พระเอกหน้าหยกคือฉายาของไม้เอก หรือครองภพ อิสระไกรกุลพันธ์ เพราะความหล่อ รูปร่างดี บวกกับเป็นหลานชายเจ้าของช่องทำให้ชายหนุ่มได้เป็นนักแสดงแถวหน้า ขึ้นแท่นพระเอกเบอร์หนึ่งมาหลายปี มีแฟนคลับติดตามเป็นล้านคน
หล่อไม่พออภิมหารวยอีกต่างหากเพราะเขาคือทายาทของเครือ GS Group ซึ่งมีธุรกิจหลากหลาย หนึ่งในนั้นก็คือโรงแรมห้าดาวที่มีสาขาอยู่ทั่วทุกมุมโลก
ชายหนุ่มเข้ามาเป็นนักแสดงด้วยความบังเอิญ ไม่คิดว่าตัวเองจะดังได้มากมายขนาดนี้ แต่ในฐานะลูกชายของพ่อแม่และพี่ชายของน้องสาว เขาจึงไม่อาจละทิ้งธุรกิจของครอบครัว
ครองภพตัดสินใจอำลาวงการบันเทิง หลังจากถ่ายทำละครเรื่องปัจจุบันเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็เข้าไปรับตำแหน่งต่อจากบิดาเป็นท่านประธานคนใหม่ของบริษัท
“มึงกำลังดังเลย จะออกจากวงการบันเทิงจริงเหรอวะ”
แผ่นฟ้าเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของครองภพ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเสียดาย ตอนนี้ครองภพถือว่าดังมากยังสามารถกอบโกยเงินจากวงการบันเทิงได้อีกเยอะ
แต่ก็อย่างว่าแหละชายหนุ่มไม่ได้เป็นคนจน ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ไม่จำเป็นต้องกอบโกยเงินจากไหนก็มีอันจะกิน เพราะบรรพบุรุษสร้างเอาไว้หมดแล้ว เหลือแค่รุ่นลูกรุ่นหลานช่วยกันบริหารธุรกิจที่มีอยู่ให้ยั่งยืนและยาวนานก็เป็นพอ
“จริงสิ กูจะโกหกมึงทำไม คุณพ่อกับคุณแม่อยากให้กูกลับไปช่วยงานใจจะขาด กูว่ามันถึงเวลาแล้ว เป็นลูกที่ดีก็ต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ มึงว่าจริงไหม” คุณพระเอกหน้าหยกเลิกคิ้วถามเพื่อนรักที่กำลังส่ายหน้าน้อยๆ
“กูไม่เชื่อ มึงอยากลาวงการเพราะเบื่อมากกว่า” มองตาก็รู้ใจ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่จำความได้ทำไมแผ่นฟ้าจะมองไม่ออก
ครองภพเป็นพวกเบื่อง่ายหน่ายเร็วคงจะอิ่มตัวแล้วถึงได้อยากไปตอบแทนบุญคุณพ่อแม่
“สมกับเป็นเพื่อนกูจริงๆ เบื่อก็ส่วนหนึ่ง แต่สานต่อธุรกิจคือใจความสำคัญ” ใช่แผ่นฟ้าเดาถูก เขาเบื่อเพราะมันไม่ใช่งานที่อยากทำตั้งแต่แรก แค่จับพลัดจับผลูเข้ามาทำก็เท่านั้นเอง ตอนนี้มันถึงเวลากลับไปทำในสิ่งที่ต้องทำแล้วจริงๆ
“กูถามหน่อย ตกลงมึงกับคุณนางเอกหน้าสวยเป็นอะไรกัน”
แผ่นฟ้าหมายถึงหยกสวรรค์ หรือน้องหยก นางเอกคนดังที่กำลังถ่ายละครกับครองภพและเป็นคู่จิ้นที่แฟนคลับอยากให้เป็นแฟนกันจริงๆ
เนื่องจากเคมีของสองคนนี้เข้ากันได้ดี ทั้งคู่เคยเล่นละครร่วมกันแล้วหนึ่งเรื่อง ด้วยความเคมีดีทำให้ละครดังเปรี้ยงปร้างแถมเรตติงถล่มทลายแซงทุกช่อง ทางผู้จัดจึงป้อนละครให้อีกเรื่องก็คือเรื่องที่กำลังถ่ายทำอยู่ในปัจจุบัน
“ก็เป็นเพื่อนไง ข่าวก็ว่าไปโน่น กูไม่เคยจีบใคร มีแต่สาวมาจีบ แฟนคลับจิ้นกัน มึงจะให้กูทำยังไง ทุกครั้งที่ถูกนักข่าวสัมภาษณ์กูก็ชัดเจน บอกว่าเพื่อนกัน เป็นพี่เป็นน้องแต่ไม่มีใครเชื่อ”
“แล้วมึงไม่หวั่นไหวเลยเหรอ น้องเขาออกจะสวยปานนางฟ้า”
“ไม่เลย คนอย่างครองภพไม่หวั่นไหวกับใครง่ายๆ หรอก จะนางฟ้านางสวรรค์ ถ้าไม่ใช่กูก็ไม่ชอบ”
“แต่คุณมึงมีข่าวกุ๊กกิ๊กทุกครั้งที่เปิดกล้องละครเรื่องใหม่”
“ทำไงได้ก็คนมันโสด”
พ่อคนโสดยกยิ้มมุมปากก่อนจะยกเครื่องดื่มขึ้นมาดูด เขาเพิ่งอายุสามสิบจะรีบมีแฟนหรือแต่งงานไปทำไม
แผ่นฟ้าเห็นรอยยิ้มนั้นก็อดหมั่นไส้ไม่ได้จึงเบะปากใส่ คนอะไรหล่อเหมือนอาบน้ำตลอดเวลา ยิ้มแต่ละครั้งโลกละลาย ไม่ให้สาวน้อยสาวใหญ่มาชอบได้ยังไง ไม่แปลกใจเลยทำไมเพื่อนรักถึงมีแฟนคลับมากมาย
“เออไอ้คนหล่อเลือกได้ แล้วเรื่องคนร้ายที่ลอบทำร้ายมึงตกลงเป็นใคร”
“ยังไม่รู้เลยว่าใคร หาไม่เจอ เหมือนไม่มีตัวตน”
“ช่วงนี้มึงต้องระวังตัวให้มาก กูเห็นข่าวขู่ฆ่าศิลปินบ่อย”
“ไม่ต้องห่วงหรอก กูดูแลตัวเองได้”
“มีอะไรอยากให้ช่วยก็บอก”
สองหนุ่มคุยกันต่อสักพักใหญ่ครองภพก็ขอตัวกลับ ระหว่างเดินทางสมองกลับคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน
วันนั้นเขาไปถ่ายละครฉากสำคัญของเรื่อง ซึ่งเป็นฉากพระเอกสารภาพรักกับนางเอก เขากำลังจะก้มหน้าจูบปากนางเอกกลับมีคนตะโกนก้อง บอกว่ามีคนมาทุบกระจกรถของพระเอกหนุ่มทำให้วุ่นวายไปหมดจนต้องยกกอง จากนั้นเขาก็เข้าแจ้งความกลายเป็นข่าวใหญ่อยู่สองสามวัน
ทางตำรวจสรุปคดีบอกว่าเป็นการทุบกระจกเพื่อขโมยทรัพย์สิน แต่ชายหนุ่มไม่เชื่อคิดว่ามันต้องมีคนตั้งใจทำ แล้วจะทำไปเพื่ออะไรในเมื่อเขาไม่เคยไปมีปัญหากับใคร
หรือว่าจะเป็นฝีมือพวกผู้ชายของเหล่านางเอกที่ตนเองไปมีข่าวด้วย คำถามผุดขึ้นมาในใจพระเอกหน้าหยก คิ้วขมวดมุ่นติดกันด้วยความสงสัย ตกลงมันเป็นฝีมือของใครกันแน่
ในระหว่างคิดหนักโทรศัพท์ก็มีสายเข้ามา เป็นสายของผู้จัดการมือทองชายหนุ่มจึงกดรับ
“ฮัลโหล สวัสดีครับพี่พิชชี่”
“พ่อพระเอกของพี่พิชชี่ ตอนนี้อยู่ไหนคะ”
“กำลังขับรถจะเข้าบริษัท”
“ดีเลยค่า พี่พิชชี่ก็อยู่ที่บริษัท พี่จะโทรบอกน้องไม้ให้เข้าบริษัทพอดี”
“ทำไมครับ มีเรื่องอะไรด่วนรึเปล่า”
“ก็เรื่องวางแผนงานที่เหลือของน้องไม้ยังไงล่ะคะ เรายังไม่ได้คุยกับช่องจริงจังเลย”
“อ้อ โอเคครับ แล้วเจอกันพี่พิชชี่คนสวย”
“ปากหวาน เดี๋ยวพี่พิชชี่ไม่ยอมปล่อยมือน้องไม้หรอก”
พิชญะ หรือ พิชชี่ผู้จัดการของครองภพยิ้มด้วยความขวยเขินก่อนจะถอนหายใจเฮือกหลังจากวางสาย บ่อเงินบ่อทองกำลังจะอำลาวงการบันเทิง เป็นใครก็ต้องเศร้าแต่จะทำยังไงได้ในเมื่อคนเขาไม่อยากทำก็ต้องปล่อยเขาไป
ครองภพใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึงบริษัท เท้ากำลังจะก้าวเข้าไปในลิฟต์แต่เหมือนเห็นใครจ้องอยู่จึงหันไปมอง คนแอบมองรีบหลบไปอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกแปลกกับพฤติกรรมของสาวแว่นเมื่อสักครู่ ปกติเวลาเขามาบริษัทมีแต่สาวๆ มาขอลายเซ็นกับขอถ่ายรูปแต่เธอกลับหลบหน้าหลบตา ไม่เหมือนคนอื่นหรือว่าจะเขิน
“คงเขินแหละ” พ่อคนหล่อบอกตัวเองด้วยรอยยิ้มเสร็จก็ก้าวเท้าเข้าไปในลิฟต์ ทำให้คนที่แอบอยู่ค่อยๆ โผล่หน้าออกมาพร้อมกับพรั่งพรูลมหายใจ
ไม่น่าเลยเธอไม่น่ารับงานอันตรายแบบนี้ เบญญาพรก่นด่าตัวเองในใจ เมื่อครู่บังเอิญเจอพระเอกหนุ่มพอดีจึงแอบมองพลางตั้งคำถามกับตัวเอง เธอจะทำร้ายเขาได้จริงๆ เหรอ
หลังเลิกงานสาวแว่นหนาหน้าตาใสซื่อ ที่ดูไม่มีพิษมีภัยชื่อว่าเบญญาพรหรือเหมือนฝันเดินทางไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อเยี่ยมมารดาอย่างเช่นทุกวันนับตั้งแต่ท่านป่วย
อันที่จริงเธอไม่ได้มีเงินมากพอที่จะพามารดามารักษาตัวที่นี่ แต่มีใครบางคนยื่นมือเข้ามาช่วยแลกกับเงื่อนไขบางอย่าง
ด้วยความมืดแปดด้านและรักมารดามาก เธอจึงยอมทำตามขอแค่มารดาหายป่วยก็พอ
“หนูจะทำยังไงดีแม่ หนูไม่อยากทำร้ายใครเลย” หญิงสาวเอ่ยถามคนป่วยที่นอนเป็นผักเสียงเศร้า
คนผู้นั้นซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเป็นใครให้เวลาแค่สามวันถ้าทำไม่สำเร็จแม่ของเธอก็จะไม่ได้รับการรักษาต่อ
เบญญาพรนั่งมองมารดาที่ประสบอุบัติเหตุรถชนด้วยความรู้สึกสับสน เพื่อแม่เธอจำเป็นต้องทำร้ายคนอื่นขนาดนี้เลยใช่ไหม มันถูกต้องแล้วเหรอ แต่ถ้าไม่ทำแม่ก็ไม่รอด
ในระหว่างคิดอยู่ๆ โทรศัพท์ก็มีสายเข้า หญิงสาวเห็นเบอร์ถึงกับมือไม้สั่นก่อนจะตัดสินใจกดรับ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องคุย ตอนนี้ชีวิตแม่สำคัญกว่าเรื่องอื่น ต่อให้ต้องติดคุกเธอก็ยอมขอแค่แม่ปลอดภัยเท่านั้น
“สวัสดีค่ะ เบญญาพรพูดสายค่ะ”
หญิงสาวพยายามบังคับเสียงให้เป็นปกติที่สุด พร้อมกับอัดเสียงปลายสายไปด้วย ถึงสายที่ติดต่อมาจะใช้ระบบเปลี่ยนเสียงแต่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเธอจะได้มีหลักฐานในมือ
“พรุ่งนี้เธอต้องลงมือ ถ้าเธอไม่ทำแม่เธอก็ไม่รอด”
คนประสงค์ร้ายเอาเรื่องความเป็นความตายของบุพการีมากดดันทำให้เบญญาพรไม่มีทางเลือก
“ถ้าฉันทำ คุณจะช่วยแม่ของฉันจริงใช่ไหม”
ถามกลับเพื่อความแน่ใจ มาถึงขั้นนี้แล้วเป็นไงเป็นกัน อย่างน้อยการที่แม่ได้มารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งนี้ก็เป็นสัญญาณดีแสดงว่าผู้ที่ต้องการให้เธอไปทำร้ายพระเอกหนุ่มไม่โกหกแน่นอน
“จริงคนอย่างฉันคำไหนคำนั้น แม่ของเธอจะได้รับการผ่าตัดทันที”
“ทำไมคุณถึงอยากทำร้ายเขา”
“ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องรู้ แค่ทำตามคำสั่งของฉันก็พอ”