บทนำ
ตื่นมาข้าก็ดันมีลูกสาว!
บรรยากาศหนาวเย็นทำให้เดือนจรัสเริ่มรู้สึกตัวตื่นมาจากความทุกข์ทรมานที่ต้องอดทนนอนเป็น ‘ซากเน่า’ นับจากหนึ่งเดือนก่อนที่ป้าสะใภ้กับลุงได้ใช้เงินมรดกของเธอกันอย่างสบายมือ แต่กลับทอดทิ้งไม่ดูแลเธอผู้เป็นเจ้าของเงินทอง บ้านและ ทุกสิ่งทุกอย่างเลยมานานนับเดือน
"ท่านแม่...ท่านแม่..."
เสียงหวานใสของเด็กหญิงวัยไม่น่าจะเกินสี่ขวบดังมาจากดินแดนไกลแสนไกล เดือนจรัส เด็กสาวผู้ป่วยติดเตียงจะลุกนั่งหรือเดินยังไม่ได้จึงค่อย ๆ ขยับเปลือกตาลืมขึ้นมาอย่างเนิบช้า
"ท่านแม่!...ท่านยายเจ้าคะ ท่านแม่ลืมตาขึ้นมาแล้วเจ้าค่ะ"
...เสียงดังจากที่ไหนกัน?...
นั่นคือสิ่งแรกที่เดือนจรัสพยายามนึก เพราะที่บ้านคุณลุงกับคุณป้าของเธอไม่มีเด็กเลยสักคน ทว่ายังไม่ทันหายสงสัย เด็กสาวที่ขนาดปลายนิ้วยังกระดิกเองแสนยากเย็น หากแต่ในเวลานี้เดือนจรัสกลับยกแขนยกมือขึ้นมาขยี้ตาได้อย่างสบาย
ดวงตาที่ยังตื่นไม่เต็มตาจึงลืมโพลงขึ้นมาทันควัน จากนั้นไม่ใช่เพียงแขนแต่ขาสองข้างก็ยังขยับยกขึ้นมากอดหัวเข่าได้หรือขนาดเธอลองลุกขึ้นมานั่งเดือนจรัสก็ทำได้!?
...นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?...
"ท่านแม่ตื่นแล้ว หิวหรือไม่ จะดื่มน้ำไหมเจ้าคะ"
ภาพของเด็กหญิงวัยราวห้าขวบที่ปีนเตียงขึ้นมาแล้วเอื้อมเอามืออวบอั๋นนั้นจับไปตามแก้ม ตามลำคอ และเรียวแขนจนไปถึงมือเรียวสวยแต่หยาบกระด้างบอกแก่เดือนจรัสได้ดีว่ามือคู่นี้คงผ่านการทำงานหนักมาไม่น้อย ทำราวกับกิริยาของผู้ใหญ่หาใช่เด็กน้อยก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งเลยทีเดียว
"ท่านแม่หรือ?...ข้าคือแม่ ส่วนเจ้าคือลูกอย่างนั้นหรือ!?"
หลังจากนั่งทึ่มทื่ออยู่ครู่ใหญ่แล้วสุดท้ายสาวน้อยเดือนจรัสก็ดึงสติกลับมาได้แล้วยื่นมือไปรับน้ำจากถ้วยที่มือเล็กกลมป้อมนั้นเทใส่มาจนเต็มถ้วยขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแล้วจึงค่อยพึมพำออกไปอย่างไม่ตั้งใจถามเด็กหญิงตรงหน้า เธอคล้ายจะทบทวนแล้วถามตนเองมากกว่าหาใช่เด็กอวบอ้วนตรงหน้าไม่
"ใช่ นี่ข้าเผยหว่าหวา บุตรสาวของท่านแม่เผยหว่านอี หลานของท่านยายเฉียวถิงถิงเจ้าค่ะ"
เด็กหญิงกล่าววาจาชัดถ้อยชัดคำ แต่ที่สะดุดหูก็ตรงที่เด็กแก้มเป็นพวงผู้นี้นางมิได้เอ่ยนามของบิดาออกมาแม้เพียงครึ่งคำช่างแปลกอย่างยิ่ง
"เจ้าออกไปวิ่งเล่นด้านนอกก่อนไปหว่าหวา ขอแม่นอนพักอีกหน่อย" ขณะนี้สาวน้อยเดือนจรัสภายนอกดูสงบผู้ใดจะทราบดีเท่าตัวของนางว่าภายในนั้นสับสนยากจะเข้าใจถึงสาเหตุที่ตนเองตายแล้วไฉนตนเองไม่ได้ไปนรกหรือสวรรค์แต่มาโผล่ในร่างของสตรีแต่งงานแล้วไม่พอยังมีบุตรสาววัยสี่ถึงห้าหนาวเช่นนี้ไปเสียได้
"ได้เจ้าค่ะ หวาหวาจะไปช่วยท่านยายเก็บผักก่อนนะเจ้าคะ ท่านแม่นอนพักอีกสักหน่อยเผื่ออาการป่วยไข้จะได้หายเร็วขึ้น"
เด็กหญิงที่วัยจริงคือสี่หนาวแต่ตัวอวบอ้วนรวมถึงรู้ความเกินวัยนั้นแสนจะบอกง่ายเร่งปีนลงจากเตียงไปแล้วก็ปิดบานประตูให้นางอีกด้วย ความจริงเดือนจรัสไม่ได้จะนอนต่อดังที่เอ่ยปากบอกเจ้าตัวกลมไป หากแต่ว่าสาวน้อยกำลังจะคิดทบทวนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตนเองกันแน่