“ตะวันไม่ได้มีธุระอะไรหรอกค่ะคุณภูมิ แค่มาให้กำลังใจเพื่อน” เธอส่งภาษากายให้ชายหนุ่มเห็นว่าเพื่อนที่เธอว่าก็คือผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ด้วยกันคนนี้ “แต่น่าเสียดายนะคะที่เจ้านายคุณภูมิน่ะเขี้ยวลากดิน ไม่เคยให้โอกาสคนเลย เพื่อนตะวันถึงจะไม่มีประสบการณ์แต่ก็ขยัน เรียนรู้ไว ประวัติก็ดี น่าจะรับมาทดลองงานสักสามเดือนก่อนก็ได้”
ระภูมิเลิกคิ้วน้อยๆ ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ เพราะไม่มีทางที่คุณวัตรจะไม่รับคุณอินเข้าทำงานที่เอสพีเจฯ
“น้องตะวันพูดเหมือนคุณวัตรเป็นเจ้านายผมคนเดียวอย่างนั้นแหละ”
เป็นที่รู้กันว่าเลขาสาวฝีปากกล้าคนนี้ไม่ค่อยถูกใจท่านประธานหนุ่มแห่งอาณาจักรเอสพีเจฯ สักเท่าไร ซึ่งเขาก็ค่อนข้างแปลกใจ เพราะศิระวัตรถือได้ว่าเป็นเสือผู้หญิง และชอบคนสวย แต่กับหญิงสาวคนนี้นอกจากศิระวัตรจะไม่สนแล้ว ยังออกอาการเขม่นเข่นเคี้ยวอีกด้วย
เลขาสาวเสหัวเราะเสียงใส “ก็เจ้านายตะวันด้วยนั่นแหละค่ะ แต่เป็นเจ้านายที่ตะวันขยาดกลัวสุดๆ”
“อะแฮ่ม !!”
เสียงกระแอมไอที่ดังมาจากหน้าประตูห้องท่านประธานทำให้ธารตะวันสะดุ้งโหยง ทำเสียงเข้มข่มขวัญขนาดนี้ เขาต้องได้ยินที่เธอนินทาแหงๆ
“คุณวัตรคะ ดิฉัน...”
ศิระวัตรทำนิ่งไม่พูดไม่สบตากับเลขาของตัวเอง แม้เมื่อครู่หญิงสาวจะทำกระซิบกระซาบป้องปากเพียงใด แต่เขาก็ออกมาทันได้ยินคนช่างเจรจาบ่นอยู่ดี
“เดี๋ยวคุณอินเข้ามาเริ่มงานพรุ่งนี้ได้เลยนะครับ ถ้ามาถึงก็ให้ภูมิเขาพาไปรายงานตัวที่ฝ่ายบุคคล... ฉันฝากด้วยนะภูมิ”
ศิระวัตรมองเลยมาที่อุรัตน์นรินทร์ สั่งความทั้งหญิงสาวและระภูมิเสร็จก็ทำท่าจะเดินตัวปลิวออกไป ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้
“อ้อ ธารตะวัน วันนี้กลับไปเตรียมตัวด้วย พรุ่งนี้เราต้องเดินทางกันแต่เช้า... แล้วทำงานกับผมต้องตรงต่อเวลาห้ามมาสาย ห้ามอู้งานมาเดินเล่นเฉิดฉายให้ทั่วบริษัทอย่างวันนี้ล่ะ ผมไม่ชอบ”
“ค่ะ…” ธารตะวันก้มหน้ารับคำสั่งด้วยรอยยิ้มจืดเจื่อน พอเจ้านายลับหลังไปเลยหันมาไล่บี้เอากับเพื่อนรัก “นี่มันอะไรกันอิน ก็ไหนบอกว่าสัมภาษณ์ไม่ผ่านนี่”
“หือ อินยังไม่ได้พูดเลยนะตะวัน” ทีแรกเธอว่าจะแกล้งเพื่อนเล่นๆ แล้วค่อยเฉลยให้เซอร์ไพร์ส ใครจะคิดว่าเพื่อนเธอจะเข้าใจผิดจริงจังขนาดนี้
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะ เห็นทำหน้าสลดออกมาแบบนั้น”
“อินขอโทษ อินแค่จะล้อตะวันเล่นเอง” อุรัตน์นรินทร์กอดเอวเพื่อนขอโทษขอโพยยกใหญ่
เธอโชคดีที่มีธารตะวันเป็นเพื่อน เธอออกมาจากบ้านหลังนั้นตัวเปล่า มีเงินเก็บเพียงเล็กน้อยในบัญชี ประสบการณ์ทำงานที่ไหนก็ไม่มี ถ้าไม่ได้หญิงสาวให้อาศัยอยู่ที่คอนโดฯ แบบฟรีๆ ไปก่อน งานดีๆ กับเจ้านายแสนใจดีอย่างคุณวัตร ธารตะวันก็เป็นคนแนะนำ ช่วยเหลือพามาสมัครทุกอย่าง
