต่างก็กลัวอิทธิพลมืดที่มองไม่เห็น
“ทิม เข้ามาหน่อย”
พอสิ้นเสียงของเจ้านาย เลขาคนสนิทที่พึ่งเดินออกไปก็เดินเข้ามาทันที
“ไปเตรียมรถ ฉันคิดว่าคงต้องสะสางไอ้มาร์คให้จบๆไปก่อนที่มันจะรอดไปอีก”
“ครับ”
พอได้รับคำสั่ง เลขาหนุ่มสุดล่ำก็เดินกลับออกไปทันที ส่วนอีธาน เขาค่อยๆวางปากกาในมือลงแล้วมองไปยังรูปครอบครัว ที่ตอนนี้เหลือเพียงแค่เขาคนเดียวแล้วในโลกอันกว้างใหญ่นี้
“มันต้องชดใช้ในสิ่งที่มันทำ”
เขาพูดกับรูปของบิดามารดา เมื่อเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วที่เขาให้คนตามหามาร์ค หลังจากบิดามารดาของเขาต้องเสียชีวิตเพราะถูกอีกฝ่ายทำให้เครื่องบินส่วนตัวที่ทั้งสองนั่งมีปัญหาจนเหมือนเกิดอุบัติเหตุ แต่คนของเขากลับเห็นคนของมาร์คอยู่ที่สนามบินในวันนั้น
“ปลุกมันขึ้นมา”
พอมาถึง อีธานก็สั่งให้ปลุกร่างอันไร้สติจากการถูกทรมานอย่างหนักของมาร์คขึ้นมา
“แกทำอย่างนั้นไปทำไม”
เขาถามขึ้น เมื่อมาร์คค่อยๆเงยหน้ามองอีธานพร้อมกับรอยยิ้มเย้ยหยัน
“ถ้าบอกไปแกจะเชื่อเหรอ หึหึ...ฉันเป็นแค่คนที่ทำตามคำสั่ง อย่างฉันก็เป็นได้แค่หมารับใช้ แกคงคิดไม่ถึงหรอก...ว่าใครทำพ่อกับแม่แกแบบนั้น”
อีธานถึงกับขมวดคิ้วยุ่ง เมื่อเขาให้คนหาข้อมูลส่วนตัวของมาร์ค แต่กลับไม่เจออะไรเลยสักอย่าง
“แกจะบอกว่ามีคนสั่งให้แกทำอย่างนั้นเหรอ อย่ามาโกหก บอกฉันมาว่าแกทำไปเพื่ออะไรห๊ะ!”
ผลั๊ว!
มาเฟียหนุ่มยกขาขึ้นเตะไปที่หน้าของมาร์คอย่างเริ่มหมดความอดทน เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่พูดอ้อมไปมา
“เอามันไปจัดการ”
แล้วเขาก็หมดความอดทนจริงๆก่อนจะหันหลังเพื่อกลับออกไป
“โลแกน...เขาสั่งให้ฉันเป็นคนจัดการพ่อแม่แก”
พอเห็นว่าอีธานกำลังจะเดินออกไป มาร์ครีบบอกขึ้น เมื่อทุกอย่างเริ่มไม่ได้อยู่ในแผนของเขาแล้ว ทำเอาอีธานถึงกับหยุดเดินแล้วหันมามองมาร์คอีกครั้ง
“แกว่ายังไงนะ...ใครคือโลแกน”
“โลแกน เขาเป็นคนสั่งให้ทำ”
อีธานถึงกับขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ เมื่อเขาแน่ใจว่าไม่เคยเจอหรือมีเรื่องบาดหมางกับคนที่ชื่อโลแกนมาก่อน แล้วอีกอย่างเขาไม่เคยรู้จักคนชื่อนี้เลยนี่สิ
“หลักฐานล่ะ แกจะมาพูดมั่วเพื่อเอาชีวิตรอดอย่างนี้ มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ”
“ฉัน...ฉันนี่ไงหลักฐาน ฉันทำงานให้เขามาสิบกว่าปี ฉันเป็นแค่เงาของหมอนั่นมาตลอด เขาสั่งให้ฉันทำ อย่างฉันจะมีเงินที่ไหนไปทำเรื่องแบบนั้น...”
“จัดการมัน”
อีธานไม่อยากเสียเวลามาสนใจฟังอีกต่อไป เขาหันหลังเดินกลับออกไปพร้อมสั่งให้ลูกน้องจัดการมาร์ค ทำเอามาร์คที่ไม่คิดว่าต้องมาจบชีวิตลงที่นี่ได้แต่อ้าปากค้าง ก่อนจะตะโกนพูดออกมาเสียงดัง แต่มันก็ดูไร้ผล เมื่ออีธานแทบไม่หันกลับมามองเขาอีกเลย
“ไปสืบมาเรื่องของคนที่ไอ้หมอนั่นพูดถึง”
อีธานสั่งขึ้น เมื่อไม่คิดว่าจะมีคนอยู่เบื้องหลังของมาร์คอีก สีหน้าที่ปกติแล้วดูเงียบขรึมกลับเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
ไม่กี่วันต่อมา ทิมก็เดินเอาเอกสารที่เขาให้คนไปสืบเรื่องที่อีธานอยากรู้เข้ามาให้
“นายครับ นี่เป็นข้อมูลที่คนของเราพอจะหามาได้ น่าจะใช่โลแกน แม็คเวลครับ เพราะเหมือนสองคนนี้ข้องเกี่ยวกัน”
“อืม ออกไปได้”
อีธานเปิดเอกสารตรงหน้าดู และพบว่าเป็นข้อมูลที่ไม่ได้มากมายอะไรนอกจากรูปที่แสดงว่ามาร์คและโลแกนรู้จักกันจริงๆ ก่อนเขาจะมาเจอข้อความที่บอกว่า มาร์คเป็นคนของโลแกน และยังเคยเป็นคนสนิทมากของโลแกนอีกด้วย ทำเอาอีวานเริ่มเชื่อในสิ่งที่มาร์คพูด
“แล้วทำไมหมอนี่ถึงต้องทำแบบนั้น...”
อีธานถึงกับคิดหนัก เมื่อโลแกนไม่ใช่พวกนักเลงหรือมาเฟียหรือพวกนอกกฎหมายที่เขาจะจัดการได้ง่ายๆเหมือนที่ผ่านมา ก่อนเขาจะสะดุดกับข้อมูลที่บอกว่าโลแกนกำลังสนใจเข้ามาเปิดตลาดธุรกิจแบบเดียวกับที่เขาทำ
“..................”
อีธานถึงกับกำกระดาษตรงหน้าแน่นเมื่อเห็นรูปความสนิทสนมระหว่างมาร์คและโลแกน ซึ่งถ้าไม่สนิทกันมากคงไม่ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขนาดนี้อย่างแน่นอน
หรือจะเป็นอย่างที่ไอ้เวรนั่นบอก...
อีธานคิดในใจ เพราะเท่าที่เขารู้มาร์คไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องจัดการสังหารบิดามารดาของเขาเลยสักนิด จะบอกว่าโลแกนเป็นคนสั่งก็คงเชื่อได้
“บอกให้คนเตรียมเครื่อง ฉันคงต้องไปเดนมาร์ค”
และอีธานก็ตัดสินใจที่จะพิสูจน์ความจริง เมื่อเขาคงปล่อยวางไม่ได้ถ้ายังไม่รู้ว่าคนที่สังหารบิดามารดาของเขาจริงๆแล้วคือใครกันแน่