คฤหาสน์ชัด ๆ
ปลูกอยู่บนเนื้อที่ร่วม 7 ไร่ รั้วสูงล้อมรอบ ที่นี่น่าจะเป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยประชากรคนรวย เพราะนับตั้งแต่เขาขับรถผ่านประตูทางเข้าหมู่บ้านมา จะพบแต่บ้านลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ บ้านแต่ละหลังมีรั้วสูงล้อมรอบ
เขาจอดอยู่หน้าประตู แล้วประตูก็เลื่อนออกเองด้วยระบบรีโมตไฟฟ้า
ชายหนุ่มขับเข้าไป ประตูเลื่อนปิดลงเอง
ท่าทางของเขาเวลานี้ กลับมาเป็นชายหนุ่มท่าทางสุภาพอ่อนโยนกว่าเดิม แต่หนูนาต่างหากล่ะ ที่รู้สึกกับเขาเปลี่ยนไป
ไม่เหมือนเดิม
อาจเป็นเพราะนิสัยใจคอแบบผู้หญิง เพียงแค่การได้ช่วยเหลือให้เขาเสร็จคามือของเธอ โดยที่เขาไม่ได้ล่วงเกินอะไรเธอเลย กลับสร้างความผูกพันให้กับเธออย่างประหลาด
ไม่ได้ชอบหรอก แค่ผูกพัน
“ที่นี่ไม่มีใครทำงานทนเลย เพราะคุณพ่อค่อนข้างเอาแต่ใจ แต่ผมหวังว่าคุณจะทนนะครับ”
เขาพูด ไม่ได้จงใจทำให้เธอกลัว แค่จะบอกความจริง
“ท่านเป็นอัลไซเมอร์เหรอคะ”
“ครับ หลง ๆ ลืม ๆ”
“นอกนั้นล่ะคะ”
“ไม่มีครับ ท่านไม่ได้แก่ถึงขั้นช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หรอกนะครับ คุณไม่ต้องห่วงว่าจะต้องมาเช็ดอึเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ท่านหรอกนะครับ”
“แล้วงานฉันล่ะคะ”
“ทั่ว ๆ ไปครับ”
เขาตอบ พลางเปิดประตูก้าวนำเข้าไปภายในบ้าน “เงียบนะครับ ปกติหมู่บ้านแถวนี้จะเงียบ ๆ ไม่มีเสียงวุ่นวาย”
“ค่ะ ฉันชอบแบบนี้เหมือนกันค่ะ”
“คนทำงานบ้านละแวกนี้ ส่วนใหญ่เป็นแม่บ้านส่งตรงมาจากเออีซีทั้งนั้น คนไทยไม่ทำงานแบบนี้กันแล้ว” เขาเล่าระหว่างพาหญิงสาวเดินเข้ามาในห้องโถง
บ้านหลังใหญ่แบบนี้ ทำให้หนูนารู้สึกว่าตัวเธอเล็กนิดเดียว ถูกอำนาจของสิ่งก่อสร้างอันใหญ่โตบีบให้เล็กลง
บ้านในความหมายของเธอไม่ใช่แบบนี้ มันใหญ่โตเกินไป
นี่ควรจะเรียกว่าเป็นคฤหาสน์มากกว่า
“ปกติฉันจะมาค้างที่นี่บ้าง แต่ระยะหลังงานฉันยุ่ง ก็เลยไม่ค่อยได้แวะมา เธอคิดว่าไง...”
“อะไรคะ”
“ทำงานไหวไหม” เขาเปลี่ยนคำถาม
“ไหวค่ะ แต่...”
ชายหนุ่มหันมามองหน้าเธอ ประกายตาของเขา ทำให้หญิงสาวอดหวั่นไหวไม่ได้ ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ ดวงตามีประกาย ทำให้เธอเกิดอาการร้อนได้เหมือนกำลังสัมผัสกับเปลวไฟ
“แต่...แสดงว่าเธอมีปัญหา”
“ไม่ใช่ค่ะ แค่กำลังสงสัย”
“ถามมาได้เลย”
“คุณพ่อของคุณจะเป็นแบบคุณหรือเปล่าคะ”
ชายหนุ่มละสายตาจากเธอทันที ก่อนตอบ “ไม่หรอก”
“ฉันขอโทษค่ะ ท่านเป็นคนพิการ”
“อืม” ชายหนุ่มก้าวนำต่อไป จนกระทั่งแว่วได้ยินเสียงทีวีดังมาจากห้องหนึ่ง หนูนาก้าวตามเขาจนกระทั่งเขาหยุด
สายตาของเขากับสายตาของเธอมองเข้าไปข้างใน พบว่ามีชายคนหนึ่งนอนหลับอยู่บนเก้าอี้โยก
ลักษณะเป็นผู้ชายตัวใหญ่
“นั่นคือคุณพ่อของฉัน อย่ารบกวนเวลาท่านหลับ”
“ค่ะ”
หญิงสาวรับคำ ชายหนุ่มหมุนร่างมาเผชิญหน้ากับเธอ
“ฉันมอบคุณพ่อให้อยู่ในความดูแลของเธอ เย็นนี้ฉันจะมารับเธอกลับบ้าน”
“โอเคค่ะ”
หญิงสาวตอบแล้วมีอาการตัวชาอีกรอบ เพราะชายหนุ่มยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้แล้วซุกจมูกโด่งคมสันเข้าหาแก้มของเธอ
ก่อนเดินตัวปลิวไปโน่น
หนูนาหน้าแดง ใจเต้นตุ้มต๋อม ใครจะคิดว่าเขาจะทำแบบนี้ อารมณ์ของผู้ชายคนนี้เดาไม่ออกจริง ๆ
ในรถดูหื่นกระหาย
ผู้ชายหื่นกาม แต่ไม่ล่วงเกิน แค่ใช้เงินแลกเปลี่ยน
อารมณ์ตอนถูกเขาหอมแก้ม เป็นอีกอย่าง ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย หนูนาวุ่นวายกับเรื่องของคนอื่นจนมากไป เกือบลืมเลือนอารมณ์อ่อนไหวแบบผู้หญิง
ไม่ใช่ว่าไม่มี ร้องไห้ได้ เจ็บก็เป็น ความรักไหนเลยจะปราศจากความรู้สึก เคยจำได้อยู่ว่า เจ้าความรู้สึกหวั่นไหวแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับเธอนานมาแล้ว
“เฮ้อ...”
เผลอถอนใจยาวเหยียด แต่แล้ว...สะดุ้งเฮือก เพราะจู่ ๆ ถูกใครบางคนรวบจากด้านหลังลากเข้าไปข้างใน
“อุ๊ย...อะไรกันเนี่ย”
หลุดปากร้องด้วยความตื่นตระหนก ยิ่งเมื่อรู้ว่าไม่ใช่ชายหนุ่ม แต่เป็นคนสูงวัยตัวใหญ่ ร่างกายแข็งแรง
เขาคือ คนที่เธอจะต้องเข้ามาดูแล
ไม่ใช่แล้ว แบบนี้ไม่ใช่แล้ว
พละกำลังของเขามหาศาลเหลือเกิน
“ฉันชอบเธอนะ ชอบเธอที่สุด”
เสียงนั้นสั่นพร่า
“ชอบอะไรกันคะ หนูเพิ่งมา”
พยายามดิ้นขลุกขลัก สุดท้ายกลายเป็นหมุนร่างมาเผชิญหน้ากับเขา ในลำแขนแข็งแรงราวกับเหล็ก
สองมือของหญิงสาวกลายเป็นมือเล็ก ๆ ไปโดยปริยาย เมื่อเทียบกับเขา
เธอยันหน้าอกของเขาเอาไว้
รับรู้ได้อย่างหนึ่งว่า อวัยวะบางอย่างของเขากำลังตื่นตัว
“ใช่เธอจริง ๆ ด้วย ฟ้า”
เขาหลุดชื่อใครคนหนึ่งออกมา
“ฟ้า... เปล่าค่ะ หนูชื่อ หนูนา”
“หนูนา”
“ค่ะ” หญิงสาวตอบ พยายามตั้งสติ พอเห็นเขามีท่าทีอ่อนลง หัวใจที่เต้นรัวเหมือนจะกระดอนออกมานอกอกเมื่อครู่ ค่อย ๆสงบลง
หงายแหงนใบหน้ามอง... เข้าของใบหน้าคมสัน มันเหมือนกับชายหนุ่มคนที่จากไปเหมือนพิมพ์เดียวกัน ต่างกันแค่...วัยเท่านั้น
“คุณคือ คุณชาญ คุณพ่อของคุณชีวิน”
“ใช่ ชีวินเป็นลูกชายฉัน... ทำไมเธอจำชีวินไม่ได้ ฉันบอกเธอแล้วว่าเค้าเป็นลูกชายฉัน” น้ำเสียงแข็งกระด้างขึ้นจนหนูนาเริ่มวิตกอีกครั้ง
“หนูเพิ่งรู้จักคุณชีวินเมื่อเช้านี้เอง คุณชีวินไปรับหนูมาจากโรงเรียนบริบาลของคุณภูมิ พามาที่นี่เพื่อดูแลคุณ”
“ไม่จริง”
“จริงซีคะ”
“เธอยั่วชีวินใช่ไหม”
“ยั่วอะไรกันคะ”
“เธออยากได้ลูกชายฉันเป็นผัวใช่ไหม”
“โอ๊ย หนูเจ็บนะคะ บีบแขนหนูทำไม”
“ฉันต้องสั่งสอนผู้หญิงแพศยาอย่างเธอ”
“บ้าสิคะ หนูมาแพศยาอะไรตอนไหน”
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ เธอต้องได้รับบทเรียน”
น้ำเสียงของคุณชาญกร้าวเสียจนทำให้หนูนาตัวสั่นกลัว พยายามตั้งสติอย่างไรก็ไม่เป็นผล
มันจะเป็นผลได้อย่างไร เธอถูกรวบอยู่ในวงแขนแข็งแรงราวยักษ์ปักหลั่นของเขา
นี่หรือผู้ป่วยสูงวัยที่เธอมีหน้าที่ต้องมาดูแล
“บทเรียนอะไรกันคะ หนู...”
ไม่ทันพูดจบ มือใหญ่โตข้างหนึ่งของเขาบีบปลายคางของเธอ บังคับให้หงายแหงน มองสบตากับเขา
ประกายตาร้อนแรงจัง
เหมือนไม่ใช่คนสูงวัย แต่เป็นหนุ่ม ๆ โดยเฉพาะหนุ่มหื่นกามแบบเดียวกับลูกชายของเขา คนที่หนูนาเพิ่งใช้มือช่วยสำเร็จความใคร่ให้เขาในรถ
ฟอร์มเดียวกันเลย หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ
“บทเรียนของการแพศยา ก็คือ...นี่ไง”
ก่อนหญิงสาวจะทันได้ตอบโต้ เขาคว่ำใบหน้าเข้าหา ประกบปากนาบกับริมฝีปากของเธอ แล้วความช่ำชองที่เหนือกว่าเธอหลายสิบเท่าก็ทำลายความบริสุทธิ์ของเธอในพริบตานั้นเอง
เป็นจูบแรก ในชีวิตของหนูนา!
ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า สัมผัสร้อนแรงหนักหน่วงแบบนี้จะต้องมาเกิดขึ้นกับตัวเอง แค่ภาพเคลื่อนไหวพระนางจูบกันในหนังในทีวี ยังทำให้หนูนาร้อนผ่าว บางครั้งแทบไม่กล้ามองตรง ๆ
ฟินเวอร์ตั้งแต่วิธีการเอาปากแตะปาก ส่งลิ้นควานซอกซอน จังหวะฉกลิ้นเข้าหากัน สร้างความหวั่นไหวรัญจวนให้กับเธอได้อย่างประหลาด
ของจริง... จากคนที่จูบเป็น
ฟินกว่านั้นหลายเท่า
สองมือเรียวที่พยายามจะยันหน้าอกของเขาไม่ได้นาบแนบเข้าใกล้เธอจนเกินไป บัดนี้เหมือนกับสูญสิ้นเรี่ยวแรงลง อึกอักในลำคอ อยากหลุดเสียงห้ามปรามออกมาสุดเสียง แต่ทำไมถึงทำไม่ได้
แก้มของหนูนาแดงเข้ม เลือดสาวร้อนผ่าว ร้อนเสียจนดูเหมือนว่าเหงื่อกำลังหยด จังหวะการเต้นของหัวใจ ไม่ได้เป็นจังหวะปกติ และดูเหมือนมันกำลังกระดอนหลุดออกมาข้างนอก
หญิงสาวควรแค้นเคือง ทว่าเหตุใดกันนะ พลังงานความแค้นถึงได้อ่อนแรง จนแทบไม่เหลือ
หนูนาใจจะขาด
“ได้โปรด...”
เสียงสั่นพร่าของหนูนาหลุดออกมาจนได้
“เธอสวยเหลือเกิน ฟ้า ฉันไม่อยากจะทำร้ายเธอ แต่ฉันอดใจเอาไว้ไม่ไหวทุกครั้งไป ขอฉันนะ”
ยอมให้คุกคาม!
เขาถอนจูบ ดวงตาที่เหมือนกับมีประกายไฟจ้องเขม็ง คุกคามเธอก็จริง แต่เหตุใดกันนะ หัวใจของเธอถึงได้...ตกอยู่ในสภาพคล้ายกับยินยอม