“ไม่ยกโทษให้ง่ายๆ หรอก อินต้องทำของอร่อยให้ตะวันกินก่อน ตะวันถึงจะพิจารณาดูว่าสมควรหายโกรธมั้ย” ว่าเสร็จหญิงสาวก็ดึงมือเพื่อนออกเดิน
“เดี๋ยว แล้วตะวันไม่กลับไปทำงานหรอกเหรอ”
“วันนี้น้องตะวันได้สิทธิ์ทำงานครึ่งวันน่ะครับ เพราะต้องเตรียมตัวเดินทางไปเชียงใหม่พรุ่งนี้แต่เช้า” ระภูมิไขข้อสงสัยให้อุรัตน์นรินทร์
“อุ๊ย ตะวันลืมแนะนำไปเลยค่ะ นี่คุณภูมิบอดี้การ์ดคุณวัตรนะอิน... และนี่อิน เพื่อนรักตะวันเองค่ะ” ธารตะวันแนะนำรวดเดียวเสร็จสรรพ
ด้วยความที่อุรัตน์นรินทร์น่าจะอ่อนกว่าระภูมิอยู่หลายปี หญิงสาวจึงพนมมือไหว้ก่อน
“คุณภูมิจะแวะไปกินข้าวเย็นกับอินและตะวันก็ได้นะคะ จะได้สนิทกันไวๆ”
“จริงหรือเปล่าครับ งั้นผมไม่เกรงใจนะ” ชายหนุ่มรีบรับไมตรีด้วยความเต็มอกเต็มใจ เพราะเขาอยากทำความรู้จักกับอุรัตน์นรินทร์ให้มากขึ้น เพื่อจะได้สืบข่าวให้ผู้เป็นนายอยู่แล้วด้วย
“ให้คุณภูมิไปกินข้าวเย็นกับเรานะอิน คุณภูมิใจดี ต่อไปอินคงได้ติดต่อประสานงานกับคุณภูมิบ่อยๆ”
“ได้อยู่แล้วจ้ะ” อุรัตน์นรินทร์เต็มใจเป็นอย่างยิ่งที่จะมีเพื่อนใหม่ ชีวิตของเธอจะได้ไม่เงียบเหงาจนเกินไปนัก “เชิญที่ห้องใหม่อินนะคะคุณภูมิ ตะวันเขายกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของอินแล้ว”
“อะไรๆ มาอยู่ไม่กี่วัน จะยึดห้องกันเลยเหรอจ๊ะแม่คุณ” ธารตะวันต่อว่าเพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนจะเสหัวเราะออกมาพร้อมกัน
เมื่อนัดแนะกันเสร็จสรรพ เป็นอันว่าหญิงสาวทั้งสองจะไปรอบอดี้การ์ดหนุ่มที่คอนโดฯ ซึ่งเป็นที่อยู่ของอุรัตน์นรินทร์ ส่วนธารตะวันอยู่อีกที่ และคอนโดฯ นี้ระภูมิก็รู้จักเป็นอย่างดี
เย็นวันนั้น
“จะรีบไปไหนนักหนาวะภูมิ”
ชายหนุ่มที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านหลังใหญ่โตราวคฤหาสน์กำลังนั่งไขว่ห้างจิบน้ำเย็นเจี๊ยบที่เด็กรับใช้เอามาให้ ไล่สายตามองคนสนิทอย่างจริงจังและต้องการคำตอบ ตั้งแต่ก่อนออกจากบริษัทเขาก็เห็นระภูมิหมั่นยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วดูอีก พอกลับมาถึงบ้านก็ไม่กลับไปพักอาบน้ำอาบท่าเหมือนอย่างเคย แต่กลับทำท่าจะออกนอกบ้านไปอีก
“วันนี้ผมมีนัดครับ”
“เดทเหรอ ไม่เห็นนายเคยบอกนี่หว่า ยินดีด้วยนะเพื่อน” เขากับระภูมิโตมาด้วยกัน เป็นเหมือนญาติ เหมือนเพื่อน เหมือนพี่เหมือนน้อง แม้ระภูมิจะบอกกับคนอื่นเสมอว่าบ้านเขามีบุญคุณที่ชุบเลี้ยงตนมาตั้งแต่เล็ก และเห็นเขาเป็นนายเหนือหัวเสมอมาก็ตาม
“โธ่ คุณวัตรก็พูดไปนั่น ใช่ที่ไหนล่ะครับ ผมแค่จะไปทานข้าวบ้านน้องตะวันเอง”
ศิระวัตรถึงกับหูผึ่ง สังเกตเห็นอยู่บ่อยครั้งหรอกว่าธารตะวันชอบเล่นหูเล่นตากับเพศตรงข้าม แต่ไม่คิดว่าแม้แต่ระภูมิมือขวาของเขาเจ้าหล่อนก็ไม่เว้น !
“ไปถึงขั้นไหนกันแล้วล่ะ ?”
ระภูมิมองนายด้วยอาการมึนงงถึงขีดสุด ไอ้หางเสียงสะบัดๆ แบบนั้นมันชักจะยังไงๆ
“เข้าใจผิดใหญ่แล้วครับคุณวัตร น้องตะวันเธอแค่ชวนผมไปทานข้าวฝีมือคุณอิน ผมเห็นเป็นช่องทางที่ดีที่จะได้ทำความรู้จักและสืบเรื่องของเธอให้คุณวัตร ก็เลยรับคำเชิญไป”
“ก็ไม่เห็นจะต้องรีบแก้ตัวขนาดนั้นนี่ แกจะคบจะคั่วอยู่กับใคร ฉันจะไปว่าอะไรแกได้” หัวคิ้วที่ขมวดเข้าหากันคลายออกโดยที่เจ้าของไม่ทันรู้ตัว
“ถ้าคุณวัตรไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับเดี๋ยวน้องตะวันจะคอย”
“เดี๋ยวภูมิ...” ศิระวัตรบิดตัวไปมาเล็กน้อยแก้เก้อ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตัวเองประหม่าอะไรนักหนา กับอีแค่จะบอกกับลูกน้องว่า... “รอฉันด้วยสิ ขอไปเปลี่ยนชุดก่อน ฉันจะไปด้วย”
“แล้วคุณวัตรจะไปทำไมล่ะครับ ?”
“ฉัน... ฉันแค่อยากไปทำความคุ้นเคยสนิทสนมกับน้องสาวฉันแค่นั้นแหละ”
นั่นสิ... เขาจะไปทำไม ศิระวัตรก็ยังหาคำตอบแน่ชัดให้ตัวเองไม่ได้ รู้เพียงแต่ว่าไม่อยากปล่อยให้ระภูมิไปเจอธารตะวันเพียงลำพัง ถึงน้องสาวเขาจะอยู่ด้วยอีกคนก็ตาม แต่เขารู้ว่าเจ้าหล่อนไม่ได้พักที่คอนโดฯ นั้น เดี๋ยวดึกดื่นก็คงออดอ้อนมารยาให้ระภูมิไปส่งอีก... บางทีเขาคงแค่เป็นห่วงสวัสดิภาพความโสดลูกน้องตัวเอง กลัวจะไม่ทันมารยาผู้หญิงละมั้ง
“สวัสดีค่ะคุณภูมิ... คุณวัตร” แรกเริ่มธารตะวันเปิดประตูออกมาต้อนรับแขกด้วยรอยยิ้ม แต่พอเห็นว่ามีคนตัวสูงใหญ่อีกคนในชุดลำลองแปลกตาหลบฉากอยู่ รอยยิ้มนั้นก็หายวับไปทันตา
“จะไม่เชิญแขกเข้าบ้านหรือไงคุณ” ศิระวัตรอดรนทนไม่ไหวเหน็บเข้าให้เสียหนึ่งที
“เชิญค่ะ” หญิงสาวเชื้อเชิญอย่างเสียไม่ได้ แต่พอเห็นเจ้านายหนุ่มเดินตรงดิ่งเข้าไปอย่างคุ้นเคยเหมือนบ้านตัวเองก็ไม่ปานแล้ว ก็อดจะบ่นขมุบขมิบไม่ได้ “ไม่รู้จะมาทำไม ใครเชิญไม่ทราบ”
แน่นอนว่าเวลางานหรือในเอสพีเจฯ เธอต้องทำตัวพินอบพิเทา ค่อนไปทางกลัวเขาจนหัวหด แต่นี่มันนอกเวลางาน แถมเป็นบ้านของเธออีก (ถึงเขาจะเป็นคนให้ก็ตาม) เรื่องอะไรเธอต้องไปหงอให้เขากัน
ปึก ! โอ๊ย ! อูย…
ธารตะวันถูจมูกตัวเองจนแดง เมื่อเผลอเดินชนกำแพงที่ไหนก็ไม่รู้... ความจริงไม่ใช่กำแพงที่ไหนหรอก แต่เป็นแผ่นหลังกว้าง บึกบึนของใครบางคนต่างหาก
“จะหยุดเดินทำไมไม่บอกล่ะคะ”
ผู้บริหารหนุ่มก้มลงเล็กน้อย ใบหน้ายังคงนิ่งสนิท ไม่ได้เห็นเรื่องที่หญิงสาวซุ่มซ่าม ป้ำเป๋อเป็นเรื่องหน้าขันแต่อย่างใด ตรงกันข้าม มันกลับน่าหงุดหงิดซะมากกว่า
“ปากเก่งน่ะไม่ว่า แต่เก็บไว้เจรจาหรือพูดคุยต้อนรับลูกค้าดีกว่านะธารตะวัน ถึงนี่จะเป็นคอนโดของคุณ แต่ผมก็เป็นคนเซ็นอนุมัติให้... เมื่อให้ได้ผมก็เอาคืนได้ทุกเมื่อ”
หญิงสาวเม้มปากแน่น วางอำนาจในที่ทำงานไม่พอ ศิระวัตรยังตามมาวางก้ามที่บ้านเธออีก ทำงานกับเขามาเกือบ 2 ปี จะมีวันไหนบ้างมั้ยที่เธอไม่ถูกเขาดุ