เพล้ง
"ไอ้เพลิง"เสียงตะโกนเรียกชื่อของชายหนุ่มดังขึ้นพร้อมกับเสียงแก้วเหล้าที่แตกละเอียดและหยาดเลือดที่รินไหลออกมา
"ไอ้สัสเพลิง มึงทำเหี้ยอะไรวะ"รันเวย์ชักสีหน้าก่อนจะเข้ามาดึงแก้วเหล้าที่แตกออกจากฝ่ามือของเพื่อนสนิท
"ไอ้นักรบมึงไปเอาทิชชูมาที"
"เออ ๆ "เสียงดังเอะอะของเพื่อนทั้งสองไม่เข้าโซนประสาทหูของพระเพลิงเลยสักนิด สมองของเขาไม่รับรู้เรื่องอะไรอีกต่อไปหลังจากได้ฟังคำบอกเล่าจากปากของรันเวย์
"มึงใจเย็น ๆ ดิวะ"รันเวย์บ่นไปตามประสาในขณะที่ทำแผลให้เพื่อน แม้บาดแผลมันจะไม่ลึกมากแต่ก็ยังคงมีเลือดไหลซึมออกมา
สีหน้าของพระเพลิงในตอนนี้เรียบนิ่ง แต่แววตาของเขานั้นมันไม่สามารถปิดบังความเจ็บปวดเอาไว้ได้นอกจากฝ่ามือที่เริ่มมีความรู้สึกเจ็บหัวใจของเขาในตอนนี้ก็เจ็บแปลบไม่ต่างกัน
'กูเห็นธารน้ำกับเฮียอัคนีในร้านชุดแต่งงาน'
'มึงว่าอะไรนะ'รันเวย์สีหน้าไม่สู้ ดีในใจของเขามีความหนักหน่วงแต่เรื่องนี้เขาจำเป็นต้องบอกให้เพื่อนสนิทได้ทราบว่าแฟนสาวกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับคนอื่น
'วันนี้กูพามีนาไปเดินห้างมา กูเห็นธารน้ำกับเฮียอัคนีพี่ชายของมึงเดินเลือกชุดแต่งงานด้วยกัน'
'...'
'ที่มึงเคยบอกว่าเฮียอัคนีจะแต่งงาน คือจะแต่งกับธารน้ำอย่างนั้นเหรอวะ'สิ่งที่เพื่อนสนิทบอกมาทำเอาชายหนุ่มนั่งนิ่งด้วยความรู้สึกช็อกไป เพราะเมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่แล้วพี่ชายของเขาได้ต่อสายโทรมาบอกว่ากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งตอนนั้นเองก็ไม่ได้สนใจได้แต่แสดงความยินดีและจะเข้าไปร่วมเป็นสักขีพยานความรักของทั้งคู่ให้
แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคนที่พี่ชายของเขาจะแต่งงานด้วยคืออดีตแฟนสาวซึ่งเธอพึ่งจะบอกเลิกราเขาไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
"ไอ้เพลิง"ด้วยความที่พระเพลิงไม่เคยนิ่งเงียบแบบนี้สร้างความเป็นห่วงให้กับเพื่อนสนิททั้งสองอยู่ไม่น้อย สำหรับธารน้ำแล้วเธอเปรียบเสมือนดวงใจของชายหนุ่ม เธอคือผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่ทำให้ผู้ชายอย่างพระเอกได้สัมผัสกับความรักและความเจ็บปวด
เธอบอกเลิกเขาเพื่อไปแต่งงานกับพี่ชายของเขาอย่างนั้นเหรอ ที่เธอไม่ยอมกลับมาคืนดีมันเป็นเพราะแบบนี้ใช่ไหม
"ไอ้เพลิงมึงอย่าเงียบแบบนี้สิวะ"นักรบเขามาเขย่าแขนดึงสติให้พระเพลิงหันหน้ามามองเพื่อนทั้งสอง
"กูอยากอยู่คนเดียว"รันเวย์กับนักรบหันมองหน้ากันด้วยแววตาแสดงถึงความหนักใจ พวกเขาทั้งสองรู้ดีว่าพระเพลิงรักธารน้ำมากกว่าสิ่งใดและทั้งสองคนจะไม่เลิกรากันไปถ้าผู้หญิงอย่างใบหม่อนไม่คิดการใหญ่อยากจะแย่งผู้ชายของเพื่อน
ภายในห้องพักสุดหรูของชายหนุ่มเกิดความเงียบทันทีเมื่อเพื่อนสนิททั้งสองคนก้าวขาเดินออกไปตามความต้องการของเจ้าของห้องพัก
บรรยากาศที่หนาวเหน็บโอบล้อมกายของชายหนุ่มที่กำลังนั่งพิงผนังโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า น้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างเงียบ ๆ เมื่อนึกถึงเรื่องราวของความรักในอดีตระหว่างเขาและเธอตั้งแต่ปีหนึ่งจนถึงปีสี่ในตอนนี้
ความรักเขาเธอและเขามันมีอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น ธารน้ำเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งเธอเลือกที่จะยืนด้วยตัวเองมากกว่าการขอร้องให้เขายื่นมือเข้าไปช่วย แม้จะลำบากขนาดไหนเธอไม่เคยคิดจะแบมือขอเงินของเขานอกเสียงจากเธอจะสุดทางตันแล้วจริง ๆ
'เพลิงรู้ไหมว่าผู้หญิงต่อให้ผู้หญิงจะรักผู้ชายคนนั้นมากแค่ไหน แต่ถ้าวันไหนที่ผู้ชายคนนั้นทำให้เธอหมดความอดทนเธอก็เลือกที่จะเดินจากไปเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ทันที'นี่คือประโยคที่ธารน้ำเคยพูดกับเขาคล้ายกับว่าตั้งใจอยากจะเตือนให้เขาได้รู้ว่าตอนนี้ความอดทนของเธอนั้นเหลือน้อยเต็มที
ซึ่งตอนนี้ความอดทนของเธอนั้นคงหมดลงแล้วถึงได้ปล่อยมือเดินออกไปจากชีวิตของเขาเพื่อเริ่มต้นรักครั้งใหม่กับผู้ชายอีกคน ซึ่งผู้ชายคนนั้นคือ อัคนี พี่ชายแท้ ๆ ที่คลานตามกันมาจากพ่อแม่เดียวกัน
'เขาจะยอมให้เธอกับพี่ชายแต่งงานกันอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ ทั้งที่หัวใจของเขายังรักเธออยู่แบบนี้'
คงไม่ซินะ ใครจะยอมให้ผู้หญิงที่ตัวเองรักไปแต่งงานใหม่กันล่ะต่อให้เป็นพี่ชายพ่อแม่เดียวกันก็เถอะ เขาไม่มีวันยอม
พรึ่บ
ร่างสูงใหญ่หยัดกายนั่งหลังตรงก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสายหาเพื่อนสนิทอย่างรันเวย์ที่พึ่งจะก้าวขาเดินออกไป
"ฮัลโหล"
"มึงช่วยไปพาตัวใบหม่อนมาเจอกูที่ห้องของธารน้ำหน่อยสิ"
"ทำไม มึงคิดจะทำอะไร"
"ก็ไม่ได้คิดจะทำอะไร"
"..."
"ก็แค่จะจัดการกับต้นเรื่องที่มันทำให้กูกับธารน้ำต้องเลิกกัน"
ติ๊ด
แววตาคล้ายกับต้องการสังหารคนวาววับเมื่อนึกถึงตัวต้นเหตุของเรื่องนี้ที่มันบังอาจมาวางยาเขา ด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแววตาดุดันยิ่งเพิ่มทำให้ชายหนุ่มนั้นดูน่ากลัวอีกหลายเท่าตัว
เขาจะมัวชักช้าในเรื่องนี้ไม่ได้ถ้าไม่อยากสูญเสียหญิงสาวให้กับพี่ชายไปตลอดกาล
"ขอบคุณมากนะคะสำหรับอาหารมื้อนี้"
"ไม่เป็นอะไรครับ แล้วนี่คุณอยากเดินเที่ยวเล่นช้อปปิ้งต่อหรือเปล่า"
"ไม่ล่ะค่ะ บ่ายนี้คุณหมอเข้าเวรไม่ใช่เหรอคะ"หญิงสาวเอ่ยเตือนในขณะที่ทั้งคู่เดินออกมาจากร้านอาหาร
"จริงด้วยสิ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปส่งคุณที่บ้านก่อนแล้วค่อยกลับมาทำงาน"
กึก
เรียวเท้าสวยบนรองเท้าส้นสูงหยุดชะงักทำให้ฝ่าเท้าใหญ่หยุดยืนไปตาม ๆ กัน
"มีอะไรหรือเปล่าครับ"
"คือว่าเดี๋ยวธารนั่งแท็กซี่กลับบ้านเองดีกว่าค่ะ ขืนคุณหมอไปรับไปส่งอยู่กันมาแบบนี้เดี๋ยวจะเข้างานสายเอานะคะ"ระยะทางจากบ้านของเธอและโรงพยาบาลของเขามันก็ไม่ใช่ว่าจะใกล้ ๆ อีกทั้งการสัญจรในเมืองใหญ่แบบนี้ยังคงหนาแน่นติดขัดเป็นทางยาว กว่าเขาจะขับรถไปส่งเธอเสร็จแล้ววนรถกลับมาทำงานต่อก็คงใช่เวลาร่วมชั่วโมงกว่า
"มันจะดีเหรอครับ ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านจะดีกว่า"
"ไม่เป็นอะไรจริง ๆ ค่ะ คุณหมอไม่ต้องเป็นห่วงเลย"
"แต่ว่า"
ครืด ครืด ครืด
โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋ากางเกงสแล็คตัวสวยแผดเสียงดังทำการพูดคุยของทั้งสองหยุดชะงัก คิ้วเข้มของอัคนีขมวดเข้าหาเมื่อเห็นว่าเป็นสายจากโรงพยาบาลโทรมา
"คุณหมออัคนีคะ มีเคสด่วนค่ะ"
"ไม่มีหมอคนอื่นว่าเลยหรือไงตอนนี้"
"ไม่มีเลยค่ะ คุณหมอวิสุทธิ์ลงเวรตั้งแต่เช้าส่วนคุณหมอ..."
"พอ ๆ คุณไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เดี๋ยวผมจะรีบไป"คุณหมอหนุ่มกดวางสายด้วยสีหน้าไม่สู้ดีสักเท่าไหร่
"คุณหมอไปเถอะค่ะ ธารกลับเองได้ตอนนี้คนไข้กำลังรอคุณหมอไปรักษาพวกเขาอยู่นะคะ"ธารน้ำพูดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เธอรู้ดีสำหรับคนที่เป็นหมอหน้าที่การช่วยเหลือคนจะต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก
"ขอบคุณนะครับ ถ้าคุณกลับถึงบ้านแล้วอย่าลืมโทรบอกผมด้วยนะ"
"รับทราบค่ะ"
"ขอโทษอีกครั้งนะครับที่ไม่ได้ไปส่ง"ชายหนุ่มบอกเธอด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดจากใจจริง ก่อนจะวิ่งออกไปเพราะตอนนี้มีคนไข้กำลังรอให้คุณหมอหนุ่มไปรักษาพวกเขาอยู่
ธารน้ำยืนมองร่างสูงใหญ่ของว่าที่สามีวิ่งออกไปจนสุดไกลตา ตอนนี้เธอมีความรู้สึกว่ายังไม่อยากกลับไปเหยียบที่บ้านหลังนั้น ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่เธอก้าวขาเข้าไปมันเต็มไปด้วยความอึดอัดไม่มีอิสระแต่ด้วยคำว่ากตัญญูต่อมารดาผู้ให้กำเนิดมันทำให้เธอต้องเข้าไปอาศัยอยู่แม้ว่าเธอจะต้องทนต่อสายตาไม่เป็นมิตรของสองแม่ลูกที่มองมาอยู่ตลอดก็ตาม
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
เสียงแจ้งเตือนของข้อความดังเข้ารัว ๆ จนเจ้าของโทรศัพท์อย่างเธอรู้สึกแปลกใจจนต้องรีบล้วงออกมาจากกระเป๋าเพื่อเปิดอ่าน
"เบอร์แปลก ใครกัน"ธารน้ำจ้องข้อความจากเบอร์แปลกที่ส่งมาพลางคิ้วขมวดเข้าหา
"มิจฉาชีพส่งข้อความมาหลอกดูดเงินหรือเปล่าวะ"แม้ปากจะพูดเช่นนั้นแต่ด้วยความที่ไม่ทันระวังทำให้ปลายนิ้วกดสัมผัสเพื่อเปิดอ่านข้อความที่อีกฝ่ายส่งมา
'รับมาหาฉันที่ห้องของเธอ'
'ก่อนที่เพื่อนรักของเธอจะตาย'มีคลิปวิดีโอแนบท้ายข้อความข้างต้น ธารน้ำไม่รอช้ารีบกดเข้าไปดูวิดีโอที่อีกฝ่ายส่งมา
'ธารน้ำช่วยฉันด้วย ฮึก อือ'เสียงร้องไห้ของใบหม่อนซึ่งกำลังถูกจับมัดไว้กับเก้าอี้ภายในห้องพักของเธอดังขึ้น
'ธารน้ำเธออยู่ไหนมาช่วยฉันที พระเพลิงจะฆ่าฉันแล้ว'ชื่อของอดีตแฟนหนุ่มที่ดังออกมาจากในคลิปทำให้หญิงสาวเบิกตากว้างยกมือขึ้นมาปิดปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากจากมุมห้องเดินตรงไปยังร่างของอดีตเพื่อนสาว
แววตาของพระเพลิงในตอนนี้คล้ายกับคนโรคจิตไม่ผิดเพี้ยน และสิ่งที่ทำให้ธารน้ำหัวใจตกไปอยู่ตรงตาตุ่มนั้นก็คือการที่พระเพลิงใช้ปลายกระบอกปืนจ่อศีรษะของอดีตเพื่อนสาว
'รีบมาที่ห้องของเธอนะที่รัก รีบมาดูสภาพของคนที่กำลังจะตายอีกในไม่ช้า'
ติ๊ด
วิดีโอที่ส่งมาตัดจบไปเพียงแค่นั้น ซึ่งมันทำให้หัวใจของธารน้ำเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข การเลิกราระหว่างเธอกับพระเพลิงดูเหมือนว่ามันจะไม่จบสิ้นอยู่แค่นี้ เธอจะทำยังไงดีแม้จะรู้สึกเกลียดทั้งสองที่ทำแบบนั้นแต่จุดจบของเรื่องนี้มันจะไม่ต้องเกิดการฆ่ากันตายแบบนี้สิ