ตอนที่ 3 NC18+

3984 Words
​“คุณจะพาเพื่อนผมไปไหน” เจตรินเอ่ยถามออกไปพร้อมกับมองหน้าหนุ่มฝรั่งคนนี้สลับกับมองเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ในรถด้วยสายตาจดจ้อง “อ่อเจมาพอดีเลย พอดีพี่คนนี้เขาขับรถเชี่ยวพลอยน่ะ แล้วพลอยก็ขาแพลง พี่คนนี้เขาก็เลยจะพาพลอยไปหาหมอน่ะ” พลอยลดาเอ่ยบอกเพื่อนหนุ่มไปอย่างเข้าใจว่าเขานั้นเป็นห่วงเธอ เพราะเจตรินนั้นเป็นเพื่อนกับเธอมานานแล้ว และคงกลัวที่เธอขึ้นรถไปกับผู้ชายคนอื่นทั้งที่ไม่รู้จักแบบนี้ “เดี๋ยวเจพาพลอยไปหาหมอเอง ขอบคุณที่จะพาเพื่อนผมไปหาหมอนะครับ แต่หน้าที่ที่เหลือผมจัดการเอง” เจตรินพูดจบก็เดินอ้อมไปเปิดประตูรถสปอตคันหรู แล้วช่วยพยุงเพื่อนสาวออกมาจากรถของชายฝรั่งแปลกหน้าคนนี้ แล้วมายืนที่ริมฟุตบาทแทน แฟรงก์ก็มองแล้วยิ้มแบบอึ้งๆ ก่อนจะลงจากรถไปอีกคน “งั้นถ้ามีปัญหาอะไรก็ติดต่อผมมาได้ตลอด ส่วนนี้ถือว่าเป็นค่ารักษาพยาบาลก็แล้วกันนะ” แฟรงก์พูดจบก็ยัดเงินจำนวนหนึ่งใส่มือของหญิงสาวตรงหน้า แล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ก่อนจะเดินกลับขึ้นรถไป “คุณคะ ขอบคุณนะคะ” พลอยลดาเรียกชายหนุ่มไว้ แล้วพอเขาหันกลับมามองเธอ เธอก็เอ่ยขอบคุณเขาไป ก่อนจะมองเขาเข้าไปในรถ แล้วขับรถหรูออกไป “นี่พลอย อย่าพึ่งแรดตอนนี้นะอนาคตหมอของแกกำลังรออยู่ อย่าให้ฉันต้องไม่มีเพื่อนไปเรียนต่อด้วยเลยนะ” เจตรินบอกเพื่อนสาวออกไปอย่างรู้ทัน แค่เห็นสายตาของเพื่อนสาวเขาก็มองออกแบบทะลุปุโปร่งแล้ว เขาจึงเตือนไว้ เพราะเขาและพลอยลดาได้ทุนไปเรียนต่อที่อเมริกาด้วยกัน “เออ รู้แล้วน่า แล้วนี่แกจะไปรับแฟนแกไม่ใช่เหรอ ไงมาโผล่ที่นี่ได้ล่ะ” พลอยลดาเอ่ยถามออกไป เพราะเรียนพิเศษเสร็จเธอกับเจตรินก็แยกกันกลับบ้าน แต่ทำไมเพื่อนของเธอถึงมาที่นี่ได้ “ก็แกลืมนี่ไว้ ฉันก็เลยเอามาให้ไง” เจตรินพูดบอกไปก็ชูกระเป๋าเงินให้เพื่อนสาวดู ก่อนจะเอ่ยพูดต่อว่า “ ขาแพลงอยู่ไม่ใช่เหรองั้นเดี๋ยวรอฉันแปปนึงนะ เดี๋ยวฉันไปเอารถมารับแกที่นี่แหล่ะ” เจตรินบอกไปก็ให้เพื่อนสาวนั่งลงที่ขอบฟุตบาท เพราะรถของเขาจอดอยู่ใต้อาคารนี่เองนี่เอง “แล้วแฟนแกอ่ะ ไม่ไปรับแล้วหรือไง เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีก ฉันขี้เกียจมาเคลียร์ให้แกแล้วนะเจ” พลอยลดาพูดบอกไปก็นั่งลงแล้วเอากระเป๋าวางที่หน้าขาของตัวเองอย่างเรียบร้อย “ก็แวะไปรับแฟนฉันก่อน แล้วก็ค่อยไปส่งแกไปหาหมอไง แล้วจากนั้นฉันก็ไปส่งแกที่บ้าน แล้วค่อยไปสวีทกับแฟนฉันต่อก็ได้” เจตรินบอกไปก็ยิ้มให้เพื่อนสาว ก่อนจะรีบเดินไปเอารถมารับเพื่อนสาว ส่วนพลอยลดาก็มองเงินสดในมือแล้วหยิบนามบัตรของชายหนุ่มคนเมื่อกี้ขึ้นมาอ่านดู “มิสเตอร์แฟรงก์ สุริยสิงห์ ถ้าพรหมลิขิตมีจริงเราคงได้เจอกันอีกนะคะ” พลอยลดาพูดไปก็ยิ้มอย่างเขินๆ เพราะเธอคิดว่าเธอกำลังตกหลุมรักหนุ่มคนเมื่อกี้เข้าให้แล้ว แต่ด้วยอายุเธอยังน้อย เธอจึงทำแค่เพียงเพ้อฝันเท่านั้น เพราะดูจากหน้าเขาแล้วคงจะอายุเยอะกว่าเธอมาก หลังจากที่พลอยลดาที่ไปหาหมอมาแล้ว เจตรินก็พาเธอมาพักที่บ้าน ก่อนที่จะไปเที่ยวกับอลิซแฟนที่คบกันมาหลายปีต่อ ส่วนพลอยลดาก็มาพักผ่อนที่บ้านโดยมีแม่ของเธอคอยดูแลอยู่ “เจ็บเท้าแบบนี้แล้วจะรีบเก็บของทำไมล่ะลูก กว่าหนูจะไปเรียนต่ออีกตั้งหลายวัน” พิริมาเอ่ยถามลูกสาวด้วยเสียงอ่อน เมื่อเห็นลูกสาวนั่งเก็บเสื้อผ้าอยู่ที่เตียง “ก็พลอยว่างนิคะแม่ อีกอย่างพลอยกลัวจะเก็บของไม่ทันด้วยอีกแค่ห้าวันเอง แล้วนี่พี่พิชไปไหนคะ ทำไมช่วงนี้พลอยไม่เห็นพี่พิชกลับบ้านเลย” พลอยลดาตอบไปก็หันมาถึงพี่สาวของเธอ ที่หายหน้าหายตาไปหลายวัน “อ่อ พี่เราเขาไป ไปนอนกับเพื่อนน่ะ ช่วงนี้ยัยพิชฝึกงานแล้วแม่ก็ไม่อยากให้พี่เขาเดินทางไปๆมาๆ แม่ก็เลยให้พี่เรานอนกับเพื่อนน่ะ” พิริมาตอบลูกสาวไปอย่างโกหก เพราะไม่ต้องการให้พลอยลดารู้ว่าพิชชาภายอมทำอะไรเพื่อที่ลูกของเธอและร้านบ้าง เนื่องจากพิชชาภาขอเธอไว้ไม่ให้บอกพลอยลดา “เหรอคะ งั้นแม่ไปพักเถอะค่ะ เดี๋ยวพลอยเก็บของเสร็จ พลอยก็จะนอนแล้ว แม่ไม่ต้องห่วงพลอยหรอกค่ะ” พลอยลดาบอกไปก็ยิ้มให้แม่ของเธอไป “จ้ะ งั้นฝันดีนะลูกรัก” พิริมาบอกับลูกสาวก็เข้าไปจุ๊บที่หน้าผากของพลอยลดา ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ส่วนพลอยลดาก็กลับมาเก็บของต่อก่อนจะเจอนามบัตรของหนุ่มฝรั่งคนนั้นที่พูดภาษาไทยออกมาอย่างชัดเจน เธอก็มองดูนามบัตรแล้วยิ้มเขินๆเมื่อนึกถึงเขา ด้านแฟรงก์ก็ออกมาเที่ยวตามประสาหนุ่มเจ้าสำราญ ก็มีสาวๆแวะเวียนเข้ามาหาเขาไม่ขาด จนตอนนี้เขามีสาวมานั่งคลอเคลียอยู่ด้วย แต่อยู่ๆหน้าเด็กที่เขาขับรถชนเมื่อตอนเย็นก็โผล่เข้ามาในหัว ทำให้เขาคิดว่าเด็กกคนนั้นจะเป็นยังไงบ้างนะ แล้วทำไมถึงไม่ติดต่อเขากลับมา “คุณแฟรงก์ขา คิดอะไรอยู่คะ ลูกหมีเรียกคุณตั้งนานแล้วนะคะ” นางแบบสาวเอ่ยถามออกไปเมื่อเธอเรียกเขาหลายรอบแล้ว แต่เขาก็ไม่ตอบเธอ “อ่อ เปล่า คุณมีอะไรเหรอ” แฟรงก์ตื่นจากความคิดนั้นแล้วหันมาถามนางแบบสาวที่นั่งกับเขาตอนนี้ ที่มีหุ่นสะบึ้มน่าจับขย้ำกว่าเด็กคนนั้นตั้งเยอะ แล้วเขาจะมาคิดถึงเด็กคนนั้นทำไมกัน “ลูกหมีว่าเราไปต่อกันที่คอนโดของคุณกันไหมคะ สนุกกว่าที่นี่ตั้งเยอะ” นางแบบสาวพูดไปก็เอานมถูไปกับแขนของหนุ่มๆที่ใครๆก็ต่างหมายตาเอาไว้ และในคืนนี้เธอก็จะได้เขาไป “เอ๊ะนั่นมันเด็กคนนั้นนิ” แฟรงก์ไม่ตอบ แต่เอ่ยพูดไปด้วยความเอะใจ เมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่มารับเด็กสาวคนนั้นไป จนเขาคิดว่าทั้งสองน่าจะเป็นแฟนกัน แต่ทำไมไอ้หนุ่มคนนี้ถึงมากับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ หรือว่ามันนอกใจเด็กคนนั้นกัน แฟรงก์คิดในใจอย่างสงสัยก่อนจะมองเด็กหนุ่มคนนั้นเต้นกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่อย่างสนุกสนาน “อะไรเหรอคะ” นางแบบสาวเอ่ยถามไป แล้วมองตามสายตาของแฟรงก์ที่มองไปที่สองหนุ่มสาวที่กำลังเต้นด้วยกันอยู่ “อ่อ นั่นน้องเจลูกชายของคุณหญิงจริญญาที่ลูกหมีไปเดินแบบเครื่องเพรชให้ค่ะ ส่วนผู้หญิงที่คุณมองอยู่ก็เป็นแฟนของน้องเจค่ะ” นางแบบสาวบอกไป เพราะคิดว่าแฟรงก์สนใจในตัวของหญิงสาวคนนั้น “แน่ใจเหรอว่าสองคนนั้นเป็นแฟนกัน” แฟรงก์ถามย้ำไปก็มองทั้งสองไม่ละสายตา เพราะถ้าสิ่งที่นางแบบสาวที่นั่งอยู่กับเขาเป็นเรื่องจริง เด็กสาวคนนั้นก็ยังโสดอยู่ “แน่ใจสิคะ ก็คราวก่อนคุณหญิงพาไปแนะนำทั่วงาน ลูกหมีจำได้ค่ะ ไม่ใช่แค่แฟนด้วยนะคะน่าจะเป็นคู่หมั้นแล้วมั้งตอนนี้” นางแบบสาวพูดย้ำออกไป และเริ่มไม่ชอบใจที่ชายหนุ่มเริ่มสนใจคนอื่นมากกว่าตัวเธอ “อืม” แฟรงก์แค่ครางในลำคอบอกไปก็ดื่มเหล้าต่อ ก่อนจะถูกนางแบบสาวเอานมมาถูแขนแบบยั่วๆ จนเขายิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน ว่าเธอต้องการจะสื่ออะไร “ยั่วผมหนักขนาดนี้ ไม่จัดให้ก็ไม่ใช่ผมแล้วล่ะ ไปกันเถอะ” แฟรงก์พูดด้วยเสียงอ่อนพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก ก่อนจะลุกขึ้นโดยมีนางแบบาวกอดแขนตามเขาออกไปด้วยท่าทางดี้ด๊า จากนั้นแฟรงก์ก็พานางแบบสาวมาต่อที่คอนโดของเขา พอเข้ามาในห้องนางแบบสาวก็จูบปลุกอารมณ์เขาอย่างรู้งาน เธอจูบไซร์ไปพร้อมกับถอดเสื้อผ้าของแฟรงก์ทิ้งไป จากนั้นเธอก็ค่อยๆย่อตัวลงไปคุกเข่าแล้วจัดการปลดกางเกงของแฟรงก์ลงไป แล้วเธอก็เจอกับท่อนเอ็นดุ้นใหญ่ “อืม ขนาดไม่แข็งยังใหญ่ขนาดนี้ ขอลูกหมีดูตอนมันแข็งหน่อยนะคะ อืม แผล็บ แผล็บ” นางแบบสาวบอกไปก็เอามือจับท่อนเอ็นมาเลียอย่างว่องไว พร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งขย้ำลูกบอลทั้งสองไปด้วย ส่วนมืออีกข้างก็ประคองท่อนเอ็นที่กำลังเริ่มแข็งตัวอย่างหลงใหล “อ่าส์ แบบนั้น ซี๊ด... เลียแรงๆ อ่าส์ อมเข้าไปลึกๆ” แฟรงก์ครางบอกอย่างพอใจ เมื่อนางแบบสาวเอาใจเขาด้วยการทำออรัลเซ็กส์ให้เขาก่อนแบบนี้ เขาชอบให้สาวๆเล่นกับเจ้ามังกรน้อยของเขาที่สุด “แผล็บ แผล็บ ชอบไหมคะ คุณแฟรงก์ แผล็บ แผล็บ ดุ้นใหญ่คับปากลูหมีไปหมดแล้วค่ะ อืม แผล็บ แผล็บ ไม่เคยเจอของใครใหญ่เท่านี้มาก่อนเลย อ้ะ แผล็บ แผล็บ” นางแบบสาวพูดยั่วอารมณ์ของแฟรงก์อย่างยั่วยวน ยิ่งเธอดูดอมและเลียท่อนเอ็นใหญ่มากเท่าไหร่มันก็ขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเธอคิดว่าวันนี้หอยเธอคงได้บานแน่ เพราะเธอกำลังมาเจอไซร์ฝรั่งก็วันนี้แหละ ทั้งใหญ่ทั้งยาว ทั้งขาวทั้งอวบ คงจะมันส์ร่องน่าดู นางแบสาวคิดอย่างตื่นเต้น แฟรงก์ก็เอามือจับหัวของนางแบบสาวไว้แล้วรีบซอยท่อนเอ็นใส่ปากของเธอไปอย่างเมามันส์ จนเขาแตกน้ำรักใส่ปากของเธอ แล้วเธอก็ดูดเลียท่อนเอ็นของเขาต่อ “แผล็บ แผล็บ น้ำของคุณอร่อยมากเลยค่ะ อ่า แผล็บ แผล็บ” นางแบบสาวพูดไปก็เริ่มเอามือของตัวเองไปลูบน้องสาวของตัวเองแล้วเอามือแหวกกางเกงชั้นในไปด้านข้าง แล้วเธอก็เอานิ้วของตัวเองมาเขี่ยที่ร่องสาวแล้วครางเสียวออกมาให้แฟรงก์ได้เห็น “ขึ้นมานี่ เดี๋ยวจะทำให้เสียวเอง” แฟรงก์พูดจบก็กระตุกยิ้ม ก่อนจะจับนางแบบสาวนอนลงไปบนโต๊ะรับแขก แล้วเขาก็จัดการดึงเธอกางเกงในของเธออก แล้วเอามือสอดแทรกเข้าไปสองนิ้ว แล้วเริ่มซอยมือเข้าออกแบบรัวๆ “อ้ะ อ้ะ คูณแฟรงก์ อ้ะ ลูกหมี เสียว อ้ะ อ้ะ อ้ะ” นางแบบสาวครางเสียงกระเส่าก็ส่ายหน้าไปมา พ้รอมกับดิ้นหนีมือร้ายๆที่กำลังรัวเร็วใส่น้องสาวของเธอ แฟรงก์เห็นางแบบสาวทรมานเขาก็ยิ้มอย่างชอบใจ ก่อนจะเอามือไปถลกเสื้อของเธอขึ้นไป แล้วขย้ำนมของเธอผ่านบลาสีดำนั่นอย่างชอบใจ “อ้ะ อ้ะ อ้ะ แฟรงก์ขา เลียนมลูกหมีสิคะ อ้ะ อ้ะ” นางแบบสาวบอกไปขณะกำลังถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกไป เพราะตอนนี้แฟรงก์กำลังสนุกกับร่องสาวของเธอ “ร่านเหมือนกันนิ อ่าส์ แผล็บ แผล็บ” แฟรงก์บอกไปก็ก้มลงไปเลียจุกสีชมพูของนางแบบสาว แล้วกัดทึ้งอย่างเร้าร้อน พอเห็นนางแบบสาวกระตุกเกร็งเขาก็ถอนมืออกไปแล้วก้มหยิบเอาถุงยางอยามัยจากกระเป๋ากางเกงมา แล้วฉีกมาใส่ท่อนเอ็นของเขาอย่างชำนาญและว่องไว “อือ ใส่เข้ามาเลยค่ะ ลูกหมีอยากโดนคุณเยจะตายอยู่แล้ว” นางแบบสาวพูดไปก็ก็อ้าขารอให้แฟรงก์จ่อท่อนเอ็นเข้ามาอย่างต้อนรับเขา “ผมจะเยจนหอยคุณพังเลย อ่าส์” แฟรงก์พูดจบก็จับท่อนเอ็นสอดเข้าไปในร่องสาวของนางแบบสาวทันที ด้วยความที่ท่อนเอ็นของเขามันใหญ่จึงทำให้ร่องสาวตอดรัดเขาได้อย่างเสียวกระสัน “โอ้ย ให้ตายเถอะ แน่นหอยไปหมดแล้ว ไม่เคยมีใครทำให้เสียวหอยแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ อ้ะ อ้ะ แฟรงก์ขา เยแรงๆเลยค่ะ อ้ะ อ้ะ” นางแบบสาวบกไปก็เริ่มครางเสียงกระเส่า เพราะชายหนุ่มเริ่มรัวกระแทกท่อนเอ็นใส่เธออย่างรุนแรง “อ่าส์ พับ พับ พับ พับ” แฟรงก์ครางไปก็เร่งแรงกระแทกตอกท่อนเอ็นใส่ร่องสาวของเธออย่างรัวเร็ว ก่อนจะจับร่างบางเปลี่ยนท่าไปมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาใกล้เสร็จ เขาก็ถอนท่อนเอ็นออกมาแตกข้างนอกอย่างรู้งาน เพราะถึงเขาจะรักสนุกแค่ไหนเขาก็รู้ตัวว่าเขาต้องป้องกันตัวเองขนาดไหน “ต่ออีกรอบไหมคะ ลูกหมียังไหวนะคะ” นางแบบสาวถามไปก็เอามือลูบไล้แผงอกของแฟรงก์อย่างยั่วยวน ยิ่งเห็นท่อนเอ็นของเขายังไม่อ่อนตัวลง เธอก็ยิ่งยั่วเขาต่ออย่างได้ใจ “ผมก็ไม่เคยเอาใครแค่น้ำเดียวสักคน หึ แผล็บ แผล็บ” แฟรงก์พูดจบก็ก้มลงไปเลียนมทั้งสองข้างสลับกัน แล้วก็บีบขย้ำอย่างมันส์มือ จากนั้นก็เริ่มเล่นสวาทกับนางแบบสาวต่ออีกครั้ง พอเช้าเขาก็จ่ายเงินให้กับเธอแล้วเขาก็กลับบ้านเหมือนทุกๆครั้ง ผ่านไปเกือบอาทิตย์ แฟรงก์ต้องบินไปอเมริกาเพื่อดูงานของบริษัทของเขาที่นั่น ซึ่งเขานั้นไม่อยากจะไปเท่าไหร่แต่ก็ขัดคำสั่งของพี่ชายไม่ได้ จึงต้องเดินทางไปอเมริกาวันนี้ “นึกยังไงมาส่งผมเนี่ยเฮีย ร้อยวันพันปีนี่ไม่เคยจะมา” แฟรงก์เอ่ยถามอย่างแปลกใจ ที่พี่ชายมาส่งเขาขึ้นเครื่องทั้งที่เมื่อก่อนพี่ชายของเขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย “เออน่า ฉันก็แค่จะมาดูให้แน่ใจว่าแกไปจริงไหม รีบๆเข้าไปข้างในไป เดี๋ยวก็ตกเครื่องหรอก” ฟรานติโน่พูดอย่างปัดๆเพราะไม่อยากให้น้องชายถามอะไรมาก “เออ เฮียนี่ก็แปลก มาส่งแต่รีบไล่ให้ผมเข้าไป เฮ้อ เออๆ งั้นผมไปล่ะเฮีย อยู่ทางนี้ก็เพลาๆเรื่องสาวๆด้วยนะ ผมขี้เกียจมาช่วยแก้ข่าวแล้ว” แฟรงก์พูดจบก็มองพี่ชายที่พยักหน้าตอบรับกลับมา จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในอาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศทันที ส่วนฟรานติโน่ก็รีบมองหาพิชชาภาที่บอกว่าจะมาส่งน้องสาวต่อทันที เพราะเขาอยากจะมาดูว่าพิชชาภาได้นัดใครมานอกเหนือจากครอบครัวของเธอไหมและที่สำคัญเขาไม่อยากให้น้องชายของเขาเจอกับพิชชาภาที่นี่ เขาถึงรีบไล่มันเข้าไปข้างใน ด้านพิชชาภาวันนี้ เธอต้องมาส่งน้องสาวไปเรียนต่อที่อเมริกา เธอก็ได้ขอฟรานติโน่แล้วว่าวันนี้เธอจะไปส่งน้องสาว และเขาก็อนุญาตให้เธอมาโดยที่เขาจะเป็นคนมารับเธอที่สนามบินเอง หลังจากที่ส่งน้องสาวของเธอเสร็จ “ตั้งใจเรียนนะยัยพลอย อย่าทำให้พี่กับน้าพิมน้าโจผิดหวังนะ ถ้าขาดเหลืออะไรก็โทรมาหาพี่นะ แล้วถ้าถึงที่นู้นแล้วก็อย่าลืมโทรมานะ” พิชชาภาพูดไปก็เริ่มน้ำตาคลอ เพราะเธอกับพลอยลดาโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กและไม่เคยอยู่ไกลกันแบบนี้เลย มันจึงทำให้เธอรู้สึกใจหาย “ค่ะพี่พิช พลอยสัญญาค่ะว่าพลอยจะตั้งใจเรียนจะเอาใบปริญญามาให้พี่พิชแล้วก็พ่อกับแม่ให้ได้ พลอยขอบคุณนะคะพี่พิช ขอบคุณทุกๆอย่างที่พี่พิชทำเพื่อพลอย” พลอยลดาพูดไปก็เดินเข้าไปกอดพี่สาวพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างซาบซึ้งใจ “อย่าร้องไห้เป็นเด็กๆสิ โตๆกันแล้วนะเรา อายเขาบ้างสิ” โจเซฟเอ่ยแซวลูกสาวและหลานสาวอย่างเอ็นดู เพราะทั้งสองนั้นรักันเหมือนพี่น้องกันจริงๆ “ทุกคนไม่ต้องห่วงนะครับ เจจะช่วยดูแลพลอยอีกคนครับ รับรองว่าปลอดภัยแน่นอน อีกอย่างป้าของเจก็ใจดีครับรับรองว่าไม่มีปัญหาอะไรแน่นอนครับ” เจตรินเอ่ยบอกกับครอบครัวของพลอยลดาเพื่อนสาวคนสนิท ก่อนจะส่งยิ้มให้ทุกคนอย่างสนิทสนมเพราะรู้จักกันมานานมากแล้ว แล้วเขาก็ให้พลอยลดาไปพักกับเขาที่อเมริกาด้วย เพราะที่บ้านป้าที่เขาพูดถึงก็คือบ้านของอลิซคู่หมั้นของเขานั่นเอง “มีอะไรก็เตือนๆกันนะลูก น้าฝากดูแลพลอยด้วยนะ” พิริมาเอ่ยบอกกับเพื่อนสนิทของลูกสาวอย่างอ่อนโยน เธอรู้จักเจตรินและครอบครัวของเจตรินเป็นอย่างดี จนเธอไว้ใจให้ลูกสาวไปพักอยู่กับเจตรินที่นั่น “ครับ ผมจะดูแลพลอยอย่างดีเลยครับ แต่ตอนนี้ผมต้องพาพลอยเข้าไปข้างในแล้ว ไว้ช่วงปิดเทอมเจอกันนะครับคุณน้า พี่พิช” เจตรินตอบไปพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะยิ้มให้ทุกคน “จ้ะ โชคดีนะลูก ถึงแล้วโทรหาแม่ด้วยนะ แม่รักลูกนะ จุ๊บ” พิริมาเอ่ยบอกลูกสาวก็เข้าไปกอดแล้วหอมแก้มลูกสาวอย่างอาลัย ก่อนจะให้สามีได้บอกลาลูกสาวบ้าง “พ่อก็รักหนูนะลูก เดินทางปลอดภัยนะคนสวยของพ่อ” โจเซฟบอกไปก็กอดลูกสาวแล้วหอมแก้มเช่นเดียวกับภรรยา ก่อนจะปล่อยให้พิชชาภาได้พูดต่อ “พี่ก็รักพลอยนะ อย่าลืมคิดถึงพี่บ้างนะ ตั้งใจเรียนล่ะ” พิชชาภาพูดไปก็พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ เพราะไม่อยากจะร้องไห้ต่อหน้าน้องสาว เธอก็ฝืนยิ้มให้ไป แล้วมองน้องสาวอย่างรักใคร่เอ็นดู “พลอยรักทุกคนนะคะ พลอยไม่อยู่ก็ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ พ่อก็อย่าลืมทานยาด้วยนะคะ แม่ก็ห้ามทำงานจนลืมพักผ่อนนะคะ ส่วนพี่พิชก็อย่าเอาใจคนอื่นจนลืมตัวเองนะคะ พลอยไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะพ่อ แม่ พี่พิช” พลอยลดาบอกไปก็ยกมือไหว้ทั้งสามคน ก่อนจะเข้าปกอดแล้วจากนั้นเธอก็เดินเข้าไปข้างในอาคารผู้โดยสารขาออกพร้อมกับเจตริน “กลับกันเถอะลูก ยัยพลอยเข้าไปแล้ว” พิริมาหันมาบอกกับพิชชาภาที่ยืนร้องไห้อยู่ “ค่ะน้าพิม แต่วันนี้เขาจะมารับพิชที่นี่ น้าพิมกับน้าโจกลับไปก่อนเลยก็ได้ค่ะ” พิชชาภาเอามือปาดน้ำตาก็พูดบอกไป ก่อนจะยิ้มให้กับน้าทั้งสองด้วยตาแดงๆ สองสามีภรรยาหันไปมองหน้ากันก่อนที่โจเซฟจะพยักหน้าให้กับภรรยาสาวของเขา “ก็ได้ลูก งั้นน้ากับน้าโจกลับก่อนนะ ถ้าเหนื่อยก็กลับมาบ้านเรานะ น้าสองคนรอเราเสมอ” พิริมาเอ่ยบอกหลานสาวก็เอามือลูบผมพิชชาภาอย่างรักใคร่ ก่อนจะพากันเดินออกไป ส่วนพิชชาภาก็เชิดน้ำตาแล้วเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาฟรานติโน่ และเขาก็กดรับและบอกว่ามารอที่หน้าสนามบินแล้วให้เธอออกไปหาที่ประตูทางออก ฟรานติโน่ที่ตามหาพิชชาภาจนเจอเธอยืนอยู่กับครอบครัวของเธอและมีหนุ่มวัยรุ่นอีกหนึ่งคน ซึ่งไอ้เด็กนั่นไม่มีทางเป็นชู้กับเมียของเขาได้ เขาจึงแอบมองเธอลาน้องสาวของเธอจนเสร็จ เขาก็เห็นเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร เขาก็ลุ้นว่าเธอจะโทรหาเขาไหมหรือนัดกับใครไว้หรือเปล่า แล้วสุดท้ายโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นจากสายเรียกเข้าของพิชชาภา เขาก็อมยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะกดรับและบอกให้เธอไปหาเขาที่หน้าสนามบิน พอพิชชาภาวางสายไปฟรานติโน่ก็รีบวิ่งออกไปที่รถทันที พอพิชชาภามาถึงที่ประตูทางออกก็เห็นรถของฟรานติโน่จอดอยู่เธอก็เดินเข้าไปเปิดประตู แล้วนั่งลงข้างๆคนขับทันทีก่อนจะเสียบเข็มขัดนิรภัยอย่างเรียบร้อย จากนั้นก็เงยหน้าจะพูดกับฟรานติโน่ แต่เธอเห็นเขานั่งหายใจหอบๆอยู่ “เป็นอะไรคะ ทำไมหายใจแรงแบบนี้” พิชชาภาเอ่ยถามก็มองหน้าของฟรานติโน่อย่างสงสัย “ปะเปล่า ผมแค่ร้อนเฉยๆ แล้วนี่จะกลับไปฝึกงานต่อเลยไหมจะได้ไปส่ง” ฟรานติโน่เอ่ยถามด้วยเสียงหอบๆ เพราะเหนื่อยจากการวิ่งมาที่รถก่อนหน้าเธอไม่ถึงสองนาที ไม่รู้พิชชาภาจะเดินเร็วไปไหน เขาแทบไม่ทันได้ตั้งตัว เขาจะให้เธอรู้ไม่ได้ว่าเขามาแอบตามเธอ ไม่งั้นเธอจะคิดว่าเขานั้นคิดอะไรกับเธอแล้วไปมโนเป็นตุเป็นตะอีก “เร่งแอร์สิคะ ดูสิเหงื่อไหลเยอะเชียว หน้าคุณก็แดงไปหมดแล้ว” พิชชาภาพูดไปก็เอามือไปเร่งแอร์ให้แรงกว่าเดิม ก่อนจะเอามือไปหยิบทิชชูมาเช็ดเหงื่อบนใบหน้าหล่อๆของฟรานติโน่ แล้วก็เอ่ยพูดบอกไปอย่างสังเกต ฟรานติโน่ก็กำลังมองใบหน้าหวานที่กำลังเช็ดหน้าของเขาด้วยความชอบใจที่เธอทำแบบนี้ให้เขา มันทำให้เขารู้สึกหายเหนื่อยไปเลย “ไม่เสียแรงที่วิ่งมาจริงๆ” ฟรานติโน่พูดละเมอออกไปขณะที่มองหน้าหวาน จนพิชชาภายักคิ้วสงสัยว่าเขาวิ่งอะไร “วิ่งอะไรคะ” พิชชาภาถามไปด้วยความสงสัยก็มองฟรานติโน่อย่างไม่เข้าใจ “ไม่มีอะไร แล้วนี่สรุปจะไปทำงานต่อไหม ผมจะได้ไปส่ง” ฟรานติโน่ไม่ตอบ แต่กลับถามย้ำออกไปนพิชาภาไม่ได้สนใจอะไร “วันนี้พิชลาแล้วค่ะ กลับบ้านก็ได้ค่ะ แล้วคุณมีงานต่อรึเปล่า” พิชชาภาเอ่ยถามกลับไปก็หันไปเก็บกระเป๋าไว้หลังรถ “ไม่มี งั้นวันนี้เราไปซื้อของไปทำอาหารทานกันที่บ้านก็แล้วกัน ตั้งแต่มื้อสลัดวันนั้นคุณยังไม่ได้โชว์ฝีมือทำอาหารให้ผมทานจริงๆจังๆเลยนะ” ฟรานติโน่เอ่ยพูดไปก็ยิ้มมุมปากอย่างขำๆ เพราะตั้งแต่วันนั้นทั้งเขาและพิชชาภาก็สั่งให้แม่บ้านทำให้ตลอด “ก็เพราะคุณนั่นแหละค่ะ วันนี้หวังว่าเราจะได้ทานอาหารกันจริงๆนะคะ” พิชชาภาตอบไปก็ยิ้ม เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมานี้เธอกับฟรานติโน่มีความสุขกันมาก จนเธอไม่อยากให้มันครบหนึ่งเดือนเลย แต่มันเหลือเวลาอีกแค่อาทิตย์เดียวเธอก็จะใช้เวลาที่เหลือให้เต็มที่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD