“อ๊ะ! จะ เจ็บเจ้าค่ะ”
เฉินอ้ายเหม่ยรู้สึกคับแน่นอึดอัดไปหมด
“ข้าขอโทษ ข้าลืมตัวไปหน่อย” เหยาอิงหมิงนึกแปลกใจว่าตอนที่เริ่มก็เป็นนาง เขายังนึกโมโหว่าดูเหมือนนางอาจจะเคยทำเรื่องเช่นนี้กับบุรุษอื่นมาก่อน แต่เพราะนางทำให้เขาเพลิดไปกับรสสัมผัสจึงต้องเก็บงำความหงุดหงิดนี้ไว้ แต่พอถึงขั้นตอนสุดท้าย เหตุใดนางจึงทำเหมือนไม่เคย?
“ทะ ท่านค่อยๆ ขยับนะเจ้าคะ” นางกระซิบแผ่วๆ
“ได้ๆ”
เหยาอิงหมิงค่อยๆ ขยับตัวตนของเขาออกจากนางก่อนจะเคลื่อนเข้าไปใหม่ ไม่นานนักความเจ็บปวดก็ค่อยๆ เลือนหายเหลือเพียงความรู้สึกแปลกใจ แวบหนึ่งนางหลับตาขณะรู้สึกราวกับร่างกายลอยขึ้นสูง สองแขนกอดรัดเหยาอิงหมิงเอาไว้แน่น ความทรงจำหนึ่งก็กลับคืนมา
ในหูของนางได้ยินเสียงกระบี่กระทบกันดังลั่น ตนเองยกกระบี่ขึ้นรับกระบี่ของบุรุษชุดสีแดงเลือดหมูสามคนที่สวมชุดเช่นเดียวชุดของสามีก่อนจะถอยหลังแล้วกลิ้งตกไปตามเนินเขา
เสียงครางของเหยาอิงหมิงดังอยู่เหนือแก้มร้อนผ่าวของนาง เฉินอ้ายเหม่ยร้องดังกว่าเขาเล็กน้อย
“ข้าจะไม่ไหวแล้ว น้องหญิง”
“เจ้าค่ะ ข้าด้วย” นางตอบปนเสียงคราง
เมื่อเขาหยุดการเคลื่อนไหวร่างกายกระตุกเบาๆ สองสามครั้ง ทั้งสองกอดรัดกันแน่ ชายหนุ่มก้มลงประทับริมฝีปากแทรกสอดลิ้นจูบดื่มด่ำล้ำลึก
“เจ้าพักผ่อนเถิด” เขาเห็นนางดูเหนื่อยอ่อน อาจจะเป็นเพราะเพิ่งฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ
แต่คืนนี้เหยาอิงหมิงไม่อาจจะระงับจิตระวังใจให้สงบใจเพราะตอนที่เขาอาบน้ำออกมาในชุดเตรียมจะนอนนั้น นางนั่งรอเขาอยู่ที่เตียง เมื่อเขาย่างเท้าเข้ามาใกล้ หญิงสาวกลับรั้งเสื้อลงจนมองเห็นเอี๊ยมสีขาวตัวนั้นถนัดตา เสียงหวานใสของนางดังขึ้นเบาๆ
“ท่านพี่ ข้าขอบคุณที่ท่านดูแลข้าอย่างดี คืนนี้ให้ข้าได้ปรนนิบัติท่านเถิด”
มือปราบหนุ่มสะท้อนใจ เขารู้แล้วว่านางเชื่อคำโกหกของเขาและคงละอายแก่ใจที่เป็นภรรยามิได้ปรนนิบัติสามีอย่างที่ควร คราแรกเขาคิดจะปฏิเสธแต่นางกลับดึงเอี๊ยมตัวน้อยออกทางศีรษะ ทรวงอกขาวสล้างที่เขาเคยเห็นหลายครั้งทำเอาดวงตาพร่าพราย นางยื่นมือมาดึงมือของเขาที่ชะงักค้างอยู่ตรงหน้าให้ทาบบนทรวงอกด้านขวา
เหยาอิงหมิงหัวใจเต้นระรัวราวกับมันจะกระเด็นกระดอนออกมาเสียให้ได้ นางดึงเขาเข้าไปใกล้แล้วเงยหน้าขึ้นจ้องเข้าไปในดวงตาของผู้เป็นสามี ความยับยั้งชั่งใจทั้งหมดที่เขาพยายามปกป้องล้วนสลายหายไป
ค่อนคืนนางพลิกกายหมายกอดคนที่อยู่ข้างแต่กลับพบว่าตนเองถูกอุ้มมานอนยังเตียงเล็ก ที่เขาใช้นอนเฝ้านางยามบาดเจ็บ เฉินอ้ายเหม่ยมองไปที่เตียงใหญ่จึงเห็นเขากำลังปูที่นอนใหม่ นางกำลังคิดจะอ้าปากร้องทักแต่เมื่อเห็นเขาดูตั้งใจยิ่งนักจึงปิดปากเงียบแสร้งหลับตา
ครั้นเขาปูที่นอนเสร็จก็หันมาอุ้มนางกลับไปนอนที่เตียงอีกครา
“เจ้าตื่นแล้ว เหตุใดจึงต้องแสร้งหลับ? อยากให้ข้าอุ้มเจ้าใช่หรือไม่?”
นางช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าคมสัน เขาจรดริมฝีปากประทับบนหน้าผากของนางคราหนึ่ง
“หากเจ้ามีเรี่ยวมีแรงแล้ว เห็นทีเราน่าจะทำเรื่องแบบเมื่อตอนหัวค่ำอีกสักครั้งนะ ครั้งก่อนทำเจ้าเจ็บไปหน่อย ข้าขอแก้ตัวอีกหนจะได้ไหม?”
แววตาของเหยาอิงหมิงราวกับอยากจะกลืนกินนางไปทั้งตัว เฉินอ้ายเหม่ยพยักหน้าเบาๆ เขาจึงดูดเม้มปลายคางของนางไล่ขึ้นไปตามแนวคางกระทั่งถึงใบหู หญิงสาวหลับตาเมื่อเขาลากริมฝีปากไปตามแนวลำคอต่ำลงจนสาบเสื้อตัวใน แวบหนึ่งนั้นนางพลันระลึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ เสียงของสตรีผู้หนึ่งก้องอยู่ในโสตประสาท
‘ในยามที่ปรนนิบัติเพื่อหลอกล่อเอาสิ่งที่เราต้องการ เจ้าอาจจะต้องยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัวสักหน่อย เปิดคอเสื้อขึ้นให้กลิ่นกายของเจ้ายั่วยวนราคะบุรุษให้กระเจิดกระเจิง ครั้งก่อนเจ้าได้เห็นการใช้ปากปรนนิบัติไปแล้วนี่?’
เฉินอ้ายเหม่ยรู้สึกว่าในห้องนั้น นางมิได้ยืนดูเหตุการณ์ตรงหน้าเพียงลำพัง ทั้งด้านซ้ายและด้านขวามือยังมีสตรีอีกเจ็ดแปดคนยืนอยู่ด้วย ทว่าสตรีที่กำลังสาธิตการยั่วยวนตรงหน้ากลับถอดเสื้อชั้นในออกเหลือเพียงเอี๊ยมตัวเดียว นางปล่อยให้บุรุษผู้นั้นลูบไล้และดอมดมผิวกายตามลาดไหล่ จากนั้นค่อยเอียงนางไปดึงมีดสั้นที่เก็บไว้บริเวณข้อเท้าออกมาจากรอยแหวกด้านใน กระชากขึ้น! แล้วทำท่ากระซวกลงไปที่แผ่นหลัง!
‘หากคิดจะฆ่า จงปักมีดไปที่ต้นคอ ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ตายได้คราเดียว!’
พลันภาพนั้นก็หายไป ทรวงอกของนางถูกครอบครองด้วยมือและปากของบุรุษร่างแกร่ง มือสองข้างของนางลูบอยู่ที่ใบหูของเขา
นางแอ่นอกขึ้นคราหนึ่งเมื่อเขาดูดเม้มปลายปทุมถันอย่างแรง
“ท่านพี่......อือ....”
เหยาอิงหมิงจูบต่ำลงไปตามแนวหน้าท้อง เขาดูดเม้มต้นขาขาวผ่องของนาง นิ้วเคลื่อนเข้าในที่ลับ นางสะดุ้งเฮือกกับสัมผัสร่างกายราวกับชาขณะนั้นก่อนจะกลายเป็นความซาบซ่าน ครั้งนี้เหยาอิงหมิงทำให้นางรู้สึกล่องลอยยิ่งกว่าครั้งแรกและไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้ว มีเพียงความรู้สึกคับแน่นในยามที่เขากับนางแนบผสานร่างกายกันแต่ก็เพียงชั่วครู่ ไม่นานนักก็กลายเป็นความหฤหรรษ์
ชายหนุ่มจูบแก้มนวลใกล้ใบหู “เจ้าเหนื่อยหรือไม่?”
“นิดหน่อยเจ้าค่ะ” ใบหน้าของนางยังคงแดงก่ำ เหงื่อซึมออกตามไรผม เมื่อครู่เขาพลิกร่างนางทั้งซ้ายขวา นางทั้งตื่นเต้นและเสียวซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย ไม่คิดว่ายังมีท่าทางหลากหลายที่ใช้ทำเรื่องเช่นนี้
“ความจริง ข้าอยากจะชวนเจ้าทำอีกสักคราหนึ่ง แต่เห็นแก่ร่างกายที่บอบช้ำของเจ้า พวกเราเอาไว้ต่อวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน”
เขาควานมือหาเอี๊ยมตัวน้อยของนางบนเตียงไม่เจอ ไม่รู้ไปหล่นอยู่ซอกไหน? เจอแต่เพียงเสื้อตัวในจึงได้สวมให้นาง
“เจ้าคงจะหนาวสวมเสื้อสักหน่อยก็แล้วกัน”
นางหันไปคว้าเสื้อตัวในของเขาที่อยู่ด้านหลังมาส่งให้ “ท่านพี่ ท่านเองก็สวมเสื้อก่อนเถิดเจ้าค่ะ”
ทั้งสองยิ้มหวานให้แก่กันก่อนจะยื่นกางเกงมาให้อีกฝ่าย เมื่อสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย เหยาอิงหมิงก็กอดนางไว้แนบอก
“เจ้าพักผ่อนเถิดน้องหญิง พรุ่งนี้ข้าได้ข่าวว่าจะมีการเปิดโรงเตี๊ยมใหม่ ข้าจะไปซื้อเป็ดตุ๋นน้ำแดงให้เจ้าชิม”
“ท่านพี่ เบี้ยหวัดท่านน้อยนิด เอาเงินที่ข้ามีไปซื้อเถิดเจ้าค่ะ”
“เงินของเจ้าเก็บเอาไว้ใช้ในยามลำบากเถอะ เงินเดือนของข้าใช้อย่างประหยัดมาหลายปี หากจะเลี้ยงเจ้าเป็นบางครั้งคราวก็มิได้ลำบากนักหรอก”
**********************