“สวัสดีค่ะ คุณปรานนท์.ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“...”
เขายืนอึ้งกับคนที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ เธอส่งยิ้มมาให้เขาแล้วกล่าวคำทักทายเขาทำเป็นเหมือนคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
“ปรานนท์เป็นวิศวกรมือ 1 ในบริษัทผมเลยนะครับ โรงแรมนี้ก็ได้ปรานนท์นี่แหละเป็นคนคุมงานจนเสร็จ...”
“ที่คุณศิวัชเคยเล่าให้อ้อมฟังบอยๆตอนแรกก็ไม่เชื่อนนะคะ แต่พอได้มาเห็นโรงแรมที่เสร็จพร้อมสมบูรณ์แบบนี้แล้ว อ้อมไม่ขอเถียงเลยละคะว่าคุณปรานนท์เก่งจริงๆ...”
เธอจ้องหน้าเขาแล้วยิ้มให้เขา แต่เขากลับยังยืนนิ่งไม่ได้พูดอะไร
“นนท์ยืนนิ่งทำไม...อึ้งไปเลยหรือไงที่เห็นแฟนฉันตัวจริงแบบนี้...สวยอย่างที่ฉันบอกไหมล่ะ..?”
“คุณศิวัช...ชมอ้อมเกินไปแล้วนะคะ...”
“ก็จริงนี่ครับ...คุณทั้งสวยแล้วก็น่ารักจริงๆนี่ ดาราสวยๆบางคนยังสู้คุณไม่ได้เลยนะ...”
ศิวัชยื่นมือไปจับมือเธอขึ้นมากุมไว้ แล้วส่งยิ้มหวานไปหาเธอโดยมีสายตาของปรานนท์มองอยู่
“เดี๋ยวผมเดินไปตักอาหารมาให้...คุณนั่งคุยกับปรานนท์ไปก่อนนะ...”
“ได้ค่ะ...”
ศิวัชพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะไป โดยมีแค่อรสิตาและปรานนท์อยู่ที่โต๊ะกันแค่ 2 คน
“เชิญนั่งค่ะ...คุณปรานนท์”
ปรานนท์มองหน้าเธอนิ่งๆแล้วยอมนั่งลงช้าๆตามที่เธอบอก เขามองดูใบหน้าเธอชัดๆตั้งแต่ทรงผมไปจนถึงการแต่งตัวที่เปลี่ยนไปของเธอ แต่ต่อให้เธอเปลี่ยนไปมากแค่ไหนเขาก็ยังจำเธอได้ ถึงแม้ว่าวันนี้เธอจะทั้งสวยแล้วก็ดูดีขึ้นมากก็ตาม
“อ้อมเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ...”
เขาเริ่มบทสนทนาขึ้นก่อน เธอจึงยิ้มบางๆและเงยหน้าขึ้นมามองเขา
“5 ปีแล้วนะนนท์...จะให้อ้อมเหมือนเดิมได้ยังไงล่ะ...อ้อมวันนี้ไม่ใช่อ้อมคนเดิมที่นนท์เคยรู้จักอีกแล้วนะ...”
“...”
“อ้อมที่อยู่ตรงหน้านนท์คนนี้คืออ้อมแฟนของคุณศิวัช อ้อมไม่เคยรู้จักนนท์มาก่อน เราเพิ่งเจอกันที่นี่เป็นครั้งแรก...อยากให้นนท์ช่วยจำไว้ด้วย...”
เขาอึ้งไปกับสิ่งที่เธอกำลังตอกย้ำเขา
“อ้อมไม่อยากให้คุณศิวัชรู้เรื่องของเรา นนท์เองก็ไม่อยากให้คุณศิวัชไม่สบายใจใช่ไหม เพราะถ้าเขารู้เรื่องของเราเขาคงลำบากใจที่จะคบกับอ้อม อ้อมไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น...”
“...”
“มาแล้วครับ...”
ศิวัชเดินถืออาหารมาที่โต๊ะวางลงตรงหน้าของอรสิตา โดยมีสายตาของปรานนท์มองมานิ่งๆ
“นี่ผมตักของโปรดคุณมาเลยนะ...ผมรู้ว่าคุณชอบทานสตูเนื้อใส่มะเขือเทศมากๆ แต่มันใส่หอมใหญ่ที่คุณไม่ชอบมาด้วย คุณเขี่ยมันออกมาไว้จานผมนะเดี๋ยวผมจัดการให้เอง...”
“ขอบคุณนะคะ...ที่คุณใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของอ้อมแบบนี้ด้วย...”
“ก็กว่าผมจะจีบอ้อมติด ผมก็ต้องทำคะแนนอยู่นานเลยนี่ครับ...”
“แต่ตอนนี้ก็จีบติดแล้วนี่ไงคะ...”
เธอส่งยิ้มหวานให้ศิวัชจนเขายิ้มอายหน้าแดง ทั้ง 2 คนคุยกันโดยไม่สนใจเลยว่าบนโต๊ะอาหารนี้ มีปรานนท์นั่งอยู่ด้วย
“เรา 2 คนมัวแต่จีบกัน จนลืมดูไปเลยนะครับ ว่ามีปรานนท์นั่งอยู่ด้วย.”
เธอหันมามองหน้าเขาที่เอาแต่นั่งจ้องมาทางคู่เธอไม่วางตา
“แล้วนี่คุณปรานนท์ไม่มีแฟนหรอคะ..?”
“...”
เชาเงียบไม่ตอบศิวัชจึงหันมาตอบแทน เพราะรู้ดีว่าปรานนท์ไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องสาวนตัว
“นนท์ยังไม่มีแฟนหรอกครับ...นนท์เขายังโสดอยู่วันๆมันก็ทำแต่งาน ไม่มีเวลาไปสนใจผู้หญิงที่ไหนสักคน...”
“ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ...”
“ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อแหละครับ เพราะผมรู้จักกับนนท์มาหลายปี ผมยังไม่เคยเห็นมันมีแฟนสักคน...คุณอ้อมมีเพื่อนสวยๆสักคนไหมละครับ แนะนำให้นนท์มันรู้จักสักคนสิ...”
“...”
อรสิตามองหน้าเขานิ่งๆอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ว่าคนอย่างปรานนท์นะหรอที่จะไม่มีแฟนจริงๆ
“ผมอิ่มแล้ว...ขอตัวนะครับ...”
“เห็นไหมครับ...พอผมพูดว่าจะแนะนำผู้หญิงให้...มันก็รีบชิ่งทันทีเลย...”
ศิวัชหันมาพูดกับอรสิตา
“ผมอิ่มแล้วจริงๆครับ ผมจะรีบไปเก็บของด้วยจะเดินทางกลับกรุงเทพฯวันนี้เลย...”
“จะรีบกลับไปไหนล่ะ อยู่เที่ยวด้วยกันก่อนซิ..?”
“ไม่ดีกว่าครับ...ผมขอกลับไปเคลียร์งานรอคุณศิวัชที่กรุงเทพฯแล้วกันนะครับ...เที่ยวให้สนุกครับ...ผมขอตัว...”
“อืม...เดินทางดีๆล่ะ...”
“ขอบคุณครับ...”
เขาขอบคุณศิวัชเสร็จก็หันมายิ้มให้อรสิตาเล็กน้อย แล้วเขาก็เดินออกไปจากตรงนั้น โดยมีสายตาของอรสิตามองตามไปอย่างไม่ละสายตา
...
“นี่นาย...”
ปรานนท์ขนกระเป๋าเสื้อผ้าลงมาจากห้องเพื่อที่จะไปเช็คเอ้าท์ แต่ได้ยินเสียงคนเรียกจึงหันไปมอง
“คุณปรางนริน...”
เธอเดินเข้ามาหาเขาช้าๆโดยที่สายตาเขาก้มไปมองที่ข้อเท้าเธอ เห็นมีผ้าพันข้อเท้าไว้อยู่ก็รู้สึกผิดขึ้นมาที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้
“นายจะกลับกรุงเทพฯวันนี้ใช่ไหม..?”
“ใช่ครับ...”
“ฉันว่าจะกลับกรุงเทพฯวันนี้เหมือนกัน แต่ขับรถกลับเองไม่ไหว ฉันขอติดรถไปกับนายด้วยนะ.”
“กลับกับผม..?”
“ก็ใช่นะซิ...”
“เอ่อ...แต่ว่า”
“ไม่ต้องแต่...นายเป็นคนชนฉันล้มจนฉันเป็นแบบนี้ นายต้องรับผิดชอบ...เพราะถ้าฉันไม่เจ็บตัวแบบนี้ฉันขับรถกลับเองแล้ว ไม่ต้องมาติดรถนายกลับหรอก...”
“รถในโรงแรมคุณก็มีตั้งเยอะแยะ ทำไมคุณไม่ให้ลูกน้องคุณขับไปส่งล่ะครับ..?”
“เขาก็ต้องทำงานไหม...แล้วส่วนใหญ่พวกพนักงานบ้านเขาก็อยู่ที่นี่กันทั้งนั้น ฉันไม่ใจร้ายที่จะให้เขาขับไปส่งฉันแล้วก็ขับกลับมาอีกหรอกนะ...”
เขามองหน้าเธอนิ่งๆแล้วก็ใช้ความคิดสักพัก เธอมองหน้าเขาแล้วก็ตัดบทพูดขึ้น
“ฉันเอากระเป๋าลงมาแล้ว...ให้คนแบกไปรอที่รถนายแล้ว...เรียบร้อยแล้วใช่ไหม...งั้นฉันไปรอที่รถนะ..?”
เธอพูดจบก็เดินช้าๆเพืี่อที่จะตรงไปที่รถเขา เขามองอย่างเซ็งๆแต่ก็ยอมจำใจที่จะไปส่งเธอ เพราะมันคือความผิดของเขาที่ทำเธอเจ็บตัวแบบนี้ เขาเลยต้องรับผิดชอบไปส่งเธอ
“เอาของฉันขึ้นรถให้ด้วยนะ...”
เธอเดินไปที่รถเขาแล้วเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งหน้าตาเฉย เขาหันมามองดูกระเป๋าที่วางอยู่ที่พื้น 3 ใบ เขาต้องยกมันยัดใส่รถจนมันเต็มรวมทั้งกระเป๋าของเขาอีกใบด้วย
“กระเป๋าคุณจะเยอะจะใหญ่ไปไหนเนี้ย..?”
“อย่ามาบ่นมาก...รีบขนเร็วๆซิฉันอยากกลับกรุงเทพฯแล้ว...”
“...”
เขามองเธออย่างเซ็งๆแต่ก็ยอมทำตามที่เธอบอกจนเสร็จแล้วก็ขับรถออกไปจากโรงแรม
โดยมีสายตาของอรสิตามองตามไปอย่างนึกโกรธ
“สันดานความเจ้าชู้...ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ...”