และแล้วช่วงเย็นก็มาถึง งานเลี้ยงถูกจัดใจกลางของไร่และมีกิจกรรมให้เล่นหลากหลาย ของรางวัลในวันนี้เยอะแยะมากมายใครโชคดีก็มีโอกาสได้รับของรางวัลใหญ่เป็นสร้อยทองมูลค่าหนึ่งบาท
“น่ารักจังนางฟ้าตัวน้อย”
เฮียอาร์ตจับหญิงสาวหมุนรอบไปมาก่อนจะยิ้มกว้างออกมามองเธออย่างหลงไหล เป็นผู้หญิงที่มองไม่เคยเบื่อยิ่งมองยิ่งสวยหรือเพราะว่าเขาหลงผู้หญิงตรงหน้ามากเกินไปก็ไม่รู้
“เฮียก็หล่อนะคะ”
“ก็ต้องหล่อสิไม่งั้นจะไม่เหมาะสมกับที่นางฟ้าได้ยังไง”
“ปากหวานจริงๆ อ่อ พรุ่งนี้ญาดาจะกลับบ้านสักสองวันนะคะ พอดีว่าเป็นวันเกิดคุณพ่อท่านเพิ่งโทรศัพท์มาว่าอยากให้กลับ”
เธอกอดเอวชายหนุ่มขออนุญาตเสียงออดอ้อน เอาจริงเขาไม่อยากให้เธอไปห่างไกลเลย พักหลังติดหญิงสาวต้องอยู่ด้วยกันตลอด แบบนี้สงสัยเขาต้องไปทำหน้าที่ลูกเขยที่ดีในการไปช่วยงานและไปแนะนำตัวเองให้พวกท่านรู้จัก
“งั้นพี่ไปด้วยนะจะได้ไปแนะนำตัวเองให้ผู้ใหญ่รู้จักไง งานวันเกิดญาติพี่น้องอะไรน่าจะมาเยอะนะพี่ไปจะได้เจอครบทุกคนเลยไง”
“อยากไปจริงๆเหรอคะ”
ญาดามองหน้าชายคนรักเพื่อความชัวร์ เธอไม่มีปัญหาอะไรนะถ้าเกิดว่าเขาอยากจะไปเจอครอบครัวของเธอ และเธอไม่มีความลับกับที่บ้านคบใครก็พาไปเจอเป็นเรื่องปกติ เคยมีแฟนสองคนก็มีพี่แบงค์ที่เคยเจอครอบครัวและเฮียอาร์ตอีกคน แต่เขาจะไปพบครอบครัวของเธอในฐานะว่าที่ลูกเขย…
“ไปสิอยากไปมากให้พี่ไปด้วยนะ”
“ได้สิคะไปก็ไป”
ญาดายิ้มกว้างออกมาก่อนจะชวนเขาออกไปที่งานเลี้ยง และตอนนี้ทุกคนทยอยกันมาเยอะมากแล้ว หญิงสาวปล่อยมือของชายคนรักก่อนจะเดินไปทักทายเพื่อนร่วมงานอย่างสนิทสนม เขากอดอกมองตามเธอไปก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ ความจริงเธอก็เป็นผู้หญิงที่เข้ากับคนง่ายมากถ้าไม่ติดเรื่องผู้ชายคนนั้นเขาเชื่อว่าญาดากับเอิงเอยจะสนิทสนมกันได้ไม่ยากเลย แต่มันคงเป็นแค่ความฝันเพราะทั้งสองคนเกลียดกันมาก
“เฮ้อ! ไม่รู้จะแก้ไขยังไงเรื่องนี้”
ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาก่อนจะยิ้มทักทายพนักงานคนอื่น จากนั้นก็เข้าสู่เวลาของการเล่นกิจกรรมต่างๆมีทั้งสนุกและชิงเงินรางวัล แน่นอนว่าญาดาเข้าร่วมทุกคน เธอดูมีความสุขมากอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“เฮียมาเต้นกับญาดาสิ”
หญิงสาววิ่งมาดึงมือชายหนุ่มให้ลุกขึ้นเดินไปเต้นหน้าเวทีด้วยกัน มันเหมือนเขาได้ปลดปล่อยบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน และครั้งนี้เขาคิดว่าเลือกผู้หญิงไม่ผิด ญาดาเข้ามาเติมเต็มทุกอย่างให้เขาและตอนนี้มีความสุขมากที่สุด
“เฮียเต้นไม่เป็นเหรอคะ”
นางฟ้าของเขาส่ายสะโพกไปมาอย่างสนุกอยู่ตรงหน้าเขาหมุนมือเขาไปมาก่อนจะหัวเราะร่าออกมาอย่างอารมณ์ดี เฮียอาร์ตยิ้มกว้างออกมาก่อนจะยื่นมือไปลูบผมเธออย่างเอ็นดู
“เฮียไม่ค่อยถนัดค่ะ”
“เฮียต้องฝึกไว้นะเพราะญาดาชอบเต้นมาก งั้นมานี่เดี๋ยวสอนเอง”
เธอจับเขาให้ทำตามที่ต้องการและดูมีความสุขกับการได้แกล้งชายคนรัก ตลอดทั้งงานญาดาทำหน้าที่แทนเขาทุกอย่างแม้กระทั่งมอบรางวัลซึ่งเขาตั้งใจทำแบบนั้นเพื่อให้พนักงานทุกคนทราบว่าญาดามีความสำคัญยังไงต่อเจ้าของไร่และทุกคนจะได้รู้ว่าควรปฏิบัติตัวยังไงต่อเธอ
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราแต่สิ่งที่ไม่ลืมคือความทรงจำดีๆที่ได้ทำร่วมกัน และวันถัดมาญาดาก็พาเฮียอาร์ตนั่งเครื่องบินเดินทางกลับมาที่กรุงเทพมหานครแต่เช้าตรู่ รถที่บ้านมารอรับที่สนามบินแล้วชายหนุ่มไม่รู้อะไรเกี่ยวกับครอบครัวของเธอเลยสักอย่างและหญิงสาวก็ไม่คิดจะบอกด้วย อยู่ๆมาทันทีไม่มีเวลาให้ทันตั้งตัวเลยแต่ยังไงก็ต้องพร้อมเสมอ
“คุณพ่อกับคุณแม่ของหนูใจดีมั้ยคะ”
“คุณแม่ใจดีค่ะส่วนปะป๊าขี้หวงนิดหน่อยแต่ไม่มากหรอกค่ะ”
ญาดายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะนึกไปถึงพี่สาว กว่าจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่รักก็เล่นเอาหนักหน่วงอยู่พอสมควร แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีเพราะพี่เขยน่ารักเอาชนะใจปะป๊าได้
“ปะป๊าเหรอ… พี่ต้องเรียกแบบหนูมั้ย”
“เรียกปะป๊าก็ได้ค่ะญาดาคิดว่าเฮียน่าจะถูกใจปะป๊าแน่นอนเลย ถ้าไม่ใช่ลูกของเพื่อนที่เขาไม่ชอบท่านเปิดใจเยอะกว่าคนอื่น”
“ยังไง… เฮียไม่ค่อยเข้าใจ”
เขาไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวอธิบายและเธอก็ไม่ใส่ใจที่จะทำให้เขาเข้าใจในคำพูดของเธอด้วย จนเครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัยเขาก็ยังไม่ได้รับคำตอบ
“ให้พี่เรียกแกรบมั้ยคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะมีคนมารับแล้ว”
เธอกุมมือชายหนุ่มพากันเดินออกไป หญิงสาวนัดคุณลุงคนขับรถที่ประตูทางออกสามและเมื่อเดินมาถึงก็เจอคุณลุงยืนโบกไม้โบกมือให้อยู่
“คุณหนูทางนี้ครับ”
“คุณลุงมาเร็วจังเลยค่ะ”
“มารอสักพักแล้วครับ งั้นขึ้นรถก่อนดีกว่าข้างนอกอากาศมันร้อนเดี๋ยวไม่สบายเอาได้”
ญาดาหันไปหาชายหนุ่มก่อนจะกุมมือเขาเดินเข้าไปในรถตู้ที่จอดอยู่ตรงหน้า จากนั้นทั้งสองคนก็นั่งคุยกันไปพลางๆในระหว่างที่รอให้คุณลุงขับไปถึงที่บ้าน
“เฮียขา”
“ว่าไงคะมีอะไรรึเปล่า”
เขาก้มมองหญิงข้างกายที่กอดแขนเขาซบใบหน้าถูไถไปมาอย่างออดอ้อนก่อนจะยื่นมือไปเกลี่ยแก้มเขาเล่น
“ถ้าเฮียเจอครอบครัวของญาดาแล้วกลับไปพาญาดาไปเจอครอบครัวของเฮียบ้างได้มั้ยคะ”
เธอก็อยากเจอครอบครัวของเขาบ้างเช่นกันแต่ไม่ใช่ยัยน้องสาวจิตประสาทคนนั้น ที่หมายถึงคือพ่อแม่มากกว่า
“ได้สิคะเฮียจะพาไปค่ะ”
“น่ารักที่สุดเลย อ๊ะถึงแล้ว”
รถหรูขับผ่านประตูบานใหญ่เข้าไปข้างในตัวบ้าน เฮียอาร์ตนิ่วหน้าเล็กน้อยอย่างแปลกใจที่โดยรอบคือคฤหาสน์หลังใหญ่และมีพื้นที่บ้านกว้างขวาง อย่าบอกนะว่าครอบครัวของเธอทำงานที่นี่
“ที่นี่ที่ไหนอ่ะ พ่อแม่หนูทำงานที่นี่เหรอ”
“ไม่ใช่หรอกค่ะนี่บ้านหนูเอง”
เฮียอาร์ตได้ยินแบบนั้นก็เบิกตากว้างออกมาอย่างตกใจสุดขีด ที่นี่เป็นบ้านของเธอแสดงว่าครอบครัวต้องรวยมากแน่ๆ แต่ทำไมเขาถึงไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย
“หมายความว่ายังไงพี่งงไปหมดแล้ว”
“หมายความว่าปะป๊าของญาดาเป็นเจ้าของที่นี่ไงคะ แล้วท่านก็เป็นเจ้าของโรงแรมในเครือไพบูลย์นิภัคค่ะเฮียรู้จักมั้ย”
ได้ยินแบบนั้นเขาก็รู้ทันทีเพราะเป็นโรงแรมที่ดังมากและคนส่วนใหญ่ชอบไปจัดประชุมที่นั่นและเขาไปบ่อย นี่ตกลงว่าเขาเป็นอาเฮียตกถังข้าวสารได้เป็นเขยมหาเศรษฐีเหรอเนี่ย…
“รู้จักค่ะว่าแต่พี่กลับก่อนดีมั้ยค่อยมาใหม่”
“ไม่ต้องกลับหรอกค่ะหนูบอกปะป๊าไปแล้วว่าเฮียจะมาด้วยกัน”
“อะไรนะ!”