ตอนที่4

1254 Words
4 ‘สัญญานี้มีอายุ 2 ปี ไม่ต้องมีสถานะต่อกัน ไม่ต้องผูกมัด ไม่จำเป็นต้องรักกัน เพราะเงื่อนไขของงานคือการจ้างให้ ‘มีลูก’ เท่านั้น’ Pie’ s part. หลายวันแล้วที่ฉันเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรให้ฉันทำเลยนอกจากมีคนมาคอยดูแลเอาใจใส่หานั่นหานี่มาให้กิน พาไปออกกำลังกายและอ่านหนังสือ ซึ่งสำหรับฉันนี่คงไม่เรียกว่างานหรอกมันก็แค่การใช้ชีวิตสบายๆ ไปวันๆ เท่านั้น แต่สำหรับตระกูลนี้คงจะเรียกว่างานนั่นแหละ อ่อ แล้วก็ก่อนหน้านี้คุณปู่ให้คนพาฉันไปทำเลสิกตาเพราะท่านคิดว่าเห็นฉันใส่แว่นแล้วคงจะลำบาก ทั้งที่สำหรับฉันมันชินแล้วและถือเป็นเรื่องปกติแต่ก็ขัดท่านไม่ได้อีกนั่นแหละ ถึงบางครั้งจะดูใจดีมากๆ แต่เวลาออกคำสั่งทุกคนต้องทำตาม รวมถึงฉันด้วย “เป็นผู้หญิงต้องแต่งหน้าบ้างนะคะคุณพาย” แม่บ้านที่ไปรับฉันวันนั้นพูดขึ้นอย่างแซวๆ ก่อนจะยกกระเป๋าที่มีเครื่องสำอางแบบใหม่เอี่ยมเต็มไปหมดมาให้ “เอ่อ ที่จริงพายก็แต่งหน้านะคะแต่แค่ช่วงนี้มันยุ่ง” ฉันพูดออกไปตามความจริงเพราะช่วงที่ชีวิตของฉันยังดีๆ อยู่ฉันก็เหมือนสาววัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่งแต่ไม่ได้แต่งหน้าแต่งตัวเยอะเท่าไหร่ ชอบแบบธรรมชาติมากกว่า “งั้นต้องแต่งหน้านะคะ ที่จริงคุณพายสวยอยู่แล้วที่ดูหน้าจืดเพราะใส่แว่นแล้วก็ทำหน้าซีดๆ” ป้าแม่บ้านหัวเราะเบาๆ แล้วดันกระเป๋าเครื่องสำอางมาให้ ฉันจึงรับมันไว้แล้วหยิบนั่นนี่ขึ้นมาดูก่อนจะทาครีมบำรุงที่ราคาคงแพงชนิดที่ว่าฉันไม่เคยคิดจะซื้อมาใช้ ต่อด้วยครีมกันแดด รองพื้นแบบบางๆ แล้วแต่งแต้มนิดหน่อยทั้งตา คิ้ว ปาก “แบบนี้พอได้มั้ยคะยังซีดอยู่หรือเปล่า” ฉันหันไปหาแม่บ้านเธอทำยิ้มกว้างแล้วทำท่าภูมิใจ “แค่นี้ก็สวยแล้วค่ะ” “วันนี้พายต้องทำอะไรบ้างคะ” ฉันยิ้มกว้างแล้วเก็บเครื่องสำอางทั้งหมดเข้าที่แล้วลุกออกไปเพื่อรอรับการปรนนิบัติจากแม่บ้านต่อไปเหมือนทุกๆ ครั้ง “ตามตารางเลยค่ะ แต่วันนี้คุณฟอซ์กจะเข้ามาที่บ้านคงจะมีเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยเดี๋ยวคงมาถึง” คำพูดของแม่บ้านทำให้ฉันถอนหายใจออกมายาวๆ ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่ได้เจอเขาหรอกไม่อยากจะเจอด้วยซ้ำแต่คงเป็นไปไม่ได้เพราะยังไงเขาคือคนที่ฉันต้องทำใจยอมรับในเมื่อฉันเลือกเดินมาทางนี้แล้ว “งั้นพายไปห้องหนังสือนะคะ” ฉันบอกแล้วเดินออกไปยังห้องหนังสือที่อยู่ชั้นล่าง ที่นี่เป็นห้องสมุดขนาดย่อมที่เต็มไปด้วยหนังสือมากมาย ส่วนใหญ่แล้วฉันจะชอบเข้ามาอ่านเกี่ยวกับหนังสือนวนิยายหรือวรรณกรรมของต่างประเทศ เพราะฉันชอบมันมาตั้งแต่เด็ก ถ้าว่างเมื่อไหร่ที่นี่จะเป็นที่เดียวที่ฉันคิดจะมาสิงสถิตอยู่ บางครั้งก็มีคุณปู่มานั่งเป็นเพื่อนและขอให้ฉันอ่านแล้วแปลให้ฟังแต่วันนี้ท่านคงจะออกไปทำธุระข้างนอก “หมอยังไม่มาอีกหรือไง ฉันไม่ได้มีเวลามาทำเรื่องไร้สาระของปู่ทั้งวันนะ” เสียงเข้มที่คุ้นหูดังขึ้นจากด้านนอก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นหลานของคุณปู่ ต้นตระกูลผู้ดีหาที่ติไม่ได้ แต่สำหรับเขาหาข้อดีไม่ได้เลยจะดีกว่า “รอก่อนนะคะคุณชาย” แม่บ้านประจำตัวของฉันที่ยืนอยู่ข้างนอกเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ “เหอะ ถ้าฉันรออีกสิบนาทีแล้วหมอยังไม่มาฉันจะไม่รอแล้ว บอกปู่ได้เลยว่าฉันจะกลับมาอีกเดือนละครั้งเท่านั้น!” เขาสั่งเสียงห้วนแล้วก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินเข้ามาใกล้จนฉันต้องรีบลุกแล้วเดินเข้าไปหลบในช่องระหว่างตู้หนังสือ “...” ฉันไม่อยากเจอหน้าเขาจริงๆ นะ “ออกมา” เขาหยุดยืนอยู่ที่ไหนซักที่ในห้องหนังสือแล้วพูดเสียงเรียบ “...” “ออกมาคุยกับฉันยัยหน้าจืด เรามีเรื่องต้องตกลงกัน” เขาพูดขึ้นอีกครั้งและดูเหมือนจะเริ่มอารมณ์เสีย ฉันเลยต้องเดินออกไปอย่างไม่เต็มใจนัก “คุณมีอะไรกับฉัน” ฉันถามแล้วมองหน้าผู้ชายตรงหน้าอย่างสงสัย เขามองฉันค้างไปคู่หนึ่งก่อนจะเบือนหน้าหนี “เธอคิดยังไงถึงมาทำงานนี้” “เพราะฉันต้องการใช้เงิน” ฉันตอบออกไปตามความจริงเพราะไม่มคำตอบสวยหรูดูดีจะให้เขาหรอก “อ่อ นั่นสินะ แต่จะว่าไปแล้วเธอก็คงจะเคยมีอะไรกับผู้ชายมามากแล้ว ถึงได้กล้ารับงานแบบนี้เพราะไม่มีผู้หญิงบริสุทธิ์ผุดผ่องคนไหนยอมสละตัวเองมาทำแบบนี้หรอก” “...” ฉันเงียบให้กับคำพูดของเขา อยากจะพูดออกไปว่าฉันนี่แหละคือผู้หญิงที่เสียสละตัวเองแต่ก็ไม่อยากให้เขามองว่าโง่ “ฉันจะยอมให้ความร่วมมือกับปู่ เพราะถ้าเธอท้องเมื่อไหร่ตอนนั้นฉันจะเป็นอิสระทันที” เขาพูดแล้วปรายตามองฉัน วันนี้ฉันรู้สึกว่าเขาจะมองหน้าฉันบ่อยครั้งพอฉันมองกลับไปเขาก็จะหันหน้าหนี “ค่ะ ฉันอยากจะขอทำข้อตกลงกับคุณอย่างหนึ่ง” ฉันพูดออกไปแล้วพยายามจะมองหน้าเขาอย่างจริงจัง “เรื่องมากอะไรอีก” เขามองมาที่ฉันแล้วทำเหมือนรำคาญ “ระหว่างที่เราจะมีอะไรกัน ต้องรับปากว่าคุณจะไม่นอนกับคนอื่น” ฉันพูดออกไปแล้ว...นี่ฉันกล้าพูดแบบนั้นออกไปได้ยังไงกัน “กล้าขอดีนี่ ทั้งที่มันเป็นเรื่องยากด้วยสิ สำหรับฉัน...” “เพื่ออิสรภาพของคุณและของฉัน และเพื่อความปลอดภัยกับตัวฉันว่าคุณจะไม่เอาโรคร้ายอะไรมาติดต่อฉัน ช่วยเห็นใจด้วยค่ะ เพราะชีวิตของฉันยังมีหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบไม่อยากมาจบแค่นี้” ฉันพูดเสียงเรียบและสายตาที่จริงจังจนเขามองหน้าฉันนิ่งๆ แต่ก็พอจะดูออกว่าเขาไม่ได้พอใจนักหรอก “ก็ได้ฉันรับปาก แล้วเธอก็ต้องรับปากด้วยว่าจะไม่ไปมั่วกับผู้ชายคนอื่นเพราะฉันก็กลัวเหมือนกัน ยิ่งตอนนี้เธอถูกแปลงโฉมซะเยอะเลยนี่อย่าหลงตัวเองแล้วเที่ยวเร่ไปอ่อยผู้ชายที่ไหนแล้วกัน” ฉันอึ้งไปกับคำพูดของเขา แปลงโฉมเหรอ ฉันแทบจะไม่ทำอะไรด้วยซ้ำแต่ปากของเขามันยิ่งกว่าหมาในตลาดแถวบ้านฉันซะอีก “ได้สิคะ ทนรออีกแค่สองปี ไม่สิถ้าคุณมีน้ำยาพออาจจะเหลือแค่หนึ่งปีที่ฉันต้องทนรอ” ฉันยิ้มบางๆ ให้เขาแล้วรีบเดินออกไปจากห้องหนังสือทันที ไอ้บ้าเอ๊ย ทำไมฉันต้องมาเจอคนอย่างหมอนี่ด้วย!!! Secret L. ฟอซ์กจะปาก...ไปถึงไหนค้าาา ไรท์จะไม่ทนแล้วนะ!!! คอยดูเถอะฟอซ์กฉันจะทำให้แกเจ็บปวด!! (ไรท์โรคจิต)
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD