PROLOGUE

1091 Words
PROLOGUE “อิงค์!” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตกใจหลุดออกจากปากของผม เมื่อเจ้าของชื่อมาอยู่ตรงหน้าโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว ในใจอยากจะรีบเดินเข้าไปหาคนตัวเล็ก แต่ขากลับก้าวไปช้า ๆ จนกระทั่งเธอวิ่งหนีออกไป ผมสะบัดหน้าเบา ๆ คล้ายกับเรียกสติของตัวเองให้กลับมาเต็มร้อยแล้วรีบเร่งฝีเท้าตามไปให้ทัน ยื่นฝ่ามือไปคว้าที่แขนเรียวเล็กเอาไว้ ก่อนที่ฝ่ามือนุ่มของเธอจะทำหน้าที่เปิดประตู ใบหน้าสวยหันมามองหน้าผม เธอแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด “ปล่อย!” อิงค์เอ่ยเสียงเข้ม อีกทั้งยังพยายามบิดแขนของตัวเองเพื่อให้ได้หลุดจากการจับกุมของผม “พี่ไม่ปล่อย พี่ไม่อยากปล่อยให้อิงค์ไปจากพี่อีกแล้ว”            คำพูดของผมทำให้เธอหยุดการกระทำทุกอย่างลงไปในทันที ดวงตากลมจับจ้องแต่ใบหน้าของผม แววตาดูสั่นไหวแปลก ๆ จนไม่รู้ว่าเธอกำลังคิด หรือกำลังรู้สึกอะไรอยู่            “เริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม”            “ไม่ได้” อิงค์ตอบกลับมาทันที อย่างกับว่ามีคำตอบในใจอยู่แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องใช้เวลาในการคิด            “อิงค์ไม่รักพี่แล้วเหรอ”            “อิงค์เคยรักพี่ แต่พี่ไม่เคยรักอิงค์” เธอแสยะยิ้มหลังจากที่พูดจบ คำพูดของเธอเหมือนมีดแหลม ๆ ที่ทิ่มเข้าไปกลางใจจนรู้สึกเจ็บแปลบ            “พี่ปืนปล่อยอิงค์ได้แล้ว อิงค์จะกลับบ้าน” อิงค์พูดต่อ            “พี่ขับรถให้นะ”            “ไม่ต้อง อิงค์ไม่ใช่พวกรักความเร็ว พี่ปืนจำไม่ได้หรือไง”            “พี่ขับช้าได้”            “ถ้าขับได้ ทำไมเมื่อก่อนถึงไม่ขับล่ะ”            โดนอีกจึก! ไม่ว่าผมจะพูดอะไรออกไปอิงค์ก็ย้อนกลับมาทันควัน และแต่ละคำที่เธอย้อนมานั้นก็ทำให้ผมเถียงไม่ออก เมื่อก่อนก็เป็นแบบที่อิงค์ว่า เลยไม่รู้จะเถียงอะไร            “ปล่อยได้แล้ว จะกลับห้อง”            ผมคลายมือตัวเองออกจากเรียวแขนของอิงค์ หันไปเปิดประตูรถฝั่งคนขับ อิงค์ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยแล้วทำท่าจะขึ้นรถ แต่ผมรีบแย่งขึ้นนั่งประจำที่คนขับเสียก่อน            “พี่ปืน พี่เล่นอะไรเนี่ย ลงมาเลย” อิงค์ออกแรงดึงแขนผมให้ลุกจากเบาะ เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่แรงเยอะมาก ๆ ผมเกือบจะร่วงมากองที่พื้น แต่รีบเอาเท้าลงยันพื้นไว้ได้แล้วเป็นฝ่ายดึงอิงค์ให้ร่างของเธอถลาเข้าหาผม            “พี่ปืน!”            “ปิดประตูก่อน เดี๋ยวใครเห็นเข้า” ผมจับอิงค์ให้นั่งที่ตักดี ๆ แล้วเอื้อมมือไปดึงประตูเข้ามาปิดให้เรียบร้อย            อยู่ใกล้กันแบบนี้ในรอบ 3 เดือนกว่า ๆ แต่หัวใจผมยังคงเต้นแรงไม่แพ้เมื่อก่อน อิงค์เองก็ดูเหมือนจะรู้สึกเช่นเดียวกันกับผม เธอถึงได้หายใจแรงจนอกกระเพื่อม ผมวางฝ่ามือลงที่บริเวณอกของอิงค์ ซึ่งก็ได้คำตอบชัดเจนว่าสิ่งที่ผมคิดนั้นคือเรื่องจริง หัวใจเธอเต้นแรงเหมือนผมเลย…            “ไอ้ลามก” ปากว่ามือถึง ฝ่ามือเล็กสะบัดเข้าที่แก้มผม ก่อนจะจับที่ใบหูของผมบิดไปมา            “โอ๊ย ๆ เจ็บ พี่เจ็บแล้วอิงค์”            “คนอะไรโคตรทุเรศ พี่มาจับนมอิงค์ได้ไง”            “นมบ้าอะไร พี่จับหัวใจ พี่อยากจะรู้ว่าเต้นแรงเหมือนกันไหม” พอผมตอบไปแบบนั้น อิงค์ถึงได้เงียบไปเลย            “และพี่ก็ได้คำตอบว่าอิงค์ก็ใจเต้นแรงเหมือนพี่” ผมพูดต่อ            “อิงค์ใจเต้นแรงเพราะโกรธพี่ ที่พี่มานั่งรถของอิงค์แบบนี้”            “งั้นอิงค์ก็ไปนั่งรถพี่ดิ” ผมตอบแบบยิ้ม ๆ แต่คนบนตักกลับถลึงตาใส่ ผมก็ไม่ได้กลัวเธอเลยสักนิด ยังคงลอยหน้าลอยตายิ้มอยู่แบบนั้น            อิงค์มองหน้าผมนิ่ง ๆ เธอถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก็คงจะพยายามระงับอารมณ์ของตัวเองเอาไว้            “พี่ปืนมีอะไรก็พูดมาเลย อิงค์อยากกลับห้องแล้วจริง ๆ” อิงค์เอ่ยออกมาเสียงเรียบ ถ้าเธอยอมที่จะคุยดี ๆ ผมก็จะคุยด้วยดี ๆ ไม่กวนแล้ว            “ให้โอกาสพี่ได้ไหม เริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เธอจะได้รับรู้ว่าผมพูดจริงไม่ได้พูดเล่น            “มันนานเกินไปแล้ว เรากลับมาเริ่มต้นกันใหม่ไม่ได้แล้ว”            “เลิกกันไปสามเดือนก็ไม่ถือว่านานหรอก ถ้าหากว่าเรายังรักกันอยู่” ผมตอบกลับไป อิงค์ก็ระบายยิ้มออกมาบาง ๆ            “เรารักกัน?” เธอเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ผมจึงพยักหน้าให้เป็นคำตอบ            “เมื่อตอนที่เราคบกัน มีแต่อิงค์ที่รักพี่ปืน พี่ปืนจำได้ไหมว่าพี่ทำร้ายจิตใจอิงค์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แบบนั้นไม่ใช่ว่าเรารักกันหรอก” ถึงเธอจะพูดไปยิ้มไป แต่ผมก็รับรู้ได้ว่าอิงค์กำลังเศร้า แววตาของเธอนั่นแหละที่บอกผม            “พี่รักอิงค์ อิงค์เป็นคนแรกที่ทำให้พี่รัก รักจนพี่ไม่สามารถไปคว้าใครมาแทนอิงค์ได้”            “คิก ๆ น้ำเน่าจังเลยอะ” ทำไมอิงค์หยอกล้อผมแบบนี้แล้วผมยิ่งจุกในใจ อาจจะเพราะผมรู้อยู่แก่ใจว่าเธอกำลังกลบเกลื่อนความเศร้า            “อิงค์ไม่เชื่อพี่เลยเหรอ”            “อืม อิงค์ไม่เชื่อ” เธอตอบกลับมา ก่อนจะเปิดประตูรถ “อิงค์อยากกลับแล้ว”            ก็รู้ว่าอยากกลับ แต่ผมไม่อยากให้กลับไง ผมอยากอยู่แบบนี้ อยากอยู่ใกล้ ๆ อิงค์แบบนี้ ไม่อยากให้อิงค์ออกห่างอีกแล้ว            “แน่ะ ยังไม่ยอมปล่อยอีก” เธอยังคงพูดเสียงใส            “ไปอยู่กับพี่ไหม”            “คิก ๆ พี่พูดไม่รู้เรื่องอ่า นี่พี่ดื่มแต่วันเลยเหรอ”            “พี่ไม่ได้เมา” ผมยังไม่ได้ดื่มเลยสักอึก ที่ผมพูดออกมาแต่ละคำล้วนมาจากใจ ไม่ใช่เพราะความเมาสักหน่อย            Rrrr            เสียงเรียกเข้าดังขึ้นมาจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ตรงช่องเล็ก ๆ ด้านหน้าเกียร์ ผมเอื้อมมือไปหยิบมาดู หน้าจอแสดงชื่อ            -พี่บอย- ***** บทนำตัดมาจากในเนื้อเรื่องนะคะ ^^
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD