เหยื่อรายสุดท้าย...จริงมั๊ย

3718 Words
ชานนท์รีบอุ้มชนกนันท์เข้าบ้านโดยมีลลิลวิ่งตามมาติดๆ เธอช่วยชานนท์เปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ชนกนันท์ เธอสวยมาก เธอเจออะไรมาบ้างนะ ลลิลคิดสงสารเธอจับใจ ชานนท์ตั้งตารอเธอฟื้นมาอย่างใจจดใจจ่อเธอคงเพลียมาก ลลิลบอกให้เขาพาเธอไปให้การกับตำรวจเพราะตำรวจก็ตามตัวชนกนันท์อยู่ เธออาจมีเบาะแสที่สาวตัวถึงคนร้ายได้ ชนกนันท์ลืมตาตื่นขึ้นมา ชานนท์ดีใจมากกอดชนกนันท์แน่นเลย "ชั้นอยู่ไหนคะ คุณเป็นใคร?" "นันท์จำพี่ไม่ได้เหรอพี่นนท์ไงพี่เจอน้องแล้ว นันท์หมดสติหน้าบ้านพี่พอดี" "พี่นนท์...ฮือๆๆๆๆๆ..นันท์คิดถึงพี่มากๆเลยพี่หายไปอยู่ไหนมาทำไมมีบเานใหญ่โตจังเลย" "พี่ขอโทษนะที่ตามหานันท์เจอช้าไปแต่พี่ดีใจมากบ้านหลังนี้พี่สร้างไว้ให้เราอยู่ที่นี่ด้วยกันเราได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้วนะ" มั้งสองคนพี่น้องกอดกันด้วยความดีใจแต่บังเอิญลลิลเหลือบไปเห็นสายตาที่แปลกๆของชนกนันท์สายตาที่มีแข็งกร้าวรอยยิ้ที่มุมปากมันหมายความว่าอย่างไรกัน ลลิลเดินออกมาจากบ้านของชานนท์ปล่อยให้พี่น้องเขาได้คุยกัน ในหัวของลลิลไม่สามารถสลัดภาพของชนกนันท์ออกได้เลยกับรอยยิ้มประหลาดนั่น ลลิลขึ้นห้องไปยืนมองสองพี่น้องอยู่ในบ้าน "เจอสักทีนะชนกนันท์...ดีใจด้วยนะคะคุณนนท์คุณคงมีความสุขและก็ต่อไปนี้คุณได้ทดแทนวันเวลาที่เสียไปให้น้องสาวคุณแล้วเธอจะไม่ลำบากอีกต่อไปแล้ว" เช้าวันรุ่งขึ้นชานนท์พาชนกนันท์ไปให้การกับตำรวจเธอให้การว่าโดนจับไปพร้อมกับหกคนนั้นซึ่งมี 1.สุรางค์ เปรมปรี เสียชีวิตแล้ว เหยื่อคนแรก 2.นิดา ขุนพรหม เสียชีวิตแล้ว 3.อุไร จันทร์หอม เสียชีวิตแล้ว 4.กานดา บุตรดี เสียชีวิตแล้ว 5.สุนี สมปอง เสียชีวิตแล้ว 6.กุสุมา แม้นมี ยังมีชีวิตอยู่ "วันนั้นเรานัดเคลียกันค่ะว่าเราจะต่างคนต่างอยู่ถ้าเจอกันก็จะไม่พูดคุยและก็หาเรื่องกันเราตกลงกันได้ด้วยดีแต่แล้วอยู่ๆพวกเราก็หลับไปฟื้นมาอีกทีพวกเราก็อยู่ทีาไหนไม่รู้ค่ะมันมืดมาก เราอยู่ในนั้นหลายวันหิวจนใส้จะขาด สุรางค์ถูกนำตัวออกไปแล้วก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย พอถามมันมันก็บอกว่าส่งบ้านแล้วทุกคนก็แย่งกันขอออกไปมันก็ให้เล่นเกมส์ใครชนะได้ออกไปก่อน แล้วนิดาก็ออกไป จนถึงคนที่ห้านันท์คิดว่ามันแปลกๆคนที่ออกไปทำไมไม่แจ้งตำรวจมาช่วยคนที่นั่นต์จึงแอบออกมาได้แต่คนที่เหลืออาการไม่ค่อยสู้ดีนัก" "เธอจำทางกลับไปที่นั่นได้มั้ย?" "จำได้ค่ะ" ชนกนันท์บอกทางกับตำรวจถึงที่กักขังเหยื่ออีกหนึ่งคนที่เหลือ ทุกคนหวังแค่ว่าเหยื่อหนึ่งคนที่เหลือจะปลอดภัย ตำรวจหลายรายเข้าค้นที่ ที่ไว้สำหรับกักขังเหยื่อ ตรงนั้นเป็นบ้านร้าง ไม่พบตัวคนร้ายแต่เหยื่อหนึ่งคนที่เหลือเสียชีวิตแล้วสภาพศพเหมือนกันกับห้ารายก่อนหน้านี้ มีร่องรอยของผู้หญิงขายบริการทั้งหกคนในบ้านร้างจริงไปตามคำให้การของชนกนันท์ ที่ชนกนันท์บอกว่ามืดนั้นเพราะคนร้ายใช้ผ้าหนาทึบมาปิดตรงหน้าต่างไว้แล้วก็ปิดตาเหยื่อทุกคนด้วย ชนกนันท์ให้การกับตำรวจว่าไม่เห็นอะไรเลยคนร้ายระวังตัวมากเวลาเข้ามาจะไม่พูดอะไรเอาข้าววางไว้แล้วก็ไปจึงไม่สามารถจำเสียงได้ ชนกนันท์เล่าว่าตอนมันปล่อยให้กินข้าวมันจะแก้มัดให้กินทีละคน อันนี้ตำรวจสันนิษฐานว่าถ้าแก้มัดให้หมดทุกคนเหยื่อทั้งหมดอาจจะช่วยกันและก็หนีออกมาได้ คนร้ายฉลาดมาก ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายอาจจะป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆนี้มันจะต้องมาปิดปากเหยื่อที่รอดก็เป็นได้ สารวัตรกิตติสั่งการลูกน้องให้เฝ้าดูรอบๆบ้านของชานนทร์เพื่อความปลอดภัย "อ้าว...ลินบ้านนี้อยู่ข้างบ้านลินนี่นาลินรู้จักเขาเหรอเปล่า?" "รู้ ก็พึ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้แหละ" "ระวังตัวด้วยนะคนร้ายอาจจะมาป้วนเปี้ยนแถวนี้ได้" "สารวัตรคะคนร้ายจะรู้จักบ้านของคุณนนท์ได้อย่างไรคะก็คุณนันท์หนีออกมาแต่คนร้ายไม่ได้ตามมานี่คะ" "กันไว้ก่อนนะคนร้ายมันฉลาดมากนะอย่างกับผีไม่เห็นเหรอในหนังฆาตกรรมน่ะหนีไปไกลแค่ไหนคนร้ายก็ตามเจอ" "เออ...ก็จริง" ภาพบนหน้าจอทีวีทุกช่องเสนอข่าวใหญ่ข่าวนี้ข่าวที่ประชาชนฯให้ความสนใจและก็ตำหนิการทำงานของตำรวจว่าไม่มีความสามารถจับตัวคนร้ายได้จนทำให้เกิดการฆาตรกรรมหญิงขายบริการไปถึงหกคน วันนี้ตำรวจแถลงการว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้ว ตำรวจจะพยายามสืบหาตามจับฆาตกรให้ได้ เมื่อข่าวการแถลงการของตำรวจจบลง ประชาชนฯทุกคนได้แต่หวังว่า จะมีใครตกเป็นเหยื่ออีกไหมตราบใดที่ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ประชาชนฯก็ไม่สามารถอยู่อย่างสงบได้ โดยเฉพาผู้ะหญิง ที่มีอาชีพขายบริการและทำงานกลางคืน ลลิล สังเกตุท่าทีของชนกนันท์มันดูแปลกๆ เธอเล่าเหตุการณ์ได้เหมือนอย่างกับเห็นเองแต่เธอถูกปิดตานะ มันดูขัดแย้งกันพิกล แต่เธอก็ได้แต่คิดมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ชนกนันท์อาจจะเป็นคนช่างสังเกตุเหมือนเธอก็ได้ ลลิลเข้าออฟฟิศวันนี้ต้องเอารายงานไปส่ง บก. "ไอ้ลินบ้านแกอยู่ข้างๆกันกับบ้านเหยื่อรายที่รอดนี่นา แกไม่ต้องเข้าออฟฟิศก็ได้คอยจับตาแล้วก็ตั้งกล้องตลอดเวลาเดี๋ยวพลาดโอกาสสำคัญคนร้ายต้องมาแน่ตามที่เคยเห็นคดีคล้ายๆกันแบบนี้ส่วนใหญ่ฆาตกรจะไม่ยอมปล่อยให้เหยื่อ หลุดมือไปแน่เดียวมันจะต้องมาเก็บ" "บก. ถึงมันมาก็ไม่รอดหรอกค่ะตำรวจวางกำลังแอบตรวจตราอยู่รอบๆบ้านเพียบเลย" "มันก็รอโอกาสไงเดี๋ยวอีกหน่อยคนเริ่มลืมข่าวนี้มันก็จะมาคอยดูสิ" ลลิลกลับบ้านแล้ววันนี้เธอเหนื่อยมากจึงเผลอหลับไปลลิลตื่นขึ้นมากลางดึกเธอส่องดูสถานการณ์ข้างบ้านวันนี้ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัยรอบๆบ้าน ของชานนทร์มีแค่2คน เธอแอบส่องดูว่าสองพี่น้องนี่เขาอยู่กันอย่างไรนะตั้งแต่เจอตัวชนกนันท์เขาก็ไม่ได้แวะมาบ้านเธออีกลลิลก็ไม่กล้าไปบ้านเขาเพราะกลัวจะไปเป็นส่วนเกินระหว่างสองพี่น้องเขาไม่ได้เจอกันนานควรปล่อยให้เขาได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ขณะที่ลลิลเหม่อมองบ้านข้างๆอยู่นั้นเธอเห็นคนสวมใส่เสื้อฮูดสีดำปิดหน้ามืดชิดกระโดดเข้าไปในบ้านเธอตกใจมาจึงโทรบอกสารวัตกิตติทันทีตำรวจหลายนายรีบเข้าค้นบ้านทันทีแต่ไม่เจออะไร "สารวัตรคะลินเห็นจริงๆ ค่ะ" "ลินพึ่งตื่นไม่ใช่เหรอลินอาจจะตาฝาดไปก็ได้นะ" "หรือคะ..แต่ลินเห็นจริงๆ " "นอนพักผ่อนซะนะช่วงนี้ลินหมกมุ่นกับข่าวนี้มากเกินไปลินอาจจะเห็นภาพหลอนก็ได้มันเกิดขึ้นได้กับทุกคนถ้าเราเคลียดเกินไป อย่าหักโหมพักผ่อนบ้าง รีแลกซ์น่ะเดี๋ยวพี่ว่างจะพาไปเที่ยวพักผ่อนให้ผ่อนคลายบ้าง " "ก็ได้ค่ะ" สารวัตรกลับไปแล้วลลิลก็เข้านอนแต่เธอก็นอนไม่หลับ "มันเป็นภาพหลอนจริงๆเหรอ?" ลลิลคิดคาใจ เช้าวันรุ่งขึ้นแม่ให้นำข้าวเข้าไปส่งให้กับชานนท์เพราะเขาสั่งแม่ไว้เขาอยากให้ชนกนันท์กินข้าวฝีมือแม่ "ชิตั้งแต่เจอน้องสาวก็ลืมเราเลย แต่ไม่ลืมอาหารของแม่ เรามีค่าแค่คนส่งอาหารเท่านั้นเอง แต่เราจะนอยทำไมเนี่ยไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย" ลลิลกดกริ่งหน้าบ้านชานนท์เดินออกมารับอาหารลลิลไม่พูดอะไรส่งอาหารแล้วรีบกลับเข้าบ้านไป ชานนท์สงสัยปกติลลิลชั่งซักช่างถามแต่วันนี้เงียบแปลกๆ เขาแค่สงสัยแต่ก็ไม่ได้ถาม "ชิไม่ถามเราสักคำว่าเป็นอย่างไรบ้าง...ส่งข้อความหรือโทรมาก็ได้แต่นี่ไม่มีเลย..ไม่สนใจแล้วไม่คุยด้วยแล้ว" ชานนท์ชะเง้อมองหาลลิลทุกวันว่าเธอไปไหนแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ท่าทางท่าทีของชานนท์ทำให้ชนกนันท์สงสัย "พี่มองหาใครคะ?" "ปล่าวไม่ได้หาใครแค่มองอะไรรอบๆบ้านเพื่อความปลอดภัยน่ะ" "พี่ตำรวจตั้งเยอะ" ทางด้านลลิลตัเงแต่วันนั้นก็ไม่ได้อยู่บ้านเลยเธอกลับมาสิงสถิตอยู่ที่ สน.เหมือนเดิม สารวัตรกิตติได้เห็นหน้าลลิลก็มีกำลังใจทำงานขึ้นเป็นกองแต่ถ้าวันไหนลลิลหายไปหัวใจชายหนุ่มก็จะห่อเหี่ยว ลลิลอยู่แบบนี้ทุกวัน เข้าออฟฟิศ ส่งรายงานข่าวอยู่หาข่าวที่ สน.เธอไม่ไก้ส่องข้างบ้านอีกแล้ว "ไอ้ลินชั้นให้แกเฝ้าข้างบ้านไว้ไงเดี๋ยวก็พลาดโอกาสดีๆไปหรอก" "ตำรวจเต็มบ้านไม่มีหรอกคนร้ายน่ะใครจะกล้ามา" "เอาเถอะช่วงกลางคืนก็แอบจับตามองบ้างนะถ้าเราได้ภาพข่าวก่อนใครเรตติ้งเราจะสูงกว่าช่องอื่นนะพยายามนะมันต้องมาคนร้ายน่ะเชื่อพี่" ลลิลขับรถกลับบ้านแล้วเธเห็นแม่คุยกับใครอยู่ที่บ้านแต่เธอก็ไม่ได้สนใจไม่ได้สังเกตุลลิลเปิดประตูแล้วเดินผ่านไปสภาพอิดโรยหัวฟูหน้ามันไร้การตบแต่งใดๆทั้งสิ้น "ไอ้ลินไม่ทักทายแม่หน่อยเหรอ?" "กลับมาแล้วค่ะ สวัสดีค่ะ จะนอนแล้วค่ะ" ลลิลพูดทั้งที่ยังไม่มองหน้าว่าใครมา" "หันมา" แม่สั่ง ลลิลหันมาที่แท้ก็ชานนท์นั้นเอง เธอมองแว๊บเดียวก็ขึ้นห้องแม่ตะโกนว่าเธอว่า "ดูสภาพสิน่ะใครเขาจะมาชอบผมเผ้ายุ่งเหยิงหน้าตาก็ไม่รู้จักตบแต่งบ้าง" "แล้วแต่ไม่ชอบก็ไม่ต้องมาชอบเชอะ" "แล้วมันจะโมโหทำไมไอ้นี่นี่ปกติด่าบ่นมันทุกวันไม่เห็นจะโกรธ" ชานนท์คุยกับแม่อยู่แป๊บหนึ่งเขาก็ลากลับบ้านในใจก็นึกสงสัยว่าลลิลเป็นอะไรนะหลายวันมานี้ โกรธเขาเรื่องอะไรหรือเปล่า เขามองโทรศัพท์ว่าจะโทรไปถามดีหรือไม่โทรดี ขณะที่เขามองดูโทรศัพท์อยู่นั้น ลลิลโทรมาพอดีเขารีบรับทันที "นี่จะโทรก็รีบโทรสิจะนอนแล้ว" แล้วลลิลก็วางสาย ชานนท์ก็งงๆ ว่าลลิลรู้ได้ไงว่าเขากำลังจะโทรศัพท์แล้วเขาก็โทรหาเธอ "ไงคุณเป็นอะไรหลายวันนี้มึนๆตึงๆกับผมงานเยอะเหรอ?" "ฉันไปตึงใส่คุณตอนไหน?" "ทุกตอน" "ทีคุณน่ะไม่เห็นสนใจชั้นเลย" "อ๋องอนน่ะเอง..ขอโทษนะช่วงนี้ต้องทำเอกสารสำหรับนันท์น่ะผมเลยไม่ว่างคุยกับคุณเลยแต่ตอนผมว่าก็ไปหาคุณอยู่บ้านนะแต่คุณไม่อยู่น่ะเมื่อเย็นก็ไปหาคุณนะแต่คุณมีท่าทีแปลกๆก็เลยว่าจะโทรมาคุยด้วยแต่เห็นคุณเหนื่อยๆก็เกรงใจ" "อ๋อคุณมาหาลินเหรอคะมาหาทำไมมีอะไรจะปรึกษาเหรอคะ" จากตอนแรกเสียงแข็งตอนนี้เสียงเริ่มอ่อนลง "ก็ผมคิดถึงคุณน่ะไม่เห็นตั้งหลายวัน..." "คิดถึงทำไม...คุณไม่ได้ชอบลินสักหน่อยไม่เคยเห็นบอกว่าชอบเลยคนไม่ได้ชอบกันจะมาคิดถึงกันทำไม?" "ถ้าผมไม่ชอบคุณผมจะคิดถึงคุณทำไม่ล่ะ...ผมชอบคุณนะ คุณแปลกดี" "อ้าว...นี่คุณไม่ได้ชอบชั้นที่ชั้นสวยเหรอ?" "ไม่คุณไม่สวยเลย" "งั้นไม่คุยด้วยแล้ว...ตรูดดดดดดเ" ลลิลวางสายงอนหนักกว่าเดิม ชานนท์ต้องโทรมาใหม่ "ว่าไงโทรมาทำไมอีก...?" "ใจร้อนจริงรีบวางทำไมยังไม่หายคิดถึงเลยยังพูดไม่จบเลย คุณไม่สวยเท่าผู้หญิงคนอื่นแต่คุณน่ารักมองไม่เบื่อยิ่งมองยิ่งหลง คุณแปลกดีที่ว่าแปลกคือคุณไม่ฟุ้งเฟ้อไม่มีจริตมารยาเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆและคุณจริงใจกับคนรอบข้างทุกคน ผมชอบคุณเพราะตรงนี้ ความสวยไม่สำคัญสำหรับผม แต่คุณพิเศษกว่าคนอื่นๆที่ผมเคยเจอมา และอีกอย่างถึงคุณ ดูดีโดยที่ไม่ต้องดสริมเติมแต่งใดๆเป็นแบบนี้ตลอดไปนะผมชอบ" "คนบ้าเค้าเขิลนะ ตรูดดดตรูดดด" "เออแปลกจริงงอนก็วางสาย เขิลก็วางสาย" "ติ๊ง.....ลินก็ชอบคุณค่ะ" ลลิลส่งข้อความแชทมาให้เขา ชานนท์ก็ตอบกลับไปว่า "อยากได้ยินจากปาก" "ลินเขิล" ชนกนันท์ออกมาเดินเล่นตรงสนามข้างบ้านและบังเอิญเห็นชานนท์คุยโทรศัพท์อย่างมีความสุขเธอนึกสงสัยว่าพี่ชายของเธอคุยกับใคร "พี่คุยกับใครดูมีความสุขนะ...จะต้องรู้ให้ได้ใครทำให้พี่มีความสุขขนาดนี้" ลลิลยิ้มกริ่มหัวใจพองโตภายในห้องของเธออบอวลไปด้วยกลิ่นไอของความรักห้องที่ทาสีครีมอ่อนๆมันกลายเป็นสีชมพูไปแล้วตอนนี้ ชานนท์ผู้เคร่งขรึมก็ดูอ่อนโยนผิดกับครั้งแรกที่เจอกันกับลลิล ความรักทำให้โลกเป็นสีชมพูแต่เขาว่าความสุขมักจะอยู่กับเราได้ไม่นานมีสุขเท่าไรทุกข์ก็จะมาแทนที่เท่านั้นหวังว่าทั้งสองจะเกาะยึดความสุขนี้ให้ได้นาน เพราะเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังจะทำให้ชานนท์ได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัส วันเวลาเริ่มผ่านไปเพียงแค่หนึ่งเดือนคนก็เริ่มจะไม่สนใจคดีนี้แล้วเพราะมีคดีใหม่ๆคนก็จะให้ความสนใจกับคดีใหม่ๆจนลืมไปว่ายังจับคนร้ายไม่ได้ วันนี้ลลิลกลับบ้านดึกหน่อยเธอเปิดประตูบ้านเข้าไปลลิลขึ้นห้องเธอคิดถึงชานนทร์จึงแอบส่องดูเขาเห็นเขานั่งอ่านอะไรบางอย่างขณะที่เธอกำลังจะเก็บกล้องก็เหลือบไปเห็นคนชุดดำกระโดดออกจากบ้านชานนท๋ไป ใช้กล้องส่องดูเห็นแค่เงาในความมืดเท่านั้น แต่จะโทรบอกสารวัตรก็กลัวจะเป็นเหมือนคราวก่อนจึงได้แต่คิดในใจว่า "ฉันจะจับแกให้ได้คอยดูสิ แต่ทำไมกระโดดออกจากบ้านคุณนนท์นะถ้าโทรไปถามเขาจะว่าอ่อยรึเปล่านะ" "ฮัลโหล...นี่คุณน้องสาวคุณอยู่หรือเปล่าคะ?" "อยู่...มีอะไรหรือ?" "ไม่มีอะไรแค่...แค่" "แค่...คิดถึงผมเหรอ?" "ไม่ใช่..ก็ใช่...เอ๊ะยังไงดี" "คิดถึงก็บอกคิดถึงแค่นั้นเองเดี๋ยวผมเดินไปหา" "มะมะ..ไม่ต้องมา..วางสายไปแล้วยังพูดไม่ทันจบเลย" ชานนท์คิดว่าลลิลคงคิดถึงเขาแต่อ้างไปยังงั้นแหละ ชานนท์มากเกริ่งหน้าบ้านลลิล ลลิลออกมาเปิดประตูให้พลางพูดว่า "นี่คุณน่ะมันดึกแล้วนะ" "อ้าวก็เห็นคุณคิดถึงถ้าผมไม่มาหาคุณเดียวก็งอนอีก" จริงๆแล้วลลิลอยากเห็นหน้าเขาแต่ เธอก็ง่วงมากด้วสิพร้อมที่จะหลับได้ทุกเวลาแม่ก็ไม่อยู่ด้วยมันจะดูโอกาสเต็มใจไปมั๊ย ชานนท์เข้าบ้านไปลลิลได้ทีจึงพูดขึ้นว่า "บ้านคุณมีอะไรแปลกไเข้าบ้านหรือเปล่าคะ?" "ไม่มีนี่คุณเห็นอะไร?" "ลินเห็นคนใส่ไอ้โม่งกระโดดออกจากบ้านคุณสองครั้งแล้ว" "ไม่มีอะไรหรอกผมอยู่ทั่งคน" "ทำไมลินไม่ค่อยเห็นน้องสาวคุณเลยคะเธอเข้านอนกี่โมงคะ?" "ปกติก็นอน3ทุ่มนี้เกือบห้าทุ่มป่านนี้หลับไปแล้ว แล้วคุณปกตินอนกี่ทุ่มล่ะ...อะอ้าวนี่คนหรืออะไรอยู่ๆก็หลับไปไม่บอกไม่กล่าว..นี่คุณ ลิน ลิน..ไปนอนข้างบนเถอะคุณ..โอ...หลับลึกขี้เซาด้วยทำไงดีล่ะ อุ้มขึ้นไปนอนก็แล้วกัน ชานนท์มองหน้านวลของหญิงสาวคนพิเศษของเขาชุดนอนไม่ได้ดูเซ็กซี่เลยเสื้อแขนยาวมีกระดุมหน้ากับกางเกงนอนขายาวลายการ์ตูนเข้าชุดกันดูน่ารัก เขาใช้มือเปิดประตูอย่างทุลักทุเลเขาวางลลิลลงบนเตียงแก้มนวลชวนหลงไหลชานนท์คิดว่านี่ถ้าเขาแอบทำอะไรเธอเธอจะตื่นไหมนะชานนทร์ห่มผ้าให้ลลิลเขาเห็นแก้มป่องนวลแล้วอดใจไม่ไหวจมูกโดงคมสันแตะไปที่แก้ของเธอริมฝีปากอุ่นๆแตะไปมี่ริมฝีปากบอกเธอ แล้วสติสัมปชัญญะก็กลับมาเขาสะบัดหน้าแรงๆหลายครั้ง "อีกแล้ว..คุณนี่มีพลังงานบางอย่างที่ทำให้ผมอดใจไม่ได้ทุกทีครั้งนี้ถือว่าโชคดีไปนะ ดูสิหลับไม่ได้รู้อะไรเลยใครจะทำอะไรจะรู้มั๊ยเนี่ย แต่ทำไมห้องแม่มันแง้มออกมาแม่ไม่อยู่นี่นา อยู่คนเดียวด้วย คุณนี่นะไม่รู้จักระวังตัวเองเลยชานนท์ปิดห้องให้ลลิลแล้วลงไปนอนบนโซฟาข้างล่างเขาหลับไปที่โซฟาจนถึงรุ่งสาง แม่กลับมาจากธุระพอดีเห็นชานนท์นอนอยู่ที่โซฟาก็แปลกใจแต่ก็ไม่ได้ปลูก แม่เดินผ่านไปทำให้ชานนท์สะดุ้งตื่นมา "อ้าว..นนท์ตื่นแล้วเหรอ?ทำไมได้มานอนอยู่ตรงนี้ล่ะ?" "พอดีเมื่อคืนเห็นลินเขาอยู่คนเดียวผมเลยเป็นห่วงน่ะครับ งั้นผมขอตัวนะครับ" "เดี๋ยวแม่ทำอาหารเช้าเสร็จแล้วจะเอาไปให้นะ" "ครับผมของคุณครับ" ชานนท์กลับเข้าบ้านก็เห็นชนกนันท์ตื่นมาแล้วจึงถามว่สหิวหรือยัง" "ยังไม่หิวจ่ะนันท์นอนไม่หลับค่ะฝันร้ายเลยไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนค่ะ มันน่ากลัวมากเลยค่ะ" ชนกนันท์มีภาวะเป็นโรคซึมเศร้าและมีภาวะของโรคไบโพล่าร์ควบมาด้วยอันเนื่องมาจากเธอได้รับผลกระทบมาจากการถูกทารุณกรรมจากผู้อุปถัมภ์ของเธอทุกคืนชนกนันท์จะนอนไม่หลับต้องกินยานอนหลับจนเธอติดยาวันไหนถ้าไม่ได้กินยานอนหลับเธอจะหลับไม่ได้เลย