แม้จะแปลกใจว่าลูกค้าคนนี้ต้องการกระดาษและดินสอไปทำไม แต่ก็ยังให้พนักงานไปหยิบมาให้แต่โดยดีและหาวิธีที่จะจัดการพนักงานของตัวเองที่ไม่ต้องมีเรื่องกระทบกับแม่สามี
เซี่ยเจียวหงไม่พูดไม่จา เมื่อได้กระดาษและดินสอเธอจึงหาที่นั่งอย่างสงบและร่างแบบชุดขึ้นมาในทั้งสี่ใบ ความสามารถที่เธอมีจะบอกว่ารอบตัวก็ได้ เพราะเธอต้องเรียนรู้และศึกษางานทุกแขนง เพราะเธอ มีอาชีพเป็นสายลับและนักฆ่า
หากไม่มีความรู้ความสามารถรอบตัวเธอจะแฝงตัวเพื่อจัดการเป้าหมายได้อย่างไร เธอใช้เวลาไม่นานกระดาษเปล่าทั้งสี่ใบกลับมี แบบชุดสี่ชุดที่ดูแปลกตาไม่เหมือนใครและไม่เคยมีเห็นใครมาก่อนยื่นมาตรงหน้าของเถ้าแก่เนี้ย
“แบบชุดพวกนี้ไม่เกี่ยวกับราคาที่แม่สามีและลูกฉันกำลังเลือกซื้ออยู่ ทุกชุดของทั้งสามคนรวมถึงของฉัน ฉันจ่ายเต็มจำนวน แต่แบบ ทั้งสี่แบบนี้แลกกับการที่เถ้าแก่เนี้ยต้องไล่พนักงานคนนั้นออก และ ถ้าอยากได้แบบเพิ่มไปหาฉันที่บ้านซือหมู่บ้านไผ่เขียว
แต่ถ้าเถ้าแก่เนี้ยไม่อยากไล่พนักงานคนนี้ออกด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม แบบร่างพวกนี้ถือว่าฉันให้เป็นของขวัญที่ยอมขายเสื้อผ้าให้กับ คนจนแบบฉันก็แล้วกัน”
เซี่ยเจียวหงยื่นข้อเสนอ สาเหตุที่เธอร่างแบบชุดให้เพราะเห็นว่าในร้านมีแบบคล้ายกันมาก ต่อให้เนื้อผ้าจะดีกว่าร้านอื่น แต่ถ้าแบบจำเจจนเกินไปทำให้เสียลูกค้าได้เหมือนกัน และเธอก็หมั่นไส้พนักงาน คนแรกมาก เพราะการทำงานบริการไม่ควรดูถูกคน ไม่ว่าจะชนชั้นไหน บางทีคนแต่งตัวมอซออาจจะมีเงินมากกว่าคนที่แต่งตัวหรูหราก็ได้
เถ้าแก่เนี้ยรับแบบชุดมามือสั่น เธอมองภาพด้วยสายตาที่ตื่นเต้น หากเธอมีแบบชุดใหม่ ๆ ออกมาขายร้านเธอต้องกลับมาขายดีดั่งเช่นเมื่อก่อน ครั้งนี้เธอตัดสินใจไม่ยาก ต่อให้ต้องทะเลาะกับแม่สามีเธอก็ยอม
“คุณลูกค้าคิดค่าแบบชุดนี้เท่าไร”
ถ้าจะให้รับมาแบบไม่มีค่าใช้จ่ายเธอก็เกรงใจ แค่เรื่องไล่หลานสาวแม่สามีออกจากการเป็นพนักงานที่ร้านเธอต้องทำอยู่แล้ว เพราะการกระทำนี้ทำให้เธอเสียลูกค้าไปไม่น้อย
“ไม่ต้องค่ะ ฉันชื่อเซียวหงเป็นสะใภ้บ้านซือ เถ้าแก่เนี้ยรับไปเถอะ เป็นของขวัญพบหน้าและขอบคุณที่ยอมขายชุดให้กับฉัน”
เซี่ยเจียวหงตอบกลับด้วยรอยยิ้มก่อนจะมองขึ้นไปชั้นบนที่แม่สามีและลูกทั้งสองเลือกชุดกันด้วยใบหน้าที่ดีใจและเต็มไปด้วยความสุข แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอ
“เอาอย่างนี้ ฉันจะตัดชุดให้อาหงตามแบบทั้งหมด และอาหง ไม่ต้องจ่ายเงิน ฉันชื่อซินถง ยินดีที่ได้รู้จัก”
เมื่อเห็นว่าซินถงยืนยันหนักแน่น เซี่ยเจียวหงจึงไม่ปฏิเสธ ก่อนที่จะมีพนักงานตัดเย็บโดนเรียกตัวมาให้วัดขนาดตัวของเธอเพื่อนำไป ตัดชุดให้
แต่เซี่ยเจียวหงบอกว่ารอเธอน้ำหนักตัวลดกว่านี้ก่อนค่อยตัดให้ ก็ยังไม่สาย และซื้อชุดสำหรับร่างนี้กลับไปสองชุด เธอตั้งใจจะลดน้ำหนักซื้อเยอะไปหรือว่าตัดชุดใหม่มาแล้วยังไม่ได้ใส่จะเสียดาย เอาเปล่า ๆ
หลังจากที่จ่ายเงินแล้ว เซี่ยเจียวหงจึงบอกลาซินถงและบอกชื่อหมู่บ้านอีกครั้ง ซินถงบอกว่าแบบครั้งต่อไปเธอขอจ่ายค่าตอบแทน เซี่ยเจียวหงไม่ปฏิเสธเพราะนี่คือสิ่งที่เธอต้องการเช่นกัน แต่คงต้องคุยกันเรื่องราคาเพราะเธอต้องการขายขาดไม่ต้องการแบ่งยอดขาย เธอ ไม่ต้องการความยุ่งยาก และไม่อยากมีปัญหาที่หลัง หากซินถงจะรวยเพราะขายเสื้อผ้าแบบของเธอก็แล้วแต่ นั่นก็ขึ้นอยู่กับการตลาดของร้านเช่นกัน
แม้จะได้ชุดใหม่มาแล้วแต่ทั้งหมดยังไม่มีใครเปลี่ยนเพราะกลัวเปื้อน เซี่ยเจียวหงเองก็ไม่ห้ามอย่างไร ก็ต้องเดินเข้าตลาดข้างหน้า แต่กลับเห็นกลุ่มคนยืนมุงดูคล้ายกับมีเรื่อง เธอจึงเดินเข้าไปดูตามสัญชาตญาณ แถมยังมีเจ้าหน้าที่ห้าหกคนยืนดูสถานการณ์อยู่
“อาหงอย่าเข้าไป มันอันตราย”
นางหลิงมู่คว้าแขนลูกสะใภ้ไว้ เพราะดูเหมือนผู้ร้ายจะมีอาวุธ
“ไม่เป็นไรค่ะแม่ ดูสีหน้าลุงคนนั้นสิคะ ดูเหมือนจะไม่ไหวแล้ว คล้ายกับโดนยิงที่แขน”
สถานการณ์แบบนี้เธอเจอมานักต่อนักจึงไม่กลัว แต่ผิดกับ นางหลิงมู่จับแขนลูกสะใภ้ไว้ไม่ปล่อย
“ฉันสัญญาว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย แต่แม่และเด็ก ๆ ต้องอยู่ตรงนี้ห้ามเข้าใกล้เด็ดขาดเข้าใจไหม”
เซี่ยเจียวหงตบหลังมือแม่สามีเบา ๆ และยิ้มให้ลูกทั้งสอง อย่างอ่อนโยน
“ย่าครับ อาฝานเชื่อว่าแม่ต้องปลอดภัย หมูป่าสองตัวแม่ยังฆ่า ได้เลย แม่ต้องช่วยคุณตาคนนั้นได้”
เพราะความเป็นเด็กและยังใสซื่อจะเอาเรื่องนี้มาเปรียบกับหมูป่าที่แม่ล่ามาได้เมื่อวาน ซืออี้เจินพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ชาย นางหลิงมู่ หลุดขำออกมา หลานเนอะหลานคิดกันได้
“สัญญากับแม่แล้วนะว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย”
นางหลิงมู่ขอคำสัญญาอีกครั้ง เมื่อได้รับคำสัญญาจากลูกสะใภ้เธอจึงคลายมือที่จับแขนลง และรีบพาหลานทั้งสองไปยังที่ปลอดภัย แต่ยังอยู่ในระดับสายตาที่เธอมองเห็น
เซี่ยเจียวหงเมื่อหลุดจากที่แม่สามีเกาะกุม เธอจึงแหวกฝูงชน เข้ามาดู และเห็นสีหน้าของลุงที่ถูกจับตัว เธอจึงตะโกนกลับออกไป โดยไม่สนใจเจ้าหน้าที่หรือว่าใครทั้งสิ้น
“พี่ชาย ฉันขอแลกตัวกับคุณลุงท่านนั้นได้ไหม หากพี่ชายต้องการอะไรค่อยเจรจากับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง”
เซี่ยเจียวหงยื่นข้อเสนอ ทันทีที่สิ้นสุดเสียงตะโกนของเธอชาวบ้านทั้งหลายแทบจะหยุดหายใจรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่พยายามเข้ามากันเธอออกจากสถานการณ์อันตรายนี้
“ผมว่าคุณออกไปก่อนเถอะ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานกันลำบาก ยิ่งข้อเสนอของคนร้ายเราให้ไม่ได้หรอก แล้วรู้ไหมว่าคนที่โดนจับตัว คือใคร”
เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งเดินเข้ามาประชิดตัวและพูดกับเธอ เสียงเบา
“แล้วคุณตำรวจจะปล่อยให้ลุงท่านนั้นตายหรือ หัวไหล่ของท่านโดนยิงจนเลือดออกใกล้หมดตัวแล้วมั้ง และที่สำคัญฉันไม่รู้หรอกว่า ลุงคนนั้นเป็นใคร แต่ฉันคิดว่าไม่ว่าใครอยู่ในสถานการณ์นี้ต้องรีบช่วยเหมือนกัน”
เมื่อโดนย้อนกลับผู้กองซุนยืนนิ่งไปหลายวินาที เขาไม่เคยเจอใครที่บ้าระห่ำแบบนี้มาก่อน ด้วยรูปร่างและหน้าตาของเธอไม่น่าจะเป็นคนใจกล้าและเอาตัวรอดได้ เกิดพลาดพลั้งขึ้นมามันจะแย่กว่าเก่า
เซี่ยเจียวหงไม่รอช้ายังเดินขึ้นหน้าไปคุยกับผู้ร้ายเช่นเดิม
“ว่าอย่างไร พี่ชาย สภาพร่างกายของฉันอ้วนจนแทบจะกลิ้งได้อยู่แล้ว คงไม่เป็นอันตรายกับพี่ชายหรอก แต่ถ้าคุณลุงท่านนั้นเกิดตายขึ้นมา พี่ชายจะโดนข้อหาหนักก่อนจะเจรจากับเจ้าหน้าที่สำเร็จ”
คนร้ายหรี่ตามองเซี่ยเจียวหงอย่างครุ่นคิด รูปร่างตรงหน้านั้นคือหญิงสาวหน้าตาอัปลักษณ์และอ้วนจนแทบจะกลิ้งได้อย่างที่เธอพูดจริง ๆ สาเหตุที่เขาต้องจับคนเป็นตัวประกันเพราะเรียกร้องให้ลูกชายที่มีเรื่องกับ ลูกชายเถ้าแก่โรงสีจนถูกตีจนขาหัก แต่กลับจับผู้ทำผิดมาลงโทษไม่ได้ จึงได้นำปืนที่ซื้อมาจากตลาดใต้ดินมาจี้ตัวประกันที่นี่และไม่อยากให้ ตัวประกันตายเช่นกัน
“ได้ เธอค่อย ๆ เดินมา และห้ามมีอาวุธเด็ดขาด”
“โธ่พี่ชาย สภาพฉันจะหาอาวุธจากที่ไหนได้ หรือจะให้ฉันแก้ผ้าให้ดู แต่ฉันว่าอย่าเลย ชาวบ้านแถวนี้จะเลิกกินเนื้อหมูเพราะเห็นรูปร่างฉันนี่แหละ ฉันจะยกมือขึ้นและค่อย ๆ เดินเข้าไป”
เซี่ยเจียวหงพยายามพูดให้สถานการณ์ตรงหน้าหายตึงเครียด เธอยกมือทั้งสองข้าง แล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปหาผู้ร้าย เมื่อมาถึงผู้ร้าย จึงคว้าตัวเธอมาและผลักลุงที่ถูกจับคนแรกจนล้มลงส่วนตัวผู้ร้ายเขาจับเซี่ยเจียวหงถอยหลังไปหลายก้าว
ลุงท่านนั้นมองเซี่ยเจียวหงอย่างขอบคุณ ก่อนจะมีคนของท่านมารับตัวไปอยู่ในที่ปลอดภัย เซี่ยเจียวหงมองว่าคนคนนี้คงจะมีอิทธิพล ไม่น้อย ไม่เช่นนั้นพวกหมอพยาบาลจะมาออกันอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
ทุกคนพ่นลมหายใจด้วยความโล่งอกได้ไม่นาน ใครจะคิดว่า ภาพที่เห็นตรงหน้า คือหญิงร่างอ้วนจะสามารถล้มผู้ร้ายด้วยมือเปล่าล่ะ
เซี่ยเจียวหงใช้มือตัวเองกั้นช่วงคอไว้ พอได้จังหวะเธอจับมือของโจรที่ถือปืนบิดด้วยแรงสองส่วน ทำให้ชายผู้ร้ายร้องลั่น จากนั้นเธอ หมุนตัวแล้วจับผู้ร้ายทุ่มลงไปนอนกับพื้นทันที ดีที่เธอใช้แรงแค่สองส่วนจึงทำให้ชายคนนี้สลบ หากใช้แรงมากกว่านี้ถ้ากระดูกไม่หักคงตายคาที่
จากนั้นเซี่ยเจียวหงจึงก้มลงคว้าปืนและถอดสลักเอากระสุนออกมาพร้อมกับแยกชิ้นส่วนก่อนจะโยนลงพื้น เมื่อเรื่องตรงหน้าคลี่คลายเธอจึงเดินมาหาแม่สามีและลูกทั้งสองคนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น