หลังจากที่ทั้งสองคนมีความสุขด้วยกันอีกครั้งก็ลุกขึ้นมาแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วเดินทางออกมาจากคอนโด เมื่อคืนธาดานั่งรถมากับแพรีสเขาจึงไม่มีชุดเปลี่ยน
"เดี๋ยวจะแวะบ้านแป๊บหนึ่งนะ ไม่ต้องลงรถก็ได้ไปเอาชุดก่อน"
"อื้ม ได้สิ"
แพรีสกอดแขนชายหนุ่มไว้ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีสุดๆ ธาดาก็น่ารักกับเธอไม่ว่าอะไรที่เธอจะแตะเนื้อต้องตัวหรือกอดเขาแบบนี้ แต่ว่าต้องห้ามทำเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น ส่วนถ้าอยู่ด้วยกันสองต่อสองเธอจะอ้อนเขายังไงก็ได้
"รอแป๊บนะ"
เขาออกจากรถรีบวิ่งเข้าไปในบ้านหยิบของในห้องนอนของตัวเอง บ้านที่เขาอยู่ไม่ใหญ่โตมากนักเพราะพ่อมีกิ๊กแม่จึงพาพวกเราสามคนพี่น้องออกจากบ้านมาอยู่ที่นี่ แต่พักหลังก็มาตามง้องอนคุณแม่อยู่บ่อย สงสัยจะสำนึกได้และกลับมาตายรังที่เดิมล่ะมั้ง
"ธาดาทำไมเมื่อคืนไม่กลับบ้านล่ะลูก"
"ทำงานครับแม่ งานยุ่งอ่ะ"
"ยุ่งอะไรเพิ่งทำงานเองไม่ใช่เหรอ เรานี่นะจะทำงานอิสระหรืองานประจำก็มีเรื่องให้ไม่เข้าบ้านอยู่ดี"
คุณลินดาบ่นออกมาเสียงไม่จริงจังนัก ไม่เห็นจะต้องเปลี่ยนงานให้วุ่นวายเลย ยังไงสุดท้ายก็ไปค้างที่อื่นอยู่ดี
"แม่อย่าบ่นหน่อยเลยน่า น้องก็อยู่ด้วยไง ผมไปก่อนนะรักนะครับ"
เขาเดินไปหอมแก้มคุณแม่ก่อนจะรีบวิ่งออกไปทันที ท่านมองตามลูกชายไปก่อนจะส่ายหน้ายิ้มๆ
"เฮ้อ! ลูกฉันแต่ละคน"
ธาดาถือชุดติดมาด้วยสองสามชุดเพื่อว่ามีความจำเป็นต้องค้างที่อื่นจะได้มีชุด อีกอย่างเขาไม่อยากขับรถด้วยตัวเอง นั่งแกรบไปสะดวกกว่าตั้งเยอะ
"รอนานมั้ย"
"ไม่เลยค่ะ บ้านคุณน่ารักดีนะคะ"
เธอเอ่ยชมบ้านชายหนุ่ม ถึงว่ามันจะเล็กแต่ก็ดูอบอุ่นดีอีกอย่างบ้านนี้เค้ามีลูกหลายคน เธอจำได้ว่าธาดามีน้องสองคนน้องชายกับน้องสาว คนเล็กสุดเหมือนจะเป็นนักแสดงด้วยนะน่ารักสวยเชียว
"อืม รีบไปกันดีกว่าเดี๋ยวไปทำงานสาย"
เขาเอ่ยออกมาเสียงเรียบก่อนจะรีบขับรถออกไปทันที ตลอดทางแพรีสก็กดเปิดเพลงคลอเบาๆมองไปโดยรอบอย่างอารมณ์ดีที่มีคนขับรถให้ด้วย ปกติต้องดูแลตัวเองตลอดเป็นผู้หญิงที่สู้ชีวิตมากจริงๆ เธอหยิบโทรศัพท์มากดรับสายเพราะว่ามีคนโทรเข้ามา
"ว่าไงคะพี่พุฒ คิดถึงเค้าเหรอโทรมาแต่เช้าเลย"
ธาดาได้ยินหญิงสาวเรียกปลายสายอย่างสนิทสนมก็รู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ หรือว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นคนรักของแพรีส แล้วเธอยังมานอนกับเขาเนี่ยนะ... เหอะ! เห็นเขาเป็นอะไร
