เพ้นท์ของพาย #2
:: เพ้นท์ ::
:: PAAI TALK ::
“เด็กมึงสินะ กูว่าแล้วมึงต้องเลี้ยงต้อย!”
“มึงอย่ากวนตีนได้มะไอ้ดรีม กูบอกแล้วไงว่ากูอุปการะเพ้นท์ให้มาเป็นเด็กที่กูอยากจะส่งเสียเลี้ยงดู ไม่ได้เลี้ยงต้อยแบบที่มึงคิด ไอ้ส้นตีน!”
ผมนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงโซฟาและหันไปมองไอ้ดรีมเพื่อนเพลย์บอยตัวพ่อที่เคยเรียนด้วยกันตอนอยู่เมืองนอก แต่มันก็กลับมาที่นี่ก่อนผม เป็นเพื่อนที่สนิทเพียงไม่กี่คนของผมหรอกนะ “น้องน่ารักนะ”
ไอ้ดรีมยังไม่เลิกเพ้อหาเพ้นท์ แถมยังหมุนตัวเข้าหาโซฟาและเท้าคางมองไปยังครัวเนื่องจากตอนนี้เพ้นท์กำลังทำอาหารเย็นอยู่ แต่ต้องทำเพิ่มเพราะมีหมามารอแดกอยู่หนึ่งตัว
“อย่าคิดเล่น” เน้นย้ำคำจนไอ้ดรีมหันมามองผมอย่างเจ้าเล่ห์ “กูรู้นะมึงคิดอะไรอยู่ ที่ห้ามเพราะเพ้นท์ยังเด็ก อย่าทำให้อนาคตของเด็กคนหนึ่งต้องพังเพราะมึงแค่จะเล่นๆ”
“โด่ รู้ทันกูอีกล่ะ” มันทำหน้าไม่พอใจก่อนจะพลิกตัวมานั่งหันหน้าเข้าทีวีตามเดิม พลางหยิบบุหรี่ของผมไปจุดสูบ “อยู่กับน้องมาตั้งแต่น้องอายุ 15-16 จนตอนนี้โตเป็นสาวแล้ว ไม่...”
“อะไร?” ถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเพราะแค่มันอ้าปากผมก็รู้ว่ามันจะพูดอะไร
“ไม่มองว่าน้องสวย น่ารัก หรืออะไรบ้างเหรอ?”
“ไม่นะ” ส่ายหน้าไปมาก่อนจะเซ็นเอกสารในมือ
“ตายด้าน! กูเห็นน้องครั้งแรก กูยังชอบเลย”
“นั่นมันมึง ไม่ใช่กู” ปิดแฟ้มลงอย่างแรงพลางหันไปมองไอ้ดรีมที่พ่นควันบุหรี่ออกจากริมฝีปากแดงคล้ำ “มึงมันเห็นใครก็น่ารัก สวย สเปกไปหมดล่ะ”
“ก็จริงนี่หวา น้องเพ้นท์น่ารักดี จิ้มลิ้มๆ หึย... ขนลุกอะ” มันพูดพลางเอาแขนให้ผมดูซึ่งขนมันลุกจริงๆ นั่นแหละ
“อย่าเล่น” ชี้นิ้วและจิ้มลงบนหน้าผากของมัน “ปล่อยเด็กคนนั้นไปซะ อย่าหาว่ากูไม่เตือนนะ”
“เออ ไม่เล่นหรอก รอน้องโตอีกนิดค่อยว่ากันเนาะ”
มันยังคงไม่เลิกเล่น เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้จะต้องคอยจีบอยากจะได้เอาไปนอนค้างคืนค้างแรม ผมไม่สนใจมันแต่กลับลุกขึ้นเดินไปหาเพ้นท์ที่กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่ ใบหน้าสวยเงยหน้ามองผม แน่นอนว่าผมมองเธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็เท่านั้น อ่อ มีอีกอย่างคือเธอตัดผมสั้นแล้วน่ารักมาก อันนี้ผมคิดแบบนั้นจริงๆ นะ
“พรุ่งนี้มีไปไหนหรือเปล่า?” ถามออกไปพลางมองอาหารบนโต๊ะที่ถูกทำอยู่สองสามอย่าง
“มีค่ะ พรุ่งนี้เพ้นท์ต้องไปรับใบเกรดที่โรงเรียน”
“งั้นพี่มารับนะครับ” ไอ้ดรีมเสนอหน้ามาตอนไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือมันเกาะไหล่ผมเป็นปลิงและเสนอตัวเพื่อไปส่งเพ้นท์ที่โรงเรียนพรุ่งนี้
“สาระแน”
“โหย... ปากจัด!” ผมยักไหล่ก่อนจะเอาศอกกระทุ้งหน้าท้องมันจนจุกและเดินมานั่งเก้าอี้เพื่อเตรียมจัดการอาหารตรงหน้า “ไอ้พาย ผู้ชายเขาไม่ด่ากันแบบนี้นะ”
“ก็ผู้ชายอย่างกูไง” ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “ไม่ต้องสาระแนเลย อย่าเล่น”
เน้นคำไอ้ดรีมที่ออกอาการไม่พอใจแต่ก็ยอมที่จะนั่งลงบนเก้าอี้เพื่อทานอาหารบนโต๊ะโดยมีเพ้นท์ยืนอยู่ห่างๆ “น้องเพ้นท์ไม่มาทานด้วยกันเหรอครับ?”
“ไม่ค่ะ เพ้นท์ทานทีหลังได้”
“หรือนี่จะเป็นคำสั่งมึงอีก” ไอ้ดรีมหันมามองผม “มึงเกินไปปะ อย่างน้อยน้องเพ้นท์ก็เป็นเด็กของมึงนะ”
ผมไม่สนใจอะไรตักอาหารตรงหน้ากินๆ อย่างรวดเร็วเพราะหิวมาก ส่วนไอ้ดรีมมันอยากจะพร่ำอะไรก็ปล่อยแม่งเหอะ! รำคาญ
“ร้ายจริงนะ แค่นี้ก็ให้น้องมานั่งกินไม่ได้”
“โธ่เว้ย! ปกติเพ้นท์มานั่งกับกู แต่เพราะมีมึงไง เพ้นท์เลยไม่มั่นใจจะนั่งกินด้วย ชัดเจนไหมไอ้เหี้ย!” ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างหงุดหงิด ทำไมจะต้องมาขัดคนที่กำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยด้วยไม่เข้าใจ เหอะ
“ดุจังไอ้เวร แค่ถามนะ”
“เสือกขัดกูตอนกำลังกินทำไม? มึงก็รู้กูไม่ชอบ” พ่นลมหายใจออกมาก่อนจะนึกถึงใครบางคนที่ไม่เคยเห็นผมในด้านนี้ จนได้เห็นสีหน้าซีดเผือดของเพ้นท์ที่ยืนอึ้งอยู่
“น้องเพ้นท์คงไม่เคยเห็นมุมนี้สินะครับ แต่อย่าเห็นเลย มันไม่ดีหรอก”
“ไอ้ดรีม” เรียกชื่อมันด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก เพราะถ้าใช้โทนเสียงนี้ไอ้ดรีมจะรู้ในทันทีว่าผมเริ่มจะไม่พอใจแล้ว มันจึงหันไปสนใจเพ้นท์แทน
“แล้วก็ไม่ต้องเรียกคุณดรีมนะครับ เรียกพี่ดรีมนะครับ” ยังคงตอแยเพ้นท์ไม่เลิก
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณดรีมเป็นเพื่อนคุณพาย เพ้นท์ไม่กล้าเรียกหรือทำตัวเสมอเจ้านายหรอกค่ะ” เธอคลี่ยิ้มให้กับไอ้ดรีมจนมันนิ่งอึ้งไป
“ไอ้พาย” อย่าบอกนะว่ามันจะ... “กูจะเอาน้องเพ้นท์”
ผัวะ
“อ๊า เจ็บสัด!”
“เลิกเล่นสักทีไอ้ดรีม เพ้นท์ไปไม่เป็นแล้ว” ว่าพลางชี้ไปที่ใบหน้าสวยหวานของเพ้นท์ที่บ่งบอกว่าไปไม่เป็นจริงๆ กับเหตุการณ์ที่ไอ้ดรีมทำ มันเล่นแทบจะรวบหัวรวบหางแบบนี้สำหรับเพ้นท์เธอไม่ทันความคิดผู้ชายเพลย์บอยอย่างมัน แต่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้จะรีบเสนอตัวทันทีที่ไอ้ดรีมเอ่ยปาก
“ไม่เล่นนะ พูดจริง”
“กูบอกว่ายังไง?”
“เออ กูก็บอกแล้วไงว่ารอให้น้องโตอีกนิด กูจองแล้วนะ” ไอ้ดรีมพูดด้วยสีหน้าจริงจังจนผมยกมือเสยศีรษะตัวเอง “น้องเพ้นท์ครับ พี่คิวแรกนะครับที่จองน้องเพ้นท์”
“เออ...” เพ้นท์หันมามองผมด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เพ้นท์...”
“ยังไม่ต้องตอบหรอกครับ เอาเป็นว่าถ้าน้องเพ้นท์โตอีกสักปีสองปี ให้นึกถึงพี่ไว้นะพี่คือผู้ชายคนแรกที่จะจีบน้องเพ้นท์ นะครับๆ”
ผมมองไอ้ดรีมที่หันไปคว้ามือเพ้นท์มากุมไว้และทำหน้าอ้อนวอน โดยที่ผมทำได้เพียงนั่งกอดอกมองอย่างนิ่งๆ เพราะไม่รู้จะด่ามันยังไงแล้วล่ะ ถึงยังไงเรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องของธรรมชาติ เพ้นท์โตขึ้นทุกวันมันก็ต้องมีแมลงมาดอมดมเป็นของธรรมดา และผมไม่มีสิทธิ์ไปสั่งหรือห้ามเธอ นอกซะจากให้เธอคิดเองและเลือกที่จะมองโลกภายนอกด้วยตนเอง ส่วนผมก็จะยืนมองเธออยู่ห่างๆ เหมือนที่เคยทำอยู่มาสองปีกว่าที่เราอยู่ด้วยกันมา
“หรือถ้าจะมีใครมาจีบ ต้องขึ้นอยู่กับไอ้พายเหรอครับ?” มันหันมาโวยผมต่อด้วยการทำหน้าบูดใส่ “เป็นเจ้านายน้องเพ้นท์หรือเป็นพ่อกันแน่หืม คุณพนิธาน”
เอานิ้วชี้มาเขี่ยปลายคางจนผมปัดมือมันออกอย่างแรง ไอ้ดรีมลูบฝ่ามือตัวเองป้อยๆ และมองค้อนผม “คุณพายคือผู้มีพระคุณค่ะ”
“...” เมื่อผมไม่ตอบเพ้นท์จึงเลือกที่จะตอบแทน เรียกสายตาของผมให้จับจ้องเธอเพื่อรอฟังคำพูดที่เธออาจจะกำลังคิดกรองมันอยู่เพราะดูจากรอยยิ้มเวลามองผมแล้ว ดูเธอภาคภูมิใจไม่น้อย
“ที่เพ้นท์มีทุกวันนี้ได้ก็เพราะได้รับโอกาสจากคุณพาย ได้เป็นเด็กในอุปการะของคุณพาย ไม่ว่าคุณพายต้องการหรืออยากให้เพ้นท์ทำอะไร เพ้นท์ทำให้ได้หมดค่ะถ้ามันคือความต้องการของคุณพาย”
“โหย... น่ารัก อยากได้อะ”
ผมไม่พูดอะไรเลยสักนิด แต่กลับหยิบแก้วน้ำขึ้นดื่มโดยที่มุมปากยกขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจรู้ตัวได้เลยสักนิด เวลาล่วงเลยผ่านไปดึกพอควรไอ้ดรีมก็กลับไปพร้อมกับอาลัยอาวรณ์เพ้นท์ซึ่งทำตัวไม่ถูกเพราะไม่เคยโดนผู้ชายรุกหนักขนาดนี้ แถมคนที่รุกยังเป็นเพื่อนของผมด้วย เพ้นท์น่ะเป็นเด็กที่อ่อนน้อมถ่อมตัว ไม่เคยทำตัวเสมอเจ้านายและอยู่ในจุดที่ตัวเองยืนได้ดี เพราะเธอเป็นเด็กดีแบบนี้ไง ผมถึงได้ดีใจในวันที่เธอสอบติดมหาลัยและคณะที่ต้องการ เพราะความสำเร็จของเธอ ผมเห็นเธอตั้งใจทำมันจนได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
“พรุ่งนี้ฉันว่าง” เพ้นท์กำลังยกแก้วชามาให้ผมตรงโซฟาเพราะต้องการเคลียร์งานให้ธนิน
“คะ?”
“ไปเอาใบเกรดที่โรงเรียนใช่ไหม พรุ่งนี้ฉันจะไปด้วย” พูดโดยไม่สบตา แต่ทว่าเธอเงียบไปอีกจนผมต้องเงยหน้าจากแท็บฯ มองใบหน้าสวยที่กำลังอึ้งอยู่ “แม้ฉันจะให้ธนินเป็นผู้ปกครอง แต่อย่าลืมว่าฉันส่งเสียเธอเรียน ฉันมีสิทธิ์หรือเปล่า?”
“พะ เพ้นท์ไม่ได้คิดแบบนั้นนะคะ เพ้นท์แค่... เกรงใจคุณพาย”
“ก็บอกว่าว่างไง เกรงใจอะไร?” เธอส่ายหน้าไปมาก่อนจะนั่งลงพับเพียบบนพื้น “ต้องไปถ่ายรูปส่งเอกสารให้ทางมหาลัยด้วยใช่ไหม นอกจากไปรับใบเกรด”
“ใช่ค่ะ” พยักหน้ารับก่อนจะส่งงานให้ธนินเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
“งั้นไปนอน ดึกแล้วพรุ่งนี้จะได้ไปเช้าๆ” เพ้นท์พยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องไป แผ่นหลังบอบบางและผมสั้นปะบ่าที่ผมไม่ชินตาเพราะเธอเพิ่งจะตัดมันมา แต่กลับดูน่ารักและทำให้เธอดูเด็กลงกว่าเดิมด้วยซ้ำ
‘ยายขอให้คุณพายเอ็นดูยัยหนูหน่อยนะคะ’
จู่ๆ คำพูดของยายนวลก็ผุดขึ้นมา ทั้งที่คำพูดของท่านก็หายไปจากหัวสมองของผมมานานมากแล้วนับตั้งแต่รับดูแลเพ้นท์ ถอนหายใจและหันไปมองประตูห้องที่ติดกันของเราสองคนอีกครั้ง
“เพราะว่าเอ็นดูสิครับ ถึงได้ดูแลเธอจนกำลังจะเติบโตเป็นสาวได้ขนาดนี้”
ประตูห้องของเพ้นท์ปิดลง พร้อมกับความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เห็นเพ้นท์ไปได้อีกขั้นของความสำเร็จ ผมอยากไปส่งเธอให้ถึงฝั่งฝัน... จะส่งเธอไปให้ไกลจนกว่าผมคนนี้จะหมดแรง ก็ขอให้เธอได้เข้มแข็งด้วยตัวเองให้ได้มันก็เท่านั้น
:: PAAI TALK END ::
รถหรูของคุณพายขับเลี้ยวเข้ามาในรั้วประตูโรงเรียนเอกชนที่ฉันเพิ่งจะศึกษาจบมามาดๆ แต่วันนี้จะต้องมารับใบเกรดและมีภารกิจที่ต้องไปทำอีกเยอะ แต่ทว่าวันนี้คุณพายว่างจึงอาสาพาฉันมาทำธุระ สำคัญคือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ฉันได้นั่งบนรถส่วนตัวของเขา แน่นอนว่ามันทั้งตื่นเต้นและรู้สึกดีมากๆ เป็นบุญก้นน้อยๆ ของฉันก็ว่าได้ที่ได้สัมผัสกับเบาะรถหรูราคาแพงเฉียดสิบล้านเกือบทุกคันที่คุณพายขับ
วันนี้เขาแต่งตัวสบายๆ แบบเมื่อวานเลย ฉันคิดว่าวันที่คุณพายไม่เนี้ยบเขาก็เหมือนวัยรุ่นวัยยี่สิบต้นๆ คนหนึ่ง แต่ทว่าถ้าแต่งตัวเนี้ยบในมาดนักธุรกิจก็เป็นผู้ใหญ่ที่ดูโตและน่าเกรงขาม แต่ไม่ว่าคุณพายจะอยู่ลุคไหนสำหรับฉันแล้ว คุณพายก็ดูเท่ ดูดีและดูสมาร์ทในสายของฉันอยู่ดี
“คุณพายจะรอในรถไหมคะ ข้างนอกคงร้อนน่าดู” ฉันพูดพลางหยิบกระเป๋าผ้ามาสะพายไหล่ขวา แต่ทว่าคุณพายกลับดับเครื่องรถและพยักเพยิดหน้าไปยังโต๊ะหินอ่อนสีขาววางเรียงรายอยู่ใต้ต้นไม้ และมีนักเรียนผู้ปกครองนั่งอยู่บางตาไม่มากเท่าไหร่
“ลงไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อนแล้วกัน แล้ววันนี้ก็ไม่ได้ร้อนด้วย” พูดจบก็ลงจากรถพลางพับแขนเสื้อเชิ้ตสีดำขึ้นไปถึงข้อศอก หยิบแว่นกันแดดสีดำขึ้นสวมปกปิดดวงตา รอยแยกตรงกลางอกเผยให้เห็นรอยสักลวดลายภาษาอังกฤษตัวเขียนที่ฉันไม่เคยสังเกตหรือสังเกตก็ไม่สามารถจับจ้องอ่านมันได้นานว่าบนแผงอกของเขาสักคำว่าอะไร “ไปยัง”
“ค่ะๆ” ฉันได้สติจึงเดินนำคุณพายไปยังโต๊ะหินอ่อน เพียงแค่ร่างสูงเดินตรงมานั่งที่โต๊ะว่างเปล่า สายตาของนักเรียนและผู้ปกครองถึงกับหันมามองคุณพายที่นั่งลงไขว่ห้างพลางยกมือเสยผมตัวเองขึ้นไปอย่างลวกๆ “ถ้างั้นเพ้นท์ไปที่ห้องแนะแนวก่อนนะคะ”
“อืม”
“แล้วเดี๋ยวเพ้นท์จะซื้อน้ำมาให้นะคะ”
ว่าเสร็จก็เดินตรงไปยังห้องแนะแนวซึ่งตอนนี้คนรอใบเกรดกันเยอะพอควร ขณะที่กำลังต่อแถวอยู่เพื่อนที่อยู่ในห้องสนิทกันพอควรอย่างเตยก็สะกิดไหล่ฉัน “เพ้นท์ มากับใครอะ หล่อรวยมากเลยนะ”
“เตยเห็นด้วยเหรอ?”