ย้อนไปเมื่อยี่สิบนาทีที่แล้ว
"กินเยอะๆ นะหมอ"
"ทำไมซื้อมาเยอะแบบนี้ล่ะ" ว่าพลางเหลือบมองอาหารที่ดูจะสะดุดตาที่สุดคือกุ้งเผาตัวโต เห็นแล้วก็ขนลุก ยังดีหน่อยที่มีไข่เจียวหมูสับวางข้างกัน
"เหอะน่า วันนี้หนูรวย กุ้งร้านนี้ตัวใหญ่มาก เห็นแล้วนึกถึงหมอเลย" กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เธอแพ้กุ้ง ดังนั้นเธอจึงเลี่ยงที่จะเผชิญกับมัน ช้อนกลางในมือคุณหมอจงใจตักแต่ไข่เจียวใส่จานตัวเอง ต่างจากเด็กสาวตรงข้าม ที่กำลังเมามันกับการแกะกุ้ง
"แกะไม่เป็นเหรอ" เงยหน้าขึ้นถามคนที่กำลังทานแต่ไข่เจียว ไม่สนใจจะหยิบจับกุ้งสักนิด
"ค่ะ" เอ่ยปฏิเสธออกไปอย่างเสียไม่ได้
"อย่างนี้นี่เอง บอกสิหมอ พอใจจะได้จัดให้" ยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะเรียงกุ้งที่เพิ่งบรรจงแกะใส่จานคุณหมอ
"เนี่ย กว่าจะได้แต่ละตัวน่ะ ยากมากเลยนะ หมอต้องกินให้หมดด้วย หนูเสียสละตัวใหญ่ให้หมอเลยล่ะ"
"เหรอคะ เดี๋ยวหมอมานะ"
"อ้าว... ไปไหนล่ะ" ใบหน้าสลดลงทันที
"ลืมทานยาก่อนอาหารน่ะค่ะ" นั่นทำให้พอใจพยักหน้ารับอย่างเข้าใจพร้อมฉีกยิ้มอีกครั้ง
หล่อนเดินเข้าห้องนอนตัวเอง ก่อนจะเปิดกระเป๋าถือ หยิบแผงยาแก้แพ้ที่มักพกติดกายไปไหนมาไหนด้วยประจำ และส่งเม็ดยาเข้าปากทันที มันช่วยได้เสมอ ซึ่งยามนี้อาจจะทานช้าไปหน่อย
"ที่แขนหมอมีผื่นแดงด้วยอะ" ผื่นสีแดงเป็นวงเริ่มขึ้นที่เนื้อตัวคุณหมอ
"ที่คอก็ด้วย" บอกอีก
"เดี๋ยวก็หายค่ะ ไม่ต้องห่วง" ว่าออกไปพลางลูบเนื้อตัวเองด้วย เพราะความคัน
"อาการเหมือนคนแพ้กุ้ง หมอแพ้กุ้งเหรอ"
"ค่ะ" คงจะโกหกไม่ได้แล้วครั้งนี้
"แล้วทำไมไมบอก จะกินทำไมเล่า" รู้สึกโมโหแทนสงสารขึ้นมาเสียอย่างงั้น
"หมออยากกินนี่คะ"
"บ้าเหรอหมอ เป็นหมอก็น่าจะรู้นี่ว่าไม่ควรกิน"
"อย่าดุสิคะ"
"ก็น่าจะบอกกันสักหน่อย หนูรู้สึกผิดนะรู้มั้ย ที่ทำให้หมอเป็นแบบนี้" เสียงอ่อนลง
"ไปอาบน้ำเถอะค่ะ หมอหนังเหนียว ไม่ตายง่ายๆ หรอก"
"ชิ! ทำเป็นอวดเก่ง"
"ห้ามลุกไปไหนด้วยล่ะ หนูอาบน้ำแปบเดียว" พูดจบก็วิ่งปร้าดเข้าห้องไป และเหมือนที่เด็กสาวพูดจริงๆ ไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำพอใจก็เดินหน้าขาววอกออกมา
"อาบน้ำจริงหรือเปล่านะ" ไม่วายเอ่ยแซวทั้งที่ยังคงนอนหลับตานิ่ง
"ป่วยจริงป่ะเนี่ย ไปล้างจานก่อนนะ เดี๋ยวมาหาใหม่ และก็นอนตรงนี้ก่อน ห้ามลุก! " สั่งเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าครัวจัดการทำความสะอาด เก็บอาหารที่เหลือคือไข่เจียวเข้าตู้ ส่วนกุ้งเผาอีกหลายตัว โยนทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ลังเล ล้างไม้ล้างมือ ปิดไฟบางดวงที่ไม่ใช้แล้วเดินกลับมาหาคุณหมอ
"หมอ เข้าห้องเถอะ" เริ่มสังเกตเห็นรอยแดงที่ตัวยุบลงเป็นปกติ แต่ใบหน้าคุณหมอดันมีเหงื่อผุดออกมา เห็นหล่อนไม่หือไม่อือ จึงใช้มืออังหน้าผาก
"โห ตัวร้อนจี๋เลย ตกลงเป็นอะไรกันแน่เนี่ย" เป็นไข้หรือเปล่านะ เริ่มคิดเองเออเองไปใหญ่
"หมอๆ หมอตัวร้อนน่ะ ไปโรงพยาบาลมั้ย" ไม่มีเสียงตอบกลับใดๆ
ค่ำคืนนั้นคุณหมอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เพราะหล่อนนิ่งไป ไม่หือไม่อือ แต่ยังพอรู้สึกตัว เพียงแค่ร่างกายอ่อนแรง ดีที่พอใจยังมีสติต่อสายถึงห้องฉุกเฉินที่คุณหมอทำงานอยู่ นั่นเพราะสังเกตจากป้ายห้อยคอหล่อนว่ามีเบอร์ตรงอยู่ด้านหลัง และรอคอยเพียงไม่นานรถพยาบาลก็มาถึงที่ นั่นถือเป็นอภิสิทธิ์
"พี่เอาหมอนกับผ้าห่มมาให้ ไม่ต้องห่วงนะ หมอมะนาวเค้าแค่หลับพักผ่อนน่ะ" พยาบาลคนเดิมที่เคยเจอกันครั้งก่อน เดินเข้ามาพูดคุยกับพอใจอย่างเป็นมิตร
"หมอป่วยเป็นอะไรเหรอคะ" ถึงจะบอกว่าไม่ให้ห่วง แต่ก็อดไม่ได้อยู่ดี
"ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ"
"แต่หนูไม่เคยเห็นหมอไอเลยนะคะ"
"เพราะนี่ไงคะ" ส่งขวดยาน้ำให้เด็กสาวดู
"มะแว้ง? " ยาแก้ไอมะแว้งเนี่ยนะ
"หมอมะนาวจิบทุกครั้งค่ะ ที่มีอาการไอ และก็ทานยาดัก ซึ่งทางการแพทย์มันไม่ดี และหมอก็รู้ดี แต่ยังทำเพราะไม่อยากหยุดงาน"
"รักงานขนาดนั้นเลยเหรอคะ"
"ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมาก็ไม่เห็นคุณหมอหยุด คงเพราะเธอไม่มีอะไรยึดเหนี่ยวมั้ง"
"หมายถึงอะไรคะ"
"คือพี่ไม่เห็นคุณหมอจะมีกิจกรรมอะไรทำ หรือสนใจอะไร มากกว่างาน"
"แต่หมอใหญ่สั่งให้คุณหมอหยุดหลายวันเลยล่ะ คงได้มีเวลาพักผ่อนอยู่บ้าน"
"พี่คะ รู้จักแฟนหมอมะนาวหรือเปล่า" อยู่ๆ ก็นึกถึงผู้ชายคนนั้นขึ้นมา
"รู้สิคะ แฟนคุณหมอมะนาวของน้อง เป็นผู้อำนวย -การโรงพยาบาลเนี่ยแหละ"
"แล้ว..."
"คงจะมาพรุ่งนี้ตอนเช้าค่ะ คุณพิพัฒน์งานยุ่งตลอด" พูดจบก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้พอใจได้แต่โมโห อะไรกันแฟนป่วยแบบนี้แต่ไม่สนใจมาเยี่ยมเลยเหรอ ถือวิสาสะหยิบโทรศัพท์มือถือคุณหมอมาเช็คบางอย่าง ก่อนจะหยิบของตัวเองขึ้นมาบ้าง
"หึ ไอ้ผู้ชายเลว แกโดนแน่" พูดจบก็เดินกลับไปยังที่นอนเล็กๆ ในห้องพักผู้ป่วย พอใจชินอยู่แล้วกับการย้ายที่นอนไปนอนไหนต่อไหนกะทันหันแบบนี้ นอนแปลกที่จึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเด็กสาว และการตื่นก็เหมือนในทุกวันคือ การตื่นเช้า เช้านี้พอใจตื่นได้สักพักแล้ว จึงนั่งดูคุณหมอที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง เมื่อคืนพอใจก็หลับๆ ตื่นๆ เพราะมีพยาบาลเข้ามาวัดไข้ และวัดความดันคนป่วยทั้งตลอด
"ตื่นแล้วเหรอหมอ" พอใจดีดตัวลุกขึ้น เดินเข้าหาคนบนเตียง หล่อนเพียงกวาดสายตาไปรอบๆ ห้อง
"โรงพยาบาลเหรอคะ"
"ใช่" คุณหมอพยายามลุกขึ้นนั่ง ก้าวขาลงเตียง
"จะไปไหน" ถามออกมาด้วยความตกใจ ก็หล่อนเพิ่งจะลืมตาตื่น
"กลับบ้านค่ะ"
"เดี๋ยวสิ รอหมอก่อน"
"หมออยู่นี่ค่ะ และหมอก็หายดีแล้ว" พูดไม่ทันขาดคำ ก็ไอออกมา
"ไม่หาย หมอต้องพักก่อนนะ" เอ่ยออกมาอย่างไม่ยอม
'ก๊อก ก๊อก' พร้อมกับร่างผู้ชายเดินเข้ามา พอใจถอยหลบทันทีด้วยความไม่ชอบใจนัก เขาคือแฟนคุณหมอ
"พี่มาก็ดีแล้ว มะนาวอยากกลับบ้าน จัดการให้ทีค่ะ"
"พี่ว่านอนพักให้หายก่อนดีกว่านะคะ มะนาวดูหน้าซีดมาก" ไม่ว่าเปล่า ยกมือขึ้นลูบศีรษะคนบนเตียงอย่างเอ็นดู
"ฮะฮึ่ม! ไปเรียนก่อนนะ เดี๋ยวตอนเย็นจะมาหาใหม่" พูดจบหันหลังเดินออกไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของคุณหมอ
น่าโมโหนัก ทีแรกก็รู้สึกโกรธที่เขาไม่สนใจคุณหมอ แต่พอเขามาก็ดันหงุดหงิดที่เห็นสองคนนั้นสนิทสนมกันโดยไม่สนใจเธอสักนิด ราวกับเธอเป็นอากาศธาตุ นี่ตกลงตัวเองคิดยังไงกันแน่ อยากให้เขาอยู่ด้วยกันหรือไม่อยากกันแน่นะ ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน
พอใจมาไม่ทันเรียนช่วงเช้าเพราะต้องย้อนกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่คอนโดก่อนจะไปมหาวิทยาลัย ซึ่งก็เกือบเที่ยง
"แกรู้มั้ย เมื่อเช้าใครมาตามหาแก"
"ใคร? อาจารย์จูนหรือเปล่า" นึกว่าหล่อนจะมาเล่นงานเธอเรื่องแอบสั่งอาหารกลับบ้าน
"เฌอปราง! "
"มาทำไม" นี่ก็อีกคนที่ทำให้พอใจหงุดหงิด
"ไม่รู้สิ แต่พี่เค้าทิ้งเบอร์ไว้ให้แกด้วย" ยื่นกระดาษแผ่นน้อยให้
"ให้ทำไม" เอ่ยออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก เพราะไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องติดต่อกัน
"อย่ามา... ทำเป็นบอกว่าไม่รู้จัก แต่พี่เค้ามาหาแกเนี่ยนะ แถมยังถือหมวกกันน็อคอันที่แกใส่เมื่อวาน" เพราะไม่รู้จะเอาหมวกใบนั้นไปคืนรุ่นพี่คนดังได้ที่ไหน จึงแอบไปวางไว้ในห้องเก็บของที่เคยเจอกับหล่อนครั้งแรกแทน หวังว่าเฌอปราง คนดังของทุกคนจะเข้าไปในห้องนั้นอีก นั่นคือวิธีการคืนของของพอใจ เรื่องราวระหว่างพอใจและเฌอปรางถูกถ่ายทอดออกมาจนหมดตามความสงสัยของเพื่อนๆ
"จริงเหรอ! แสดงว่าพี่เค้าต้องอยากรู้จักแกแน่ๆ "
"เอ้อ! ไอ้นุชแอบบอกฐานลับของพวกเราให้พี่เค้าไปด้วยล่ะ"
"หึ้ย! แกบ้าหรือไง นั่นน่ะ ต้องรู้แค่พวกเรานะ"
"ก็ไอ้นุชมันอยากรู้จักไอดอลของมัน วันนี้มันช็อกค้างกลางอากาศหลังจากพี่เค้าเดินไป มันคลั่งเค้ามาก ถ้ามีแก มันคงได้คุยกับพี่เค้าบ้าง"
"เอาเราเป็นตัวล่อเหรอเนี่ย"
"เออน่า ช่วยมันหน่อย"
"งั้นแกก็เอาเบอร์พี่เค้าไปเลย" ยัดกระดาษใส่มือเพื่อนสาว
"บ้าเหรอ เค้าให้แก ถึงว่าไอ้นุชมันจะชอบเค้ามาก แต่มันไม่กล้าหรอก"
"หึ้ย! วันนี้มีแต่เรื่องกวนใจ น่าเบื่อๆ " เดินแยกตัวออกจากเพื่อนๆ มา หลังจากเลิกเรียน เพราะพอใจมีเรื่องต้องสะสางและคิดมาไว้แล้วตั้งแต่เมื่อเช้า เมื่อถึงที่หมายก็หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา ตู้โทรศัพท์สาธารณะคือแผนของพอใจ ยกหู กดเบอร์ที่แอบบันทึกมาจากมือถือคุณหมอ
'ตู้ด ตู้ด'
"สวัสดีครับ" ปลายสายรับ พอใจบีบจมูกตัวเองทันควัน เพื่อต้องการจะทำเสียงให้เล็กที่สุด
"ไอ้เลว ไอ้เจ้าชู้ ทุเรศ" พูดจบก็วางสาย และหัวเราะคิกคัก หืม! หมั่นไส้นัก ทำเป็นสวีทต่อหน้าทั้งที่แอบไปหาหญิงอื่น และขยับเปลี่ยนไปอีกเครื่องแทน ยกหูโทรศัพท์ใหม่อีกรอบและกดเบอร์เดิม ด่าแค่นั้นยังน้อยไป
"ไอ้ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ไอ้ไม่มีสมอง ขอให้แกโดนผู้หญิงหลอกบ้างเหมือนที่ทำกับหมอมะนาว ไอ้ เ ล ว ว ว ว! ขอให้แกตายอย่างทรมาน " และวางหูโทรศัพท์ลง พ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ปลายสายได้แต่อึ้งกิมกี่ ทีแรกคิดว่าโทรผิด แต่ครั้งที่สองนี่ชักเริ่มไม่แน่ใจ เพราะคนในสายดันเอ่ยถึงคนรู้จัก
"หึ้ย! ลืมดัดเสียง"
'แปะ แปะ' เสียงปรบมือดังมาจากด้านหลัง พอใจหันควับทันที
"ไม่โทรหาพี่ แต่ดันโทรด่าคนนั้นคนนี้ไปทั่วแทนเนี่ยนะ น้องพอใจ" เฌอปรางกอดอกแซวคนตรงหน้าที่กำลังยืนหน้าเสีย
"ทำอะไรแบบนี้คนเดียวจะสนุกได้ไงล่ะคะ" เดินเข้าหาคนที่ยืนนิ่ง ยกหูโทรศัพท์ขึ้น และกดต่อสายเบอร์เดิม เบอร์เมื่อครู่ที่เด็กสาวต่อสายไว้
"สวัสดีครับ! " ปลายสายยังคงรับสายอยู่ด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก
"ห้ามวาง! " เฌอปรางตะโกนใส่
"ฉันไม่เคยเห็นหน้าคุณ แต่แค่ฟังจากเสียงก็รู้ว่า เลว ทุเรศ หยาบช้า ถ้าแกตาย ต้องตายแบบไร้คนเหลียวแล ตายตาไม่หลับ ต้องตกนรกขุมสุดท้าย ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด แค่นี้! " พูดจบก็วางสาย แต่สักพักก็เหมือนนึกอะไรได้
"ลืมคำว่า ตายโหง" เตรียมจะยกหูโทรศัพท์อีก แต่
"พอแล้ว ทำไมต้องไปด่าเขาด้วย" พอใจแย่งโทรศัพท์มาไว้ที่ตัวก่อนจะวางกลับไว้ที่เดิม
"อ้าว โกรธพี่เหรอ คิดว่าน้องพอใจจะชอบซะอีก"
"ก็ชอบ แต่พอแล้ว"
"เขาเป็นใครล่ะ ทำอะไรไม่ดีกับน้องหรือเปล่า"
"ยุ่งน่ะ" คือก็ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรเธอเลย
"แล้วกลับบ้านยังไง ให้พี่ไปส่งมั้ย" เดินล้อมหน้าล้อมหลังพอใจไม่หยุด
"ไม่ต้องหรอก หนูกลับเองได้" พอนึกได้ว่าคนที่กวนใจเป็นใคร จึงไม่กล้าที่จะไล่
"ไม่เป็นไร พี่เต็มใจนะ" ไม่พูดเปล่า แถมยังฉวยโอกาสจับมือพอใจไว้ด้วย เด็กสาวรีบชักมือกลับทันที แต่มันก็สายไปแล้วเพราะเฌอปรางไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ พอใจจึงปล่อยเลยตามเลย
"งั้นไปส่งที่โรงพยาบาลหน่อย" ไหนๆ ก็อาสาแล้ว ก็ขอใช้หน่อย
"ขอบคุณ" เมื่อถึงที่ ก็ยื่นหมวกกันน็อคใบเดิมที่เคยใส่ และเอ่ยขอบคุณอย่างเสียไม่ได้
"เดี๋ยว" พูดพลางดึงกระเป๋าสะพายของพอใจให้ถอยกลับมาหาตัว
"อะไรอีกเล่า" เอ่ยออกมาด้วยใบหน้างอง้ำ
"พรุ่งนี้จะมีการรับสมัครสมาชิกเข้าชมรมการแสดง มาเข้าชมรมพี่นะ"
"ไม่อะ ไม่ชอบ" พูดจบก็เดินหนีเข้าโรงพยาบาลดั่งที่ตั้งใจ ป่านนี้หมอมะนาวคงรอแย่แล้ว
"มาแล้วเหรอคะ หมอรออยู่เลย" เดินหน้าบึ้งตึงเข้าไปในห้องพัก และหย่อนก้นลงนั่งที่โซฟา
"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ" เดินลงจากเตียงมานั่งข้างพอใจ ไม่วายหยิบขนมติดมือมาด้วย เพราะการที่หมอมะนาวป่วยจนนอนโรงพยาบาล เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไป ทั้งพยาบาล หมอ และคณะบริหารก็ผลัดเปลี่ยนกันมาเยี่ยมซึ่งก็ไม่ได้มาตัวเปล่า
"หายดีแล้วเหรอ" หันไปถามแม้จะเคืองๆ เรื่องเมื่อเช้า แต่ก็อดห่วงไม่ได้
"ยังค่ะ แต่เดี๋ยวจะกลับบ้านแล้วล่ะ ไม่อยากอยู่โรงพยาบาลนาน"
"จริงอะ... พี่ว่านอนพักให้หายก่อนดีกว่านะคะ มะนาวดูหน้าซีดมาก" ล้อเลียนคำพูดของผู้ชายเมื่อเช้า
"หื้ม... ล้อกันเหรอเนี่ย"
"ก็เห็นสวีทวี้ดวิ่วกันแต่เช้า แหวะ"
"ปากบอกไม่อยากกลับแต่พอผู้ชายคนนั้นบอกให้อยู่ ก็อยู่" กอดอกฮึดฮัดไม่พอใจ
"ที่หมอยังอยู่ก็เพราะพอใจต่างหากค่ะ" ได้ยินคำพูดคุณหมอ จึงหันกลับไปสนใจหล่อน
