บทที่ 6

1163 Words
น้ำอิงยืนนิ่งให้เรอัลระดมจุมพิต ขณะเดียวกันก็นับหนึ่งถึงสิบ รอเวลายาสลบออกฤทธิ์ล้มราชสีห์ที่อยู่ตรงหน้าตนเอง หนึ่ง...สอง...สาม... เรอัลผละริมฝีปากออกช้าๆ หลังจากรู้สึกว่าตนเองทำท่าจะเปิดเปลือกตาไม่ขึ้นเอาซะเลย ศีรษะของเขาหนักอึ้ง ร่างใหญ่โอนเอนทำท่าจะล้มจไม่ล้มเหล่ แถมดวงตายังพร่ามัว มองคนตรงหน้าไม่ชัดขึ้นทุกขณะ “ง่วงนอนหรือคะ คุณเรอัลขา...” น้ำอิงเค้นถามพร้อมกับยิ้มเยาะ รู้ว่ายาสลบเริ่มออกฤทธิ์แล้ว และไม่ใช่แค่เพียงน้ำอิงที่ล่วงรู้ว่ายาออกฤทธิ์เต็มที่ เรอัลก็รู้เช่นเดียวกันว่าตนเองถูกเล่นงานเข้าให้แล้ว “นรก! คุณวางยาผม” “ใช่แล้วค่ะ คุณเรอัล” น้ำอิงยิ้มเยาะตรงมุมปาก เอ่ยตอบเสียงแข็งไม่มีการเสแสร้งเรียกด้วยน้ำคำหวานๆ อีกต่อไป “บ้าฉิบ! ผมจะฆ่าคุณ” เรอัลกระโจนเข้าใส่ร่างบางทั้งๆ ดวงตากำลังจะปิด ทางด้านของน้ำอิง พอเห็นร่างใหญ่กำยำกระโจนเข้าหา ก็รีบถอยหนีอย่างรวดเร็ว แต่กระนั้นก็ยังถูกเรอัลคว้าตัวไว้จนได้ แต่...ยาสลบที่ออกฤทธิ์เต็มที่ไม่อาจทำให้เรอัลทำอะไรน้ำอิงได้ ชายหนุ่มคว้าร่างบางไว้ได้พร้อมๆ กับอาการหมดสติที่เข้าเล่นงานเขาในคราวเดียวกัน “ตัวหนักชะมัด” น้ำอิงบ่นอุบ เธอถูกร่างใหญ่โตของเรอัลนอนทับไว้ทั้งตัวบนเตียงกว้าง มือเล็กตบเบาๆ บนใบหน้าคมเข้มของอีกฝ่าย ทดสอบว่าชายหนุ่มหลับสนิท หลับลึกเพราะฤทธิ์ยาแล้วแน่ๆ และเมื่อมั่นใจว่าเรอัลหมดสติไปแล้ว หญิงสาวก็ออกแรงผลักร่างใหญ่ให้พ้นจากร่างของตนเอง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์โทร.หาคู่หูให้รีบเข้ามาในห้อง “พี่แองจี้ เรียบร้อยแล้ว เข้ามาได้เลยค่ะ” “ค่ะๆ น้องน้ำอิง” น้ำอิงรอไม่ถึงนาที ก็เห็นแองจี้เปิดประตูห้องเดินเข้ามาอย่างรีบเร่ง “เหมือนเดิม พี่แองจี้ ถอดกางเกงของเขาออกให้หมด” “ได้เลยค่ะ เดี๋ยวพี่จัดการเรื่องนี้เอง” แองจี้รับคำ ดวงตาแพรวพราวไหวระริกขณะมองร่างใหญ่กำยำน่ากิน ซึ่งหลับสนิทไร้สติอยู่บนเตียงใหญ่ หลังจากเอ่ยสั่งคู่หูไปแล้ว น้ำอิงก็รีบจัดการถอดสร้อยคำทองคำ นาฬิกาเรือนแสน รวมทั้งแหวนเพชร ซึ่งน่าจะเป็นแหวนประจำตระกูลออกจากนิ้วมือของเรอัล คว้ากระเป๋าเงินของอีกฝ่ายและทรัพย์สินทุกอย่างใส่ในกระเป๋าใบใหญ่ของเธอ ส่วนหน้าที่การลอกคราบให้เหยื่ออยู่ในชุดวันเกิด เป็นหน้าที่ของแองจี้ ซึ่งอีกฝ่ายถนัดนัก “อุ้ย! ผู้ชายบ้าอะไรไม่รู้ น่ากินที่สุด ซิกแพ็คเป็นมัดๆ มีขนบนหน้าอกด้วย” แองจี้ถอดกางเกงของเรอัลออก พร้อมกับพึมพำ หลังจากได้เห็นเรือนกายของเหยื่อ “อยากกินข้าวแดง แทนซิกแพ็คไหมคะ พี่แองจี้” น้ำอิงประชดคู่หู่ หลังจากอีกฝ่ายมัวแต่ชื่นชมกับความหล่อเหลา และเรือนกายที่สมบูรณ์แบบของเรอัล “รีบๆ จัดการเร็วเข้า จะได้ออกไปจากที่นี่สักที” เอ่ยเร่งเร้าแองจี้แล้ว น้ำอิงก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อแปลงโฉมปลอมตัวไม่ให้ใครจำได้ “ค่ะๆ น้องน้ำอิง” แองจี้กลืนน้ำลายลงคอ มองความหล่อเหลาของเรอัลอีกครั้ง จากนั้นก็รูดกางเกงชั้นในของอีกฝ่ายออก แล้วเอาผ้าห่มผืนหนามาคลุมไว้ให้กันอุจาดตา “เรียบร้อยแล้วค่ะ น้องน้ำอิง” “ถ้ายังงั้นก็ไปกันเถอะค่ะ” น้ำอิงออกมาจากห้องน้ำ ด้วยชุดกระโปรงยาวตัวใหญ่ ตรงบริเวณหน้าท้องก็ยัดเสื้อไปหลายตัวเพื่อให้ดูเหมือนคนที่กำลังตั้งท้องอยู่ ใบหน้างามซึ่งเคยแต่งจัดจ้านจนเป็นคนละคน ตอนนี้ก็ถูกล้างเครื่องสำอางออกจนหมดเกลี้ยง เส้นผมยาวดำขลับถูกคลุมด้วยผ้าพันคอผืนบาง และก่อนจะเดินออกจากห้อง น้ำอิงก็สืบเท้าเขาไปใกล้ร่างใหญ่ พลางลดใบหน้างามลงต่ำใกล้กับใบหูของอีกฝ่าย พร้อมกับกระซิบเยาะหยันทั้งๆ รู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางได้ยิน “ขอบคุณสำหรับค่าอาหารเดือนนี้ นอนหลับฝันดีนะคะ คุณเรอัล เนวิลล์” “ปวดหัวชะมัด มาดามครับ ขอยาแก้ปวดให้เรอัลสักสองเม็ดได้ไหมครับ” ด้วยความเคยชินในยามเจ็บป่วย อีกทั้งคิดว่าตนเองอยู่ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ เรอัลจึงเอ่ยเรียกหามารดา พร้อมๆ กับเปิดเปลือกตาขึ้นได้ยากอย่างลำบาก “มาดามครับ...” ขณะเอ่ยเรียกหามารดาอีกครั้ง เรอัลก็กวาดสายตามองรอบๆ ห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก และเมื่อความจำกลับคืนมา จำได้ว่าตนเองมาอยู่ในห้องนี้ได้อย่างไร และแน่นอนว่าจำได้ในวินาทีสุดท้ายก่อนหมดสติ ว่าตนเองถูกสาวแสบที่ชื่อ‘เค้ก’ วางยา ก็ลุกพรวดจากเตียงนอน แต่แล้วก็ต้องทิ้งตัวลงบนเตียงอีกครั้งอย่างหมดท่า เพราะถูกอาการปวดหัวเล่นงานอย่างหนัก          “บ้าฉิบ! นังเค้กตัวแสบ”          เรอัลสบถลั่นด้วยความโกรธจัด ไม่รู้ว่าผู้หญิงแสบคนนั้นวางยาสลบเขามากเพียงใด เพราะตอนนี้เขาปวดหัวจนแทบระเบิดไม่ต่างจากถูกทุบด้วยค้อนหนักๆ          “เจอตัวเมื่อไร สาบานได้ว่าเธอจะถูกเล่นงานจนอ่วมอรทัยแน่ๆ” เรอัลกัดฟันกรอด กำมือเข้าหากันแน่น เจ็บใจที่ถูกผู้หญิงหากินวางยาซะสิ้นท่า          และไม่ต้องสำรวจทรัพย์สินให้เสียเวลา เพราะเรอัลมั่นใจว่าผู้หญิงคนนั้นคงกวาดทุกอย่างไปจากเขา แม้กระทั่งเสื้อผ้า กางกางชั้นในก็ไม่เหลือให้เขาแม้แต่ตัวเดียว          “บ้าชะมัด เสื้อผ้าก็ไม่มีเหลือ แบบนี้จะออกจากโรงแรมได้ยังไง”          มือใหญ่ยกขึ้นเสยผมอย่างหงุดหงิดใจ และเมื่อรู้สึกได้ถึงอาการมือโล่งๆ ก็รีบยกมือของตนเองขึ้นดูในทันที แล้วก็ต้องกัดฟันดังกรอดๆ โกรธจัดหนักกว่าเดิม เพราะแหวนประจำตระกูล ที่เขารักและหวงหนักหนาถูกขโมยไปด้วย          “นรก! เธอคิดผิดแล้ว ที่มาเล่นตลกกับคนอย่างเรอัล” เรอัลไม่มีทางปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ลอยนวลอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เขาจำต้องพักเรื่องการตามไล่ล่าสาวสุดแสบไว้ก่อน เพื่อโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากกองกำลังของตนเอง “ห้าทุ่มกว่าแล้ว มาดามนอนหรือยัง” เจ้าของใบหน้าคมเข้มพึมพำถามตัวเอง ขณะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์แบบไร้สาย ข้างๆ เตียงนอนมาถืออยู่ในมือ พอทำท่าจะกดหมายเลขโทรศัพท์เพื่อโทร.หามารดา ก็ชะงักชั่วขณะ แล้วพึมพำออกมาอย่างสยดสยอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD