ธารน้ำนั่งนิ่งหลังจากทุกคนทานอาหารเสร็จ หัวใจของเธอมันเต้นไม่เป็นจังหวะอีกทั้งยังมีความหวาดหวั่นกับผู้ชายตรงหน้าอยู่บ้าง
"อย่างที่ผมเคยแจ้งให้คุณอัคนีทราบ ตอนนี้ทางบริษัทของผมกำลังมีปัญหา เรื่องที่ผมเคยเอาบ้านกับบริษัทของภรรยาไปค้ำประกันในการกู้เงิน"ถ้อยคำที่ผู้เป็นพ่อเกริ่นออกมาในแววตาของชายวัยกลางคนไร้ซึ่งความรู้สึกผิด ทำให้ลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างธารน้ำรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ ท่านทำราวกับว่าบริษัทและบ้านของมารดาจะสามารถเอาไปทำยังไงก็ได้โดยที่ไม่คิดถึงจิตใจของเธอเลยสักนิด
"ผมอยากจะขอยื่นเวลาในการชดใช้หนี้"
"แต่เงินที่คุณกู้ผมไปมันไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะครับ และไหนจะดอกเบี้ย..."
"ธารน้ำจะมาเป็นดอกเบี้ยในระหว่างที่ผมหาเงินมาใช้หนี้ให้กับคุณครับ คุณอัคนี"
ครืด
"หนูขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ"ธารน้ำไม่สามารถนั่งทนฟังคำพูดของพ่อตัวเองต่อไปไหวลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปจากห้องทานอาหารส่วนตัวโดยมีสายตาคนเข้มซึ่งยากจะคาดเดามองตามแผ่นหลังเล็กที่กำลังเปิดประตูเดินออกไป
ซ่า
เสียงสายน้ำที่ดังขึ้นตรงอ่างล้างหน้าดังก้อง หญิงสาวในชุดเดรสสีสวยมองรูปหน้าของตัวเองผ่านเงาสะท้อนของกระจกบานใหญ่ คำพูดของบิดาเมื่อครู่ไหลผ่านเข้ามาในหัวสมองของเธออีกครั้ง เรี่ยวแรงละพละกำลังที่จะยื่นของเธอนั้นร่อยหรอเต็มที บิดาที่ตัดหางปล่อยวัดเธอมาตั้งหลายปีกำลังจะให้เธอแต่งงานกับผู้ชายที่เธอพึ่งรู้จักไม่ถึงชั่วโมงเพื่อแลกกับเงินนับหลายสิบล้านที่ท่านเอาไปเสวยจนสุกสบายอยู่กับภรรยาคนใหม่เมื่อหลายปีก่อน
หนี้ก้อนใหญ่หลายสิบล้านที่เธอไม่ได้เป็นคนสร้าง เงินแม้แต่สตางค์แดงเดียวเธอก็ไม่ได้ใช้ แต่เธอต้องกลายมาเป็นคนที่จะต้องแต่งงานใช้หนี้แทนมันเหมาะสมแล้วใช่ไหม
ธารน้ำใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานอยู่หลายนาที ก่อนที่เธอจะเรียกสติให้กลับคืนมาได้ ธารน้ำกลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้งและเธอก็หวังว่ามารดาจะมองเห็นความตั้งใจของเธอจากที่ไหนสักที่
ครืด
เสียงบานประตูห้องอาหารถูกเปิดออกอีกครั้ง ร่างของธารน้ำชะงักไปทันทีเมื่อเห็นว่ามีแต่ร่างของอัคนีนั่งอยู่ไร้เงาของบิดา
"อะ...เอ่อ"
"คุณเอกรินทร์กลับไปแล้วล่ะครับ"ชายหนุ่มบอกกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงโทนอ่อนโยนแต่มันกลับทำให้ธารน้ำรู้สึกใจไม่ดีกับการที่บิดาทิ้งเธอเอาไว้แบบนี้
"อยากจะนั่งคุยกันก่อนไหมครับ เดี๋ยวผมไปส่งคุณเอง"
"กะ...ก็ได้ค่ะ"เธอรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปนั่งตรงตำแหน่งเดิม
บรรยากาศภายในห้องทานอาหารแบบส่วนตัวเงียบสงัดเมื่อต่างคนต่างพากันนั่งเงียบ
"ระ...เรื่องแต่งงาน เอ่อคือ"
"คุณธารน้ำไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับผมตั้งแต่ทีแรก ผมพูดถูกใช่ไหมล่ะครับ"
"มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะ เพียงแต่ว่า"
"อย่าโกหกกันเลยครับ"ริมฝีปากเรียวสวยเม้มเข้าหากันเมื่ออัคนีพูดเช่นนั้นออกมา
"แววตาของคุณมันกำลังฟ้อง"ความละอายใจตีแสกใบหน้าของหญิงสาว เขาคงสังเกตเห็นแววตาและสีหน้าของเธอในก่อนหน้านี้
"ถ้าคุณธารน้ำไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับผม..."
"พร้อมค่ะ"อัคนีจ้องหน้าหญิงสาวเมื่อเธอค่อย ๆ เงยหน้าช้อนสายตามองกลับมา
"น้ำพร้อมที่จะแต่งงานกับคุณอัคนีค่ะ"
"คิดดีแล้วใช่ไหมครับ"ชายหนุ่มในชุดสูทดูดีถามย้ำ
"ค่ะ น้ำคิดดีแล้ว"น้ำเสียงหนักแน่นที่ออกจากปากของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มกระตุกยิ้มออกมาได้
ร่างสูงใหญ่หยัดตัวลุกขึ้นยืนทำให้ธารน้ำต้องดันกายลุกขึ้นยืนตาม
"ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้คุณคือว่าที่เจ้าสาวของผมแล้วนะครับ คุณธารน้ำ"
"..."
"ยินดีที่ได้รู้จักกันนะครับว่าที่เจ้าสาวของผม"
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นเดียวกันค่ะ"แววตาลึกล้ำจับต้องอยู่ที่ดวงหน้างามตลอดเวลา อัคนียอมรับโดยตรงเลยว่าธารน้ำนั้นตรงกับสเปคของเขาทุกอย่าง ธารน้ำเธอทั้งน่ารักดูเป็นคนนิสัยดี
"ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวผมขับรถไปส่ง"
"ค่ะ"
"เมื่อไหร่จะเปิดเครื่องวะ"
ปึง
"เหี้ยเอ๊ย"ชายหนุ่มเลือดร้อนสบทออกมาอย่างหัวเสียหลังจากไม่สามารถติดต่อหาแฟนสาวได้ จนทำให้เพื่อนในกลุ่มอีกสองคนต่างหันกันมามอง
"เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะไอ้เพลิง"
"นั่นดิ ชวนกูมาแดกเหล้าที่ห้องแต่เสือกทำตัวหัวเสียใส่"นักรบลูกชายนักการเมืองชื่อดัง กับ รันเวย์ทายาทเจ้าของสายการบินเพื่อนสนิทรุ่นเดียวกันต่างหันมาให้ความสนใจกับพระเพลิงที่เอาแต่นั่งหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่เพียงคนเดียว
"ก็ธารน้ำดิแม่ง ปิดเครื่องใส่กู"พ่อหนุ่มเลือดร้อนยังไม่หยุดหัวเสียใส่แฟนสาว เขาพยายามโทรและส่งข้อความไปง้อเธอแต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจ โทรไปเมื่อตอนเย็นก็ตัดสายแถมปิดเครื่องใส่ไปหาที่ห้องก็ไม่เจอไม่รู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหน
"หึ ทำเวรทำกรรมกับเขาเอาไว้เยอะ สมควรแล้วล่ะที่จะถูกทิ้งผู้ชายอย่างมึง"
"นั่นดิ แม่งคิดได้ยังไงวะไปเอากับเพื่อนเมีย"
"ก็ตอนนั้นกูเมา ไม่สิยัยบ้านั่นตั้งใจมอมเหล้ากู เวรเอ๊ย"พระเพลิงตอบอย่างไม่ได้นึกสนใจหรือพิศวาสอะไรใบหม่อน คืนนั้นเขาก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็ตอนที่ใบหม่อนเดินเข้ามาขอชนแก้วแล้วนั่งลงตรงที่โต๊ะของเขาหลังจากเพื่อนทั้งสองคนหายไปกับสาว ๆ ของพวกมัน
'มาเที่ยวคนเดียวเหรอเพลิง'
'เปล่า มากับเพื่อน'ชายหนุ่มตอบเพื่อนแฟนสาวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและไม่คิดจะหันไปมองหน้าอีกฝ่าย ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าใบหม่อนพยายามจะเข้าใกล้และจงใจทอดสะพานให้กับเขา
'เย็นชาจังเลยนะ หรือเป็นเพราะว่าฉันไม่ใช่ธารน้ำนายเลยไม่สนใจ'
'จะไปไหนก็ไป ฉันอยากนั่งคนเดียว'ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีสวยเม้มเข้าหากัน ใบหม่อนพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ในใจก่อนจะยื่นแก้วเหล้าไปให้กับชายหนุ่มตรงหน้า
'ถ้านายไม่อยากเห็นหน้าฉัน ก็ดื่มเหล้าแก้วนี้ให้หมดสิ แล้วฉันจะไป'พระเพลิงหรี่ตามองแก้วเหล้าในมือของหญิงสาวอย่างชั่งใจ
'ถ้านายไม่ดื่ม ฉันก็จะนั่งอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน'
หมับ
พระเพลิงรีบคว้าแก้วเหล้าจากมือของใบหม่อนขึ้นมาดื่มจนน้ำเมารินไหลลงไปในลำคอจนหมดสิ้น
ปึก
"ออกไป"ชายหนุ่มกระแทกแก้วเหล้าลงบนโต๊ะพลางกระแทกเสียงใส่ไล่ให้อีกฝ่ายออกไปให้พ้น ๆ เพราะมันคงจะไม่ดีสักเท่าไหร่ถ้าหากมีคนมาเห็นว่าเขานั่งใกล้กับเพื่อนแฟนสาว
"ออกไปได้แล้ว"
"หึ ได้สิ ไว้อีกเดี๋ยวเราค่อยเจอกันใหม่"หญิงสาวในชุดเดรสแสะยิ้มร้ายพลางเหลือบสายตามองแก้วเหล้าที่เธอจงใจนำมาให้ชายหนุ่มได้ดื่ม
"แม่งเอ๊ย กูพลาดจนได้"ยิงคิดถึงเรื่องในคืนวันนั้นชายหนุ่มก็ยิ่งหัวเสียกับสิ่งที่เขาได้พลาดทำมันลงไป ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงอย่างใบหม่อนจะร้ายกาจได้ถึงขนาดนั้น
"หล่อจนผู้หญิงอยากได้ก็ทำใจหน่อยนะ"นักรบหัวเราะแซวอย่างไม่จริงจังมากนัก น้อยครั้งที่พระเพลิงจะพลาดท่าให้กับผู้หญิง อันที่จริงแล้วตั้งแต่ธารน้ำยื่นคำขาดกับเรื่องเจ้าชู้ของพระเพลิง ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะตีสนิทกับผู้หญิงคนไหนจนเลยเถิดไปถึงขั้นเรื่องชู้สาว จะมาพลาดก็ตอนที่เพื่อนรักเพื่อนร้ายอย่างใบหม่อนคิดไม่ซื่อก็ตอนนั้น
"อย่าให้กูเจอมันอีกครั้งนะ ผู้หญิงกูก็ไม่เว้น"
"ก่อนคิดจะแก้แค้น คิดหาวิธีง้อธารน้ำก่อนไม่ดีกว่าเหรอ"คำพูดของรันเวย์ทำให้พระเพลิงชะงักพลางนึกคิดขึ้นมาได้
"ดูเหมือนว่าครั้งนี้แฟนมึงจะเอาจริงนะไอ้เพลิง"
"หึ กูไม่มีวันปล่อยให้ธารน้ำเดินออกไปจากชีวิตของกูเด็ดขาด"
"แล้วมึงจะทำยังไงคิดจะง้อธารน้ำด้วยวิธีไหน"ในเมื่อตอนนี้หญิงสาวได้ตัดขาดการติดต่อไม่คิดจะเปิดโอกาสให้เขาได้ง้อ
"จะด้วยวิธีไหนก็ช่าง เพราะถึงยังไงกูไม่มีทางเลิกกับธารน้ำเด็ดขาด"
"..."
"ธารน้ำจะต้องเป็นเมียของกูคนเดียว"