" อย่าหนีนะ!! "
หญิงสองคนวิ่งหนีกันอย่างจ้าละหวั่น หวังเพียงหนีรอดจากชายทั้งสิบสามคนที่วิ่งตามกันมา สองคนแม่ลูกสาวต่างต้องวิ่งสุดชีวิต จนไปถึงตึกร้างแห่งหนึ่งในย่านสมุทรสาคร ที่นั้นเธอสองคนได้วิ่งจนไปถึงรถยนต์ของตน คนเป็นแม่หยุดอยู่ที่ประตูแล้วสั่งให้ลูกสาวเข้าไปในรถ เธอได้หยิบเงินจำนวนหนึ่งในกระเป๋าชูขึ้นให้พวกที่วิ่งมา
"หยุดนะ!!"
พวกนั้นหยุด
"พวกแกต้องการเงินกันนิ นี้ไง ฉันเอาเงินมาให้ ปล่อยพวกฉันไปเถอะ นะ ฉันขอละ"
"เหอะ! มึงนี่นะมันบ้าดีเดือดจริงๆ ยักยอกเงินบริษัทตัวเองให้เป็นเงินประกันลูก น่าประทับใจจริงว่ะ ฮ่าๆ"
เสียงเหี้ยมหัวเราะ พวกเพื่อนมันก็หัวเราะด้วย หญิงผู้เป็นแม่โยนลงพื้นส่งไปให้ชายถือปืนคนนั้น
"ทีนี้ฉันให้เงินพวกแกแล้ว ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ"
หญิงคนนั้นบอก ชายคนที่ถือปืนผู้เป็นหัวหน้าเปิดกระเป๋าดูเงินในนั้นแล้วกล่าวว่า
"มึงนี่ชอบทำให้กูขัดใจอยู่ตลอดเลยนะ อันที่จริงมึงก็ไม่ได้ทำให้กูโกรธมึงขนาดนั้น บางที กูคงปล่อยมึงกับลูกมึงได้อยู่ร่วมกัน..."
แต่แล้ว ชายคนนั้นก็ได้ปิดกระเป๋าแล้วควักปืนออกมาชี้หน้าคนเป็นแม่
"แต่ขอโทษ นายกูนะเค้าไม่อยากให้มึงรอดวะ"
ร่างสูงยกปืนขึ้นยิงที่หน้าอกคนเป็นแม่
!!..ปัง..!!
"แม่!!"
หญิงสาววัยสิบเจ็ดปีร้องเสียงหลงเมื่อแม่ตนล้มลงแล้วหมดสติ ชายร่างเหี้ยมสั่งลูกน้องตน
"เฮ้ยพวกมึง!! ฉุดอีเปียเข้าในตึกร้าง เร็ว!"
ลูกน้องคนหนึ่งของมันหยิบกระเป๋าเงินในมือคนเป็นแม่ ส่วนลูกน้องสองสามคนของมันก็ฉุดลากลูกสาวของหญิงคนนั้นเข้าไปในโกดัง ท่ามกลางเสียงโหยหวนผ่าสายฝนของสาวน้อย
"แม่!!ฮึก!แ..ม่...ฮึก..แม่!!!!อ๊า!!!!"
¤□¤□¤□¤□¤□¤
อีกฟากของเมืองสมุทรสาคร สาวน้อยต้องตกที่นั่งลำบาก เมื่อเธอต้องถูกพ่อเลี้ยงเธอขายตัวให้กับข้าราชการมีชื่อผู้หนึ่ง
"หนูไม่ต้องกังวลนะ ถ้าหนูบริการฉันดี ฉันจะไม่ทำให้หนูเจ็บตัว โอเค!"
ชายร่างอ้วนกล่าวด้วยท่าทางอันหื่นกระหาย เมื่อพูดจบ ราชการผู้นั้นก็ถอดเกาะอกเล็ก ดูดหอมซอกคอเล็กอย่างไร้ปรานี สาวน้อยทั้งเกลียดทั้งขยะแขยงจึงพยายามผลักอกชายร่างอ้วนนั้นออกไป แต่ชายอ้วนคนนั้นหาได้หยุดการกระทำอันบัดสีของตนไม่ กลับพยายามกอดหอมตามแรงกิเลสของตน พลักกันกันไปยื้อกันมา จนสาววัยสิบสามพลักร่างชายอ้วน ชายอ้วนโมโหจึง
เพี๊ยะ...!!!
ตบหน้าหนูน้อยแล้วกระชากเข้ามาหาตัวด้วยความไม่ปรานี ชายร่างอ้วนปลดกางเกงของตนแล้วยัดเอ็นของมันเข้าไปในกลีบอูมของสาวน้อย มันได้ฉีกพรมจรรย์ของสาวน้อยด้วยการขืนใจด้วยแท่งลูกรักของมันและเมื่อมันจะเสร็จกิจของมัน ชายคนนั้นก็ถอดออกมาแล้วรูดเข้ารูดออกจนน้ำกามออกมารดหน้าของสาวน้อยคนนี้ ก่อนที่มันจะใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปจากที่นี้ ชายข้าราชการคนนั้นก็ได้มองอย่างเหยียดหยามแล้วพูดขึ้นว่า
" หึ! มึงนี่มันเล่นตัวจริงๆ รู้งี้กูไม่เอามึงให้เสียเวลาหรอก อีกะหรี่น้อยเอ่ย..."
เมื่อชายคนนั้นจากไป คนที่เป็นพ่อเลี้ยงก็เข้ามาเก็บเงินค่าบริการลูกของตนที่อยู่บนโต๊ะ และแทนที่เค้าจะปลอบลูกหรือว่ามาดูแลลูกหลังบริการแต่เปล่าเลย เค้าปลดกางเกงของตนแล้วเผยให้เห็นเอ็นสวาทของเค้าแล้วก็ฉีกแผ่นถุงยางสวมเข้าที่เอ็นสวาทของตน ก่อนที่พ่อเลี้ยงของเธอจะขืนใจเธออีกสองรอบ เค้าก็ได้พูดขึ้นว่า
"เรื่องนี้มึงอย่าบอกแม่มึงเด็ดขาดนะ ไม่งั้นมึงตาย!!"
¤□¤□¤□¤□¤□¤
ณ โลกปีศาจในพิภพอสูร
"เฮ้ย แกพร้อมมั้ย"
" หึ กูมาตั้งแต่พ่อมึงจะได้รับปริญาเสียอีก"
" อ้าวๆ มึงนี่ไปพูดกับนายได้ไงว่ะ ห๊ะ มึงก็รู้หนิ่หว่าว่าเราจะไปทำแผนใหญ่ให้สำเร็จ อ้อ แล้วมึงรู้มั้ยว่าทำไมนายถึงต้องไปทำแผนการครั้งนี้"
"ก็อย่างที่กูบอกแล้วไงหล่ะว่ารู้ตั้งแต่เข้ามาแล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดในการฆ่าคนอย่างไม่มีใครสงสัย"
"ใช่...บนโลกมนุษย์ในตอนนี้ต่างแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ชอบยื้อแย่งผลประโยชน์ของตน ยึดตัวเห็นแก่ได้ ชิงดีชิงเด่นเห็นผิดเป็นชอบ ตอนนี้มันถึงเวลาแล้ว โลกมนุษย์ในตอนนี้ได้ถึงเวลาแก่การกวาดล้างครั้งใหญ่แล้ว ถึงเวลากวาดล้างครั้งใหญ่แล้ว หึๆๆๆๆๆ"
"โฮะ!ๆๆฮ๊ะๆๆๆๆๆ....."
"ฮ่า!!ฮ๊าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
¤□¤□¤□¤□¤□¤
>■■■■■■■■■<
ค่าสินค่าทรัพย์นับแสนส่องกล้า
ฆ่าชิงตีดาบหน้าไว้ไม่เห็นใคร
ค่าทรัพย์ถวิลสิ้นแล้ว ฤ เอาได้
คำโกหกเหยินยอแซ่ซ้องสาธุการ
เรื่องราวร้อยท่องไปในภพพาน
เพียงแค่ชีพลมปรานแล้วตัวเป็นเถ้าถ่าน
ทำเพียงเลี้ยงวิญญาณไม่เห็นเงา
เห็นเป็นเพียงร่างกายถูกเขาเอาไปเผา
ทรมานจิตคิดเศร้านี้หนอความเป็นคน
อาถรรพ์กลผลกรรมคนนำไป
จุดมุ่งหมายเพื่อตนไม่เห็นใคร
สวดมนต์ไปแค่เพียงเสียงร้องส่ง
เพราะอยู่ถิ่นคนทรามงามเพียงกาย
กลายเป็นนรกใหญ่กลืนกินสิ้นสังวร
คงเป็นเพราะโลกนี้ถูกปกคลุมมืดมิด
ชั่วช้ากาฬียิ่งกว่าอสรพิษ
เงาร้ายคืบคลานยิ่งกว่าประชั้นชิด