เอียนส่ายหน้า “ยังหรอก แต่น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ” คาดิโอเม้มปาก เขาคิดภาพในอนาคตไม่ออก หากไม่ได้ทำงานกับโคลแล้ว จากนี้ไปเขาจะทำมาหากินอะไร เขาเป็นการ์ดให้เอียนมาสิบปีเต็ม นอกจากงานอารักขาแล้ว เขาก็แทบจะทำอะไรไม่เป็น
“ผม...” เดวิดจนคำพูด เขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน มันปุบปับจวนตัว จนยังคิดอะไรไม่ออก
เอียนยังไม่ทันได้พูดต่อ อานิลาก็เดินหน้าตั้งตรงมาหา มือของเธอหิ้วตะกร้าใบใหญ่จนตัวเอียง เดวิดรีบวิ่งเข้าไปช่วยถือ “ส่งมาให้ผมเถอะครับ”
อานิลาส่ายหน้า แต่เอียนห้ามไว้ “ส่งให้เดวิดเถอะ เธอเองก็ต้องปรับตัวนะอานิลา อะไรที่เกินตัวก็อย่าทำ”
“คุณชอบคิดว่าฉันอ่อนแอ” อานิลากระแทกเสียงตอบ
“เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น หากเธอทำเอง แล้วคนอื่นๆ จะทำงานอะไรละ แต่ละคนค่าตัวแพงๆ ทั้งนั้น” เอียนรีบแก้
เขาถอดสูทอามานี่ ส่งให้เดวิดพร้อมทั้งถลกแขนเสื้อเชิ้ตพับขึ้นมาถึงข้อศอก ปลดกระดุมเสื้อลงมาสองเม็ด ปล่อยให้สายลมเย็นๆ พัดโชยต้องผิวกาย
“จากนี้ไป ผมคงต้องเปลี่ยนการแต่งตัวนิดหน่อย”
คาดิโอก้มหน้าลง เขาเองก็ต้องปรับตัว หากเอียนต้องการวางมือจริง
ตอนที่ 5.หมู่บ้านริมทะเล
อานิลายอมตกลงที่จะไม่ทดสอบการขับรถยนต์ในวันนี้ เธอยอมเป็นผู้โดยสารที่ดี และตอนที่รถยนต์เคลื่อนที่ออกจากคฤหาสน์ การที่เธอตัดสินใจแบบนั้นเลยกลายเป็นความคิดที่ถูก เธอได้ชมธรรมชาติสองข้างทางได้อย่างเต็มที่ ต้นไม้ต้นใหญ่สูงขนาดแหงนคอตั้งบ่าก็ยังมองไม่เห็นยอด
มีทั้งไม้ยืนต้น และผลไม้แทรกอยู่ในป่าต้นสนแห่งนั้น
อานิลาคิดถึงกิจกรรมตอนเด็กๆ สมัยที่ทั้งบิดา และมารดายังมีชีวิตอยู่ ทั้งสองท่านมักจะพาเธอเข้าไปในป่า เก็บผลไม้ป่า และเห็ดที่ขึ้นในพื้นที่ชุ่มชื้น
แต่ทั้งหมดนั่น เกิดขึ้นตอนที่เธอเป็นเด็กเท่านั้น
เพราะช่วงวัยรุ่น บิดา มารดาพาเธอเข้ามาอยู่ในเมือง
เรื่องสนุกเรื่องเดียวของเธอเลยจบลง
“ที่ดินทั้งหมดนี่เป็นของคุณเหรอคะ” อานิลาแอบกระซิบถาม เอียนพยักหน้ารับ เขาอดหัวเราะกับสีหน้าพิลึกของอานิลาไม่ได้
“ทำไม ไม่เชื่อเหรอ?”
“เปล่าค่ะ คุณรวยมากเลยใช่ไหมคะ?”
ความจริงอานิลาควรตงิดตั้งแต่ได้รู้จักคฤหาสน์โคลแล้ว
“ส่วนมากรุ่นปู่ผมสร้างไว้ ผมแค่รักษาให้คงอยู่ อาจจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ไม่เยอะเหมือนที่ปู่เคยทำไว้” เอียนอธิบายย่อๆ คงเพราะเขาพยายามที่จะปรับโครงสร้างให้โคลเดินไปข้างหน้าต่อได้ โดยไม่แตะต้องธุรกิจผิดกฎหมาย ที่เคยสร้างรายได้มหาศาลให้ต้นตระกูล
ของผิดกฎหมายทุกชนิด ค่อยทยอยยกเลิกไป
คงเหลือแต่บางอย่างที่ทิ้งไม่ได้ และไม่ได้ถูกฎหมายร้อยเปอร์เซ็นต์
“ฉันอิจฉาคุณจัง ทั้งชีวิตของฉัน ยังไม่เคยมีแม้แต่ที่ดินสักแปลงเลย”
อานิลาบ่น ครอบครัวคนชนชั้นล่าง ทำมาหากินทั้งชีวิตก็ยังไม่สามารถครอบครองที่ดินสักแปลง ในขณะที่คนกลุ่มเล็กๆ มีทั้งชื่อเสียงและอำนาจเงินในมือ คนเหล่านั้นครอบครองที่ดินในประเทศเกือบครึ่งประเทศทีเดียว
“เป็นคนรวยไม่ได้สบายหรอกนะ”
“ฉันแค่อิจฉาค่ะ ฉันไม่ได้อยากรวยสักหน่อย ฉันเข้าใจคุณค่ะ” อานิลายิ้มให้ คนที่แบกภาระอย่างเอียน ทำตามใจตัวเองยาก เขาต้องคอยคิดถึงคนอื่น คอยใส่ใจคนรอบตัว จนตัวเองแทบไม่มีอิสระ
“อยากแบ่งไปสักครึ่งไหมละ” เอียนสัพยอก
อานิลาส่ายหน้า “ฉันกลัวทำใจไม่ได้คะ คนรวยทำตัวยากจะตาย””
เอียนหัวเราะ อานิลาทำให้เขาหัวเราะได้บ่อยกว่าทุกคน
“ไว้ว่างๆ ฉันจะพาคุณเข้าป่าไปเก็บเห็ดนะคะ ในป่ามีอะไรน่าสนใจเยอะแยะเลย” อานิลา
เอียนยิ้มตาพราว เขานึกคนละเรื่องกับอานิลา บรรยากาศป่าเหรอ บางทีอาจจะน่าสนใจก็ได้
“คิดเรื่องลามกอีกสิคะ คุณนี่นะ!!” อานิลากระทุ้งข้างเอวเอียน เขายกมือกุมตรงส่วนนั้น แกล้งร้องโอดครวญเกินจริง
“โอ้ย!! อูยยยเจ็บชะมัด”
คาดิโอกับเดวิดหน้าเสีย เขามองเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง แต่ไม่กล้าทักท้วง เพราะแววตาเอียนระยิบระยับ
บ้านติดชายทะเลเป็นบ้านปูนเก่าๆ ผู้คนที่อาศัยอยู่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็กๆ มีชายฉกรรจ์ปละปราย มีร้านค้า มีบาร์เหล้า และความเป็นอยู่เรียบง่าย
แต่หลังจากที่มีใครบางคนสังเกตเห็นเอียน
แววตาพวกเขาก็เปลี่ยนไป แต่คงเพราะความกลัวที่ถูกปลูกฝังกันมานาน พวกเขาเลยได้แต่ลังเลไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้
“รออยู่นี่นะคะ เดี๋ยวฉันมา” อานิลากระซิบบอก แล้วก็วิ่งหน้าตั้งตรงไปยังร้านสะดวกซื้อ เธอหายไปพักใหญ่ ก่อนจะกลับมาพร้อมกับน้ำสะอาดเย็นเฉียบ และกลุ่มคนที่ทยอยเดินตามมา
“เธอทำได้ไง?” เอียนเอียงตัวถาม
เขาส่งยิ้มให้กับคนของเขาที่เดินตามหลังอานิลามา
“คุณเอียน” เสียงสั่นเครือเต็มไปด้วยความภักดี
“ไม่เจอกันนาน ยังสบายดีอยู่ไหม มีอะไรให้ช่วย บอกผมได้เลยนะครับ” เอียนกล่าวทักทาย หลายคนเขาคุ้นหน้า อีกหลายคนก็ไม่แน่ใจนัก คงเพราะร่วงโรยตามวัยไปนั่นเอง
“ตั้งแต่คุณท่านเสีย พวกเราไม่ได้เจอคุณเอียบนอีกเลย”
เอียนยิ้มให้ “งานยุ่งน่ะครับ อย่างที่รู้ ผมพยายามทำให้โคลเข้มแข็ง และไม่กลายเป็นเป้านิ่งให้หลายฝ่ายลุม”
“ลูกชายของผมก็บอกแบบนั้น แต่...” มีบางคนแย้ง
“ไม่มีใครทำเป็นตั้งแต่แรกครับ หากฝึกบ่อยๆ อีกไม่นานก็ทำได้ ขอแค่อดทนและเชื่อมก็พอ” เอียนอธิบาย เขาปล่อยให้ความห่างเหินทำลายความเชื่อใจไปแล้ว ไม่คิดเหมือนกันว่าอานิลาจะทำให้ความเชื่อใจของเขากลับคืนมาได้
“ฉันจะมาที่นี่บ่อยๆ นะคะ ฉันคิดว่า ฉันน่าจะช่วยพวกคุณได้” อานิลาพูดแทรก หลายสายตามองเหมือนไม่ไว้ใจเธอ
“อานิลาเป็นคนของผมครับ” เอียนรีบพูดแทรก
“ฉันถามนิดนะคะ ผู้หญิงไม่ได้ทำงานใช่ไหมคะ นอกจากเลี้ยงลูกแล้ว ได้ทำอะไรอีกหรือเปล่า”
คงเพราะตั้งแต่มาถึง นอกจากผู้สูงวัยแล้ว อานิลาแทบไม่เห็นผู้หญิงเลย หมู่บ้านใหญ่ๆ แบบนี้ ควรมีคนทุกวัยสิ
“ผู้หญิงทำงานที่โรงงานครับ แต่ส่วนใหญ่ก็เลี้ยงลูกที่บ้าน”
“อ้อ เข้าใจแล้ว” อานิลาพยักหน้าหงึกหงัก เธอปล่อยให้เอียนพูดคุยกับคนของเขา ส่วนเธอก็คอยเก็บข้อมูล
มีเดวิดและคาดิโอคอยระวังความปลอดภัยให้
พอตกเย็นคนงานวัยฉกรรจ์ ก็ค่อยทยอยกลับมา พวกเขาตื่นเต้นยกใหญ่เมื่อได้มีโอกาสเจอเอียน กลุ่มคนเริ่มหนาขึ้น แต่ละคนมีความยินดีมากกว่าความหวาดกลัว
เอียนลบภาพมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่สำเร็จแล้ว
เขาเป็นแค่เจ้าของบริษัท และมีคนงานในความรับผิดชอบแค่นั้น
“สั่งอาหารมากินกันเถอะ นานๆ ได้เจอกันที” เอียนกระซิบสั่งเดวิด
เดวิดกับคาดิโอถึงกับตาเหลือก ต่อให้มีเงินทองมากแค่ไหน แต่เวลาสั้นๆ นั้นไม่มีเชฟคนไหนเนรมิตอาหารจำนวนมาและขนมาส่งที่แห่งนี้ได้หรอก
อานิลาส่ายหน้า “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ที่นี่มีอาหารสดขาย เราช่วยๆ กันทำน่าจะใช้เวลาน้อยกว่าส่งมาจากในเมือง”
เธอจำได้กว่าการเดินทางของเธอมาถึงคฤหาสน์โคลนั้น ใช้เวลามากพอสมควร ดังนั้นต่อให้เอียนเกณฑ์เชฟจากโรงแรมดังมาทั้งหมด ก็ไม่สามารถทำอาหารให้คนในหมู่บ้านนี้ได้ทันเวลา
“หิวไหมคะ ไปหาอะไรกินกันเถอะค่ะ วันนี้ คุณเอียนเขาอยากเลี้ยง”
เสียงฮือฮาดังเป็นทอดๆ “ฉันเห็นร้านขายอาหารทะเลสดหลายร้านเลย น่าจะพอกินกันเนอะ” อานิลาพูดต่อ เธอทำตัวกลมกลืนไปกับชาวบ้าน เอียนมีหน้าที่เดียวคือการจ่ายสตางค์
ชายหาดที่ว่างถูกจัดเป็นงานเลี้ยง โต๊ะเก้าอี้แทบไม่จำเป็น พวกเขาปูเสื่อนั่งกับพื้น รอบกองไฟขนาดใหญ่ที่ถูกทำขึ้น กลิ่นปู กลิ่นปลา กลิ่นหอยที่ถูกไฟโชยฟุ้ง บรรดาแม่บ้าที่มาสมทบทีหลังพร้อมกับเด็กๆ เริ่มส่งเสียงคุย มีแต่รอยยิ้มกับเสียงหัวเราะ
เป็นบรรยากาศที่เอียนไม่เคยสัมผัส
เขาอยู่บนยอดหอคอย บงการและแบ่งหน้าที่ เขาแบกภาระไว้โดยไม่รู้ว่าตนเองทำไปเพื่ออะไรเหมือนกัน
แต่วันนี้เขารู้แล้ว
เขาเป็นจุดศูนย์รวม ที่ทำให้คนเหล่านี้ยิ้มได้
“ผมตัดสินใจแล้วเดวิด ผมจะเลิกเป็นมาเฟีย”
เดวิดผงะ ไม่คิดเหมือนกันว่าเอียนจะตัดสินใจปุบปับแบบนี้
คาดิโอก้มหน้า เขาจุกจนพูดไม่ออก เขาไม่มีเวลาเตรียมตัวกับความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เลย