(ไงเราสบายดีมั้ย พี่จะโทรมาบอกว่าส่งผลไม้ไปให้พรุ่งนี้รับด้วยนะ)
"โอเคค่ะ แพรีสอยากกินมะยงชิดกับเมลอนมากเลย ขอบคุณนะคะสุดหล่อ เอาไว้จะกลับไปหานะ"
(อืม เคพี่วางนะ)
หญิงสาวกดวางสายก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มที่ตอนนี้ทำตาขวางใส่เธออย่างไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่
"ทำไมทำหน้างอแบบนั้นคะ เป็นอะไรเหรอ"
"คุณมีแฟนอยู่แล้วก็ไม่ควรมายุ่งกับผมมั้ย หลังจากวันนี้ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีกแล้วนะเข้าใจมั้ย"
ธาดาสบถออกมาอย่างหัวเสีย เขาไม่ชอบยุ่งกับคนมีเจ้าของแล้วเพราะฉะนั้นต่างคนต่างไปดีที่สุด แพรีสมองชายหนุ่มอย่างมึนงงก่อนจะหัวเราะออกมาทันที
"ใจเย็นก่อนนะคะ คนเมื่อกี้เป็นพี่ชายของฉันเอง ชื่อพุฒค่ะ พี่น้องพ่อแม่เดียวกันเลย"
ชายหนุ่มได้ยินแบบนั้นก็ชะงักไปรู้สึกเสียเซลฟ์เล็กน้อยที่การคาดเดาของเขาผิดไป
"งั้นเหรอ... ใครจะรู้ล่ะ อย่าให้ผมรู้แล้วกันว่าคุณแอบมีแฟนอยู่แล้ว"
"ไม่มีหรอกค่ะ แพรีสมีคุณคนเดียวค่ะ"
เธอเอ่ยออกมาเสียงหวานก่อนจะกอดแขนชายหนุ่มแล้วซบใบหน้าลงกับไหล่กว้าง
"คืนนี้ค้างกับแพรรีสนะ"
"อืม ได้สิ"
เขาวนรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถก่อนจะหยิบกระเป๋าเตรียมตัวจะไปทำงาน ธาดาหันไปมองหญิงสาวก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ
"เจอกันที่คอนโดคุณเลยแล้วกัน"
"ไม่กลับด้วยกันเหรอคะ แพรีสรอคุณดีกว่า"
เขาส่ายหน้าทันทีเพราะไม่อยากให้คนในบริษัทรู้เรื่องของเราสองคนมากไป เธอเป็นเจ้านายเขาเป็นลูกน้องแถมยังเพิ่งมาทำงานที่นี่ด้วย คนอื่นเขาไม่รู้ว่าเราสองคนรู้จักกันมาก่อนเขาจะมองไม่ดีเอาได้
"ผมไม่อยากให้ใครมาเห็นเราสองคน คุณเองจะเสียการปกครองด้วย"
"ก็ได้ค่ะ แพรีสรอคุณที่บ้านก็ได้ งั้นเย็นนี้เราทำชาบูกินกันดีมั้ยคะ"
"อืม งั้นผมซื้อของไปเองคุณรอที่ห้องแล้วกัน"
เขาเอ่ยออกมาเสียงเรียบ หญองสาวพยักหน้ารับทราบก่อนจะโอบรอบคอชายหนุ่มไว้แล้วจุ๊บริมฝีปากหนาอย่างหลงไหล
"ตั้งใจทำงานนะคะ จุ๊บ"
"ผมจะลงไปก่อน สักพักคุณค่อยตามมาแล้วกัน"
เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินลงจากรถไปทันที แพรีสมองตามชายหนุ่มก่อนจะเอามือจับแก้มของตัวเองไว้อย่างเขินอาย เราสองคนดูเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันแต่ในความเป็นจริงคืออยู่กันแบบไม่มีสถานะ งั้นเธอขอมโนไปเองแล้วกันเพราะความจริงมันเจ็บปวดมากสำหรับเธอ....
สักพักหญิงสาวก็เดินลงจากรถไป เดินอ้อมไปข้างหลังขึ้นบันไดหนีไฟไปยังห้องทำงานของตัวเอง เมื่อมาถึงเธอก็ทักทายคุณเลขาเมษาก่อนจะเข้าไปในห้องทำงานแล้วอ่านเอกสารที่ค้างอยู่
"ทำไมปวดหัวจัง"
เธอสะบัดหน้าเล็กน้อยไล่ความมึนงงอรจะกดโทรศัพท์ไปหาเลขาเพื่อขอยาพาราสักเม็ดหนึ่ง ไม่นานเธอก็เข้ามามียาพาราสองเม็ดพร้อมน้ำดื่มอีกแก้ว
"ปวดหัวเหรอคะคุณแพรีส"
"นิดหน่อยอ่ะ ไม่รู้เป็นอะไร"
เธอหยิบยามาทานหยิบน้ำดื่มตามก่อนจะนอนพิงแผ่นหลังตรงเก้าอี้ เมษาขอตัวออกไปเพื่อให้เธอได้พักผ่อนก่อนจะถือแฟ้มเอกสารไปยังห้องไอที
"เอกสารที่คุณแพรีสเซ็นแล้วนะ ภาพที่ถ่ายเมื่อวานได้หรือยังคะคุณธาดา"
"ได้แล้วครับเดี๋ยวผมเอาไปให้คุณแพรีสดูเอง"
เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะเตรียมไอแพดติดมือไปด้วย เมษารีบร้องออกมาเสียงหลง
"เดี๋ยวก่อนค่ะ คือตอนนี้คุณแพรีสกำลังทานยาพาราไป ให้นอนพักสักแป๊บค่อยไปหาดีกว่านะ"
เขาชะงักไปก่อนจะหันไปมองเลขาอย่างสงสัย เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงมีไข้ไม่สบายได้ เมื่อเช้ายังดีๆอยู่เลย หรือว่าเขาจะเอาแต่ใจมากไปเธอถึงเป็นแบบนี้
"งั้นเหรอครับ..."
เขาเงียบไปก่อนจะเดินไปเปิดกระเป๋าหยิบผ้าเย็นติดมือไปด้วย เขาเข้ามาในห้องของหญิงสาวมองแพรีสที่ตอนนี้นอนหลับตาอยู่ตรงเก้าอี้ในห้องทำงานก็อดสงสารไม่ได้ ชายหนุ่มวางของลงก่อนจะเอาผ้าเย็นไปแปะไว้ที่หน้าผากของเธอ แพรีสสะดุ้งเล็กน้อยลืมตาเจอธาดาก่อนจะยิ้มกว้างออกมาทันที
"ธาดา"
"ปวดหัวก็นอนพักเถอะ เรื่องงานค่อยมาคุยก็ได้"
เขาไม่อยากไปฝืนเธอในตอนนี้จึงลากเก้าอี้มานั่งลงข้างหญิงสาวขยับผ้าเย็นแปะหน้าผากของเธอเอาไว้ มือหนาทั้งสองข้างนวดเบาๆตรงขมับให้เธอ แพรีสมองการกระทำของชายหนุ่มก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ
"ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง"
"ผมน่าจะเป็นสาเหตุที่คุณเป็นแบบนี้นะ จริงมั้ย"
หญิงสาวยิ้มออกมาก่อนจะหลับตาลงปล่อยให้เขานวดขมับให้เธอต่ออย่างสบายขึ้น ตอนนี้เริ่มดีขึ้นเยอะเลยแต่ว่ายังไม่บอกเขาหรอกเพราะอยากให้ธาดาอยู่กับเธอตรงนี้นานๆ
"ดีขึ้นบ้างมั้ยเนี่ย"
"ยังเลยค่ะ อีกนิดได้มั้ย"
เธอเอ่ยออกมาเสียงออดอ้อนก่อนจะยิ้มออกมาแก้มปริอารมณ์ดีสุดๆ ธาดาเห็นเธอยิ้มแบบนั้นก็รู้แล้วว่าคงดีขึ้นเยอะแล้ว ไม่รู้ว่าหาเรื่องแกล้งเขาต่อรึเปล่าแต่ก็ไม่เป็นอะไรเพราะครั้งนี้เขาเป็นคนทำเธอเอง... ต้องรับผิดชอบสักหน่อย