1
นี่เหรอซุปตาร์ไม่เห็นจะหล่อเลย
ที่บ้านของปุยนุ่นกับแม่ปุยฝ้าย
วันนี้คือวันแรกของการเปิดเรียนเทอมที่ ๒ ของปีการศึกษานี้ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะเราชื่อปุยนุ่นวันนี้คือวันแรกที่เราจะจะไปเรียนของเทอม ๒ ตอนนี้เราเรียนอยู่ปีที่ ๑ ต่อให้เป็นเทอมที่สองแล้วแต่เราก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี วันนี้ฉันจึงตื่นแต่เช้ามาใส่บาตรกับแม่ก่อนออกไปเรียนเราอยู่กับแม่แค่สองคนพ่อเสียไปตั้งแต่เราอายุได้สิบขวบแม่ต้องเลี้ยงฉันมาคนเดียวตลอดระยะเวลาเกือบสิบปีฉันจึงต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเพื่อแบ่งเบาภาระของแม่และเราก็ตั้งใจเรียนให้จบเพื่อที่ฉันจะได้มีงานดีๆ พอที่จะเลี้ยงแม่ด้วย เราเล่าเรื่องชีวิตของเราแค่คร่าวๆ ก่อนนะถึงเวลาที่เราต้องไปเรียนแล้วอ๋อลืมไปฉันมีน้องหมาอยู่ตัวหนึ่งฉันไปเก็บมันมาเลี้ยงมีคนเอามันมาทิ้งเป็นหมาสายพันธุ์โกลเด้นเลยนะตัวเมียมันชื่อมีตังค์ สรุปทั้งบ้านมีสองแม่ลูกกับหมาอีกหนึ่งตัวและมอเตอร์ไซต์คันเก่าๆ หนึ่งคันและรถเก๋งคันน่ารักๆ แต่เก่าแล้ว
ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
วันนี้เราขับมอเตอร์ไซต์คันเก่าๆ ที่ทั้งบ้านก็มีแค่คันนี้แหละเพราะรถเก๋งแม่ไว้ใช้ส่งขนม มาถึงมหาวิทยาลัยได้ก็ดีแค่ไหนแล้วแต่ฉันก็รักมันนะเพราะมันอยู่กับฉันและแม่มานานแล้วเวลาฉันขับผ่านเข้ามาในมหาวิทยาลัยก็จะมีนักศึกษาหัวเราะให้กับรถของฉันเป็นประจำแต่ฉันชินแล้วแหละวันนี้ฉันนัดเจอน้ำหวานเพื่อนรักของฉันที่ตึกคณะของฉัน อ๋อ!ฉันลืมบอกไปฉันเรียนคณะนิเทศศาสตร์น้ำหวานก็เช่นกันนั่นไงยัยน้ำหวานนั่งรอที่โต๊ะหน้าคณะแล้ว
“น้ำหวานฉันมาแล้ว” ฉันเอ่ยทักทายเพื่อนที่นั่งรอฉันอยู่
“ทำไมแกมาช้าจังเลยล่ะปุยนุ่น ฉันรอแกมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะเดี๋ยวก็เข้าเรียนไม่ทันกันพอดี” น้ำหวานบ่นให้ฉันที่ฉันมาช้า
“ก็รถมอเตอร์ไซต์ฉันน่ะสิแกขับมาดีๆ ก็ดับไปซะงั้นกว่าฉันจะสตาร์ทติดก็เสียเวลาไปนานเลยแก”
“ก็ฉันบอกแกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้ฉันไปรับ แกนี่มันจริงๆ เลยไม่รู้จะเกรงใจอะไรฉันนักหนา”
“โอเคๆ วันหลังฉันจะมาให้เช้ากว่านี้นะเราจะได้ไม่เข้าเรียนสาย”
“ไม่ต้องล่ะ วันหลังฉันจะไปรับแกเองไม่ต้องบอกว่าไม่ต้องฉันจะไปรับและตอนนี้ไปเรียนกันเถอะแกจะสายล่ะ” น้ำหวานชวนฉันไปเรียนก่อนที่จับมือฉันเดินไป น้ำหวานคือเพื่อนสนิทของฉันน้ำหวานช่วยเหลือฉันมาโดยตลอด
เมื่อฉันกับน้ำหวานเดินมาถึงลิฟต์ก็กะว่าจะเข้าไปในลิฟต์แต่มีผู้ชายตัวสูงกับเพื่อนอีกสองสามคนอยู่ในนั้นทั้งๆ ที่ฉันกับน้ำหวานเข้าไปอีกได้แต่อีตาผู้ชายตัวสูงหน้าวอกคนนั้นกลับกดปิดลิฟต์ต่อหน้าต่อตาฉัน
“เฮ้ยนี่คุณทำไมปิดลิฟต์ใส่ฉันแบบนี้ล่ะไม่มีมารยาทเลยนะ” ฉันรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้
“แกทำไมฉันคุ้นๆ หน้าผู้ชายคนเมื่อกี้มากเลยแกเหมือนดาราใครสักคนนะฉันเห็นไม่ชัดนี่เขาเรียนที่นี่เหรอเนี่ย” เพื่อนสุดที่รักของฉันแทนที่จะโมโหกลับไปชื่นชมสงสัยอะไรก็ไม่รู้
“นี่แกจะดาราไม่ดาราก็ไม่ควรไร้มารยาทอย่างนี้ไม่ใช่เหรอว่ะ”
“เอาน่าแก เราไปขึ้นอีกตัวก็ได้นะฉันว่าไปๆ แต่ทำไมคุ้นหน้าจังเลยเหมือนพี่มาร์คซุปตาร์ในดวงใจของฉันเลย”
“เลิกพูดถึงคนไร้มารยาทสักที รำคาญไปเรียนได้ล่ะ” มาร์คซุปตาร์งั้นหรออย่าให้ฉันเจอนายอีกนะไอ้คนไร้มารยาท
ณ ห้องเรียน
ปุยนุ่นกับน้ำหวานกำลังตั้งใจเรียนอยู่ดีๆ ก็มีเสียงเหมือนคนกรี๊ดอะไรไม่รุ้เสียงดังไปทั่วมหาวิทยาลัยจนอาจารย์และนักศึกษาทุกคนต้องเดินออกไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อพวกเราทุกคนมองลงไปข้างล่างตึกก็เห็นป้ายเขียนว่า “มาร์ค” บางป้ายก็บอกว่า “รักพี่มาร์คที่สุดในสามโลก”
นักศึกษาผู้หญิงมากมายไม่รู้ว่ามาจากไหนเต็มไปหมดพร้อมกับกรีดร้องออกมาเสียงดังมาก
“รักมาร์คๆ” เสียงนี้ดังมากขนาดฉันอยู่ชั้นที่หกของตึกฉันยังได้ยินเสียงชัดเจนมาก
แต่ที่ฉันรำคาญมากที่สุดเมื่อฉันเหลือบไปเห็นไอ้คนไร้มารยาทคือคนที่ทุกคนมากรี๊ด
“นี่เหรอซุปตาร์ไม่เห็นหล่อเลยนิสัยก็เสียยังไปกรี๊ดกันอยู่ได้ ไร้สาระ แกว่ามั้ยยัยหวาน” เมื่อฉันพูดจบอยู่ดีดียัยน้ำหวานเพื่อนรักของฉันก็กรี๊ดขึ้นเสียงดังและวิ่งไปที่ลิฟต์แล้วลงไปข้างล่าง
“อ้าวยัยนี่ก็บ้ากับเขาด้วยอีกคนขนาดเรียนอยู่นะเนี่ยเดี๋ยวอาจารย์ก็ด่าเอาหรอก” และเมื่อฉันพูดจบอีกครั้งอาจารย์สาวสวยก็วิ่งไปลงลิฟต์พร้อมกับกรี๊ดเหมือนยัยน้ำหวานไม่มีผิดเลย
“นี่ทุกคนทำไมถึงชอบคนไร้มารยาทอย่างนี้ลงได้นะเนี่ย ความหล่อก็งั้นๆ แถมนิสัยยังแย่อีกต่างหาก”
สรุปบนห้องเหลือแต่เพื่อนผู้ชายกับฉันผู้หญิงคนเดียวที่เหลืออยู่นอกนั้นไปหาอีตาหน้าวอกหมดแล้วเหรอเนี่ย กรรม