"ก็เด็กดื้อของหมอดันออกจากห้องไปโดยไม่ฟังกันนี่คะ หมอเลยต้องอยู่รอพอใจมาหา" ก็ก่อนพอใจจะออกจากห้องไปเมื่อเช้า ดันนัดแนะกับเธอไว้ว่าจะกลับมา แทนที่จะออกจากโรงพยาบาลทันทีหลังตื่นนอนตามที่ตั้งใจไว้ จึงต้องเป็นฝ่ายรอ
"พอใจมาแล้ว ดังนั้นก็เหลือแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ แล้วเราก็กลับบ้านกัน" พอใจได้แต่นั่งนิ่งรู้สึกผิดแทน
"หมอมีขนมเยอะนะคะ เพิ่งเลิกเรียน คงหิวแย่เลย" บอกพร้อมอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะลุกเดินเข้าห้องน้ำไป ต้องเอาของกินมาหลอกล่อเนี่ยแหละ พอใจถึงจะได้เลิกคิดเรื่องนั้น
กว่าจะถึงคอนโดก็ตะวันตกดิน พอใจกลายมาเป็นเด็กดีคอยอำนวยความสะดวก และบริการคนป่วยตลอด ราวกับทำความผิดมา
"หมอยังไออยู่เลย ทำไมรีบกลับล่ะ"
"กลับมานอนพักผ่อน ทานยา ที่บ้านดีกว่าค่ะ"
"งั้นเดี๋ยวหนูจะดูแลหมอเอง"
"หืม ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะติดไข้นะ"
"ไม่เป็นไรเหมือนกัน หนูจะดูแลหมออย่างดีเลย" เริ่มไม่ไว้ใจกับคำพูดของคนที่เอาแต่ยิ้มแปลกๆ ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว
"ต้องเช็ดตัวหรือเปล่านะ" เด็กสาวเริ่มนึกถึงสิ่งที่ต้องดูแลคนป่วย
"เอ่อ... ไม่ต้องค่ะ หมออาบน้ำเองได้ แค่ช่วยอุ่นข้าวต้มให้แค่นั้นก็พอค่ะ"
"เดินไหวมั้ยน่ะ" เพราะเห็นท่าเดินคุณหมอดูเชื่องช้ากว่าปกติ แถมยังไอออกมาอีก จึงเอ่ยทักออกมาอย่างเป็นห่วง
"ค่ะ" หันมาตอบ พอใจจึงแค่คอยดูหล่อนเดินเข้าห้องไปเท่านั้น ก็เก่งนักก็ปล่อยไปก่อน หันกลับเข้าครัวไปอุ่นข้าวต้มให้หล่อนแทน แต่พอใจนั่งรอนานแล้ว คุณหมอยังไม่มีวี่แววจะออกจากห้องมา จึงต้องเดินเข้าไปหาหล่อนแทน และก็เป็นตามคาด
"โถ ทำเป็นเก่ง" หล่อนดันนอนนิ่งอยู่บนเตียง เสื้อผ้ายังเป็นชุดเดิม นั่นหมายความว่าที่หายเข้าห้องมาเมื่อครู่ หล่อนเข้ามาหลับหรอกเหรอ หันมองรอบๆ ห้อง ก่อนจะคว้าหยิบอุปกรณ์วัดไข้ เพื่อเช็คคนป่วย ถือวืสาสะนั่งข้างคนที่นอนตะแคง ยกแขนคุณหมอขึ้น และเสียบแท่งวัดอุณหภูมิไปที่ใต้รักแร้
"ร้อนหรือหนาวกันนะ เหงื่อออกแบบนี้" ไม่ใช่แค่เหงื่อที่ผุดบนใบหน้า แต่เนื้อตัวหล่อนก็เปียกไปด้วย แต่คุณหมอดันห่มผ้าผืนหนานั่นคลุมขึ้นไปถึงคอ จนพอใจต้องช่วยดึงลงให้
'ติ้ด ติ้ด' เสียงอุปกรณ์วัดไข้ดังขึ้น เด็กสาวรีบเอาออกมาเช็คทันที
"39 เหรอ แบบนี้เรียกมีไข้หรือเปล่านะ คงมีแหละ ตัวร้อนแบบนี้" คิดเองเออเอง อืมม... เช็ดตัวให้ดีกว่า จะได้สบายตัว แล้วค่อยกินข้าวต้ม กินยา แล้วก็นอน เด็กสาวคิดเป็นขั้นเป็นตอน
พอใจวิ่งวุ่นไปทั้งบ้านเพื่อหาอุปกรณ์เช็ดตัว และก็สำเร็จ แต่ด้วยความดีใจจึงเดินไม่ทันระวัง
"เห้ย..."
"แค่ก แค่ก" น้ำในกาละมัง สาดโครมไปที่เตียงคุณหมอ เต็มตัวหล่อน พอใจหน้าเหวอ ส่วนคุณหมอพอถูกน้ำเย็นปะทะกายก็ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงงงวย
"หนูขอโทษ" ยกมือไหว้น่าสงสาร
เป็นอันว่าคุณหมอก็ถูกปลุกด้วยวิธีแปลกๆ ของพอใจ และเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำด้วยตัวเองเพราะไม่ไว้ใจเด็กซุ่มซ่าม และคืนนี้คงต้องใช้บริการห้องพักของพอใจอีกครั้ง จะรอให้ที่นอนแห้งสนิท คงไม่ได้นอนกันพอดี
"นอนด้วยไม่ได้เหรอ" เอ่ยออกมาอย่างน่าสงสาร โดยยืนหน้ามุ่ยข้างเตียง
"ไม่ได่ค่ะ เดี๋ยวติดไข้" ก็เพราะคุณหมอดันไล่ให้พอใจลงไปนอนที่พื้นแทน
"หมอใจร้าย นอนที่พื้นแบบนั้น คงทำให้หนูปวดหลังแย่เลย"
"ถ้าพอใจไม่เทน้ำใส่ที่นอนหมอ คงไม่ต้องนอนพื้นหรอกค่ะ"
"แต่นี่ห้องหนูนะ"
"งั้นหมอนอนพื้นเองค่ะ" เพราะหัวกำลังหนักอื้อไปหมด คงด้วยพิษไข้ จึงไม่อยากต่อล้อต่อเถียง ทำท่าจะลุกขึ้นจากที่นอน
"มะ ไม่เป็นไร แค่ล้อเล่น นอนเถอะหมอ เดี๋ยวหนูออกไปปิดไฟก่อน" แบบนี้ทุกทีที่คุณหมอจริงจัง พอใจจะหนีเอาตัวรอดตลอด
ตกดึกก็ต่างคนต่างนอน แต่คนที่นอนหลับไม่ลงคือพอใจ เพราะคุณหมอละเมอส่งเสียงครางออกมาด้วยพิษไข้ จนพอใจต้องลุกขึ้นเดินไปนั่งข้างหล่อน เปิดโคมไฟหัวเตียง เอื้อมมือสัมผัสศีรษะคุณหมอ
"ตัวร้อนอีกแล้ว" นึกถึงเรื่องเช็ดตัวขึ้นมาเป็นอันดับแรก อยากช่วยให้ไข้หล่อนลด แต่ก็ต้องยกเลิกความคิดนั้น กลัวจะทำคุณหมอเปียกโชกอีก เอื้อมปิดโคมไฟ มุดตัวเข้าผ้าห่มผืนเดียวกัน ยอมผิดคำพูดกับคุณหมอที่ว่าจะแยกกันนอน เข้าไปซุกกอดหล่อน เพื่อจะช่วยถ่ายเทอุณหภูมิความร้อนจากตัวคนป่วยมาที่ตัวเอง ไม่ได้ฉวยโอกาสกอดคุณหมอนะ แค่อยากช่วย แม้คุณหมอจะห้ามเข้าใกล้เพราะกลัวติดไข้ แต่มันก็คุ้มที่ได้ซุกกอดเนื้อตัวนิ่มๆ หอมๆ ของคุณหมอ