Stay Hug ที่พบรัก 18

1127 Words
Stay Hug ที่พบรัก 18 วันถัดมา... “เด็กเล็ก!” “เด็ก!” ช่วงเที่ยงของวันถัดมา ฉันเดินทางจากโรงแรมมาถึงบ้านที่ตัวจังหวัดอย่างปลอดภัย จังหวะที่เลี้ยวรถเข้าไปจอดในรั้วบ้านและเปิดประตูลงไป ก็ได้ยินเสียงพี่ชายทั้งสองคนเอ่ยเรียก ก่อนจะวิ่งเข้ามากอดฉันแล้วกระโดดไปมาเหมือนเด็ก ทั้งที่พี่คนโตน่ะอายุสามสิบ ส่วนพี่คนรองก็ปาไปครึ่งห้าสิบแล้ว “โอ๊ย ปล่อยหนูก่อน พี่อชิ! พี่อธิ!” พยายามฝืนแรงกอดของพี่ชายทั้งสองคน และเมื่อมีช่องว่างก็มุดใต้วงแขนหลบออกมา ทันทีที่รู้ว่าตัวฉันหลบออกมาได้แล้ว พี่ชายก็หัวเราะลั่นอย่างมีความสุขที่ได้แกล้งกันตั้งแต่ที่ก้าวเท้าลงจากรถแบบนี้ “ฮ่า ๆ ๆ เหนื่อยไหม พี่ทำกับข้าวไว้รอแล้วเนี่ย” พี่อชิเลิกแกล้งทั้งยังเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “หนูหิวมาก อยากกินกาแฟด้วย” ฉันตอบพี่ชายระหว่างที่ทั้งสองคนเปิดท้ายรถและหยิบกระเป๋าเป้สะพายหลังของฉันลงมา ส่วนพี่คนรองเปิดประตูรถฝั่งคนขับแล้วโน้มตัวไปหยิบกระเป๋าสะพายข้างและข้าวของสำคัญมาถือไว้เพื่อที่จะได้ถือให้ฉัน “ไปกินข้าวกัน พ่อกับแม่รออยู่” พี่อธิบอก ฉันรีบพยักหน้าก่อนจะวิ่งเข้าบ้านด้วยความคิดถึงพ่อกับแม่ เมื่อเจอแม่นั่งรอที่โซฟาก็รีบเข้าไปกอดไว้ทันที “คิดถึงจังเลย” “คิดถึงเหมือนกัน เป็นยังไงบ้างลูกหนูโอเคดีใช่ไหม?” แม่ทวนถามพร้อมกับลูบหน้าลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน “โอเคมากเลยค่ะ กินอิ่มนอนหลับ อ้อ! หนูลืม สวัสดีค่ะแม่ สวัสดีค่ะพ่อ” ฉันรีบยกมือไหว้ทั้งพ่อและแม่ทันทีเมื่อนึกขึ้นมาได้ คนถูกไหว้หัวเราะเบา ๆ กับความเด๋อด๋าของฉัน “ครับลูก หิวหรือยัง พ่อกับพี่อชิทำกับข้าวไว้รอเยอะเลย ไปกินก่อนไป” พ่อที่นั่งอยู่ไม่ไกลเอ่ยชวน “ไปกันค่ะ หนูหิวมากเลย” “หนุ่ม ๆ วางของน้องไว้ที่นี่ก่อนนะลูก จะได้ไปกินข้าวกัน” พ่อบอกพี่ชายทั้งสองคน จากนั้นไม่นานเราทั้งห้าคนก็ย้ายมานั่งที่ห้องกินข้าวของบ้าน บนโต๊ะมีอาหารหน้าตาน่าทานจัดวางอยู่ เรื่องรสชาตินั้นไม่ต้องเอ่ยถึง เพราะฉันมั่นใจในฝีมือของพ่อและพี่ชายมาก ๆ ต้องอร่อยอยู่แล้ว “พี่อชิ ทำไส้อั่วให้หน่อยได้ไหมคะ อยากเอาไปไว้กินที่นู่นอะ” นั่งกินข้าวไปสักพักก็เอ่ยอ้อนพี่ชายที่ทำไส้อั่วอร่อยโดนใจฉันที่สุด “ได้ เดี๋ยวพี่ทำให้ เอาไปฝากเพื่อนเราด้วยแล้วกัน” “ขอบคุณค่ะ หล่อแล้วยังใจดีอีกพี่ใครนะเนี่ย” ชมพี่ชายด้วยรอยยิ้มซุกซนอยู่ดังเดิม “เอาละ ๆ กินข้าวกันก่อนลูก แล้วค่อยคุยกันนะคะ” แม่เตือนเราสามพี่น้องที่เหมือนจะมีเรื่องคุยกันมากมายเสียเหลือเกิน คืนนี้คงไม่มีใครยอมนอนแน่เพราะเราคงจะนั่งคุยกันตลอดทั้งคืนเหมือนอย่างทุกครั้งที่ฉันกลับมาที่บ้าน แต่เพราะวันนี้พ่อกับแม่ยังต้องออกไปทำงานที่โรงแรมและพี่ชายต้องเข้าไปดูร้านอาหาร ช่วงเวลาบ่ายฉันเลยนอนกลิ้งไปมาอยู่ที่ห้องนอนของตัวเอง วันนี้ฉันออกจากที่บ้านช่วงสาย ๆ พอถึงนี่ก็ตอนใกล้เที่ยงซึ่งทุกคนที่บ้านต่างรอกินข้าวเที่ยงพร้อมกัน พอเข้าสู่ช่วงเวลาบ่ายถึงได้กลับไปทำงานต่อ เสื้อผ้าถูกนำออกมาแขวนไว้ที่ตู้เสื้อผ้าในห้องนอน เหมือนแม่จะให้คนเข้ามาทำความสะอาดห้องนอนไว้ให้แล้วนะเนี่ยไม่มีฝุ่นเลยสักนิดเดียว เก็บของเสร็จก็เดินลงมานั่งเล่นที่ห้องรับแขก ขณะที่กำลังนั่งเบื่อ ๆ ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความคุยเล่นกับสองสาวไปพลาง แนนนี่บอกว่าวันนี้ลูกค้าหน้าร้านไม่ค่อยเยอะเพราะที่นู่นฝนตก ต่างจากที่นี่ที่แดดออกเปรี้ยง ส่วนธิชาบ่นพี่ปริมในกลุ่มไฟแลบเลย ฟ้องด้วยว่าคนพี่แกล้งสั่งของตั้งแต่เช้า เพราะเหมือนที่โรงสีของเขาจะจัดงานทำบุญโรงสีหรืออะไรสักอย่างที่ฉันไม่ค่อยเข้าใจ แต่โดยรวมพี่ปริมโดนบ่นค่ะ ส่วนเจ้าสีขาวลูกคนเล็กของบ้าน ก็หนีไปนอนบนหลังตู้แล้ว ฉันเลยไม่กล้าไปกวนมันมากนัก ปล่อยให้นอนไปก่อนแล้วกัน เฮ้อ อยู่บ้านคนเดียวเหงาอีกแล้วสิ และด้วยความที่จังหวัดบ้านเกิดเป็นจังหวัดเล็ก ๆ ทำให้ไม่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นพื้นเมืองเอาไว้ วิถีชีวิตของชาวเมืองนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งก็ยังคงน่าหลงใหลสำหรับฉัน หลังจากนอนเล่นโทรศัพท์บนโซฟาไปสักพักใหญ่ก็มีสายเรียกเข้าจากคนที่อยู่ทางนู้น ก็คนที่โทร. มาหากันตั้งแต่เช้า แล้วถามว่าฉันจะออกเดินทางตอนไหนนั่นแหละ คุณพี่แทนคุณคนเดิม “ฮัลโหล” ส่งเสียงทักทาย ก่อนจะได้ยินเสียงคนปลายสายทักทายกลับมา (ถึงบ้านหรือยัง?) พี่แทนคุณเอ่ยถามอย่างเป็นปกติ “ถึงสักพักใหญ่แล้วค่ะ” (เหนื่อยไหม?) คนปลายสายยังเอ่ยถามต่อ “ไม่เหนื่อยค่ะ เอ๊ะ? อยู่ที่ไร่เหรอ ทำไมเสียงแบบ...เสียงดังนิดหน่อย” ฉันเอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อได้ยินเสียงคนคุยกันดังแทรกเข้ามา (ใช่ คุมคนงานตัดลำไยน่ะ จะส่งเข้าโรงงาน) “แต่แนนนี่บอกที่นั่นฝนตกไม่ใช่เหรอคะ?” เป็นฉันที่ทวนถามด้วยความสงสัย (หยุดสักพักแล้ว เลยต้องรีบเก็บ เดี๋ยวถ้าโดนฝนตกอีกจะเสียหายเอา) “ระวังด้วยนะคะ ฝนตกขนาดนี้น่ะ” (โอเค จะระวัง ถึงบ้านแล้วก็พักนะตอนเย็นว่างแล้วจะโทร. หาอีกที) ปลายสายบอกเพียงเท่านั้นแล้วตัดสายไป ฉันเองก็ไม่ได้ขัดอะไร หลังจากที่นอนว่าง ๆ ก็ตั้งใจจะเอารถไปเช็กที่ศูนย์ พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องออกไปไหน กลับบ้านของฉันคือการพักผ่อนที่บ้านจริง ๆ นะคะไม่อยากออกไปไหนเลย อีกอย่างพรุ่งนี้พี่ ๆ บอกว่าจะหยุดอยู่เป็นเพื่อน และฉันคงให้พี่ชายทำไส้อั่วเตรียมไว้เลย วางแผนไว้แล้วอย่างแยบยล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD