“สวยมากเลยครับ คุณเกรท” เขาส่งสายตายิ้มแย้ม ยื่นมือส่งให้ตอนที่เธอเยื้องกรายก้าวลงบันไดขั้นแรก
“ขอบคุณค่ะ” เธอเอ่ยขอบคุณเขาเบาๆ ยิ่งได้เห็นหน้าตาของเขาตอนนี้ ที่โกนหนวดเคราเสียเกลี้ยงเกลา น่ามองยิ่งกว่าเมื่อตอนกลางวันเสียอีก
ชายหนุ่มรูปงาม หน้าตาคมเด่น สูงชะลูดดูดีไปเสียหมด เขามาในชุดสูทสีเทางาช้าง ดูเด่นสะดุดตา สาวใช้สองคนที่แอบอยู่หลังประตูต่างทำปากขมุบขมิบขยิบตาให้แก่กัน ต่างชื่นชมและชื่นชอบหนุ่มสาวทั้งคู่
สาวงามยิ้มกว้างให้กับชายหนุ่มที่เพิ่งรู้จักเป็นวันแรก เขาเปิดประตูรถให้ พร้อมทั้งช่วยเก็บชายกระโปรงของชุดที่เธอใส่ให้ด้วย เธอกล่าวขอบคุณเขาอีกครั้งหนึ่ง ได้เห็นอีกมุมที่น่ารักของเบนที่ช่างเอาใจและดูเป็นสุภาพบุรุษมากๆ เธอยิ้มพอใจนึกชื่นชอบเขาอยู่ในใจ
เธอยอมรับไมตรีจากเขา เพราะเสียงกระซิบจากพ่อและพี่ชายให้ช่วยเชียร์ชายหนุ่มผู้นี้ให้ตกลงซื้อโรงแรมให้ได้ และประวัติที่น่าสนใจของเขา ทำให้เสี่ยยักษ์อยากผูกไมตรีกับชายหนุ่มเอาไว้
“มันจะดีหรือคะ พี่ริท” เธอย้อนถามพี่ชายกลับไปเบาๆ เขาแค่ขยิบตาให้ ตอนที่พ่อของเธอคุยกับชายหนุ่ม
“เกวชวนคุยก็ไม่เก่งเสียด้วย” เธอพูดออกตัว ริทก็ส่ายหน้าก่อนจะผงกหัวแบบให้เธอตกลง พร้อมส่งสายตาขอความเห็นใจ เธอจำต้องยอมรับสภาพ ยอมจำนนอย่างเสียไม่ได้ ต้องรับปากมาดินเนอร์กับเบน
“ผมจองที่พิเศษแห่งหนึ่งเอาไว้ สำหรับเราสองคนโดยเฉพาะ ผมคิดว่าคุณคงชอบ แต่ไม่รู้ผมจะปล่อยไก่ตัวใหญ่หรือเปล่านะ เพราะคุณเกรทเป็นคนที่นี่” เขาพูดพลางหันมายิ้มชวนคุย
เธอเสียอีกที่นั่งยิ้มอยู่เงียบๆ ออกอาการหน้าแดงเขินยกใหญ่ ตอนนี้ใจเต้นตึกๆ จะน่าอายไหมหนอ ถ้าจะบอกว่า ยังไม่เคยมีคนรัก หรือตกหลุมรักใคร อาจจะมีผู้ชายตามมาขายขนมจีบอยู่บ้าง แต่พอเห็นเธอไม่เล่นด้วย และคุยเป็นเพื่อนไปเสียทุกคน พลอยทำให้พวกผู้ชายค่อยๆ หายไปทีละคน
แต่ตอนนี้เบนทำให้เธอหวั่นไหวได้ขนาดนี้ กลิ่นน้ำหอมของเขาช่างน่าหลงใหล รวิกานต์เหลือบตามองเขาเป็นระยะ เห็นแค่มุมหน้าเพียงเสี้ยวของเขายังใจเต้นแรงเลย
‘เขาช่างเป็นคนที่เท่และดูดีอะไรยังงี้ ไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าอยู่กับเขาสองคนเธอจะเป็นเช่นไรบ้าง’ เธอคิดไปยิ้มไป
“คุณเกรทชอบทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ เมนูที่โปรดปรานนะครับ” เขาถามขึ้น เพราะเธอนั่งเงียบมาตลอดเส้นทาง
“เกรทกินอะไรก็อร่อยทั้งนั้นค่ะ” เธอตอบเขาตามความเป็นจริง
ถึงจะเป็นคุณหนูอยู่บ้านหลังใหญ่โต แต่เธอไม่เคยเรื่องมากในเรื่องอาหารการกินเลย อะไรก็ได้ ถึงแม้จะมีคนที่คอยเอาอกเอาใจเธอมากมาย
เบนแปลกใจกับคำตอบของเธอ เขานึกมาก่อนหน้าว่าเธอคงเป็นหญิงสาวที่ดูหยิ่ง และคงเข้าถึงได้ยาก อาจจะคงดูเรื่องมากเหมือนสาวๆ ที่เขาเคยคบ ต้องให้เขาเอาใจไปเสียทุกครั้ง
บทสนทนาที่เริ่มสนุกขึ้น และทั้งสองก็ดูผ่อนคลาย ทำให้มีเสียงหัวเราะระหว่างการเดินทางเพิ่มมากขึ้น
รวิกานต์มองทางที่เธอขับรถผ่านแทบทุกวัน เบนขับรถมุ่งตรงไปโรงแรมห้าดาวสุดหาดแหลมพันวา เขาจอดรถตรงลานจอด โดยใช้บริการรถของโรงแรม เพื่อพาทั้งสองไปส่งยังบ้านพัก ที่เบนจองเอาไว้ที่อยู่บนยอดสูงสุดของโรงแรมแห่งนี้ ห้องนี้เห็นวิวโดยรอบได้ถึงสามร้อยหกสิบองศา
เสียงไวโอลินที่ไพเราะเริ่มบรรเลง โดยมีชายหนุ่มวัยกลางคนร่างท้วมที่ถูกว่าจ้างมา บรรเลงดังจนมาถึงประตูทางเข้า มีพนักงานคอยเปิดประตูให้ พอเดินเข้าไปแค่นิดเดียวก็เป็นสระว่ายน้ำข้างเรือนพักหลังใหญ่ ถูกประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้สีขาว และโคมไฟหยดน้ำราคาแพงที่ถูกจัดวางไว้อย่างสวยงาม
รวิกานต์ตะลึงไปถึงความงามโดยรอบบริเวณที่เบนทุ่มทุนประดับตกแต่ง ที่แน่ๆ โรงแรมนี้ เป็นโรงแรมที่แขกที่มาพักต้องจ่ายแพงที่สุด ไม่ต่ำกว่าคืนเป็นแสนๆ แล้วเจ้าของโรงแรมหนุ่มก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ริทของเธอเสียด้วย
เขาจับจูงพาเธอเดินไปยังโต๊ะทานอาหารสุดหรูที่ถูกเตรียมเอาไว้อย่างดีเช่นกัน เธอหันไปส่งยิ้มให้กับเขา เบนเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง เขายังช่วยจัดชายกระโปรงให้เธอเหมือนเดิม ก่อนที่เขาตรงไปนั่งยังฝั่งตรงข้าม มีบริกรค่อยเลื่อนเก้าอี้ให้กับเบน
ไวน์ที่เพิ่งถูกเปิด บริกรหนุ่มค่อยๆ เทรินสู่แก้วคริสทัลราคาแพง ทุกอย่างถูกจัดเตรียมด้วยความตั้งใจจริงของหนุ่มลูกครึ่งผู้มีแผนการอยู่ในใจ
“ผมหวังว่าคืนนี้จะเป็นคืนแห่งความสุขของคุณเกรทและก็ผม” เขาเอ่ยเสียงนุ่ม ยกแก้วใสๆ ยื่นมาตรงหน้าของหญิงสาวยิ้มอย่างสดใส เธอยกแก้วขึ้นชนกับเขาเสียงดังกังวาน รอยยิ้มของทั้งคู่ส่งถึงกัน แสดงความจริงใจเผยออกมาจากดวงตาของทั้งคู่
“ไวน์ที่ดีที่สุดในโรงแรมนี้ และเป็นไวน์ที่แพงที่สุดด้วย” เขาพูดเพื่อให้เธอฟังแล้วดูดี แต่ไม่ได้เอ่ยเพื่อโอ้อวดตัวเองแต่อย่างใด
บริกรหนุ่มยกจานออร์เดิร์ฟออกมาเสิร์ฟ เบนกล่าวอวยพรให้เธอทานอาหารอร่อยเป็นภาษาสเปน
“Que tengas una buena cena”
รวิกานต์อิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูกรู้สึกประทับใจในความตั้งใจจริงของเขาเป็นที่สุด รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทั้งสองคนต่างดังออกมาประสานกันด้วยความสุข
หลังจากที่บริกรเก็บจานอาหารหวานออกไปจากโต๊ะ นักไวโอลินและบริกรหนุ่มก็อันตรธานหายไปจากตรงนั้นด้วย
ความเงียบเข้าครอบคลุมโดยทันที ได้ยินเพียงเสียงจิ้งหรีดเรไรที่ดังระงมกลบเสียงลมหายใจที่ดังขึ้นของรวิกานต์ ตลอดการทานอาหารเธอใจเต้นแรงเพราะสายตาที่จดจ้องมองอย่างตั้งใจของเบน
“เต้นรำกับผมได้ไหมครับ” เขาลุกขึ้นโค้งตัว ยื่นส่งมือมาให้เธอจับ เกวมองหน้าเขาด้วยความฉงน เพราะไม่ได้ยินเสียงเพลงที่บรรเลงมาจากตรงไหนเลย แต่ก็ยื่นมือให้เขาจับ
เบนประคองเธอเข้าสู่อ้อมแขน สองคนสบสายตากันในระยะประชิด เบนพาเธอเต้นรำโดยอาศัยจังหวะที่นับในใจ ลมหายใจเธอแรงจนเขาจับสังเกตได้ว่าเธอประหม่า เธอส่งยิ้มตอบรับยิ้มหวานๆ ของเขาอยู่ตลอดเวลา
‘บ้าแล้ว คุณเบนเล่นจ้องกันขนาดนี้’ เธอคิดในใจ ใจเต้นโครมครามคร่อมจังหวะ ทำให้ขยับขาแทบไม่ถูก