บทที่1
คุณป๊าของหนูอิงอิง
กริ๊งงงงงง!!
เสียงโทรศัพท์ดังตอน08.00น. ซึ่งมันผิดเวลามากๆ วันนี้เป็นวันหยุดเลขาของผมไม่มีทางโทรมากวนแน่ แต่สายนี้มันเป็นสายตรงจากล็อบบี้แสดงว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ผมเลยต้องเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
การสนทนา
“ครับ”
(คุณธาดาคะ ขอโทษที่โทรมารบกวนนะคะพอดีมีคนเอาเด็กมาฝากไว้ให้คุณธาดาค่ะ รบกวนคุณธาดาลงมาดูหน่อยได้ไหมคะ)
“เด็กบ้าอะไรไอ้คีหรือไอ้คินส่งมา มาทางไหนก็พากลับไปทางนั้นนี่มันวันหยุดของผม และผมไม่คุยเรื่องไร้สาระพวกนี้ด้วย!!”
(ขอโทษค่ะคุณธาดาแต่คนที่พาเด็กคนนี้มาคือคุณวิวค่ะ)
“ฮะ!!” ผมรีบลุกขึ้นมาตั้งสติก่อนเลยอย่างแรก วิวหายไปหลายปีแล้วนะทำไมจู่ๆ กลับมา
(คุณธาดาคะ...เอ่อ..)
“เดี๋ยวผมลงไป”
จบการสนทนา
ผมรีบแต่งตัวเพื่อลงมาหาวิวแต่พอมาถึงก็เห็นเด็กผู้หญิงถือกระดาษเหมือนนักโทษดวงตาเศร้าหมอง ในกระดาษมีข้อความถึงผมด้วย ผมเลยนั่งลงเพื่ออ่านกระดาษแผ่นนั้นท่ามกลางสายตาของพนักงานที่มองมาที่ผม
เด็กคนนี้ชื่ออิงอิง เธอเป็นลูกของวิวกับคุณหากคุณไม่เชื่อให้คุณหมออคินตรวจDNAได้เลย วิวต้องไปทำงานที่ต่างประเทศผู้ใหญ่สนใจให้วิวไปร่วมกำกับหนัง ขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องลูก วิวแค่ไม่อยากให้คุณต้องมารับผิดชอบกับเรื่องนี้ วิวผิดเองตั้งแต่ต้น แต่ครั้งนี้วิวขอฝากอิงอิงก่อนนะคะ ถ้าเสร็จงานวิวจะมารับลูกกลับไปอยู่กับวิวเอง
ผมมองหน้าเด็กคนนี้เธอกำลังจะร้องไห้ ร้องทำไมอย่านะเด็กปีศาจนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี้ยยยยยย
“คุณธาดาครับ” พงษ์ลูกน้องมือขวารีบเดินเข้ามาหาแต่ธาดากลับลุกขึ้นแล้วมองหน้าเด็กคนนี้ เนื้อตัวไม่ได้มอมแมมแต่ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นเด็กขี้กลัว
“ไอ้คินมันกลับมาหรือยัง” ผมหันไปถามไอ้พงษ์ที่ตกใจเมื่ออ่านป้ายที่มือของเด็กคนนี้
“หมอมาถึงแล้วครับเมื่อกี้ไอ้เทียร์พึ่งพาคุณหนูไอริไปหาคุณท่าน”
“เอาเด็กนี่ไปให้มันตรวจDNA”
“ครับ”
ผมขึ้นรถมายังบ้านของไอ้หมอจากนั้นก็พาเด็กอิงอิงมาส่งซึ่งยูริดูท่าจะตกใจมากที่เห็นเด็กคนนี้ รวมถึงไอริที่เดินกลับมาพร้อมไอ้เทียร์
“ลุงธาดาขา พาใครมาคะไม่เห็นสวยเลย!”
“เฮ้อออ”
ผมเดินเข้าไปคุยกับไอ้หมอและยูริจากนั้นก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ทั้งสองคนฟัง มันเหลือเชื่อมากเลยนะที่ผมจะมาพลาดแบบนี้ ผมกับวิวเราเคยรักกันแต่มันก็ชั่วคราวเพราะเธอไม่ยอมรับข้อเสนอของผม เธอไม่อยากทิ้งลูกน้องนับสิบชีวิตมาอยู่กับผมได้ ผมกับเธอเลยต้องแยกจากกันไป แต่ใครจะไปคิดว่าจู่ๆ ผมก็มีลูกโดยที่ผมไม่ได้ตั้งใจ
“ไม่ต้องห่วงเฮียเดี๋ยวผมจัดการเอง ยูริพาหนูอิงอิงเข้ามาเจาะเลือดก่อน”
“ค่ะ”
“นานไหมกว่าจะรู้ผล”
“3วันเฮียอดทนหน่อย ถ้าหนูอิงอิงเป็นลูกเฮียจะทำยังไงอะ เอามาเล่นกับไอริก็ได้นะ”
“คงต้องเป็นแบบนั้น” ผมมองเด็กอิงอิงถูกเจาะเลือดจนร้องไห้ก็รู้สึกสงสาร เธออ้าแขนให้ผมอุ้มแต่ผมถอยหลังหนียูริเลยต้องอุ้มเธอเพื่อปลอบใจจนเธอเงียบ
“เฮียธาดาคะ นมมีหรือเปล่า ของใช้เด็กจำเป็นมากนะคะ”
ผมส่ายหัวเป็นคำตอบถามจริงจะมีได้ยังไง ผมมองเด็กอิงอิงที่กำลังจะหลับผมก็เลยนึกอะไรออก ผมตัดปัญหาทิ้งเด็กคนนี้ไว้ที่นี่แหละถ้าไม่ใช่ลูกผมค่อยให้คุณท่านรับไปเป็นเด็กในอุปการะเพื่อรอแม่เธอกลับมา แต่ถ้าเป็นลูกผมขึ้นมาล่ะ ลูก.....เครียดโว๊ยยยยย
ผมเดินหนีออกมาจากนั้นก็ให้ไอ้พงษ์รีบขับรถมายังโรงแรมเพื่อติดต่อไปหาวิวแต่เธอไม่รับสายและไม่ตอบไลน์ผมเลย ผมเลยต้องเรียกไอ้ธารามาคุย อย่างน้อยเวลามันว่างจะได้ช่วยผมดูเด็กคนนี้หน่อย
“แล้วเฮียเอาเด็กไปทิ้งไว้บ้านคนอื่นเนี่ยนะ!!”
“เออ ให้เล่นกับริไปก่อนไม่เป็นไรหรอก”
“รู้ว่าไม่เป็นไร แต่เฮียรู้ไหมว่าไอริพึ่งจะเผาบ้านตัวเองไป ถ้าไอริสอนให้เด็กคนนั้นเผาโรงแรมเราขึ้นมาจะทำยังไง ไม่ไหวๆ เดี๋ยวผมโทรหายูริเองเรื่องของใช้เดี๋ยวผมจัดการให้ เฮียพยายามติดต่อแม่เธอเถอะจะได้รู้เรื่อง”
“อืม”
ผมปล่อยให้ไอ้ธารามันจัดการต่อส่วนผมก็พยายามอ่านเอกสารของเด็กอิงอิง ทำไมชีวิตผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย วุ่นวายไปหมด
3ชั่วโมงผ่านไป
ผมออกมาจากห้องทำงานก็เห็นเด็กอิงอิงกำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่กับน้องชายผม เธอไม่ดื้อหรือยังไม่คุ้นก็ไม่รู้แต่ที่แน่ๆ เธอน่าสงสารไม่กล้าเสียงดัง เล่นเสร็จก็เก็บของใส่ตะกร้า ถ้าเป็นหลานสาวอย่างไอริเล่นตรงไหนทิ้งตรงนั้น
“ป๊าขา...”
“เฮ้อออ” ผมเดินไปนั่งบนโซฟาเพื่อดูหน้าเธอชัดๆ น้องชายผมมันรักเด็กมันเลยพอเลี้ยงได้แต่สำหรับผมมันยากมาก ยิ่งช่วงนี้ผมต้องทำงานหนักมาก หนักกว่าเมื่อก่อนเพราะช่วงนี้ทัวร์มาลงไหนจะท่าเรือที่ส่งสินค้าและรับสินค้าอีก
“ถ้าไม่ไหวก็หาพี่เลี้ยงดิเฮีย ถ้าผมทำงานอีกคนอิงอิงต้องอยู่คนเดียว”
“ป๊าขา...”
เด็กคนนี้มันอยู่เป็นนอกจากจะเรียกผมแล้วยังลุกขึ้นมานั่งตักผมอีก ให้มันได้แบบนี้สิ ผมมองหน้าเธอพร้อมกับถอนหายใจออกมาแต่เธอกลับถอนหายใจตามผมอีกคน
“เฮ้ออ”