อินวาจะต้องไม่เจ็บตัวฟรีแน่นอนใครที่มันทำคนของเขาเจ็บมันก็ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำ เขาจะเอาคืนให้มันสำนึกไปจนถึงนรกเลยว่าใครห้ามแตะต้อง
"ผมทำแผลให้นะแล้วนี่คุณจะออกไปไหนเหรอ?" ถึงจะแค้นมากขนาดไหนแต่คนตรงหน้านี้ต้องได้รับการดูแลที่เหมาะสมกับเธอที่สุด
"ไปซื้อยาค่ะ พอดีอินวาพึ่งมาถึงกำลังจะทำแผลแต่ลืมไปว่าที่ห้องไม่มีอะไรเลย"
"งั้นเดี๋ยวผมไปซื้อให้คุณรออยู่ที่นี่แหละ หรือเราจะไปโรงพยาบาลกันดี?"
"ไม่เป็นไรค่ะบอสฉันยังไหว ความจริงบอสไปพักดีกว่านะคะพรุ่งนี้เราก็ต้องเจอกันอยู่แล้ว"
"แน่ใจเหรอว่าไหว ตัวคุณร้อนมากนะแล้วดูสภาพตอนนี้สิมันแย่มากเลยด้วย พรุ่งคุณหยุดงานได้เลยนะผมอนุญาต" เพราะเขาจะเป็นคนเฝ้าเธอจนกว่าจะหายดีแล้วค่อยกลับไปทำงานพร้อมกันอีกครั้ง
"คุณกินอะไรบ้างรึยัง?" เธอบอกว่าพึ่งมาถึงแสดงว่าอาจจะยังไม่ได้กินอะไรก็ได้ซึ่งเขาเองก็ยังไม่ได้กินเหมือนกันเพราะตั้งใจจะพาเธอไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่โรงแรมประจำแต่ทุกอย่างจบลงตั้งแต่เห็นใบหน้าที่เฝ้าทะนุถนอมมีรอยช้ำแล้วละ
"แล้วบอสละคะกินอะไรรึยัง?"
"ผมว่าจะมาชวนคุณไปกินข้าวด้วยกันแต่ตอนนี้ผมว่านะเดี๋ยวซื้อมากินที่นี่ดีกว่าคุณจะได้พักผ่อนด้วย อาบน้ำรอนะผมไปไม่นานหรอก" ยัยนุ่มนิ่มยิ้มกว้างให้ได้โคตรน่ารักอีกแล้วจนอดใจไม่ไหวเผลอยีผมเธอเบาๆลูบหัวเล่นอีกนิดแต่ต้องกลั้นใจไว้ไม่ดึงเข้ามากอดจูบเหมือนตอนแรกที่เจอแล้วเผลอทำไป
น่านก็ลงไปซื้อของตามที่บอกไม่ว่าจะเป็นยาแก้ไข้อุปกรณ์การทำแผลต่างๆชุดใหญ่และอาหารค่ำของเราในคืนนี้
เขายังไม่กล้าพอที่จะคาดคั้นอินวาเพราะเธอไม่ค่อยสบายด้วยเหตุที่น่าจะมาจากร่องรอยตามตัวนั่นแหละและเขาไม่ใช่คนโง่พอจะดูไม่ออกว่าโดนอะไรมาบ้างรุนแรงขนาดไหน
ปากที่เคยจูบเพียงแค่หนึ่งครั้งนั้นแตกมีรอยช้ำที่มุมปากในขณะที่แก้มนุ่มก็บวมแดงและหน้าผากก็มีพลาสเตอร์ติดไว้แต่มีเลือดซึมออกมาอยู่ เขายังไม่ทันได้สำรวจร่องรอยตามลำตัวตามแขนขาว่ามีรอยตรงไหนเพิ่มไหมแล้วมันเกิดอะไรขึ้นในช่วงสามวันที่ผ่านมากันแน่
ไอ้เหี้ยตัวไหนทำร้ายเธอแบบนี้วะ!
ยังไงกูก็ไม่เอามึงไว้แน่!!
น่านถือของเต็มมือตรงไปยังห้องพักขนาดกระทัดรัดตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแสนจะอบอุ่นสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว เขาวางของลงพอดีกับที่อินวาเดินออกมาในชุดนอนที่เป็นแค่กางเกงขาสั้นกับเสื้อตัวใหญ่แบบที่เธอชอบและนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นเลยไม่ตื่นเต้นเท่าไรแต่ใจร้อนรนแทน
ทั้งแขนขามีแต่รอยม่วงเขียวเป็นจ้ำไปหมด!
"บอกผมมาว่าเป็นฝีมือใคร?"
"คือ...มันเป็นเรื่องภายในครอบครัวค่ะ"
"แต่คุณเจ็บขนาดนี้นะ ผมไม่ยอมหรอก!" ครอบครัวบ้าบออะไรวะทำกับเธอได้ขนาดนี้ เขาไม่เชื่อ!
"ฉันไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันแล้วค่ะบอสไม่ต้องเป็นห่วงนะ เขาคงกลับมาทำอะไรฉันไม่ได้แล้ว" เธอเดินเข้าไปใกล้จับมือที่กำแน่นให้คลายออกมาแล้วช้อนตามองเขา มือใหญ่ก็ยกขึ้นมาลูบหัวคล้ายว่าปลอบใจก่อนจะดึงตัวเข้าไปกอดลูบแผ่นหลังเหมือนว่าเธอเป็นเด็กอย่างนั้นแหละแต่อ้อมกอดนี้ก็อบอุ่นดีนะ
"ผมไม่เคยแม้แต่จะขึ้นเสียงใส่คุณด้วยซ้ำ" เพราะตลอดสองปีมานี้เขาทะนุถนอมเธอยิ่งกว่าไข่ในหินซะอีก เขาไม่เคยต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรงไม่เคยขึ้นเสียงต่อให้จะหงุดหงิดขนาดไหน เขาไม่เคยจะทำให้อินวาเจ็บตัวหรือเสี่ยงอันตรายอะไรเลยด้วยซ้ำแต่มันเป็นใครกล้าดียังไงมาทำร้ายเธอย่างงี้
ถ้าอินวาไม่บอกเขาจะตามสืบเองใช้เวลาไม่นานก็คงรู้ว่าเป็นฝีมือใครแล้วตอนนั้นแหละเขาจะกระทืบมันเอาให้กระอักเลือดจนตายเหมือนหมาข้างถนนไปเลย
น่านจูบกระหม่อมบางแผ่วเบาที่สุดพยายามไม่ให้เธอรู้ตัว มือที่ลูบแผ่นหลังก็สัมผัสได้ถึงไอร้อนทะลุเนื้อผ้าออกมาบ่งบอกว่าไข้ขึ้นสูงกว่าในทีแรกทั้งที่พึ่งอาบน้ำมาหมาดๆแล้วกลิ่นตัวของเธอหอมจนไม่อยากจะปล่อยให้หลุดจากอ้อมแขนแม้แต่วินาทีเดียวแต่ต้องแข็งใจทำเพราะเธอต้องกินข้าวกินยาและทำแผลต่อ
กว่าจะได้กอดแต่ละครั้งโคตรยากเลยนะ!
. ..สองปีเคยกอดแบบนี้แค่สามครั้ง!
อาหารค่ำเป็นเมนูง่ายๆสำหรับคนไม่สบายแล้วตามด้วยยาแก้ไข้ เธอย้ายมานั่งที่โซฟาในขณะที่บอสทำแผลที่หน้าผากให้อย่างเบามือและทายาตามรอยช้ำให้ เราใกล้กันมากจนสามารถสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นที่ตกกระทบได้และบอสน่านก็ใจดีกับเธอเสมอไม่เคยเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย
"เจ็บไหมผมพยายามเบามือที่สุดแล้วนะ" เกิดมาไม่เคยทำแผลให้ผู้หญิงคนไหนถึงแม้ว่าเขาเคยทำแผลให้ตัวเองบ้างและเพื่อนสนิทบ่อยครั้งที่มีเรื่องแต่กับเธอนี่เป็นครั้งแรกเลยค่อนข้างเกร็งมากกลัวว่าจะหนักมือเกินไปแล้วยัยนุ่มนิ่มจะเจ็บกว่าเดิม
"บอสมือเบามากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะบอสน่าน"
"คุณไปนอนพักเถอะแล้วคืนนี้ผมจะดูแลเองเผื่อว่าไข้ขึ้น"
"แต่ว่า…"
"อย่าดื้อสิอินวา!"
"ก็ได้ค่ะบอส" แค่เห็นว่าเขาเป็นห่วงขนาดนี้ก็ไม่กล้าจะปฏิเสธแล้ว
อินวาเดินเข้าห้องนอนแต่คิดว่าอีกไม่นานเดี๋ยวบอสน่านก็คงจะตามเข้ามาเพราะต้องอาบน้ำก่อนจะออกไปนอนข้างนอกที่โซฟาตัวใหญ่พิเศษหน้าโทรทัศน์ใจกลางห้อง
เธอยังไม่ได้คุยกับพี่ชายแต่ป่านนี้พ่อเลี้ยงคงจะเจ็บตัวหนักแล้วก็ได้เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพยายามจะข่มขืนเธอให้ได้
เดี๋ยวพี่ชายมาหาก็คงได้คุยกันเอง!
การที่เธอแยกตัวออกมาและไม่กลับบ้านนานนับปีเหตุผลเดียวคือความปลอดภัยของตัวเอง พ่อเลี้ยงเป็นผู้ชายจัดว่าเจ้าชู้มากแต่แม่ก็ไม่ยอมเลิกผลที่ตามมาคือการส่งเธอไปเรียนไกลๆให้อยู่หอพักจนกระทั่งทำงานถึงย้ายมาอยู่คอนโดขนาดเล็กแทน
เพื่อนที่เคยมาบอกให้เธอเปลี่ยนไปอยู่ในห้องพักให้กว้างกว่านี้แต่ด้วยการทำงานที่แทบไม่มีเวลาอยู่แล้วเลยไม่ได้สนใจมากเอาแค่สามารถหลับนอนได้อย่างปลอดภัยก็เพียงพอ
บอสน่านเองก็มาคอนโดเธอนับไม่ถ้วนแต่ก็ไม่เคยติอะไรเลยสักนิดเดียวแต่ตรงกันข้ามคือเขาสนใจการแต่งห้องสไตล์นี้มากกว่าจนถึขนาดเอ่ยปากถามบ่อยๆ
บอสบอกว่าห้องเธออบอุ่นน่าอยู่ที่สุด!
"นอนรึยังอินวาผมจะขออาบน้ำหน่อยได้ไหม?"
"ตามสบายค่ะบอส เอ่อ...ฉันมีเสื้อโอเวอร์ไซส์อยู่ถ้าบอสไม่รังเกียจก็ใส่ได้นะคะ"
"ถ้าเป็นของคุณผมจะรังเกียจได้ไง ฝันดีนะอินวาถ้ามีอะไรเรียกผมได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ"
"ค่ะบอส" เธอรู้สึกถึงที่นอนยวบลงตามน้ำหนักคนที่มานั่งแล้วมือใหญ่แตะเข้าที่หน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิก่อนจะเปลี่ยนมาลูบหัวแผ่วเบาแล้วลุกไปอาบน้ำ
บอสน่านเป็นคนที่อบอุ่นมากนะแต่ก็น่าแปลกที่คนอื่นชอบว่าเขาโหดเกินไปโดยเฉพาะเรื่องงานที่ผิดพลาดไม่ได้เลยแม้แต่ตัวอักษรเดียว แต่ว่าตลอดเวลาสองปีมานี้บอสน่านแสนดีราวกับเจ้าชายในนิทานก่อนนอนเลยนะแล้วยังดูแลเธอดีมากอีกด้วยในฐานะเลขาคนหนึ่ง
บอสน่านเป็นคนที่เพื่อนน้อยมากและขี้เหงาที่สุดเลยละ เขาชอบแวะมาหาบ่อยๆในช่วงวันหยุดเพื่อชวนไปกินอาหารค่ำหรือบางครั้งที่มีหนังเข้าใหม่ก็ชวนไปดูด้วยเสมอ แทบทุกครั้งที่บอสไปเที่ยวกลางคืนก็มักจะบอกเธอก่อนคงเพราะเราทำงานด้วยกันจะได้เดาอารมณ์เขาในวันพรุ่งนี้ได้ว่ายังเมาค้างอยู่รึเปล่าหรือว่าปวดหัวเพราะดื่มเยอะเกินไป
เธอเหมือนว่าเราอยู่ด้วยกันตลอดเวลา!
ความจริงเราก็เคยไปเที่ยวกันจริงๆแค่สองคนด้วยนะแต่นั่นก็ประมาณปีที่แล้วในช่วงวันหยุดยาว บอสน่านบอกว่าเพื่อนเทนัดกะทันหันห้องที่จองก็ราคาไม่ใช่น้อยๆเลยมาชวนเธอไปแทนโดยที่เขารับผิดชอบค่าที่พักทั้งหมดเอง ในตอนนั้นสนุกมากนะแล้วยังเมาจนทำเรื่องตลกไปด้วยกันอีกด้วย
เชื่อเถอะถ้าใครอยู่ใกล้บอสน่านต้องมีความสุขแน่!