ลลิลตื่นมาแบบงงๆ ว่าเธอขึ้นมาได้ยังไงเมื่อคืนเธอคุยอยู่กับชานนท์ลลิลเดินลงไปจ้างล่างเจอแม่พอดีเธอจึงถามแม่ว่า "แม่ลินขึ้นไปนอนได้ยังไง?" "อ้าวนี่แม่จะรู้มั้ยเนี่ยแต่เมื่อเช้ากลับมาเห็นคุณนนท์เขาหลับอยู่โซฟาห้องล่างเนี่ย อย่าบอกนะว่าเขาอุ้มไปนอนข้างบนยังไม่รู้ตัว ตายๆลูกสาวชั้นร่างกายยังอยู่ครบมั๊ยเนี่ยไม่เสียให้เขาไปแล้วเหรอ" "เสียอะไรยังอยู่ดีนี่ไง" "หลับขนาดนี้โดนลักหลับไปแล้วมั้งน่ะ" "โธ่แม่...ถ้าถึงขนาดนั้นลินก็ตื่นแล้วเหอะ" "แต่ว่าแม่เชื่อใจเขาได้คุณนนท์น่ะเขาเป็นสุภาพบุรุษไม่ทำอะไรลินหรอกมีแต่ลินนี่แหละจะทำเขา" "ไอ้ลูกไร้ยางอายพูดมาได้...เอาอาหารไปส่งให้ข้างบ้านเสร็จแล้วแต่แปลงฟันอาบน้ำก่อนนะอายเขา" "จ้าาาแม่จ๋า" ลลิลอาบน้ำแปลงฟันแต่งตัวเตรียมไปทำงานวันนี้ก็เหมือนเดิมเข้าออฟฟิศก่อนก็ไป สน. "อาหารค่ะ..คุณดูดีขึ้นเยอะเลยค่ะคุณสวยมากเลย" "ขอบคุณค่ะนี่คุณลินใช่มั๊ยคะเห็นพี่นนท์พูดให้ฟังบ่อยๆว่าคนข้างบ้านใจดีถ้าพี่ไม่อยู่ให้มาคุยมาหาข้าวกินได้ที่บ้านคุณลินพี่มาขอข้าวกินบ่อยมั๊ยคะ?" "555ไม่ได้ขอค่ะคุณนนทร์ผูกปิ่นโตที่ร้านของแม่น่ะค่ะแม่จะทำให้คุณนนทร์เองเป็นพิเศษแต่บางทีแม่ก็ชานมากินด้วยกันที่บ้านว่างๆเชิญคุณนันทร์ด้งยนะคะ" "ขอบคุณค่ะ ว่างๆต้องมาแน่นอนค่ะอยากคุยกับป้าบ้าง" "อ้าว..นันทร์มารับอาหารเองเลยเดี๋ยวพี่มารับให้ก็ได้" "ไม่เป็นไรค่ะ..นันท์อยากหาเพื่อนคุยน่ะค่ะ" "ถ้าอยากหาเพื่อนคุย..คุยกับแม่ของลินก็ได้ค่ะแม่อยู่บ้านไม่ได้ทำอะไรร้านอาหารที่เปิดให้คนงานดูแล...นี่คุณเมื่อคืนลินขึ้นไปนอนได้ยังไง" "ผมก็อุ้มคุณขึ้นไปไง" "คุณได้ทำอะไรลินมั๊ย?" "จะบ้าเหรอ..ใครจะไปทำอะไรคนนอนหลับที่สภาพไม่ได้ดูเซ็กซี่เลยสักนิด" ชนกนันท์มองดูชานนท์กับลลิลหยอกล้อกันอย่างมีความสุขเธอก็ยิ้มออกมา ลลิลเห็นชนกนันท์ยิ้มเมื่อมองดูชานนท์แต่เป็นรอยยิ้มที่ให้ความรู้สึกแปลกๆยิ้มที่มุมปากสายตาแข็งกร้าวรอยยิ้มแบบนี้มันคืออะไรกันนะลลิลได้แต่คิดฉงนในใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD