หลังจากทานอาหารเสร็จเขาก็พาหญิงสาวมาส่งที่มหาวิทยาลัย มองสำรวจไปโดยรอบมีแต่นักศึกษาหน้าตาดีทั้งนั้น
"มองสาวๆเหรอคะ"
น้ำหวานกอดอกมองชายหนุ่ม ยังไม่ทันไรเลยลายออกซะแล้ว มองผู้หญิงต่อหน้าต่อตาแล้วบอกว่าตัวเองเลิกเจ้าชู้ได้ มันน่าเชื่อตรงไหน
"พี่ไม่ได้มองสาวๆค่ะ พี่มองนักศึกษาผู้ชายกับครูผู้ชายว่ามีเยอะรึเปล่า มีคนไหนมาใกล้ชิดน้ำหวานเป็นพิเศษมั้ยพี่จะได้จัดการ"
เขาหันมามองหญิงสาวด้วยสีหน้าจริงจังมาก เธอชะงักไปก่อนจะมองไปโดยรอบ
"นึกว่าพี่ดัชมองนักศึกษาผู้หญิงซะอีก"
"พี่บอกแล้วไงคะว่าพี่จะจีบน้ำหวาน และพี่เลิกเจ้าชู้ได้ไม่ต้องระแวงเลย อีกอย่างตอนนี้ในสายตาของพี่น้ำหวานสวยที่สุดเลยค่ะ"
เขายื่นมือไปเกลี่ยแก้มหญิงสาวอย่างแผ่วเบา น้ำหวานนิ่งไปเมื่อถูกสัมผัสของชายหนุ่ม ทำไมตอนนี้เขาดูอ่อนโยนกับเธอจังต่างจากภาพลักษณ์ที่มองเห็น
"น้ำหวานไปทำงานแล้วนะคะ"
"เชิญค่ะ ถึงบ้านแล้วพี่จะโทรหานะ"
เธอพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที พูดเป็นเล่นไปนะการกระทำของเขาทำเอาใจเธอสั่นไหวอยู่ไม่น้อย ไม่รู้สึกแบบนี้กับใครมานานแล้วนะตอนคบกับแฟนคนแรกยังไม่ตื่นเต้นขนาดนี้เลย
"ทำไมรู้สึกร้อนจัง"
หญิงสาวลูบแก้มตัวเองก่อนจะรีบวิ่งไปยังห้องทำงาน ดัชกรมองตามเธอไปก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี รู้สึกว่าน้ำหวานก็ไม่ได้ปฏิเสธเขาแต่คงยังไม่ไว้ใจเท่าไหร่ เขาจะทำให้เธอเชื่อใจว่าเขาหยุดแล้วจริงๆ
"เชิญครับท่านรอง"
"อาร์ทีส่งคนจับตามองหน่อยนะ อย่าให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้น้ำหวานเด็ดขาด"
"ได้ครับ"
เขาเดินกลับไปขึ้นรถทันที ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดแต่เขาไม่มีทางที่จะปล่อยให้ใครมาใกล้เธอเด็ดขาด ถึงจะจีบอยู่แต่ถือว่าหญิงสาวเป็นของเขาแล้ว ห้ามคนอื่นมายุ่งเด็ดขาด เพราะเขามั่นใจว่ายังไงน้ำหวานไปไหนไม่รอดแน่นอน
"เย็นนี้ไปเอาสร้อยให้ผมหน่อย"
"สร้อยที่ฝากร้านทำความสะอาดใช่มั้ยครับ"
อาร์ทีเอ่ยถามอย่างสงสัย เหมือนว่าคุณแม่ของเขาจะให้มาก่อนจะเสียชีวิต น้องกับพี่ชายได้มาคนละเส้น เป็นจี้ตัวอักษรชื่อของทั้งสองคน ฝังเพชรราคาแพงมากสั่งทำเฉพาะสองพี่น้องมีแค่สองเส้นในโลก
"ใช่ เอามาให้ด้วยนะ"
"ได้ครับนาย"
เขาขับรถพาท่านรองประธานไปส่งที่บริษัท จากนั้นก็ไปทำธุระต่อตามที่เขาสั่งมา ปกติเขาก็ไม่ได้ใส่อยู่แล้วเพราะมันเหมือนของผู้หญิงมากกว่าของผู้ชาย ส่วนน้องสาวใส่ติดตัวตลอดในขณะที่เขาเก็บไว้รอเจอผู้หญิงที่ใช่จะเอาไปจองตัวไว้ก่อน
"ท่านรองคะ คุณดาริกากับคุณธีรัชอยู่ที่ห้องของคุณท่านค่ะ"
"น้องดากับธีมาเหรอ"
"ใช่ค่ะ"
เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินไปที่ห้องของท่านประธานแทนที่จะเป็นห้องของตัวเอง เมื่อมาถึงเขาก็เอ่ยทักทายว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว
"ไงจ้ะว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว มาทำอะไรกันวันนี้"
"พี่ดัชน้องดาคิดถึงจังเลย"
น้องสาวสุดสวยรีบวิ่งมาอ้อนพี่ชายทันที จะแต่งงานกันแถมยังมีหลานตัวน้อยอยู่ในท้องยังทำตัวเหมือนเด็กอยู่อีก
"จะเป็นแม่คนอยู่ล่ะยังมาอ้อนเหมือนเด็กๆอีก"
เขาลูบผมน้องสาวอย่างเอ็นดูก่อนจะผละออกแล้วเดินไปกอดคอว่าที่น้องเขย
"ไงน้องเขย ได้ข่าวบริษัทไปได้ดีร่ำรวยมากแล้วนี่"
"ยังเลยครับพี่ดัช ผมยังเก็บเงินได้ไม่เป็นที่น่าพอใจเลย เก็บได้แค่ค่าสินสอดกับเงินเก็บที่มีอีกหลายสิบล้านคงพอดูแลน้องดากับลูกให้สุขสบาย แต่ว่าเรื่องบ้านรอไปก่อนครับแต่เร็วๆนี่ผมจะซื้อแน่นอน"
"เก่งแล้วเรานะ มาไกลถึงขนาดนี้"
เขาตบบ่าให้กำลังใจว่าที่น้องเขย อีกหน่อยเขาจะไปได้ไกลกว่านี้อีกมาก นี่มันแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นและเขายินดีที่จะซับพอร์ตน้องทั้งสองคนไปตลอดชีวิต
"ขอบคุณครับพี่ดัชที่แนะนำทุกอย่าง"
"ขอบคุณอะไรกัน เอาเถอะเตรียมงานไปถึงไหนแล้ว มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้นะ"
เขานั่งคุยกับคุณพ่อและน้องดากับธีรัชอยู่นานเป็นชั่วโมง ตกลงกันว่าจะแต่งงานที่บ้านของคุณพ่อที่สุดท้ายมันจะเป็นสมบัติของเขา ส่วนแบ่งอีกครึ่งหนึ่งของบ้านเขาโอนให้น้องสาวไปเรียบร้อย เอาจริงๆดาริกามีเงินมากมายแต่เธอไม่ใช้มันเพราะไม่อยากให้สามีรู้สึกแย่ที่ต่ำต้อยกว่า ทุกวันนี้เขาพยายามพัฒนาตัวเองจนสามารถเลี้ยงดูน้องสาวคนเดียวของเขาได้
"ว่าแต่พี่ดัชเมื่อไหร่จะแต่งงานคะ"
"อีกไม่นานหรอกน่า รอดูเลย"
เขาอมยิ้มแก้มปรินึกไปถึงหญิงสาวที่เขาเจอเมื่อกลางวัน เจอกันไม่กี่ครั้งแต่ทำไมเขารู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาดแถมยังหลงแบบโงหัวไม่ขึ้นเลยด้วย
"แกมีแฟนแล้วเหรอเจ้าดัช"
คุณพ่อมองลูกชายอย่างจับผิด เขายักไหล่อมยิ้มไม่ตอบอะไรเพราะอยากให้ทุกอย่างมันชัดเจนและชัวร์ที่สุด ถึงตอนนั้นเขาพร้อมเปิดเผยให้ทุกคนได้รู้แน่นอน
เช้าวันต่อมา...
น้ำหวานตื่นเช้าอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมจะออกไปทำงานก็เดินลงมาชั้นล่างเพื่อรับประทานอาหารเช้าพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวมีคุณพ่อและคุณแม่นั่งรออยู่แล้ว
"มานี่สิลูกกินข้าวเช้าก่อน"
หญิงสาวนั่งลงมองข้าวต้มกุ้งตรงหน้าพร้อมกับเอามือปิดปากหาวด้วยความง่วง เมื่อคืนกว่าจะได้หลับก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน คงไม่ต้องบอกนะว่าทำไมถึงไม่ได้นอนสักที ก็พี่ดัชไงล่ะที่ไม่ยอมวางโทรศัพท์ชวนคุยนั่นนี่จนเธอเผลอหลับไปตอนไหนยังไม่รู้เลย
"ทำไมเหมือนคนนอนไม่เต็มอิ่มเลยลูก"
"เปล่าค่ะไม่มีอะไรหรอก"
น้ำหวานยิ้มออกมาก่อนจะตักข้าวต้มตรงหน้าทาน สักพักก็มีแม่บ้านเดินเข้ามาหาพร้อมกับเอ่ยเสียงเรียบ
"มีแขกมาค่ะ"
"ใครกัน ใครมาเหรอ"
"เค้าบอกว่าชื่อดัชกรค่ะ"
หญิงสาวได้ยินชื่อก็สำลักข้าวที่กินอยู่ทันที หันซ้ายขวามองหาน้ำก่อนจะยกขึ้นดื่มจนหมดแล้ว
"แค่กๆๆ"
"ใจเย็นลูก ไปเชิญเค้าเข้ามาสิ"
คุณภพธรหันไปบอกแม่บ้านก่อนจะมองลูกสาวด้วยความห่วงใย เธอหันไปมองยังประตูเจอกับดัชกรเดินเข้ามาในห้องอาหารพร้อมรอยยิ้มกว้าง
"สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่"
ผู้ใหญ่ทั้งสองคนหันไปมองหน้ากันอย่างสงสัยว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นใคร แต่ใบหน้านั้นดูคุ้นเคยเหมือนพวกเขาเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
"สวัสดีจ้ะไหว้พระเถอะ ว่าแต่มาหาน้ำหวานเหรอ"
"ใช่ครับ ผมมารับน้ำหวานไปส่งที่ทำงานครับ"
หญิงสาวหันไปยิ้มแห้งให้คุณพ่อกับคุณแม่ ขนาดแฟนคนแรกของเธอยังไม่เคยเข้ามาที่บ้านมาแนะนำตัวให้พ่อกับแม่รู้จักเลย ก็ไม่แปลกที่ท่านเห็นพี่ดัชแล้วจะมีคำถามว่าเขาคือใคร
"น้ำหวาน พ่อหนุ่มคนนี้เป็นใคร แล้วเขาเป็นอะไรกับหนูเหรอ"
"เอ่อ... คือนี่พี่ดัชค่ะ เขาเป็นลูกชายคนโตของท่านณเรศ เจ้าของ MIA GROUP เขากับหนูเราเป็น..."
น้ำหวานอึกอักไม่รู้จะตอบท่านทั้งสองคนอย่างไร จะบอกว่าเป็นพี่ชายก็ไม่ใช่ คนรู้จักก็ไม่เชิง ก่อนที่เธอจะได้ตอบอะไรก็ไม่ทันแล้วเพราะดัชกรตอบแทนเรียบร้อยแล้ว
"ผมกำลังจีบน้องน้ำหวานครับ"
"ห๊ะ... อะไรนะ"
"ฟังไม่ผิดครับ ผมกำลังจีบลูกสาวของคุณพ่ออยู่ครับ"