EP.1 เมื่อเจ้าพ่อร้ายสบประมาทว่าเธอปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเธอจึง...
พอคล้อยหลังเจนสุดาไม่กี่วินาที ก็มีสายเรียกเข้า
“ว่าไงไคซัส”
“เกิดเรื่องแล้วครับเจ้านาย ”
“มีอะไร ใครก่อเรื่องอะไรอีก”
“คุณเอริคครับเจ้านาย ตอนนี้ลูกจับใส่กรงรอเจ้านายไปประกันตัวอยู่ครับ”
เอเลียสส่ายหน้าอย่างระอาน้องชายต่างมารดาคนนี้เต็มทน
“ข้อหาอะไรอีกล่ะ ขับรถชนคนหรือเปล่า”
“เปล่าครับ เรื่องผู้หญิง”
“จ้อ ไม่ต้องอธิบายแล้ว ฉันพอจะรู้แล้วว่าเอริคโดนข้อหาอะไร จะ รีบไปเดี๋ยวนี้แหละ”
จบประโยคก็วางสาย ชายหนุ่มแต่งตัวลวกๆ และแค่หยิบเสื้อนอกมาสวมก็เป็นอันเสร็จ จากนั้นก็สั่งให้ไคซัสเอารถออก
เมื่อไปถึงโรงพัก เอเลียสก็เดินไปหาน้องชายที่กรงขังทันที
“ข้อหาทำอนาจารเด็กตํ่ากว่าสิบแปดอีกแล้วใช่ไหม”
“ไม่ใช่สิบแปดนะโจ หล่อนเกินสิบแปดแล้ว” เอริคเรียกเอเลียสว่า โจ ซึ่งมาจากชื่อเต็มว่า โจฮาน’ เสมอ และเขามาที่นี่โดยไม่สวมหน้ากาก
และมีเพียงเอริคและคนในครอบครัวของเขาเท่านั้นที่รู้ว่าเอเลียสมี อีกชื่อคือ ‘โจฮาน ชื่อนี้เป็นชื่อของนักธุรกิจหนุ่มที่'ทำงานด้านสว่างๆ ใครก็รู้จักดี’ แต่สำหรับชื่อ ‘เอเลียสเป็นชื่อที่ไม่เคยเปิดเผยตัวตน’ ทุกคน รู้จักเขาแค'เพียงชื่อเท่านั้น นานๆทีเขาถึงจะออกมาปรากฏตัวต่อสาธารณชนภายใต้หน้ากากาปีกค้างคาว
“หล่อนสวยมากนักหรือไง นายถึงได้ลงทุนขนาดนี้”
“หล่อนยังสด”
“ของสดมีตั้งมากตั้งมายมาให้นายเลือก ทำไมจะต้องหาเรื่องใส่ตัวด้วยเรื่องพรรค์นี้ด้วย”
“ก็หล่อนขัดขืน ทั้งที่...”
“พอๆแล้ว ไม่อยากเถียงกับนายแล้ว ฉันมาประกันตัวให้แล้วก็ไปซะ แล้วอย่าก่อเรื่องอีกล่ะ”
เอริคไปแล้ว เอเลียสจึงเดินไปหาคู่กรณีของน้องชาย แล้วก็ต้องส่าย หน้าอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อ
‘ผู้หญิงตัวเล็กๆ หน้าตามอมแมมเหมือนเด็กสิบสองขวบเนี่ยนะ ที่ทำให้เอริคหน้ามืดไล่ปล้ำ ไม่อยากจะเชื่อเลย’
“มาดมัวแซลนิสาชล ผมต้องขอโทษแทนน้องชายของผมด้วยนะ คุณต้องการค่าเสียหายเท่าไหร่”
“เอากองไว้ตรงนั้นแหละ ฉันไม่ต้องการอะไรจากพวกคุณทั้งนั้น และอย่ามาเรียกฉันว่า มาดมัวแซล ฉันไม่ใช่เด็กสาวนะ ฉันยี่สิบสี่ปีแล้ว ด้วย” เธอเชิดหน้าไปอีกทาง กำลังตั้งท่าเตรียมหันหลังกลับแล้วเดินจากไป เธอไม่ต้องการสินไหมจากพี่ชายของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ไอ้บ้ากามไล่ปลํ้าผู้หญิง’
ความจริงเธอไม่ได้แจ้งความหรอก แต่เผอิญว่าตำรวจนายหนึ่งเข้า ไปช่วยเธอจากไอ้เจ้าบ้ากามนั้น ก็เลยได้มาที่สถานีตำรวจแห่งนี้ แล้วก็เจอเพื่อนที่เป็นตำรวจอยู่ที่นี่พอดี เลยได้คุยกัน จึงได้รู้ว่านายเอริคคู่กรณีของเธอเป็นลูกชาของผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในเมืองนีซ หากเป็นไปได้ก็ควรหลีกเลี่ยง
...โชคดีที่เธอหนีเสือมาปะจระเข้และรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ต่อไป คงต้องระวังตัวเองให้มากกว่านี้อย่าไว้ใจใครง่ายๆ โดยเฉพาะ ‘เพื่อนสนิท’ ที่คิดไม่ซื่อ...
...เธอโดนหลอก! และจะต้องเอาคืนให้ได้!...
“ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมเจ้าเอริคมันถึงหน้ามืดไล่ปลํ้าเธอได้ หน้าตาอย่างกับเด็กประถม หน้าอกก็อย่างกับกระดานแผ่นเรียบ รูปร่างรึก็ผอมบาง ถ้าสวยกว่านี้อวบกว่านี้ก็ว่าไปอย่าง”
“ไอ้... ไอ้ปากปีจอ มีน้องชายนิสัยตํ่าทรามยังไม่พอ ตนเองยังปากหมาอีก”
ด้วยความโกรธจัดจนควันออกหูที่โดนตำหนิด้วยถ้อยคำที่ทำร้ายจิตใจ ลูกผู้หญิงอย่างแรง ทำให้นิสาชลพ่นคำด่าออกไปแบบไม่กลัวเกรง แม้ว่าเขา จะเป็นลูกเต้าเหล่าใครก็ช่าง
“อืม ไม่สวยแต่ปากเก่ง นี่เช็คสำหรับค่าเสียหาย” เขายื่นกระดาษแผ่นบางให้เธอ แต่หญิงสาวไม่รับ
“ช่วยขยำมันแล้วเอายัดปากนายด้วย จะบอกให้นะเงินซื้อทุกอย่างไม่ได้หรอก”
“เธอเข้าใจผิดแล้วล่ะ เงินซื้อได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งความรัก” ชั่ววูบหนึ่งเหมือนจะเห็นดวงตาคมสีเข้มเปล่งประกายวาววับน่ากลัวขึ้นมา แต่มันก็วูบหายไปแค่เสี้ยววินาทีโดยที่ใครก็ไม่ทันสังเกตเห็น
“นายนั่นแหละเข้าใจผิด อย่างน้อยความรักจากฉันคนหนึ่งละที่เงิน ซื้อไม่ได้”
“หึ แล้วฉันจะคอยดู มาดมัวแซลนิสาชล”
“บอกว่าอย่ามาเรียกฉันว่ามาดมัวแซลยังไงล่ะ หูแตกรึไง”
“นีซ เบาๆหน่อยสิ นี่สถานีตำรวจนะ อีกอย่างฉันว่าคุณโจฮานกับ คุณเอริคเป็นคนละคนกัน คุณโจฮานเขาเป็นคนดีมากนะ เธอควรเกรงใจเขา” เพื่อนที่เป็นตำรวจเตือนเพื่อนสาวด้วยความเกรงใจบุรุษที่ยืนอยู่ตรงหน้า พลางเหลือบตามองโจฮานด้วยสายตาขอโทษแทนเพื่อนสาว
“คนดีประสาอะไรพูดจาไม่รักษาน้ำใจคน คนดีประสาอะไรเอาเงินฟาดหัวคน คนดีประเภทนี้จะต้องเกรงใจทำไม” เธอมองเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างหยามเหยียด ทันได้เห็นว่าเขาสวมแหวนทองที่แกะสลักเป็น รูปมังกรอยู่ที่นิ้วชี้
‘ท่าจะเป็นคนที่ชอบออกคำสั่งด้วยล่ะสิ’ เธอเดาจากการที่เห็นเขาสวมแหวนที่นิ้วชี้
“นีซ!” แม็กเซสปรามนิสาชลดังขึ้นอีก
“ทำไมล่ะแม็ก คุณกลัวเขาเหรอ”
แม็กเซสไม่ตอบแต่ส่ายหน้าในความมั่นใจเกินร้อยของเพื่อนสาว
“เอ่อ เมอซิเออร์โจฮานขอรับ กระผมต้องขออภัยแทนยัยนีซด้วยนะขอรับ เธอเป็นคนปากจัดแบบนี้เองแหละ แต่จริงๆไม่มีอะไรหรอกครับ” เพราะไม่อยากให้นิสาชลมีเรื่องมีราวกับลูกชายของผู้ทรงอิทธิพล โดยเฉพาะกับโจฮาน ที่เวลาใจดีก็แสนดีแต่ถ้าได้โมโหขึ้นมา น้ำทะเลก็คงจะดับไฟอารมณ์ของเขาได้ยาก
“ไม่เป็นไร ผมถือว่าเป็นคำพูดของเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมก็ แล้วกัน” พูดจบร่างสูงสง่าก็เตรียมจะเดินจากไป แต่...
“เดี๋ยวสิ เมอซิเออร์โจฮาน”
เท้าที่กำลังจะถ้าวออกไปจากประตูเป็นต้องหยุดชะงักแล้วเจ้าของร่างสูงใหญ่ก็หันกลับมามองเจ้าของเสียงหวาน
โดยไม่คาดฝัน ร่างบางในชุดโค้ทตัวใหญ่ที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงราวกับไป ฟิดกับหมาบ้าที่ไหนมา ก็เดินเข้าไปเขย่งปลายเท้าสอดแขนเรียวขึ้นไปเกี่ยวลำคอแข็งแรงโน้มใบหน้าหล่อคมของชายหนุ่มตํ่าลงแล้วจูบเขานิ่งนาน มันเป็นจูบแบบเด็กๆ ที่ไม่ได้เอาลิ้นสอดเข้าไป ก่อนจะผละออก
“เธอกำลังทำอะไรสาวน้อย”
“ฉันก็กำลังบอกคุณว่า ปากของฉันสิ้นกลิ่นน้ำนมแล้วยังไงล่ะ” ความกล้าบ้าบิ่นของนิสาชล ทำให้เธอตั้งใจจะลบคำสบประมาทของเขา ไม่รู้ผีห่าอะไรมาดลใจให้เธอทำแบบนี้ แต่ก็ทำมันไปแล้ว โดยที่เจ้าตัวก็ยังงงกับ การกระทำของตนเองไม่หาย
เอเลียสอึ้งไปหลายวินาที แม้จูบนี้จะเป็นจูบแบบเด็กๆที่เพียงแต่เอา ปากมาแนบปากจูจุ๊บกัน ทว่าจุมพิตของเด็กสาวคนนี้มันกลับทำให้เขา ซาบซ่านในหัวใจแปลกๆ
‘ผู้หญิงประหลาด เพิ่งเคยเจอ หรือเธออยากเล่นกับไฟ’
“กล้าหาญมากนะ แล้วสักวันฉันจะจูบคืน” พูดจบชายหนุ่มก็เดินออกไป