บทที่4. เช็คก่อนเที่ยว

2486 Words
หนุ่มสาววัยไม่เกินยี่สิบปีได้นัดรวมตัวกันที่หน้าบ้านของนายวิเชียรในเวลาแปดโมงเช้า เปียโนได้มาถึงที่บ้านของเพื่อนเธอก่อนแล้วจีรวรรณจึงตามมาอีกคน จีรวรรณนั้นเป็นใบ้ได้ถามลงในแชทว่า จีจี้ : (ไอ้พีชมันจะตื่นมั้ยวะ) เปียโนเห็นแชทของจีจี้(เพื่อให้เรียกง่าย)ถามมาอย่างนั้นจึงพูดตอบว่า "เออน่าอีจี้ แกก็อย่าใจร้อนนักเลยหน่า....ไอ้พีชมันกำลังเก็บข้าวเก็บของเตรียมไปทะเลเลยนะ นั้นๆๆ นั้นไงไอ้พีชมันออกมาแล้ว!" หนุ่มหน้าสวยในชุดผ้าฝ้ายสีขาวปนฟ้าน้อยๆกางเกงสั้นสีขาวกำลังเดินออกมาจากตัวบ้านพร้อมกระเป๋าใบใหญ่ในมือซ้าย มือขวานี้กำลังโทรศัพท์ในมือโทรหาใครสักคน พีชเดินมาถึงกำแพงหน้าบ้านนั้น แล้วได้บอกไปอย่างไม่ทักท้วงว่า "แกสองคนรออีกหน่อยละกัน พี่ปรินซ์กับเพื่อนเขากำลังขึ้นแท็กซี่มาที่นี้ ส่วนรถนะไม่ต้องห่วง ฉันขอพ่อเขาให้คนเตรียมรถไว้แล้ว" เปียโนสะกิดถามพีชด้วยความสงสัยว่า " อ้าว! แล้วพ่อแม่แกสองคนท่านไม่ไปด้วยเหรอ" พีชจึงตอบด้วยความอารมย์ดีว่า "ไม่ต้องห่วงหรอกเปีย ทั้งสัปดาห์นี้จะมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งไปกับพวกเรา นั้นไง คุณพ่อออกมาแล้ว" วิเชียรออกมาในชุดนอนแขนขายาวสีควันบุหรี่ออกมาต้อนรับ วิเชียรชี้พวกเด็กๆถามขึ้นมาว่า "นี่พวกหนูๆจะไปเที่ยวกันจริงๆเหรอ" เปียโน จีจี้ หันมาไหว้ท่านส.ส. วิเชียรรับไหว้ เปียโนจึงตอบว่า " เอ่อ.....ถ้าพวกท่านทั้งสองไม่ว่างก็ไม่ต้องไปก็ได้ค่ะ อีกอย่างแม่หนูก็ดันติดธุระกิจอีกที่เชียงใหม่สามวันสองคืนเดี๋ยวแม่เขาก็ตามมาสมทบกับพวกเรา แล้วนี้ท่านพาใครมาก่อนเหรอค่ะ ดูออกมารับกันเชียว" วิเชียรจึงตอบคำตอบที่ทำให้เปียโนและจีจี้ตื่นเต้นไม่หายว่า "ก็เป็นพ่อของหนูไง เขาจะไปทางสายใต้พอดี เขาเลยอยากไปทางเดียวกับหนูด้วย นั้นๆๆๆ นั้นไง พ่อของหนูมาพอดีเลย" พวกคนในลานหน้าบ้านต่างออกมาต้อนรับดลวิภาค สุพัสดี ซึ่งเป็นพ่อของเปียโน เขาเป็นชายรูปร่างสมส่วนผิวคล้ำ รูปตาและแก้มตอบได้ส่งมาหาลูกของเธอไม่ใช่น้อย เขามาหาพวกเขาในชุดเสื้อสีน้ำเงินเกงเกงดำสวมแว่นตาดำทันสมัย ดลวิภาคไต่ถามวิเชียรด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มแต่เร็วว่า "อ้าวคุณภาค คุณโทรบอกผมให้มาที่บ้านของคุณหนิ่ แล้วนี่พวกหนุ่มๆสาวๆพวกนี้เขามาครบกันรึยังหละ" พีชจึงตอบอธิบายว่า " เออ...ยังเหลือพี่ปรินซ์กับเพื่อนเขาครับ ตอนแรกพวกผมกะจะชวนพี่ปรินซ์ไปแค่คนเดียว แต่เพื่อนเขาที่มาจากอังกฤษเขาจะมาเที่ยวด้วยครับ ก็เลยมาช้าหน่อย" ดลวิภาคพยักหน้า ขยับแว่นตาแล้วถอดออกมาเก็บไว้ในกระเป๋า เขาได้ถามอีกว่า "เอ....แล้วนี่วางแผนกันยังไงละ ที่จะไปเที่ยวกับพ่อในครั้งนี้ รึว่าแม่เขาวางแผนโปรแกรมอะไรให้ลูก" เปียโนจึงบอกแผนการการท่องเที่ยวให้กับคนเป็นพ่อว่า "คุณแม่ได้ทำลำดับการเที่ยวแล้วค่ะคุณพ่อ คุณแม่เขาส่งในแชทของหนูแล้วค่ะ" แล้วเธอก็ส่งมือถือที่มีโปรแกรมการเที่ยวทะเลโดยที่อยู่ในแอพไลน์นั้นเอง ในไลน์นั้นแม่ของเธอได้บอกไว้ว่า สมายด์ : (เมื่อเปียไปที่ทะเลแล้ว เปียก็มาพักที่โรงแรมที่แม่พักอยู่นะ) 《ส่งพิกัด》 โรงแรมนั้นเป็นโรงแรมชื่อลินดา เป็นโรงแรมสี่ดาวราคาดีตั้งอยู่ที่ริมทะเลแถวๆทะเลตรัง ห่างจากบ้านของพวกเปียโนกับพีชไปหลายกิโล แต่พอดลวิภาคเห็นดังนั้น เขาจึงทำสีหน้าไม่สู่ดีนัก เหมือนว่ามันจะไม่ใช่ที่ของเขาพักเข้าแล้ว เขาจึงแปรสีหน้าให้เป็นยิ้มแห้งๆกลบเกลื่อน ดลวิภาคจึงตอบคำตอบที่ทำให้เปียโนตกใจแล้วหัวเราะออกมา "แหม่ ดันไปคนละที่กับฉันเข้าแล้วซิ พ่อไปทางภาคใต้ก็จริงแต่ดันไปคนละทางกันนะซิ พ่อไปเพชรบุรีส่วนพวกหนูๆดันไปตรังอย่างนี้ฉันคงไปเที่ยวกับพวกหนูไม่ได้แล้วหละ แต่ว่าฉันขอติดรถไปด้วยละกัน" ทุกคนหัวเราะ แล้ววิเชียรจึงตอบแทนด้วยไมตรีจิตว่า "งั้นเชิญเลยครับ ผมอนุญาตให้คุณดลวิภาคใช้รถผมได้เลยครับ อ้อนั้น! รถแท็กซี่ของพวกรุ่นพี่เจ้าพีชมานั้นแล้ว" รถแท็กซี่ได้ขับมาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์นสามชั้นสีขาวสะอาดนั้น ที่หน้ากำแพงบ้านสี่น้ำตาลแดงนั้นเองหนุ่มน้อยหน้าฝรั่งที่มีความสูง185.เกินกว่าอายุสิบแปดของเขา เขามากับเพื่อนของเขาที่เป็นคนหน้าเอเชียและมีความสูงไล่เลี่ยกัน ดูแล้วสองคนนี้เป็นลูกครึ่งอย่างแน่นอน ทั้งสองใส่ชุดเสื้อลายการ์ตูนเหมือนกัน ใส่กางเกงยืนขาสั้นเหมือนกัน แต่ที่ต่างกันคือ ทั้งสองใส่เสื้อยืดสีแตกต่างกัน คนหน้าฝรั่งใส่เสื้อสีฟ้าลายการ์ตูนรีบอร์น ส่วนคนหน้าเอเชียรูปงามหน้าใสนั้น ใส่เสื้อสีขาวใส่รูปการ์ตูนตัวแบล็กแจ็ค ทั้งสองต่างมีความหล่อเหลาที่กินกันไม่ลงเลยทีเดียว หนุ่มน้อยร่างสูงหน้าฝรั่งนั้นได้ถามวิเชียรว่า " เออ... ขอโทษนะครับ ที่มาสายเอาป่านนี้" วิเชียรจึงตอบว่า "พวกเรานะรอเธอได้อยู่แล้วละปรินซ์ เธอเป็นเพื่อนของพีชฉันต้องรอเธอได้อยู่แล้ว" เปียโนทำเป็นเหมือนผู้ใหญ่ ไอสองสามครั้งแล้วเปิดการเดินทางว่า "เอาหละค่ะ ตอนนี้คนก็ครบหมดแล้ว ได้เวลาไปเที่ยวกันแล้วค่ะ อย่ามัวรอตรงนี้เลย" พีชจึงทำทีเป็นหัวหน้า บอกเหมือนพวกไกด์ใจกว้างด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่า "งั้นพวกเราอย่าช้าเลย ไปทะเลกันเลย!! คุณพ่อครับ ฝากคุณแม่ทางนี้ด้วยนะครับ" วิเชียรโบกมือลากลุ่มของลูกของเขาที่เดินไปขึ้นรถ โดยคนที่จะเดินขึ้นรถเป็นคนสุดท้ายคือดลวิภาคดันถูกทักจากวิเชียรว่า "ช่วยดูลูกผมด้วยนะท่านผู้กำกับ!" ดลวิภาคได้แต่พยักหน้า แล้วเดินขึ้นไปในรถยนต์ที่กำลังมุ่งหน้าไปที่ทะเลตรังนั้นเอง รถตู้หรูสีดำยี่ห้อดังกำลังวิ่งด้วยความเร็วเจ็ดสิบบนถนนในตัวเมืองสมุทรปราการ กำลังขับขนาดนี้ไม่ทำให้พวกของพีชสนใจเลยแม้แต่น้อย พีชกับจีจี้และหนุ่มหน้าเอเชียนั้นกำลังเล่นเกมแข่งกัน ดลวิภาค ปรินซ์และเปียโนกำลังคุยกันอย่างถูกคอ อ้อ! ผมขอแนะนำนะ นี่คนที่เล่นเป็นเพื่อนกับจีจี้และพีช เขาชื่อ เมฆา คิโรชิ เขาเป็นลูกชายของโคริ คิโรชิ ที่เป็นหมอใหญ่ในบริษัทโรงบาลเอกชนขนาดใหญ่ในเอเชีย เป็นหมอที่รู้จักการรักษาเอดส์คนคนกลุ่มแรกของโลก และพัฒนายาฉีดแก้โรคเอดส์องค์กรแรกที่สามารถทำให้โรคเอดส์หายขาดได้ในเข็มเดียว(นิยายเราโม้ซะอย่าง) ส่วนปรินซ์หรือปริญญา เตอเลียวเซอร์(ออกเสียงว่า เตอ - เลียว - เซ่ )เขาก็มีแม่เป็นลูกสาวของเจ้าพ่อกลุ่มค้าน้ำมันและบริษัทเครือข่ายโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตรายใหญ่ของโลก เบื้องลึกเบื้องหลังของพวกเขาไม่ค่อยมีใครทราบมากนัก รู้แต่ข่าวว่าพวกองค์กรของเตอเลียวเซอร์ที่เป็นองค์กรทรงอิทธิพลองค์กรหนึ่งของอิตาลี ด้วยเหตุที่มีเงื่อนงำนี้เอง ดลวิภาคที่ทำงานเป็นตำรวจชั้นผู้กำกับในสมุทรปราการ จึงทำหน้าที่ด่านถามกับปรินซ์ว่า "อาอยากรู้เหลือเกินว่านายเนี่ยก็เป็นลูกหลานตระกูลใหญ่ มีลูกน้องห้อมล้อมคอยเอาอกเอาใจอย่างนี้ แล้วทำไมนายถึงมาเรียนที่เมืองไทยได้หละ" ปรินซ์จึงตอบอย่างช้าๆว่า "คุณย่าท่านขอไว้ครับ ท่านอยากอยู่กับผม ผมจึงมาอยู่กับท่านที่ทาวน์เฮาส์ในตัวเมืองสมุทรปราการครับ ตอนแรกคุณตาท่านห้ามไว้แต่ผมขอท่าน ผมจึงได้มาเรียนที่เมืองไทยครับ" เมื่อหนุ่มใหญ่หน้าหล่อได้คำตอบแล้ว จึงถามสาวอีกคนว่า " อ้าว แล้วหนูเปียหละ ไปไงมาไงถึงได้ไปสนิทกับเจ้าพีชหละ" เปียโนเลยตอบไปว่า " คือ วันนั้นที่หนูสนิทกับพีชเป็นวันที่ก่อสร้างอาคารใหม่ ครูตอนนั้นเองหนูช่วยเขาให้รอดจากอิฐบนชั้นสี่ เคราะห์ดีที่พวกหนูหลบทัน พีชเขาเลยขอเป็นเพื่อนเพราะความช่างสังเกตุของหนู" "มันเรียกว่าความมีน้ำใจต่างหากหล่ะเปีย ถ้าเธอไม่มาช่วยฉันป่านนี้ฉันก็คงไม่ได้มาเที่ยวกับเธอหรอก" พีชได้ยินคำสนทนาของคนต่างวัยทั้งสองจึงอดไม่ได้ที่จะร่วมวงคุยกันด้วย พีชมองเปียโนด้วยความรู้สึกดีๆ แต่สำหรับเปียโนเธอรู้สึกว่าพีชมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ เธอจึงถามด้วยคำหยาบคายว่า "ไอ้พีช มึงมองกูอย่างงั้นทำไมวะ" ปรินซ์หันไปมองสาวแว่นด้วยความตกใจเพราะคาดไม่ถึงว่าสาวหน้าใสจะพูดในสิ่งที่ไม่เข้ากับหน้าของเธอเลย " เอ๊ะ! หนูเปีย ทำไมด่าคำหยาบคายจังเลย ไม่ดีนะคะรู้มั้ย" พีชทำหัวเราะแล้วยิ้มตอบปรินซ์ว่า "พี่ไม่ต้องไปดุยัยแว่นหรอกฮะ ผมชินแล้วละ บ้างครั้งพวกผมก็พูดหยาบคายกันสนุกบ้าง ก็เท่านั้นแหละครับ" ปรินซ์จึงทำหน้าคลายกังวลได้บ้าง แต่ทีนี้ผู้กำกับดลวิภาคดันเกิดความคิดอย่างหนึ่ง เขาเห็นพวกเด็กๆอย่างเปียโนและจีจี้แล้วจึงได้ขอพวกคนทั้งหมดว่า " เออ.... ทุกคน พ่อว่าพ่อมีเรื่องอยากจะขอร้องพวกเรานะ" เด็กหนุ่มเด็กสาวหันไปมองท่านผู้กำกับดลวิภาค ท่านผู้กำกับได้บอกในอารมย์ที่หนักใจว่า "อาจะขอพวกเราไปตรวจร่างกายหน่อยนะ" เปียโนถามด้วยความสงสัยว่า " เอ๊ะ! คุณพ่อค่ะ จะให้พวกเราไปตรวจร่ายกายที่ไหนเหรอค่ะ" "พ่อก็ว่า จะให้พวกเราเนี่ยไปตรวจร่างกายที่โรงบาลแพลนนิงตัน แถวๆห้างแซนทรัลในตัวเมือง จะมีใครไปที่นั้นมั้ย เพราะว่าพวกเราจะต้องเตรียมซื้อของที่โน่นกันอีก" วัยรุ่นในรถทั้งหนุ่มน้อยสาวน้อย ต่างยกมือขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณว่า "ไปครับ/ค่ะ!" ดังนั้นแล้ว รถตู้คันของพีชนั้นถึงขับลัดเลาะทางจราจรทั้งหลายในกรุงเทพเพื่อไปยังโรงบาลแพลนนิงตันแอนซิเคี่ยวริตี้ที่อยู่เยื้องกับเซ็นทรัลวิลเลจ บางพลี ที่โรงบาลสีเย็นสะอาดตาน่าตรวจสุขภาพนี้เอง ได้มีประวัติอันต้องรู้ไว้ด้วยว่า กลุ่มเค.อี.เค.กรุ๊ปได้มาเข้ากิจการนี้ในฐานะประธานและหน่วยงานที่นำเทคโนโลยีและวิทยาการที่ล้ำยุคมาช่วยรักษาคนป่วยให้หายขาดได้ และที่เหนือไปกว่านั้น องค์กรการรักษาพยาบาลชื่อดังนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของการรักษาคนพิการแขนขาและมือเท้าขาดหรือด้วนให้สามารถต่อติดกันใหม่ได้ และที่พวกนักท่องเที่ยวหนุ่มสาวพวกนี้ที่มากันก็ไม่มีอะไรมาก พวกเขามาตรวจร่างกายตามที่ท่านผู้กำกับได้ขอเอาไว้ พวกเขาเลยทำตามโดยที่ไม่ได้โต้แย้งใดๆ เนื่องจากพวกเขาคิดเห็นว่าถึงยังไงเขาต้องเตรียมพร้อมเอาไว้ก่อน เพราะถ้าร่างกายแข็งแรงจะได้ไม่ต้องมีใครมากังวลในเรื่องความผิดปกติในร่างกายของตน เปียโน พีช จีจี้ เมย์(ชื่อเล่นของเมฆา) และปรินซ์ได้มาตรวจสุขภาพในโรงพยาบาลแห่งนี้ รายแรกที่โดนตรวจคือปรินซ์หนุ่มน้อยลูกครึ่งไทย-อิตาลีนั้นเอง และคนที่ตรวจร่างกายของเขาก็ช่างหวยออกเหลือเกิน เพราะนั้นคือนายกาญจ์ บ้านกล เจ้าของโรงพยาบาลนี้เอง เนื่องจากเขามีตารางตรวจคนไข้ในวันนี้ เขาจึงมาตรวจดูคนไข้และผู้มาบริการโรงพยาบาลของเขาที่นี้นั่นเอง เมื่อนายกาญจ์มาตรวจให้ปรินซ์ รายต่อไปอีกสองคนเรียงลำดับคือพีชและเมย์ ทั้งสามคนนี้ได้รับการตรวจร่างกายก็ไม่พบสิ่งใดผิดปรกติมากนัก เมื่อเมย์ได้ตรวจเสร็จ เปียโนจึงเดินเข้าไปตรวจเป็นคนที่สี่ นาคสุรีย์ได้รับการเรียกขานจึงเดินเข้าไปในห้องตรวจของเขาแล้วนั่งลงมองมาทางที่นายกาญจ์นั่งเช็กดูเอกสาร กาญจ์นั้นรูปร่างภายนอกนั้นเป็นคนอายุสี่สิบเจ็ดปี แต่หน้าดูอ่อนกว่าอายุมากจนดูเหมือนคนสามสิบกลางๆ หน้าตาเหมือนหุ่นรูปปั้นเทพบุตรกรีก จมูกโด่งหน้าคมสันตาคม ไว้หนวดเคราแบบพวกฮีปปี้70s ผิวคล้ำ มีรอยย่นตรงหน้าผาก ใส่ชุดเสื้อกาวน์อย่างหมอโรงพยาบาล เสื้อฝ้ายสีฟ้าม้าลายครามกางเกงดำ รูปร่างสมส่วน เขาในตอนนี้กำลังมองหน้าเปียโนอย่างเคร่งเครียด ดูเหมือนเขามีเรื่องกังวลอยู่ เปียโนที่เห็นคนเป็นหมอได้ทำสีหน้าเคร่งเครียดเช่นนั้น จึงได้ถามแพทย์ใหญ่ว่า "คุณกาญจ์ค่ะ" กาญจ์เงยหน้าขึ้นมาแล้วถามว่า "มีอะไรเหรอครับ" " คือว่า คุณกาญจ์ค่ะ หนูเป็นอะไรไปเหรอค่ะ ถึงได้มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก" เปียโนถามด้วยความกลัวเล็กน้อย แต่ว่านายกาญจ์ก็ได้ตอบอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า " อ้อ! ไม่มีอะไรครับ ร่างกายของคุณนาคสุรีย์ไม่มีสิ่งใดผิดปรกติ แต่ว่า...." เปียโนถามขึ้นอีกครั้งด้วยความสงสัย "มีอะไรเหรอค่ะคุณกาญจ์" หมอกาญจ์จึงขอบอกกับเปียโนว่า "ถ้าอย่างนั้นคุณนาคสุรีย์ก็ช่วยไปเชิญคุณพ่อของคุณและเพื่อนสาวของคุณมาเลยแล้วกันนะครับ" เปียโนจึงลุกขึ้นเดินแล้วกล่าวว่า "ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูจะไปตามพ่อกับเพื่อนของหนูมาหาคุณกาญจ์เองค่ะ" แล้วเธอก็เดินอย่างไม่รีบร้อนเพื่อไปหาคนของเธอที่อยู่ทางด้านนอก

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD