ในวันที่สามีไปเรียนต่อที่ลอนดอน โดยมีครอบครัว และกลุ่มเพื่อนๆ ที่มาส่งไทม์ที่สนามบิน ทั้งสามหนุ่ม มาคัส ฟรอสต์ ภีมภพมาถึงสนามบิน สามีเดินทางไปต่างประเทศแต่กับไร้เงาภรรยาตัวจริง
“ไอ้ไทม์ น้องปลายไม่มาส่งมึงเหรอ” ภีมภพถามด้วยสีหน้าสงสัย เพราะเขาเห็นเพียงแค่ป้ารีน ลุงเรียว และไนท์ แต่นั้นคนถูกถามไม่ตอบ ร่างสูงในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ในมือถือเสื้อโค้ทตัวใหญ่
“มึงไม่น่าถามวะ ไอ้หมอมึงดูโน้นครับ” มาคัสเอ่ยขณะที่ร่างบางในชุดเดรสสีหวานเดินถือช่อดอกไม้มาหยุดตรงหน้าของไทม์
“คุณพ่อคุณแม่ ไนท์คะ สวัสดีค่ะ” มิล่า ดาราสาวระดับแถวหน้าเมืองไทย เอ่ยทักทายครอบครัวฝ่ายชาย
“หึ...ไนท์คิดแล้วเชียว ทำไมน้องปลายไม่มาส่งพี่ไทม์ แบบนี้นี่เอง” น้องสาวกระซิบที่ข้างหูพี่ชาย คนฟังกับยักไหล่ให้น้องสาว ไนท์รู้จักมิล่าดีเพราะเธอนั้นเป็นดาราและอยู่ในแวดวงไฮโซไม่ต่างจากเธอ มักเจอกันตามงานบ่อย แต่นั้นก็ตะหงิดใจ พี่ชายของเธออะไรไม่ให้เกียรติพี่สะใภ้ของเธอเอาเสียเลย พี่ไทม์นะพี่ไทม์
“สวัสดีจ๊ะ” รีนลดาเอ่ยตามมารยาท ‘ตาไทม์นี้จริงๆ เลย’ คนเป็นแม่ได้แต่ต่อว่าลูกชายในใจ นิสัยที่ไม่ต่างจากคนเป็นพ่อเขานัก
“ขอบคุณครับ มิล่า” ไทม์รับดอกไม้ในมือดาราสาว
“มิล่าคิดว่าจะมาไม่ทันไทม์แล้ว โชคดีนะคะไทม์ไว้เจอกันที่ลอนดอนค่ะ” ที่มิล่าเอ่ยเช่นนั้นเพราะเดือนหน้าเธอมีถ่ายงานที่ลอนดอน มิล่า ไม่พูดเปล่าใบหน้าสวยฉบับลูกครึ่งผู้ดีอังกฤษยื่นริมฝีปากแดงจัด จุ๊บเข้าที่ริมฝีปากหยักหนาของไทม์ ต่อหน้าครอบครัว และเพื่อนสนิทของไทม์กลางสนามบิน ไทม์ที่ถูกดาราสาวจูบกลางสนามบิน ถึงกับชะงัก
“ครับ” ไทม์เดินขึ้นบันไดเลื่อนโบกมือบายๆ ให้กับทุกคน
“พวกมึงดูมัน ไอ้เชี่ยไทม์ มันทำตัวยังกับมันโสด ไอ้คนไม่มีพันธะ” มาคัสได้แต่ส่ายหัวให้เพื่อนสนิท แต่งงานกับอีกคน แต่กับจูบกับอีกคนกลางสนามบิน เกิ้นไปแล้วมึง
ส่วนร่างบางใบหน้าเรียวได้รูปนั้น ปลายฝัน ถึงฉันจะเป็นสะใภ้เศรษฐี แต่ก็ไม่ลืมความใฝ่ฝันอันสูงสุดของฉันหรอกนะ วันนี้ฉันมีซ้อมเต้นที่จะใช้ประกอบทำเอ็มวีให้กับศิลปินในสัปดาห์หน้า ซึ่งนี้แหละเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ฉันรัก และมุ่งมั่นที่จะเป็นนักแสดง ศิลปินให้ได้ แต่ด้วยหนังหน้าและความสามารถของฉันตอนนี้เป็นได้ แค่ตัวประกอบเท่านั้น
ฉันเหลือบมองนาฬิกา 17.20 นาที ซึ่งมันเป็นเวลาขึ้นเครื่องของพี่ไทม์ วันนี้ที่ฉันไม่ได้ไปส่งเขา เพราะฉันติดงานยังไงละ แต่นั้นเขาคงไม่อยากให้ฉันไปเกะกะขวางหูขวางตาเขาหรอก
“ขอให้โชดีนะคะพี่ไทม์ ไม่ต้องรีบกลับมา อยู่ที่ลอนดอนนานๆ เลยยิ่งดี” นั้นคือคำอวยพรจากฉันที่ได้แต่เอ่ยมันภายในใจ ถึงฉันจะไม่ไปส่งก็คงไม่มีผลต่อการใช้ชีวิตของเขาหรอก สาวๆ ที่ไปส่งเขามีเยอะอยู่แล้ว
เมื่อเราซ้อมกันไปได้สักพักใหญ่ๆ ถึงเวลาพักเบรกฉันหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมา ขณะที่นั่งทานขนมกับยัยเอิงเอย
“ว้าว...ข่าวใหม่วันนี้ พี่ไทม์กับมิล่า นี้จะขยันเป็นข่าวกันไปไหน ปลายแกเห็นข่าวนี้ยัง ช่วงนี้เลื่อนหน้าฟีดไปไหนเจอแต่ข่าวพี่ไทม์” ยัยเอิงเอยไม่พูดเปล่า และนางกับยื่นสมาร์ตโฟนเครื่องของนางมาให้ฉันดู เมื่อ 20 นาทีที่แล้ว ในเพจเซเลปเมืองไทย
“เห็นแล้ว นี้แกยังไม่ชินกับเขาอีกเหรอ” ฉันว่าให้ยัยเอิงเอย ลืมบอกไปยัยนี้ยังไม่ทราบเรื่องที่ฉันแต่งงานกับเขา ถ้าทราบเมื่อไหร่ ยัยเอิงนางคงกรี๊ดบ้านแตก เพราะนางนั้นชอบและคลั่งไคล้กลุ่มพวกพี่ไทม์ พอๆ กับที่ฉันปลื้มพี่หมอภีม แต่น่าเสียดาย
“พูดก็พูดนะ ฉันเนี่ยที่เป็นแฟนคลับพี่ไทม์ ฉันโคตรไม่ชอบมิล่าเลย ยัยนั้นสวยตรงไหน ที่ได้เป็นดารานี้ไม่ใช่หนังหน้าดีสวยอะไรหรอกนะ แต่นางใช้เส้นค่ะ แม่นางอยู่ในวงการมาก่อน พี่ไทม์ไม่มีผู้หญิงดีๆ ให้คบแล้วหรือไง ถึงไปเอากับยัยดาราหน้าปลวกนี้ได้” พูดแล้วก็ทำหน้าหงุดหงิดใส่ฉัน
“ซ้อมแดนซ์ มาก็เหนื่อยมากพอแล้ว มาเจอข่าวอิมิล่ากับว่าที่พี่ไทม์ผัวน้องเอิงนี้อีก เหนื่อยคูณสองเลยสิกู” พูดจบยัยเอิงเอยนางก็ล้มตัวนอนลงกับพื้น ฉันที่เห็นสีหน้าเพ้อฝันของนางจะขำเพื่อนก็ขำไม่ออก
‘หึ...” ฉันหยิบสมาร์ตโฟนยัยเอิงเอยขึ้นมาดู เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด ต่อให้ฉันไม่ไปส่งเขา ก็ไม่มีผลอะไรกับคนอย่างพี่ไทม์ ก็เล่นจูบกันกลางสนามบินแบบไม่แคร์สายตาใครแบบนี้ ดีซะอีกที่ฉันไม่ไป
ย้อนไปเมื่อวันก่อนที่เขามาทานข้าวที่บ้าน
“ในช่วงเวลาที่ฉันไม่อยู่ที่ไทย จะทำอะไรก็ให้เกียรติ คนในวงตระกูลฉัน ห้ามเธอทำให้ชื่อเสียงตระกูลฉันเสียหายเด็ดขาด เธอคงเข้าใจนะ ที่ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่มันเพราะอะไร” เขาเอ่ยขณะที่อยู่กับเธอตามลำพัง
“บอกตัวเองดีกว่าไหมคะ เพราะฉันไม่ทำให้ตระกูลเรียวเสียหายอยู่แล้ว”
“ก็ดี ที่เธอรับปากฉัน ฉันอยู่ที่โน้นจะได้ไม่มีอะไรต้องห่วง”
“ค่ะ”
“อ๋อ แล้วอย่าคิดว่าฉันเป็นห่วงเธอละ ฉันแค่ห่วงชื่อเสียงของวงตระกูลฉัน”
“ค่ะ” เธอรับปากเขาให้จบ
“ค่ะ นี้คืออะไร เธอเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดใช่ไหม”
“ค่ะ” ก็ฉันเข้าใจนี่น่า เขาจะอะไรอีก
“ลืมบอกไป ในช่วงที่ฉันไม่อยู่ ถ้าเธออยาก หรือคันมาก ฉันเข้าใจขาดอะไรไปนานๆ มันก็มีความต้องการบ้าง เป็นธรรมดา ฉันอนุญาตให้เธอซื้อกินได้ ฉันไม่ติด” คนฟังถึงกับมองตาขวาง
“หรือไม่ดี...” ร่างสูงในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดยืนมือกอดอก ปลายตาสำรวจภรรยาในนามของตน
“ฉันว่าพี่ควรเก็บคำพวกนี้ ไว้บอกตัวเองเถอะค่ะ พี่ไทม์ก็เหมือนกันนะคะ คนหื่นเอาไม่เลือกอย่างพี่อยู่ที่โน้นคงจะหิว ฉันเป็นภรรยาที่ใจกว้างมาก อนุญาตให้พี่ไทม์ซื้อกินได้ค่ะ ไม่ว่า แต่เลือกหน่อยนะคะ ว่าที่กินอยู่นั้นคน หรือตัวอะไร มีหางไหม” เหอะ นี้เธอว่าเขากินสัตว์งั้นเหรอ
“ชักจะเก่งเกินไปแล้ว เธอว่าฉันเหรอ”
“ ฉันไม่ได้ว่า แต่ถ้าในหัวที่ไทม์มีรอยหยักบ้าง ก็พอจะรู้นะคะ ฉันหวังดีแค่แนะนำ” เอ่ยจบปลายฝันก็เดินเชิดหน้าหนีเขาไป นั้นคือคำอวยพรในวันที่สามีจะไปเรียนต่อ
“ปลายฝัน...” ไทม์กรุเข้าหาเธอพร้อมจะเอาเรื่องเธอสุดๆ แต่นั้นดอกแก้วกับเดินเข้ามา ปลายฝันเหมือนพี่แก้วเข้ามาเพื่อช่วยชีวิตฉัน
“หึ...” ที่โกรธฉันมากจนหน้าแดง แบบนี้คงจี้ใจดำเขามากเลยสินะ ก็ฉันพูดเรื่องจริงจะโกรธทำไม ของพี่ไทม์
“ปลายฝันยัยเด็กบ้า กล้าดียังไงว่าเขาเอากับสัตว์ เอาไม่เลือกประเภท งั้นแสดงว่าเธอก็ประเภทเดียวกับเจ้าสี่ขานั้นสินะ” ไทม์ได้แต่คาดโทษยัยเด็กปากดี ที่ว่าเขาฉอดๆ แล้วก็เดินเชิดหน้าออกไป
“ดื้อ ปากเก่ง แบบนี้ ใครมันจะไปเอ็นดูลงละวะ นี้คนบ้านนี้ใช้ตาแบบไหนมองยัยนั้นกัน ปลายฝันที่เข้ามาอยู่บ้านผมไม่ทันไร เธอกลับกลายเป็นคนโปรดของคุณย่า และคุณแม่เสียแล้ว หึ...เก่งเกิน ให้มันได้แบบนี้สิวะ” ไทม์สบถออกมาอย่างหัวเสียสุดๆ
“นี้มันเวรกรรมอะไรของผม ที่หน้ามืดตามัวฟัดคนอย่างปลายฝัน จนเธอเข้ามาอยู่ที่นี่ ในฐานะสะใภ้คนโปรดของบ้านนี้ หึ...”