“นี่ค่ะการ์ดเปิดประตู...ตารางทำความสะอาดมี2 รอบ เช้า10:00 นาฬิกา ถึง12:00 นาฬิกาค่ะ ถ้าไม่สะดวกช่วงเช้า มีช่วงบ่ายอีกรอบตั้งแต่ 14:00 นาฬิกาถึง15:00 นาฬิกาค่ะ”
การ์ดเปิดถูกส่งให้ พร้อมกับอธิบายการบริการพื้นฐาน
พิมพิสาพยักหน้าเข้าใจ เธอเดินนำเพื่อนๆ ไปยังลิฟต์หรูด้านหน้า
“โรงแรมระดับ5ดาวนี่ ทุกอย่างดูหรูไปหมดเลยเนอะ”
อริสลาเปรยลอยๆ ตอนที่เหลียวมองไปรอบๆ ตัว
“เจ้าของไม่ใช่คนธรรมดานี่ยะ” หัวโจกของกลุ่มรีบพูดอวด
แอนนาที่นิ่งมาตลอดเริ่มสนใจนิดๆ
“ใครเหรอ?” เธอถามเบาๆ ยื่นมือไปกดปุ่มหน้าลิฟต์ และยืนรอด้านหน้าอย่างสงบ
“วอลคอฟ เศรษฐีรัสเซีย...ตระกูลดังที่พวกเธอน่าจะเคยเห็นผ่านตาตามข่าวเซเลป” พิมพิสาเฉลย เธอตามข่าวคนกลุ่มนี้มาสักพักใหญ่ๆ เมื่อทายาทคนเดียวของวอลคอฟ น่าสนใจพอๆ กับดาราดังแถวหน้าของฮอลลีวูด!!
หากจับคีริวไปยื่นข้างๆ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ ที่แสดงเป็น ดอกเตอร์สเตรนจ์ของจักรวาลมาร์เวล เจ้าพ่อหนังแอคชั่นแฟนตาซีชื่อดัง แทบจะสูสีกันทีเดียวกับความมีเสน่ห์ แบบชวนให้สะดุด เพียงแค่สบสายตา...
แอนนาสะดุด...เธอคุ้นพิกลกับนามสกุลคนดังที่พิมพิสาเอ่ยถึง
หญิงสาวสะบัดหน้าแรงๆ คงไม่ใช่ ‘เขา’ หรอก เมื่อคนในความทรงจำของเธอ ไม่ได้รวยขนาดนั้น นั่นคือความคิดของเด็กคนหนึ่ง...ตอนนั้นแอนนาไม่รู้จักด้วยซ้ำความแตกต่างระหว่างคนมีสตางค์ กับครอบครัวคนธรรมดาอย่างตนเอง
ถึงจะเคยรู้สึกพิเศษกับคน คนนั้น แอนนาพยายามกดความเจ็บปวดนั้นไว้แค่ในใจ... ไม่ตามข่าวเขา เมื่ออยู่ห่างคนละซีกโลก เกือบจะลืมได้อยู่แล้วเชียว... ดันมาสะดุดกับนามสกุลคุ้นหูเสียอีก!!
“วู้...ทะเลจ๋า!!”
เจ้าแม่จอมเปิ่น ตะโกนโหวกเหวกที่ระเบียง
เมื่อภาพที่มองเห็น สวยจนแทบจะพุ่งหลาวเข้าใส่ หากไม่สูงนัก...แต่นี่ชั้น14 เกือบจะสูงสุดอยู่แล้ว อริสลาเลยทำแค่แหกปากตะโกน เมื่อเกิดความรู้สึกประทับใจ
แอนนาส่ายหน้า รื้อเสื้อผ้าในกระเป๋าออกมาจัดการแขวนในตู้ข้างผนัง
“แอน พิม มาดูเร็วๆ”
อริสลายังส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดไม่หยุด
“ทะเลมันไม่หายไปไหนหรอก เรามีเวลาเกือบอาทิตย์ที่จะโกยความสุขใส่ตัวให้เต็มที่” พิมพิสาท้วง หล่อนฉวยชุดว่ายน้ำเดินหายเข้าไปในห้องน้ำกว้าง...อดข้าว ฟิตหุ่นมาเป็นเดือนๆ ก็เพื่อวันนี้โดยเฉพาะ “แท่นแท๊น!!”
หลังหายไปเกือบ10 นาที สาวสะคราญที่มีแค่บิกินนี่สีเหลืองอ๋อยเกาะรัดสะโพกผาย กับผ้าสามเหลี่ยมแคบๆ ปิดบังเนินทรวงก็เดินเฉิดฉายออกมา
“ว้าววววว...ยัยพิม แกสวยเกินหน้าฉัน ฉันไม่ยอม!!”
อริสลาท้วงเสียงขุ่น ก้มมองเอวอวบๆ ของตนเองก่อนจะย่นหน้า “มันต้องมีบ้างล่ะ คนที่ชอบสาวอวบอย่างฉัน” หล่อนคว้าชุดว่ายน้ำสีสดใส เดินหายเข้าไปในห้องน้ำเช่นเดียวกัน
“แอนไม่เปลี่ยนชุดเหรอ?”
พิมพิสาหมุนตัวไปมาอยู่หน้ากระจก เธอเอ่ยถามแอนนา เมื่อหญิงสาวยังไม่ขยับตัวไปไหน สาละวนกับการรื้อเสื้อผ้าในกระเป๋าอย่างเดียว
“ไม่ล่ะ ฉันไม่ชอบลงน้ำ”
แอนนาหุ่นดีไม่แพ้พิมพิสาเลย แต่เธอเขินอายสายตาคนมองมากกว่า ความเชื่อมั่นในตนเองของเธอถูกทำลายลงตั้งแต่วันนั้น... มันเป็นปมที่ติดค้างอยู่ในใจ จนกลายเป็นคนไม่มั่นใจตนเอง เธอกลัวการถูกปฏิเสธอีกครั้ง หญิงสาวเก็บตัว เลยกลายเป็นคนขี้อาย
“ฉันกับยัยพิมลงไปอ่อยหนุ่มข้างล่างก่อนนะ”
อริสลากล่าวเสียงสดใส เธอเตรียมพร้อมในชุดว่ายน้ำสีสด แม้จะเปิดเผยเนื้อตัวไม่เท่าแม่คนหุ่นนาฬิกาทรายอย่างพิมพิสา เธอก็เด่นสะดุดตาไม่แพ้เพื่อนเลย เมื่อใช้สีสันแสบตาเป็นจุดขาย
“ตามสบาย...จะให้สั่งมื้อค่ำรอมั้ย หรือจะลงไปทานข้างล่าง”
แอนนารีบถามความเห็นของเพื่อนๆ ก่อน ที่สองสาวจะถลาออกจากห้องพักไป
“เดี๋ยวค่อยตัดสินใจอีกทีนะ...ไปล่ะ” อริสลาโบกมือไหวๆ เธอถูกเพื่อนสาวใจร้อนรั้งไปที่โถงทางเดิน แอนนาได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดของเพื่อนทั้งสอง ก่อนที่ประตูจะปิดงับลง
เธอเดินเลยออกมาที่ระเบียง หลังรื้อกระเป๋า และจัดข้าวของเสร็จ หญิงสาวกางมือกว้างๆ สูดอากาศแสนสดชื่นเข้าปาก ทอดสายตามองสระน้ำเบื้องล่าง และเห็นเพื่อนทั้งสองเป็นแค่จุดเล็กๆ ที่แอนนาจำได้ คงเป็นเพราะชุดสีแสบตาของอริสลานั่นเอง... “แสบจริงๆ” เธอรำพัน โครงศีรษะกับความเปิ๊ดสะก๊าด…ของเพื่อนสาวทั้งสองคน...
แอนนาหย่อนก้นลงนั่ง เปิดหนังสือนิยายที่พกมาจากบ้าน เปิดอ่านเพลินๆ ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ กับไอทะเลที่พัดโชยขึ้นมา เกือบชั่วโมงที่เธอจมอยู่ในโลกจินตนาการ เนื้อหาน่าติดตาม จนลืมสนใจสิ่งรอบข้าง
ตืดดด...
สัญญาณโทรศัพท์ดังเตือน เธอเหลือบตามอง แล้วจึงรีบกดรับ
“ลงมาเร็วๆ เลยยัยแอน ฉันสองคนหิวแล้ว”
ทั้งอริสลาและพิมพิสาแย่งกันพูด เสียงแทรกดังเจี้ยวจ้าว จนแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง
“ได้ๆ อีก10นาทีเจอกัน”
แอนนามองหน้าปัดนาฬิกา เธอสะดุ้ง!! ไม่คิดว่าตนเองจะจมอยู่ในห้วงเวลาแสนสนุกนานขนาดนี้
นักเขียนคนนี้เป็นนักเขียนคนโปรดของเธอ ปลายปากกาของเขา เธอเฝ้าติดตามมาหลายเรื่อง แต่ละเรื่องแตกต่างจากนักเขียนท่านอื่น มีแฝงข้อคิดไว้ให้คนอ่านได้วิเคราะห์และคิดตาม มีเหตุผลประกอบ ไม่ใช่แค่จินตนาการมั่วๆ มีคำสอนแฝงอยู่หลากหลาย และเธอใช้เป็นสิ่งเตือนใจตนเอง...มันใช้ได้ผลเสียด้วยสิ!!
แอนนาฉวยกระเป๋าสตางค์ ยัดการ์ดเปิดประตูใส่ในกระเป๋ากางเกงขาบานใส่สบาย พร้อมกับเดินเร็วๆ เพื่อจะโดยสารลิฟต์ลงไปชั้นล่าง ให้ทันตามความต้องการของสองสาวที่กำลังตั้งตารอ...
เปล่า...อริสลากับพิมพิสาไม่ได้เร่งแอนนาลงมาด้านล่างเพราะหิวจัด...
แต่เธอสองคนเจอหนุ่มถูกใจ แม้จะดูซอมซ่อไปสักหน่อย เมื่อเทียบกับผู้ชายที่มีเกลื่อนริมสระ สองหนุ่มหน้าตาดี ในชุดแสนธรรมดา เหมือนนักท่องเที่ยวรายอื่นๆ ผิดตรงที่ว่า...โครงหน้าแบบนั้น หากจับใส่สูทผูกเนกไท...มาดผู้บริหารคงจับเต็มตัว เพียงแต่สองหนุ่มที่สองสาวเล็งมานานนับ30นาที ตั้งแต่สุดหล่อสองคนนี้ เยื้องย่างเข้ามานั่งที่ริมสระ ในมือของเขามีขวดเบียร์ยี่ห้อนอกติดมาด้วย สายตาแพรวพราวนั่น กวาดมองสาวสวยรอบตัวอย่างสนุกสนาน
“เอาน่า...หล่อใช้ได้ เราแค่สนุก ไม่ได้ยึดติดนี่นา”
อริสลาปลอบใจตนเอง เสียดายเหมือนกัน ที่สองหนุ่มนั่นน่าจะดูดีกว่านี้สักหน่อย...คนหนึ่งดูนิ่งๆ ขรึมๆ ดวงตาสีเขียวเหมือนมรกตติดดุจนต้องมองผ่าน อีกคนก็ไม่ได้ด้อยกว่า เพียงแต่เขาลากรองเท้าแตะหูคีบ ใส่กางเกงขาห้าส่วน กับเสื้อยืดสีตุ่นๆ บนตัวช่วงบน มันไร้ราศี...เหมือนฝรั่งนักท่องเที่ยวที่มีเงินใช้จ่ายแบบจำกัด...เพราะหากคะเนอายุจากหน้าตา เขาคงอยู่ในช่วง30 ต้นๆ แค่นั้นเอง
“นั่งนี่มั้ยคะคุณ” ระพัดยิ้มแผล่ ผายมือไปที่เก้าอี้ชายหาด ที่ตนเองเป็นเจ้าของ อริสลายิ้มรับ เธอพยักหน้ารับ เพราะเมื่อยขาเหมือนกัน แถมมุมนี้เธอจะได้ส่องผู้ชายเพลินๆ ไม่มีอะไรมาบดบังสายตา
“มีอาหารบริการด้วยมั้ยจ้ะ”
พิมพิสาเอ่ยถาม เธอหมดแรงที่จะเดินไปหาอาหารอร่อยๆ ใส่ปาก...
“จำพวกยำง่ายๆ ก็พอได้ค่ะ”
ถึงจะเป็นแค่ซุ้มขายเครื่องดื่มหน้าหาด แต่บางครั้งลูกค้าก็ต้องการกับแกล้มด้วย ระพัดเลยเตรียมของสดเผื่อไว้ และมันก็สร้างรายได้ให้เธอด้วยเหมือนกัน
“เอาโค๊กสามขวด ส่วนอาหาร... รอเพื่อนฉันลงมาสมทบค่อยสั่งนะจ๊ะ” อริสลาตัดสินใจแทนเพื่อน เมื่อทำเลตรงนี้ ก็ดีกว่าการเดินกรีดกรายไปมา เหมือนก่อนหน้านี้
“มากันแค่สามคนเหรอคะคุณ”
แม่ค้าสาวชวนคุย แอบชื่นชมลูกค้าหน้าตาดีที่กึ่งนั่ง กึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ชายหาด
“อืม...” อาจจะเป็นเพราะเห็นว่าเป็นเพศเดียวกัน อริสลาจึงไม่ระแวง เธอตอบคำถามนั่นแบบเต็มใจ “เรามากันสามคน... ไร้แฟนจ้ะ เพราะมัวแต่เรียนไม่ได้มองหาผู้ชายให้ตัวเอง พอเริ่มงานก็เลยเคว้งแบบนี้ไงล่ะ”
“สวยๆ แบบนี้ อีกไม่นานก็หาได้ค่ะ ถ้าไม่เลือกนะคะ”
ระพัดตอบพร้อมกับยิ้ม ไม่ใช่แค่สองสาวที่เป็นลูกค้าหรอกที่ไร้คนข้างกาย เธอเองก็เช่นกัน...