#เพ้นท์ของพาย :: CHAPTER 2 [30%]

2299 Words
เพ้นท์ของพาย #2 :: เพ้นท์ :: :: PAAI TALK :: “เด็กมึงสินะ กูว่าแล้วมึงต้องเลี้ยงต้อย!” “มึงอย่ากวนตีนได้มะไอ้ดรีม กูบอกแล้วไงว่ากูอุปการะเพ้นท์ให้มาเป็นเด็กที่กูอยากจะส่งเสียเลี้ยงดู ไม่ได้เลี้ยงต้อยแบบที่มึงคิด ไอ้ส้นตีน!” ผมนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงโซฟาและหันไปมองไอ้ดรีมเพื่อนเพลย์บอยตัวพ่อที่เคยเรียนด้วยกันตอนอยู่เมืองนอก แต่มันก็กลับมาที่นี่ก่อนผม เป็นเพื่อนที่สนิทเพียงไม่กี่คนของผมหรอกนะ “น้องน่ารักนะ” ไอ้ดรีมยังไม่เลิกเพ้อหาเพ้นท์ แถมยังหมุนตัวเข้าหาโซฟาและเท้าคางมองไปยังครัวเนื่องจากตอนนี้เพ้นท์กำลังทำอาหารเย็นอยู่ แต่ต้องทำเพิ่มเพราะมีหมามารอแดกอยู่หนึ่งตัว “อย่าคิดเล่น” เน้นย้ำคำจนไอ้ดรีมหันมามองผมอย่างเจ้าเล่ห์ “กูรู้นะมึงคิดอะไรอยู่ ที่ห้ามเพราะเพ้นท์ยังเด็ก อย่าทำให้อนาคตของเด็กคนหนึ่งต้องพังเพราะมึงแค่จะเล่นๆ” “โด่ รู้ทันกูอีกล่ะ” มันทำหน้าไม่พอใจก่อนจะพลิกตัวมานั่งหันหน้าเข้าทีวีตามเดิม พลางหยิบบุหรี่ของผมไปจุดสูบ “อยู่กับน้องมาตั้งแต่น้องอายุ 15-16 จนตอนนี้โตเป็นสาวแล้ว ไม่...” “อะไร?” ถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเพราะแค่มันอ้าปากผมก็รู้ว่ามันจะพูดอะไร “ไม่มองว่าน้องสวย น่ารัก หรืออะไรบ้างเหรอ?” “ไม่นะ” ส่ายหน้าไปมาก่อนจะเซ็นเอกสารในมือ “ตายด้าน! กูเห็นน้องครั้งแรก กูยังชอบเลย” “นั่นมันมึง ไม่ใช่กู” ปิดแฟ้มลงอย่างแรงพลางหันไปมองไอ้ดรีมที่พ่นควันบุหรี่ออกจากริมฝีปากแดงคล้ำ “มึงมันเห็นใครก็น่ารัก สวย สเปกไปหมดล่ะ” “ก็จริงนี่หวา น้องเพ้นท์น่ารักดี จิ้มลิ้มๆ หึย... ขนลุกอะ” มันพูดพลางเอาแขนให้ผมดูซึ่งขนมันลุกจริงๆ นั่นแหละ “อย่าเล่น” ชี้นิ้วและจิ้มลงบนหน้าผากของมัน “ปล่อยเด็กคนนั้นไปซะ อย่าหาว่ากูไม่เตือนนะ” “เออ ไม่เล่นหรอก รอน้องโตอีกนิดค่อยว่ากันเนาะ” มันยังคงไม่เลิกเล่น เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้จะต้องคอยจีบอยากจะได้เอาไปนอนค้างคืนค้างแรม ผมไม่สนใจมันแต่กลับลุกขึ้นเดินไปหาเพ้นท์ที่กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่ ใบหน้าสวยเงยหน้ามองผม แน่นอนว่าผมมองเธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็เท่านั้น อ่อ มีอีกอย่างคือเธอตัดผมสั้นแล้วน่ารักมาก อันนี้ผมคิดแบบนั้นจริงๆ นะ “พรุ่งนี้มีไปไหนหรือเปล่า?” ถามออกไปพลางมองอาหารบนโต๊ะที่ถูกทำอยู่สองสามอย่าง “มีค่ะ พรุ่งนี้เพ้นท์ต้องไปรับใบเกรดที่โรงเรียน” “งั้นพี่มารับนะครับ” ไอ้ดรีมเสนอหน้ามาตอนไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือมันเกาะไหล่ผมเป็นปลิงและเสนอตัวเพื่อไปส่งเพ้นท์ที่โรงเรียนพรุ่งนี้ “สาระแน” “โหย... ปากจัด!” ผมยักไหล่ก่อนจะเอาศอกกระทุ้งหน้าท้องมันจนจุกและเดินมานั่งเก้าอี้เพื่อเตรียมจัดการอาหารตรงหน้า “ไอ้พาย ผู้ชายเขาไม่ด่ากันแบบนี้นะ” “ก็ผู้ชายอย่างกูไง” ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “ไม่ต้องสาระแนเลย อย่าเล่น” เน้นคำไอ้ดรีมที่ออกอาการไม่พอใจแต่ก็ยอมที่จะนั่งลงบนเก้าอี้เพื่อทานอาหารบนโต๊ะโดยมีเพ้นท์ยืนอยู่ห่างๆ “น้องเพ้นท์ไม่มาทานด้วยกันเหรอครับ?” “ไม่ค่ะ เพ้นท์ทานทีหลังได้” “หรือนี่จะเป็นคำสั่งมึงอีก” ไอ้ดรีมหันมามองผม “มึงเกินไปปะ อย่างน้อยน้องเพ้นท์ก็เป็นเด็กของมึงนะ” ผมไม่สนใจอะไรตักอาหารตรงหน้ากินๆ อย่างรวดเร็วเพราะหิวมาก ส่วนไอ้ดรีมมันอยากจะพร่ำอะไรก็ปล่อยแม่งเหอะ! รำคาญ “ร้ายจริงนะ แค่นี้ก็ให้น้องมานั่งกินไม่ได้” “โธ่เว้ย! ปกติเพ้นท์มานั่งกับกู แต่เพราะมีมึงไง เพ้นท์เลยไม่มั่นใจจะนั่งกินด้วย ชัดเจนไหมไอ้เหี้ย!” ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างหงุดหงิด ทำไมจะต้องมาขัดคนที่กำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยด้วยไม่เข้าใจ เหอะ “ดุจังไอ้เวร แค่ถามนะ” “เสือกขัดกูตอนกำลังกินทำไม? มึงก็รู้กูไม่ชอบ” พ่นลมหายใจออกมาก่อนจะนึกถึงใครบางคนที่ไม่เคยเห็นผมในด้านนี้ จนได้เห็นสีหน้าซีดเผือดของเพ้นท์ที่ยืนอึ้งอยู่ “น้องเพ้นท์คงไม่เคยเห็นมุมนี้สินะครับ แต่อย่าเห็นเลย มันไม่ดีหรอก” “ไอ้ดรีม” เรียกชื่อมันด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก เพราะถ้าใช้โทนเสียงนี้ไอ้ดรีมจะรู้ในทันทีว่าผมเริ่มจะไม่พอใจแล้ว มันจึงหันไปสนใจเพ้นท์แทน “แล้วก็ไม่ต้องเรียกคุณดรีมนะครับ เรียกพี่ดรีมนะครับ” ยังคงตอแยเพ้นท์ไม่เลิก “ไม่ได้หรอกค่ะ คุณดรีมเป็นเพื่อนคุณพาย เพ้นท์ไม่กล้าเรียกหรือทำตัวเสมอเจ้านายหรอกค่ะ” เธอคลี่ยิ้มให้กับไอ้ดรีมจนมันนิ่งอึ้งไป “ไอ้พาย” อย่าบอกนะว่ามันจะ... “กูจะเอาน้องเพ้นท์” ผัวะ “อ๊า เจ็บสัด!” “เลิกเล่นสักทีไอ้ดรีม เพ้นท์ไปไม่เป็นแล้ว” ว่าพลางชี้ไปที่ใบหน้าสวยหวานของเพ้นท์ที่บ่งบอกว่าไปไม่เป็นจริงๆ กับเหตุการณ์ที่ไอ้ดรีมทำ มันเล่นแทบจะรวบหัวรวบหางแบบนี้สำหรับเพ้นท์เธอไม่ทันความคิดผู้ชายเพลย์บอยอย่างมัน แต่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้จะรีบเสนอตัวทันทีที่ไอ้ดรีมเอ่ยปาก “ไม่เล่นนะ พูดจริง” “กูบอกว่ายังไง?” “เออ กูก็บอกแล้วไงว่ารอให้น้องโตอีกนิด กูจองแล้วนะ” ไอ้ดรีมพูดด้วยสีหน้าจริงจังจนผมยกมือเสยศีรษะตัวเอง “น้องเพ้นท์ครับ พี่คิวแรกนะครับที่จองน้องเพ้นท์” “เออ...” เพ้นท์หันมามองผมด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เพ้นท์...” “ยังไม่ต้องตอบหรอกครับ เอาเป็นว่าถ้าน้องเพ้นท์โตอีกสักปีสองปี ให้นึกถึงพี่ไว้นะพี่คือผู้ชายคนแรกที่จะจีบน้องเพ้นท์ นะครับๆ” ผมมองไอ้ดรีมที่หันไปคว้ามือเพ้นท์มากุมไว้และทำหน้าอ้อนวอน โดยที่ผมทำได้เพียงนั่งกอดอกมองอย่างนิ่งๆ เพราะไม่รู้จะด่ามันยังไงแล้วล่ะ ถึงยังไงเรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องของธรรมชาติ เพ้นท์โตขึ้นทุกวันมันก็ต้องมีแมลงมาดอมดมเป็นของธรรมดา และผมไม่มีสิทธิ์ไปสั่งหรือห้ามเธอ นอกซะจากให้เธอคิดเองและเลือกที่จะมองโลกภายนอกด้วยตนเอง ส่วนผมก็จะยืนมองเธออยู่ห่างๆ เหมือนที่เคยทำอยู่มาสองปีกว่าที่เราอยู่ด้วยกันมา “หรือถ้าจะมีใครมาจีบ ต้องขึ้นอยู่กับไอ้พายเหรอครับ?” มันหันมาโวยผมต่อด้วยการทำหน้าบูดใส่ “เป็นเจ้านายน้องเพ้นท์หรือเป็นพ่อกันแน่หืม คุณพนิธาน” เอานิ้วชี้มาเขี่ยปลายคางจนผมปัดมือมันออกอย่างแรง ไอ้ดรีมลูบฝ่ามือตัวเองป้อยๆ และมองค้อนผม “คุณพายคือผู้มีพระคุณค่ะ” “...” เมื่อผมไม่ตอบเพ้นท์จึงเลือกที่จะตอบแทน เรียกสายตาของผมให้จับจ้องเธอเพื่อรอฟังคำพูดที่เธออาจจะกำลังคิดกรองมันอยู่เพราะดูจากรอยยิ้มเวลามองผมแล้ว ดูเธอภาคภูมิใจไม่น้อย “ที่เพ้นท์มีทุกวันนี้ได้ก็เพราะได้รับโอกาสจากคุณพาย ได้เป็นเด็กในอุปการะของคุณพาย ไม่ว่าคุณพายต้องการหรืออยากให้เพ้นท์ทำอะไร เพ้นท์ทำให้ได้หมดค่ะถ้ามันคือความต้องการของคุณพาย” “โหย... น่ารัก อยากได้อะ” ผมไม่พูดอะไรเลยสักนิด แต่กลับหยิบแก้วน้ำขึ้นดื่มโดยที่มุมปากยกขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจรู้ตัวได้เลยสักนิด เวลาล่วงเลยผ่านไปดึกพอควรไอ้ดรีมก็กลับไปพร้อมกับอาลัยอาวรณ์เพ้นท์ซึ่งทำตัวไม่ถูกเพราะไม่เคยโดนผู้ชายรุกหนักขนาดนี้ แถมคนที่รุกยังเป็นเพื่อนของผมด้วย เพ้นท์น่ะเป็นเด็กที่อ่อนน้อมถ่อมตัว ไม่เคยทำตัวเสมอเจ้านายและอยู่ในจุดที่ตัวเองยืนได้ดี เพราะเธอเป็นเด็กดีแบบนี้ไง ผมถึงได้ดีใจในวันที่เธอสอบติดมหาลัยและคณะที่ต้องการ เพราะความสำเร็จของเธอ ผมเห็นเธอตั้งใจทำมันจนได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ “พรุ่งนี้ฉันว่าง” เพ้นท์กำลังยกแก้วชามาให้ผมตรงโซฟาเพราะต้องการเคลียร์งานให้ธนิน “คะ?” “ไปเอาใบเกรดที่โรงเรียนใช่ไหม พรุ่งนี้ฉันจะไปด้วย” พูดโดยไม่สบตา แต่ทว่าเธอเงียบไปอีกจนผมต้องเงยหน้าจากแท็บฯ มองใบหน้าสวยที่กำลังอึ้งอยู่ “แม้ฉันจะให้ธนินเป็นผู้ปกครอง แต่อย่าลืมว่าฉันส่งเสียเธอเรียน ฉันมีสิทธิ์หรือเปล่า?” “พะ เพ้นท์ไม่ได้คิดแบบนั้นนะคะ เพ้นท์แค่... เกรงใจคุณพาย” “ก็บอกว่าว่างไง เกรงใจอะไร?” เธอส่ายหน้าไปมาก่อนจะนั่งลงพับเพียบบนพื้น “ต้องไปถ่ายรูปส่งเอกสารให้ทางมหาลัยด้วยใช่ไหม นอกจากไปรับใบเกรด” “ใช่ค่ะ” พยักหน้ารับก่อนจะส่งงานให้ธนินเป็นอันเสร็จเรียบร้อย “งั้นไปนอน ดึกแล้วพรุ่งนี้จะได้ไปเช้าๆ” เพ้นท์พยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องไป แผ่นหลังบอบบางและผมสั้นปะบ่าที่ผมไม่ชินตาเพราะเธอเพิ่งจะตัดมันมา แต่กลับดูน่ารักและทำให้เธอดูเด็กลงกว่าเดิมด้วยซ้ำ ‘ยายขอให้คุณพายเอ็นดูยัยหนูหน่อยนะคะ’ จู่ๆ คำพูดของยายนวลก็ผุดขึ้นมา ทั้งที่คำพูดของท่านก็หายไปจากหัวสมองของผมมานานมากแล้วนับตั้งแต่รับดูแลเพ้นท์ ถอนหายใจและหันไปมองประตูห้องที่ติดกันของเราสองคนอีกครั้ง “เพราะว่าเอ็นดูสิครับ ถึงได้ดูแลเธอจนกำลังจะเติบโตเป็นสาวได้ขนาดนี้” ประตูห้องของเพ้นท์ปิดลง พร้อมกับความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เห็นเพ้นท์ไปได้อีกขั้นของความสำเร็จ ผมอยากไปส่งเธอให้ถึงฝั่งฝัน... จะส่งเธอไปให้ไกลจนกว่าผมคนนี้จะหมดแรง ก็ขอให้เธอได้เข้มแข็งด้วยตัวเองให้ได้มันก็เท่านั้น :: PAAI TALK END :: รถหรูของคุณพายขับเลี้ยวเข้ามาในรั้วประตูโรงเรียนเอกชนที่ฉันเพิ่งจะศึกษาจบมามาดๆ แต่วันนี้จะต้องมารับใบเกรดและมีภารกิจที่ต้องไปทำอีกเยอะ แต่ทว่าวันนี้คุณพายว่างจึงอาสาพาฉันมาทำธุระ สำคัญคือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ฉันได้นั่งบนรถส่วนตัวของเขา แน่นอนว่ามันทั้งตื่นเต้นและรู้สึกดีมากๆ เป็นบุญก้นน้อยๆ ของฉันก็ว่าได้ที่ได้สัมผัสกับเบาะรถหรูราคาแพงเฉียดสิบล้านเกือบทุกคันที่คุณพายขับ วันนี้เขาแต่งตัวสบายๆ แบบเมื่อวานเลย ฉันคิดว่าวันที่คุณพายไม่เนี้ยบเขาก็เหมือนวัยรุ่นวัยยี่สิบต้นๆ คนหนึ่ง แต่ทว่าถ้าแต่งตัวเนี้ยบในมาดนักธุรกิจก็เป็นผู้ใหญ่ที่ดูโตและน่าเกรงขาม แต่ไม่ว่าคุณพายจะอยู่ลุคไหนสำหรับฉันแล้ว คุณพายก็ดูเท่ ดูดีและดูสมาร์ทในสายของฉันอยู่ดี “คุณพายจะรอในรถไหมคะ ข้างนอกคงร้อนน่าดู” ฉันพูดพลางหยิบกระเป๋าผ้ามาสะพายไหล่ขวา แต่ทว่าคุณพายกลับดับเครื่องรถและพยักเพยิดหน้าไปยังโต๊ะหินอ่อนสีขาววางเรียงรายอยู่ใต้ต้นไม้ และมีนักเรียนผู้ปกครองนั่งอยู่บางตาไม่มากเท่าไหร่ “ลงไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อนแล้วกัน แล้ววันนี้ก็ไม่ได้ร้อนด้วย” พูดจบก็ลงจากรถพลางพับแขนเสื้อเชิ้ตสีดำขึ้นไปถึงข้อศอก หยิบแว่นกันแดดสีดำขึ้นสวมปกปิดดวงตา รอยแยกตรงกลางอกเผยให้เห็นรอยสักลวดลายภาษาอังกฤษตัวเขียนที่ฉันไม่เคยสังเกตหรือสังเกตก็ไม่สามารถจับจ้องอ่านมันได้นานว่าบนแผงอกของเขาสักคำว่าอะไร “ไปยัง” “ค่ะๆ” ฉันได้สติจึงเดินนำคุณพายไปยังโต๊ะหินอ่อน เพียงแค่ร่างสูงเดินตรงมานั่งที่โต๊ะว่างเปล่า สายตาของนักเรียนและผู้ปกครองถึงกับหันมามองคุณพายที่นั่งลงไขว่ห้างพลางยกมือเสยผมตัวเองขึ้นไปอย่างลวกๆ “ถ้างั้นเพ้นท์ไปที่ห้องแนะแนวก่อนนะคะ” “อืม” “แล้วเดี๋ยวเพ้นท์จะซื้อน้ำมาให้นะคะ” ว่าเสร็จก็เดินตรงไปยังห้องแนะแนวซึ่งตอนนี้คนรอใบเกรดกันเยอะพอควร ขณะที่กำลังต่อแถวอยู่เพื่อนที่อยู่ในห้องสนิทกันพอควรอย่างเตยก็สะกิดไหล่ฉัน “เพ้นท์ มากับใครอะ หล่อรวยมากเลยนะ” “เตยเห็นด้วยเหรอ?”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD