เบาะแสใหม่

3248 Words
"ลองดมตรงนี้หน่อยสิว่ามันจะเหม็นคาวหรือปล่าว?" "อุ๊ย...!" ชานนท์ก้มลงใช้ริมฝีปากของเขาแตะกับริมฝีปากของลลิล ลลิลตกใจเขิลอาย "เกือบไปแล้วเชียว...อยู่ใกล้ยัยนี่ทีไรหวั่นไหวทุกที" ชานนท์คิดในใจ เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งคู่เดินทางกลับบ้าน ชานนท์คิดว่าครั้งนี้จะไปแอบสืบคนดียว เขาเตรียมออกจากบ้านคนเดียว ลลิลแอบเห็นเขากำลังออกจากบ้านก็วิ่งตามออกไปทันที "คุณจะไปไหนให้ลินไปด้วย" "ไม่ให้ไป...นี่คุณแอบดูผมหรือเปล่านี่ตามติดจังเลยแอบชอบผมอยู่หรือไง?" "ปล๊าววว...ใครแอบดู..ใครแอบชอบ..คุณนี่หลงตัวเองนะนี่ เราลงเรือลำเดียวกันแล้วนะขอไปด้วย คนเดียวหัวหายสองคนเพื่อนตายไง" "มันเกะกะ...คุณนะเกะกะ...กลับบ้านไปแม่คุณจะว่าเอาลูกสาวไม่เคยอยู่บ้านเลย " "แม่ไม่อยู่...ไปปฏิบัติธรรมที่วัดหลายวัน" "เฮ้อออ...คุณนี่มันดื้อจริงๆ ผมล่ะสงสารแม่คุณจริงๆ...ขึ้นรถไป..." ลลิลยิ้มร่า...สุดท้ายชานนท์ก็ไม่เคยขัดเธอได้ทั้งคู่ตั้งต้นสืบหาหญิงขายบริการหกคนว่ามีความเกี่ยวพันกันยังไงกับชนกนันท์น่องสาวของชานนท์ แต่ทั้งคู่ไม่รู้ว่าทั้งหกคนทำงานอยู่ไหนนี่สิก็เลยต้องตระเวนไล่ถามตามสืบจากร้านอาหารและบาร์ที่มีบริการขายบริการ ลลิลไม่รู้จักชื่อของหญิงบริการสามคนที่ยังมีชีวิตอยู่แต่เธอรู้จักชื่อหญิงขายบริการสามคนที่เสียชีวิตแล้วเพราะว่าเธอเป็นคนทำข่าวนี้เองกำมือ ลลิลคิดว่าถ้าเป็นอย่างที่เธอคิดชนกนันท์อาจจะตกอยู่ในอันตรายก็ได้ แต่ร้านที่มีการขายบริการมันเยอะมาก ทั้งสองเดินจนเมื่อยก็ยังไม่เจอครั้นจะไปบอกสารวัตรกิตติให้ช่วยตามหาก็เกรงใจครั้งก่อนก็ให้ช่วยเรื่องชนกนันท์ไปแล้ว แล้วยังไม่ได้อะไรเลย หรือว่าสารวัตรกิตติอาจจะสืบเจอแล้วก็ได้แต่ช่วงนี้ลลิลไม่ได้เข้า สน.หลายวันแล้ว สารวัตรกิตติสงสัยว่าทำไมลลิลหายหน้าไปหลายวันชายหนุ่มแอบคิดถึง เขาได้ไปสืบมาแล้วว่าเหยื่อทั้งสามคนเคยมีบาดหมางทะเลาะกับใครหรือเปล่า เด็กในบาร์ที่ทั้งสามทำงานอยู่บอกว่าเคยทะเลาะอยู่แค่คนเดียวเรื่องแย่งลูกค้ากันแต่คู่กรณีได้ย้ายที่ทำงานไปอยู่ที่อื่นแล้ว แล้วยังมีผู้หญิงอีกสามคนที่หายไปพร้อมกับเหยื่อทั้งสามยังตามหาตัวไม่เจอไม่มาทำงานหลายวันแล้ว จากเบาะแสที่พนักงานในบาร์ได้บอกมา สารวัตรกิตติก็ร้อนใจกลัวว่าจะมีคนตายเพิ่ม อีกสามคนที่เหลืออาจจะยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่งเขาต้องตามให้เจอถึงแม้ในใจอยากไปหาลลิลที่บ้านใจจะขาดแต่งานช่วงนี้ปลีกตัวไปไม่ได้เลย ทางด้านชานนท์และลลิลไม่ได้อะไรเลยยังหาไม่เจอเลยทั้งคู่จึงกลับไปตั้งหลักที่บ้าน แต่ลลิลพอจะรู้ทางแล้วเมื่อกลับถึงบ้านเธอจึงโทรศัพท์หาสารวัตรกิตติทันที "สวัสดีค่ะสารวัตร ที่เคยให้ช่วยสืบน่ะค่ะพอจะได้เรื่องหรือยังคะ?" "ได้แล้วล่ะ อยากคุยกันหน่อยมั้ยเดี๋ยวพี่ไปรับพี่จะเลิกงานแล้ว" หัวใจของชายหนุ่มพองโต คิดถึงอยู่ตั้งนานจู่ๆเธอก็โทรมาพอดีถึงจะโทรมาถามเรื่องงานก็เถอะ แค่ได้ยินเสียงก็ดีใจแล้ว สารวัตกิตติเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ขับรถไปหาลลิลที่บ้าน ชานนท์เห็นมีผู้ชายมาหา ลลิลก็แอบไม่พอใจ "หัวบันไดไม่แห้ง...คนรักเธอสินะดูสิยิ้มหน้าบาน เชียว.เชอะ" ชานนท์เดินหนีภาพบาดตาบาด สารวัตรกิตติเข้าบ้านไปคุยกันในบ้าน สารวัตรเอาข้อมูลที่สืบได้ให้ดูและย้ำกับลลิลว่าแค่ดูได้อย่างเดียวห้ามแอบถ่ายรูปไปห้ามทำข่าวเพราะเหยื่อที่ถูกลักพาตัวอีกสามคนจะเป็นอันตราย "มีอีกคนหนึ่งที่หายไปค่ะสารวัตร เธอชื่อชนกนันท์คนนั้นที่เคยให้ช่วยสืบน่ะค่ะ" "อืมพี่ไปสืบมาแล้วหนึ่งในหกคนนี้มีเรื่องบาดหมางกับชนกนันท์ ทั้งหกคนรวมหัวกันกลั่นแกล้งชนกนันท์จนทำให้อยู่ที่กรุงเทพไม่ได้ต้องย้ายไปทำงานที่อื่น แล้วลินไปรู้มาได้ไงว่าคนที่ชื่อชนกนันท์นี่หายไป?" "ลินไปตามสืบมาค่ะ..." "อย่าทำอะไรที่มันเสี่ยงนะไปสืบเองทำไมอยากรู้อะไรก็มาถามพี่สิพี่เป็นห่วง" "ก็ตอนแรกสืบแค่คนเดียวแต่ไม่นึกว่ามันจะเกี่ยวข้องกันกับเหยื่อที่ถูกฆ่านี่นา" "อย่าไปไหนคนเดียวอีกถ้าจะไปเดี๋ยวพี่พาไป" อย่างกับว่าถ้าเธอขอไปด้วยเขาจะให้ไปเวลาปฏิบัติหน้าที่ตำรวจนักสืบส่วนใหญ่ก็แอบซุ่มดูกันอยู่ลับๆอยู่แล้ว "สารวัตรพอจะรู้มั๊ยคะคนร้าย จับตัวคนทั้งสี่ไว้ที่ไหน?" "บางทีก็อาจจะชนกนันท์นั่นแหละที่จับพวกนั้นไปแก้แค้น แต่ผู้หญิงคนเดียวจะจับคนทั้ง6คนไปได้อย่างไร...หรือจะมีคนช่วย" "ไม่น่าจะมีนะคะเท่าที่ลินสืบมาผู้หญิงคนนี้น่าสงสารมาก ไม่มีพวกพ้องอยู่ที่ภูเก็ตเลย แต่มีผู้ชายคนหนึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลมาติดพันเธออยู่แต่ลินไปสืบมาแล้วว่าผู้ชายคนนั้นยังอยู่บ้านกับครอบครัวอยู่เลย" "เรื่องแบบนี้ไม่ต้องทำเองหรอก..มีอิทธิพลก็ต้องมีลูกน้องเยอะใช้ลูกน้องทำก็ได้" "ก็จริง" สารวัตรกิตติไปแล้ว เพราะมีงานด่วนเข้ามาชายหนุ่มนึกเสียดายอุตส่าห์ได้เจอแล้วแท้ๆว่าจะขวนไปกินข้าวสักหน่อยและนี่ก็คือสาเหตุที่สารวัตรกิตติไม่กล้าสารภาพรักกับลลิลเพราะไม่มีเวลาให้ ลลิลรีบเอาสิ่งที่รู้มาไปบอกชานนท์ทันที "ปิ๊ง...ป่อง...คุณ..คุณ...เปิดประตูหน่อย" "มีอะไร..มาทำไม.." ชานนท์ทำเสียงขุ่นใส่ท่าทางไม่พอใจ แล้วก็เปิดประตูให้ลลิลแต่โดยดี "นี่คุณคิดว่านี่เป็นบ้านของคุณเหรอจะเข้าเมื่อไรก็เข้าได้จะออกเมื่อไรก็ออกได้...ชิ..เมื่อกี้คุยกับผู้ชายอีกคน..ตอนนี้ก็มาหาผู้ชายอีกคนผู้หญิงอะไร?" "นี่คุณมะกระแนะกระแหนลินทำไมเนี่ยหรือว่า...หรือว่า...หึงเหรอ..คุณหึงลินเหรอ?" "บ้าเหรอ...หึง...เหิง..อะไรแค่ส่งสารแม่คุณน่ะ คงวุ่นวายหน้าดูมีแต่ผู้ชายมาหา" "ก็มีแค่คนนี้คนเดียวแหละ...แม่ลินก็รู้จักเป็นอย่างดี" "ชิ...คนรักล่ะสิ เขาจะรู้มั้ยว่าคุณเที่ยวไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนอื่นไปค้างอ้างแรมด้วยกันด้วย" "นี่คุณเมื่อไรจะเลิกตัดพ้อลินสักทีเนี่ย...หึงก็บอกว่าหึงเถอะ ลินเข้าใจดีก็ก็ลินน่ะน่ารักจะตายใครอยู่ใกล้ก็ตกหลุมรักทั้งนั้นแหละ แล้วสารวัตรไม่ใช่คู่รักของลิน เขาเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเขาเป็นตำรวจลินให้เขาช่วยสืบเรื่องน้องสาวของคุณไงเนี่ยเขาเอาข้อมูลและเบาะแสมาให้" "เหรอ" "เสียงอ่อนมาทันทีเมื่อกี้เสียงแข็งเชียว" ชานนท์ยิ้มระรื่น ลลิลไม่เคยเห็นเขายิ้มเลยรอยยิ้มนี้ทำให้หัวใจของหญิงสาวละลายเลยทีเดียว "นี่คุณยิ้มอะไร..เล่ามาผมรอฟังอยู่..นั่งยิ้มคนเดียวอยู่ได้...ฝันกลางวันรึไง?" ลลิลเล่าให้เขาฟังพร้อมกับรูป รูปซึ่งตลอดเวลาที่ชานนท์ตามสืบหาน้องสาวแต่ก็ไม่เคยเจอบัดนี้เขาเจอแล้วถึงจะไม่ได้เจอตัวจริงแต่เขาได้เห็นรูปของน้องสาวตอนโตแล้ว "คุณส่งรูปให้หน่อย.." "ไม่ได้สารวัตรบอกนี่คือหลักฐานลับนะ" "ผมแค่ขอรูปน้องของผมคนเดียวจะเอาไว้ดู" "อ๋อ..ได้..เอาเบอร์มา..เอ๋อน้องคุณสวยน่ารักดูเรียบร้อยมากเลย น่าเสียดาย..." "อืมมมน่าเสียดาย..ที่ผมช่วยอะไรเธอไม่ได้ทำให้เธอต้องมาเจอชะตากรรมแบบนี้" ลลิลมองหน้าที่ดูเศร้าหมองของเขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ อุตส่าห์ยิ้มได้แล้วแท้ๆกลับเจ้ามาอยู่ในโหมดเดิมอีกแล้ว หน้าหล่อเหลาปนด้วยความเศร้ามันดูหดหู่ชอบกล "คุณกินข้าวกันมั๊ย?" "คุณอาหารไม่เป็นนี่นา" "สั่งไงคุณสั่งม่กินที่บ้าน" "บ้านใคร?" "บ้านคุณไง" "ไม่เอา..เอาบ้านคุณ" "มันต่างกันตรงไหนเนี่ย...บ้านเราอยู่ใกล้กันกินบ้านใครก็เหมือนกัน" "ไม่เหมือนกัน...กินบ้านคุณคุณล้างจานผมไม่ชอบล้างจาน" ลลิลค้อนไปหนึ่งทีพร้อมกับพาเขาเข้ามาในบ้านรออาหารที่สั่งไรเดอร์ จริงๆแล้ว..เขาก็แค่อ้างมันคือข้ออ้างที่อยากจะเข้าบ้านของลลิลเพื่อที่จะได้รู้จักเธอมากขึ้นชานนท์เดินดูรอบๆ บ้านเล็กๆที่แฝงไปด้วยกลิ่นไความรักความอบอุ่นถึงแม้จะมีกันแค่สองคนรูปเก่าๆติดพนังย้านตั้งไว้ตามที่ต่างๆในบ้านมีรูปของพ่อที่เสียไป ถ่ายรวมกันพ่อแม่และลลิล บ้านที่มีแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆสองคน...พอมีเขามาเดินในบ้านมันดูเล็กไปเลยเพราะชานนท์ตัวสูงมากเจาสูง185เซ็นติเมตร ลลิลมองดูเขาเดินไปเดินมาในบ้านเขาเดินดูนู่นนี่อย่างสนใจเขาดูรูปลลิลตอนเด็กๆแล้วก็แอบยิ้ม "นี่คุณลินน่ารักมั๊ย?" "น่ารัก" เขารีบตอบไม่ทันคิด "น่ารักดี..ตอนเด็กไอนี่ยโตมาแล้วขี้เหร่เตี้ยก็เตี้ย" "ลินสูง165นะคุณน่ะสูงเกินไปก็เลยมองว่าคนอื่นเตี้ย " ขณะที่ทั้งสองคนกำลังสนทนากันอยู่นั้นแม่กลับมาพอดี "ไอ้ลินแม่ไม่อยู่บ้านริพาผู้ชายเข้าบ้านมันน่าตีนัก...อ้าวคนข้างบ้านนี่นา..ไอ้ลินไปทำอะไรให้คุณเดือดร้อนหรือเปล่าคะ" "ไม่ครับแค่มากินข้าวด้วยกันที่บ้านน่ะครับรบกวนด้วยน่ะครับ" "ปะแมาทำอาหารให้" "ไม่ต้องแม่ลินสั่งแล้วก็ใครจะไปรู้ว่าแม่จะกลับวันนี้นี่ไม่งั้นไม่สั่งหรอกอาหารที่อื่นสู้ฝีมือแม่ไม่ได้เลย" "เรื่องประจบประแจงขออาหารกินนี่ไม่มีใครสู้จริงๆ" "จริงครับอาหารแม่อร่อยมากครับผมให้แม่บ้านไปซื้อประจำเลย" "อ๋อ...ขอบคุณค่ะ" ไรเดอร์มาส่งอาหารลลิลจัดโต๊ะส่วนแม่กับชานนท์คุยกันอย่างถูกปาก ลลิลไม่เคยเห็นเขาหัวเราะแบบนี้ แม่ของลลิลเป็นคนพูดจาตลกอบอุ่นชานนท์ผู้ที่ขาดความรักความอบอุ่นมาตั้งแต่เด็กเขาได้ตกหลุมรักคนบ้านนี้เต็มเปาไปแล้ว กินข้าวเสร็จแล้วชานนท์ก็กลับบ้านแม่และลลิลเดินมาส่งเขาที่หน้าบ้าน "อยากมาเมื่อไรก็มานะนนท์" "ครับแม่ขอบคุณครับถ้าว่างผมจะมาอีกครับขอรบกวนด้วย" "นี่คุณเรียกแม่ซะเต็มปากเลยนี่แม่ลินนะ" "ผมก็เรียกตามคุณไง...อ้าว..คุณเป็นแฟนลินหรือไงถึงมาเรียกตามลิน" ชานนท์อายหน้าแดงท่าทางเลิกลัก แม่เห็นท่าทีก็นึกขำแอบหยิกแขนเจ้าลูกสาวตัวดี "โอ๊ย..แม่หยิกลินทำไมแม่น่ะลินเจ็บนะ" "ปกติไม่เห็นจะสนใจแม่วันนี้ทำมาเป็นหวงแม่" "ก็แม่น่ะดูสิทำเป็นสนิทกับเขารักเขามากกว่าบินแล้ว" "นี่คุณอีกหน่อยถ้าเราเป็นครอบครัวเดียวกันผมก็ต้องเรียกแม่คุณว่าแม่อยู่ดี" ชานนท์เผลอพูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกมาอย่างไม่รู้ตัว แล้วก็เปิดประตูเข้าบ้านไปปล่อยให้ลลิลงงกับคำพูดของเขา "แม่..เข้าใจที่เขาพูดมั๊ยเขาจะมาเป็นครอบครัวเดียวกันกับเราทำไม?หรือแม่จะรับเขาเป็นลูกชายไม่ได้นะแม่แม่ต้องมีลินเป็นลูกคนเดียวนะแม่" "ไอ้โง่..โง่จริงๆ" แม่ยิ้มกับคำพูดของชานนท์เหมือนรู้ความคิดของเขาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ "แม่ก็ว้าวุ่นเลยที่นี้อีกคนก็ตำรวจหล่อหน้าที่การงานดี อีกคนก็รวยและก็หล่อจะเลือกใครเป็นลูกเขยดีหว่า..? เช้าวันรุ่งขึ้นข่าวทั่วประเทศเผยแพร่ข่าวหญิงบริการรายที่สี่ลักษณะเหมือนกับทั้งสามรายก่อนหน้านี้และศพล่าสุดก็คือหนึ่งในหกคนที่หายตัวไปตามที่ลลิลคาดการณ์ไว้จริงๆ ลลิลกับชานนท์ก็อยู่ในที่เกิดเหตุตอนนี้เธอเอากล้องไปเก็บภาพเพื่อที่จะทำรายงานข่าว ข่าวหญิงสาวขายบริการถูก ฆาตรกรรมเป็นที่จับตามองของประชาชนเป็นอย่างมาก ตำรวจทำงานกันอย่างหนักเพื่อค้นหาตัวคนร้ายให้ได้เพราะอาจจะเหลือเหยื่ออีกสองคน ชานนท์ไปขอดูข้อมือของศพกับเจ้าหน้าที่แต่เจเาหน้าที่ไม่ให้เข้าลลิลเห็นจึงเข้าไปช่วยเธอแสดงตัวว่าเป็นนักข่าวขอไปเก็บภาพเป๊บเดียวเธอถ่ายทุกมุมรวมถึงข้อมือตรงตำแหน่งที่ชานนทร์อยากเห็นด้วย "ข้อมือมีอะไร?เห็นคุณหาจังเลย" "มีรอยปานแดงน้องสาวผมมีปานแดง...คนนี้ไม่มีไม่ใช่น้องผม" "งั้นน้องคุณก็ยังคงมีชีวิตอยู่น่ะสินะ" "คงต้องรีบเร่งค้นหาให้เจอก่อนจะสายไป..แล้วจะไปหาที่ไหนเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรเลย" "คุณเราต้อง...บอกตำรวจเรื่องที่ภูเก็ตนะช่วยหลายทางเราจะได้เจอเร็วขึ้นไง" ลลิลรีบไปหาสารวัตรแล้วก็เล่าให้สารวัตรฟังสารวัตรกิตติพอรู้เรื่องก็โวยวายแต่ลลิลไม่ได้บอกว่าไปกับใครแค่บอกว่าไปกับเพื่อน ลลิลบอกว่าถ้าไปหาดูกล้องวงจรปิดแถวที่พวกเหยื่อไปที่ภูเก็ตอาจจะเจอเบาะแสได้ สารวัตรกิตติติดต่อประสานงานกับตำรวจพื้นที่สืบหาเบาะแสจากกล้องวงจรปิดแถวนั้นทันที "อย่าไปในที่เสี่ยงอันตรายแบบนี้อีกนะ ลินเป็นผู้หญิง...มันอันตรายพี่เป็นห่วง แต่ว่าพี่เห็นผู้ต้องสงสัยคนนั้นอีกแล้วนะตอนกำลังลงพื้นที่เกิดเหตุ" "ไม่ใช่เขาหรอกค่ะ" "อ้าว...รู้ได้ไงล่ะ?" "ก็ลินอยู่กับ.....เอ่อลินอยู่กับสารวัตรก็เห็นพฤติกรรมของเขาตลอดถ้าเป็นคนร้ายเขาต้องแอบมาซุ่มดูไม่ใช่เดินปรี่เข้าไปแบบนั้น..จากประสบการณ์ที่ดูหนังแนวนี้มาก็จะประมาณนี้" "อีกและหนังสืบสวนอีกและอยากไปดูปล่าวล่ะพี่จะพาไปช่วงนี้มีอยู่หนึ่งเรื่องนะ" "ไม่ค่ะไม่น่าจะว่างช่วงนี้...ขอบคุณที่ชวนนะคะ" "ปกติไม่เคยปฏิเสธเลยนี่นา...ช่วงนี้ยุ่งขนาดนั้นเชียวหรืองานเขียนข่าวเยอะเหรอ?" "ค่ะ.." จริงๆแล้วงานทำข่าวของลลิลก็เหมือนเดิมแต่ที่เพิ่มเติมคือลลิลต้องไปตามสืบหาชนกนันท์กับชานนท์ทุวันนี่น่ะสิ ลลิลกลัวว่าเหยื่อรายต่อไปอาจจะเป็นชนกนันท์ก็ได้ "สารวัตรคะถ้ามีอะไรคืบหน้าที่ภูเก็ตรบกวนช่วยโทรศัพท์บอกลินทีนะคะลินขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ" ลลิลรีบกลับบ้านไปคุยกับชานนท์เครื่องเหยื่อคนที่สี่ ลลิลนำภาพที่ถ่ายมาให้ชานนท์ดูที่ข้อมือไม่มีรอยปานรูปใบหน้าไม่เหมือนชนกนันท์เลยเธอคือหนึ่งในหกคนที่หายไป ชานนท์ร้อนรนมาก กลัวว่าจะสายไป สีหน้าท่าทางหม่นหมอง ลลิลรู้สึกเศร้าใจไปด้วย เธอกอดและลูบหลังเขาเบาๆเพื่อเป็นการปลอบใจ ชานนท์รู้สึกดีขึ้นเขากอดลลิลตอบ ทั้งสองรู้สึกถึงเสียงหัวใจที่มันระรัวแข่งกัน "เอ่อคุณรู้สึกดีขึ้นยังคะ...เดี๋ยวลินขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ" "เดี๋ยวผมไปส่ง" "แหม..ไม่ต้องก็ได้ค่ะอย่างกับว่าบ้านอยู่ไกลยังงั้นแหละ" "ผมรู้สึกว่าโชคดีจริงที่บ้านเราอยู่ใกล้กัน" "นี่คุณจีบลินเหรอ?" "จูบก็เคยแล้ว...จีบไม่ได้เหรอ?" ลลิลเขินอายหน้าแดงเดินยิ้มกริ่มไม่ดูทางชนเข้ากับเสาประตูรั้วดังปังหัวโนแดงปูดออกมาทันที "คุณนี่ซุ่มซ่ามจริงมัวแต่เขิลอยู่นั่น...มาเดี๋ยวผมทายาให้ไปที่บ้านคุณก็แล้วกัน" ชานนท์ทายาให้ลลิลที่บ้านของลลิลเหมือนเขาจะชอบหาเหตุผลที่จะมาบ้านของลลิลอยู่เรื่อยเพราะบ้านของลลิลมีกลิ่นไอของความสุขและอบอุ่นนั่นเองโดยเฉพาะแม่ของลลิลเขารู้สึกดีที่อยู่ใกล้แม่ แม่ของลลิลเหมือนแม่อธิการที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเลย แม่อธิการสั่งสอนให้วิชาความรู้อบรมบ่มนิสัยให้เขาเป็นคนดี เขาไปเยี่ยมแม่อธิการบ่อยครั้งจนกระทั่งแม่อธิการได้เสียไปเขาจึงไม่ค่อยได้ไปที่นั่นแต่ก็ส่งเงินสนับสนุนช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เคยให้ชีวิตเขาทุกเดือน "คุณ..คุณ..คุณ..เงียบเชียวคิดอะไรอยู่?" "คิดถึงแม่อธิการที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ผมเคยอยู่น่ะ...แม่คุณเหมือนท่านมาก" "อ้าว..นี่ที่มานี่จะมาโกงเอาแม่ลินไปเป็นแม่ของคุณใช่ปะเนี่ย" "ไม่หรอกสักวันถ้าเรื่องทุกอย่างจบแล้วผมอาจจะมาอยู่กับคุณที่บ้านนี้ก็ได้หรือคุณจะไปอยู่บ้านผม" "ใครจะไปอยู่บ้านใคร? "แม่...กลับมาแล้วเหรอคะ" "นี่ซุ่มซ่ามไปชนอะไรมาอีกไม่สวยแล้วยังซุ่มซ่ามอีกใครจะมาจีบผู้หญิงกระโดกกระเดกแบบนี้เนี่ย" "มีแล้วกัน...แม่ไม่รู้หรอก" "ใคร...ใครกันนะช่างตาถั่วเสียจริง" "ก็นู้นไงพึ่งจีบลินมะกี้นี้" "สวัสดีครับแม่..." "เฮ้อ...พูดได้เต็มปากไม่รู้จักอายบ้างเลย" "วันนี้กินข้าวด้วยกันนะนนท์" "ครับผม.." "นี่แม่ไม่ต้องชวนเขาทุกครั้งก็ได้เผื่อเขามีธุระ" "ไม่มีครับ" "แม่ลินไปช่วยแม่ทำนะ" "ไม่ต้องเกะกะเดี๋ยวเหมือนคราวก่อนทำเลอะเทอะสร้างภาระให้แม่เก็บอีกทำคนเดียวดีกว่า" "แม่พูดแบบนี้ลินอายเขานะแม่..." "ให้เขารู้ตั้งแต่ตอนนี้เขาจะได้คิดตริตรองว่าสมควรแล้วหรือยังที่จะมาจีบลูกสาวบ้านนี้ทำอะไรไม่เป็นเลย" "แม่น่ะ...ชิ งอนแม่แล้ว" "น่ารักดี..ใครแม่น่ะเหรอ?" "น่ารักทั้งคู่หยอกเย้ากันน่ารักดี" ชานนท์กินเข้าเย็นที่บ้านของลลิลอิ่มแล้วก็กลับบ้านลลิลเดินมาส่งเขาที่หน้าบ้านทันใดนั้นลลิลเห็นผู้หญิงสภาพโทรมมากเนื้อตัวมอมแมมนั่งพิงประตูบ้านของชานนท์ ชานนท์จำได้ทันทีว่านี่คือน้องสาวของเขาเองเธอยังมีชีวิตอยู่เธอหนีมาได้ยังไง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD